ขอตั้งชื่อกระทู้ใหม่แปะไว้ตรงนี้นะคะ "ไม่ได้ออกกำลังกายนาน กลับมาออกอีกครั้งอย่างหักโหมมากๆ ทำให้ผลเลือดแย่ได้ขนาดนี้"
จุดประสงค์หลักในการโพสต์ครั้งนี้ คือเพื่อชี้ให้เห็นว่า ถ้าร่างกายไม่พร้อม ไม่ควรออกกำลังอย่างหักโหมค่ะ ไม่ได้มีเจตนาดิสเครดิตการออกกำลังกายแต่อย่างใด
ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเราไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์ ที่โพสต์นี่คือ ฟังมาจากที่คุณหมออธิบาย ประกอบกับรู้ภาษาอังกฤษบ้าง เลยพออ่านผลเลือดได้น้อยนิดมากๆ อ่านรู้แค่ว่า สูงต่ำ -/+ อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ ไม่ได้รู้ว่าค่าแต่ละตัวคืออะไร ยังไง ถ้ามีคุณหมอแวะมาอ่าน จะช่วยอธิบายให้กระจ่าง จะเป็นพระคุณอย่างสูงเลยค่ะ
เรื่องมันเกิดจากว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สามีขออนุญาตไปสมัครฟิตเนสค่ะ คือปกติเค้าจะเป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่แล้ว เพราะทั้งพ่อและแม่ของเค้าเป็นนักกีฬาทั้งคู่ พ่อเลยจับเข้ายิม ออกกำลังกายตั้งแต่เล็กแต่น้อย แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ เราสองคนทุ่มเทกับการเลี้ยงลูกมากค่ะ เลยทำให้เค้าไม่ได้ออกกำลังกาย อย่างมากก็เล่นดัมเบล 5 กิโลที่บ้านค่ะ พอได้สมัครฟิตเนสก็เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ สมัครเช้า บ่ายไปเล่นเลย
ที่นี้ เค้าก็เล่นหนักมาก เล่นแต่เวทอย่างเดียว ไม่มีคาดิโอเลย เล่นอยู่ 3 ชั่วโมงติด จากปากคำสามีบอกว่า ไม่ได้แบ่งเซทอะไร เอาเป็นว่ายกไม่ไหวแล้วก็พัก - -" เย็นนั้นกลับมาบ้านก็แขนสั่นๆ แต่อาการปวดยังไม่มานะคะ มันมาในวันถัดไป ร้องว่าปวด เมื่อย อุ้มลูกไม่ไหว ช่วยยกของไม่ได้ ไอเราก็คิดว่าออเซาะตามประสาน่ะค่ะ ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็ช่วยนวดเคาเตอร์เพนให้เช้า-เย็นนะคะ แต่ก็ยังบ่นว่าปวดทุกวัน
วันที่ 3 เราเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดค่ะ ไปค้างคืนเดียว เพราะจองโรงแรมไว้นานแล้ว คืนนั้นเค้าก็กินเบียร์ไป 2 กระป๋อง เบาๆค่ะ (ปกติหนักกว่านี้เยอะ) ระหว่างนั้นก็ยังบ่นปวดเมื่อยอยู่ ตามประสาน่ะค่ะ (จริงๆคิดว่าประเด็นนี้อาจจะไม่ค่อยเกี่ยว แต่ก็อยากจะให้รายละเอียดให้หมด เผื่อคุณหมอมาอ่านจะได้ช่วยแนะนำได้ค่ะ) แล้วเราก็กลับบ้านกันวันที่ 4
พอวันที่ 5 ตอนเช้า ฉันไปทำงานค่ะ ส่วนเค้าไปส่งลูกไปโรงเรียน ซัก 10 โมงเค้าก็ไลน์มาบอกว่า ปัสสาวะสีเข้มๆผิดปกติ อยากไปหาหมอที่โรงพยาบาล เาก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ อยากไปก็ไป เค้าเลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลตอนบ่าย 3 เพราะต้องไปรับลูกตอน 4 โมงครึ่ง พอไปถึง หมอจับตรวจเลือดค่ะ ผออกมาแบบนี้
หมอตรวจการทำงานของตับโดยรวม จะเห็นว่า ค่า SGOT(AST) สูงกว่าที่ควรจะเป็นมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือไม่ควรจะเกิน 37 นี่พ่อเล่นไป 1,367 คุณหมอก็ตกใจ ถามว่าอยากอัลตราซาวน์ไม๊ แล้วก็แนะนำให้ตรวจเลือดดูไวรัสตับอักเสบทั้ง 3 สายพันธุ์ เพราะกลัวว่าจะเป็นตับอักเสบ แต่ตอนนั้นแฟนบอกว่าไม่ทำค่ะ เพราะต้องรีบไปรับลูกก่อน เค้าก็ไปรับลูกแล้วก็มารับฉันที่ที่ทำงาน ทีนี้ก็กลับไปที่โรงพยาบาลค่ะ ฉันบอกว่าถ้าต้องแอดมิดก็แอดมิดไปเลย ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าห้องพิเศษเต็มค่ะ เหลือแต่ห้องรวม เลยตัดสินใจย้ายโรงพยาบาลไปอีกที่นึง เอาผลที่ได้จากที่แรกไปยื่นให้หมอที่โรงพยาบาลที่สอง หมอเวรต๊กกะใจ สั่งแอดมิด แล้วตรวจเลือดซ้ำหลายรายการมากกกกกกกกกกกกก ตามนี้เลยค่ะ
ปรากฎว่าเยอะกว่าเดิมค่ะ ขึ้นไปเป็น 1,758 มีวงเล็บว่า Repeated ด้วย เข้าใจว่าแลบงง เลยลองซ้ำอีกทีค่ะ แล้วยังตรวจไวรัสตับอักเสบด้วย แลบที่นี่ตรวจได้เฉพาะสายพันธุ์ B C ค่ะ A ต้องส่งตรวจที่อื่น เลยไม่ได้ผล ขึ้นเป็น negative หมด แสดงว่าไม่เป็น มีแต่แอนตี้บอดี้ไวรัสตับ B ที่ขึ้น positive เพราะเค้าฉีดวัคซีนไว้ค่ะ ตอนนี้ดึกแล้ว หมอเวรเลยจับใส่สายน้ำเกลือ แล้วก็กินยาบำรุงตับ รอหมอเฉพาะทางมาตอนเช้า
พอหมอเฉพาะทางเรื่องโรคทางเดินอาหารมา (เพราะตอนนั้นพุ่งไปที่ตับอย่างเดียวเลยค่ะ) หมอก็ซักประวัติทั่วๆไป ถามว่าไปทำอะไรมา เลยเล่าให้หมอฟังเผื่อๆไปด้วยว่าออกกำลังกายมาด้วย หมอเลยเอะใจ ขอตรวจเลือดซ้ำ ดูการทำงานของกล้ามเนื้อ ได้ผลดังนี้ค่ะ
เราเจอผู้ร้ายของเราแล้วค่ะ CPK ที่ควรจะมีค่าไม่เกิน 135 พุ่งสูงไปอยู่ 98000 ค่ะ กรี๊ด!!!!! คุณหมออธิบายคร่าวๆว่า เป็นเป็นตัวชี้ว่ามีกล้ามเนื้ออักเสบ แล้วไอ้เจ้า CPK หรือ SGOT(AST) เนี่ยแหละค่ะ (จำไม่ได้แล้ว) ปกติมันจะถูกขับออกทางไต พอมันเยอะมากขนาดนี้ มันก็จะไปกองรวมกันที่ไต ทำให้ฉี่ออกมาเป็นสีโค้ก ถ้าทิ้งไว้ก็จะมีเลือดปน แล้วไตก็จะวายได้ค่ะ
คุณหมอเลยจัดการอัดน้ำเกลือเยอะ บังคับให้กินน้ำไม่ต่ำกว่า 3 ลิตร ให้ฉี่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็ตรวจเลือดทุกวัน วันถัดมา ผลเลือดดีขึ้นค่ะ CPK หายไปเกือบครึ่ง
วันถัดมาก็ดีขึ้นตามลำดับค่ะ
เกือบแล้วๆๆๆ
จนวันสุดท้าย ผลออกมาแบบนี้ หมอถึงยอมให้กลับบ้านได้ค่ะ แต่เน้นว่าต้องกินน้ำเยอะๆ พักมากๆ เซ็นต์ใบรับรองแพทย์ ให้ลางานอีกอาทิตย์นึงเลยค่ะ
เลยมาตั้งกระทู้เพื่อขอคำชี้แนะเพิ่มเติม แล้วอาจจะเป็นอุทธาหรณ์ให้เพื่อนๆด้วยว่า การออกกำลังกายทำได้ค่ะ แต่หักโหมไป มันก็มีผลเสียเหมือนกัน ขอบคุณค่า
ป.ล.ขอแท็กโต๊ะเครื่องแป้ง เผื่อสาวๆจะลดน้ำหนักแบบออกกำลังกายหักโหมนะคะ
เมื่อสามีเกือบไตวาย เพราะออกกำลังกายหนัก แล้วกินเหล้า
จุดประสงค์หลักในการโพสต์ครั้งนี้ คือเพื่อชี้ให้เห็นว่า ถ้าร่างกายไม่พร้อม ไม่ควรออกกำลังอย่างหักโหมค่ะ ไม่ได้มีเจตนาดิสเครดิตการออกกำลังกายแต่อย่างใด
ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเราไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์ ที่โพสต์นี่คือ ฟังมาจากที่คุณหมออธิบาย ประกอบกับรู้ภาษาอังกฤษบ้าง เลยพออ่านผลเลือดได้น้อยนิดมากๆ อ่านรู้แค่ว่า สูงต่ำ -/+ อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ ไม่ได้รู้ว่าค่าแต่ละตัวคืออะไร ยังไง ถ้ามีคุณหมอแวะมาอ่าน จะช่วยอธิบายให้กระจ่าง จะเป็นพระคุณอย่างสูงเลยค่ะ
เรื่องมันเกิดจากว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สามีขออนุญาตไปสมัครฟิตเนสค่ะ คือปกติเค้าจะเป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่แล้ว เพราะทั้งพ่อและแม่ของเค้าเป็นนักกีฬาทั้งคู่ พ่อเลยจับเข้ายิม ออกกำลังกายตั้งแต่เล็กแต่น้อย แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ เราสองคนทุ่มเทกับการเลี้ยงลูกมากค่ะ เลยทำให้เค้าไม่ได้ออกกำลังกาย อย่างมากก็เล่นดัมเบล 5 กิโลที่บ้านค่ะ พอได้สมัครฟิตเนสก็เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ สมัครเช้า บ่ายไปเล่นเลย
ที่นี้ เค้าก็เล่นหนักมาก เล่นแต่เวทอย่างเดียว ไม่มีคาดิโอเลย เล่นอยู่ 3 ชั่วโมงติด จากปากคำสามีบอกว่า ไม่ได้แบ่งเซทอะไร เอาเป็นว่ายกไม่ไหวแล้วก็พัก - -" เย็นนั้นกลับมาบ้านก็แขนสั่นๆ แต่อาการปวดยังไม่มานะคะ มันมาในวันถัดไป ร้องว่าปวด เมื่อย อุ้มลูกไม่ไหว ช่วยยกของไม่ได้ ไอเราก็คิดว่าออเซาะตามประสาน่ะค่ะ ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็ช่วยนวดเคาเตอร์เพนให้เช้า-เย็นนะคะ แต่ก็ยังบ่นว่าปวดทุกวัน
วันที่ 3 เราเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดค่ะ ไปค้างคืนเดียว เพราะจองโรงแรมไว้นานแล้ว คืนนั้นเค้าก็กินเบียร์ไป 2 กระป๋อง เบาๆค่ะ (ปกติหนักกว่านี้เยอะ) ระหว่างนั้นก็ยังบ่นปวดเมื่อยอยู่ ตามประสาน่ะค่ะ (จริงๆคิดว่าประเด็นนี้อาจจะไม่ค่อยเกี่ยว แต่ก็อยากจะให้รายละเอียดให้หมด เผื่อคุณหมอมาอ่านจะได้ช่วยแนะนำได้ค่ะ) แล้วเราก็กลับบ้านกันวันที่ 4
พอวันที่ 5 ตอนเช้า ฉันไปทำงานค่ะ ส่วนเค้าไปส่งลูกไปโรงเรียน ซัก 10 โมงเค้าก็ไลน์มาบอกว่า ปัสสาวะสีเข้มๆผิดปกติ อยากไปหาหมอที่โรงพยาบาล เาก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ อยากไปก็ไป เค้าเลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลตอนบ่าย 3 เพราะต้องไปรับลูกตอน 4 โมงครึ่ง พอไปถึง หมอจับตรวจเลือดค่ะ ผออกมาแบบนี้
หมอตรวจการทำงานของตับโดยรวม จะเห็นว่า ค่า SGOT(AST) สูงกว่าที่ควรจะเป็นมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือไม่ควรจะเกิน 37 นี่พ่อเล่นไป 1,367 คุณหมอก็ตกใจ ถามว่าอยากอัลตราซาวน์ไม๊ แล้วก็แนะนำให้ตรวจเลือดดูไวรัสตับอักเสบทั้ง 3 สายพันธุ์ เพราะกลัวว่าจะเป็นตับอักเสบ แต่ตอนนั้นแฟนบอกว่าไม่ทำค่ะ เพราะต้องรีบไปรับลูกก่อน เค้าก็ไปรับลูกแล้วก็มารับฉันที่ที่ทำงาน ทีนี้ก็กลับไปที่โรงพยาบาลค่ะ ฉันบอกว่าถ้าต้องแอดมิดก็แอดมิดไปเลย ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าห้องพิเศษเต็มค่ะ เหลือแต่ห้องรวม เลยตัดสินใจย้ายโรงพยาบาลไปอีกที่นึง เอาผลที่ได้จากที่แรกไปยื่นให้หมอที่โรงพยาบาลที่สอง หมอเวรต๊กกะใจ สั่งแอดมิด แล้วตรวจเลือดซ้ำหลายรายการมากกกกกกกกกกกกก ตามนี้เลยค่ะ
ปรากฎว่าเยอะกว่าเดิมค่ะ ขึ้นไปเป็น 1,758 มีวงเล็บว่า Repeated ด้วย เข้าใจว่าแลบงง เลยลองซ้ำอีกทีค่ะ แล้วยังตรวจไวรัสตับอักเสบด้วย แลบที่นี่ตรวจได้เฉพาะสายพันธุ์ B C ค่ะ A ต้องส่งตรวจที่อื่น เลยไม่ได้ผล ขึ้นเป็น negative หมด แสดงว่าไม่เป็น มีแต่แอนตี้บอดี้ไวรัสตับ B ที่ขึ้น positive เพราะเค้าฉีดวัคซีนไว้ค่ะ ตอนนี้ดึกแล้ว หมอเวรเลยจับใส่สายน้ำเกลือ แล้วก็กินยาบำรุงตับ รอหมอเฉพาะทางมาตอนเช้า
พอหมอเฉพาะทางเรื่องโรคทางเดินอาหารมา (เพราะตอนนั้นพุ่งไปที่ตับอย่างเดียวเลยค่ะ) หมอก็ซักประวัติทั่วๆไป ถามว่าไปทำอะไรมา เลยเล่าให้หมอฟังเผื่อๆไปด้วยว่าออกกำลังกายมาด้วย หมอเลยเอะใจ ขอตรวจเลือดซ้ำ ดูการทำงานของกล้ามเนื้อ ได้ผลดังนี้ค่ะ
เราเจอผู้ร้ายของเราแล้วค่ะ CPK ที่ควรจะมีค่าไม่เกิน 135 พุ่งสูงไปอยู่ 98000 ค่ะ กรี๊ด!!!!! คุณหมออธิบายคร่าวๆว่า เป็นเป็นตัวชี้ว่ามีกล้ามเนื้ออักเสบ แล้วไอ้เจ้า CPK หรือ SGOT(AST) เนี่ยแหละค่ะ (จำไม่ได้แล้ว) ปกติมันจะถูกขับออกทางไต พอมันเยอะมากขนาดนี้ มันก็จะไปกองรวมกันที่ไต ทำให้ฉี่ออกมาเป็นสีโค้ก ถ้าทิ้งไว้ก็จะมีเลือดปน แล้วไตก็จะวายได้ค่ะ
คุณหมอเลยจัดการอัดน้ำเกลือเยอะ บังคับให้กินน้ำไม่ต่ำกว่า 3 ลิตร ให้ฉี่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็ตรวจเลือดทุกวัน วันถัดมา ผลเลือดดีขึ้นค่ะ CPK หายไปเกือบครึ่ง
วันถัดมาก็ดีขึ้นตามลำดับค่ะ
เกือบแล้วๆๆๆ
จนวันสุดท้าย ผลออกมาแบบนี้ หมอถึงยอมให้กลับบ้านได้ค่ะ แต่เน้นว่าต้องกินน้ำเยอะๆ พักมากๆ เซ็นต์ใบรับรองแพทย์ ให้ลางานอีกอาทิตย์นึงเลยค่ะ
เลยมาตั้งกระทู้เพื่อขอคำชี้แนะเพิ่มเติม แล้วอาจจะเป็นอุทธาหรณ์ให้เพื่อนๆด้วยว่า การออกกำลังกายทำได้ค่ะ แต่หักโหมไป มันก็มีผลเสียเหมือนกัน ขอบคุณค่า
ป.ล.ขอแท็กโต๊ะเครื่องแป้ง เผื่อสาวๆจะลดน้ำหนักแบบออกกำลังกายหักโหมนะคะ