[สาระ-ยา] ตอนที่ 1 มาทำความเข้าใจเรื่องสิวและยารักษากันอย่างถูกต้องเถอะค่ะ by เภสัชกร

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน

นี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งเลย ตื่นเต้นจัง... ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อ เหมย ค่ะ   ประกอบอาชีพเป็นเภสัชกร
มีประสบการณ์ในการทำร้านยามาหลายปี แต่เพิ่งจะมามีกิจการเป็นของตัวเองในปีนี้ (จึงเริ่มมีเวลาว่างเล่นอินเตอร์เน็ต ฮ่าๆๆ)

เข้าเรื่องเลยนะคะ คนไข้ที่ร้านยาของเหมยที่เป็นผู้หญิงส่วนมากจะเข้ามาซื้อทั้งเวชสำอางดูแลผิวและปรึกษาเรื่องยาค่ะ ไม่น้อยเลยที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของโรคผิวหนัง ซึ่งในคุณผู้หญิงส่วนมาก เรื่องสิวเป็นสิ่งที่เป็นปัญหาหลัก ทำให้อยากจะมาอธิบายให้ฟังวันนี้เลยค่ะ

สิว คืออะไร??
ขออธิบายง่ายๆนะคะ สิวคือ โรคผิวหนังชนิดหนึ่งค่ะ ซึ่งส่วนมากเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน เชื้อแบคทีเรีย การแพ้สารเคมีต่างๆ ซึ่งสาเหตุอื่นๆอาจจะมีมากกว่านี้ แต่ขอกล่าวย่อๆเพื่อความเข้าใจง่ายๆนะคะ


หลายคนมีการอ่านรีวิวการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆและยาสำหรับรักษาสิวและถือรูปถ่ายของยามาตามหาซื้อที่ร้านขายยา ซึ่งจริงๆแล้วอยากบอกว่าแต่ละบุคคลมีความเหมาะสมต่อยาแต่ละชนิดต่างกันนะคะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการที่เป็นค่ะ ถ้าจะให้แนะนำจริงๆแล้วในครั้งแรกของการรักษาควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกรก่อนมากกว่าการอ่านซื้อยาตามรีวิวค่ะ

ก่อนจะเริ่มเรื่องยารักษาสิวแต่ละชนิด มีบางอย่างที่อยากจะทำความเข้าใจกับทุกท่านเป็นข้อๆดังนี้นะคะ
1.ไม่มียาใดในโลกที่เป็นยารักษาหรือยาพิษเพียงอย่างเดียว ทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษต่อผู้ใช้ ขึ้นอยู่กับการใช้ว่าเราจะใช้อย่างเหมาะสมหรือเปล่า
2.ยาเพียงตัวเดียวไม่สามารถรักษาโรคได้ทุกชนิด หากมีคนบอกว่ายาใดสามารถทำได้ นั่นคือคุณกำลังโดนหลอก
3.เรื่องการรักษาโรคโปรดเชื่อใจแพทย์ เรื่องยาโปรดไว้วางใจเภสัชกร ความรู้ที่เราร่ำเรียนมาก พร้อมจะอุทิศประโยชน์สูงสุดให้แก่ทุกท่านอยู่แล้วค่ะ
4.การรักษาสิวอย่างปลอดภัยต้องใช้เวลาค่ะ ยิ่งเป็นเยอะยิ่งต้องอดทน หากสิ่งใดสามารถรักษาสิวได้อย่างรวดเร็ว โปรดพึงระวังว่ามันอาจจะเป็นอันตรายต่อคุณภายหลังได้


เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยค่ะ !!

1.Clindamycin
เริ่มที่ตัวนี้ก่อนเลยนะคะ หลายๆคนรู้จักกันในหน้าตาแบบนี้ (ขออนุญาตนำภาพมาจาก internet บางส่วนนะคะ เนื่องจากยาที่ร้านมีไม่ครบ+กล้องไม่ค่อยชัดค่ะ)


ยาตัวนี้มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียค่ะ (Topical Antibiotics)  เพราะฉะนั้นการรักษาด้วยยาตัวนี้จะเหมาะกับสิวชนิดที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย P. acne (ซึ่งเป็นเชื้อหลักๆที่ทำให้เกิดสิว) สามารถใช้ได้ในสิวอักเสบชนิดที่ไม่รุนแรงมาก

วิธีการใช้ คือ ทายา/แต้มยาเฉพาะบริเวณตุ่มสิวที่มีการอักเสบ วันละ 2-3 ครั้ง (แต่ถ้าใครเป็นสิวอักเสบเยอะมากก็ทาไปทั้งหน้าเลยค่ะ)

อาการข้างเคียงที่อาจพบ ได้แก่ อาการแสบ ผิวหนังลอกและแดง (ซึ่งพบน้อยมากกกกกกกกก) เพราะในตัวยาบางสูตรจะมี alcohol ผสมอยู่เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายยา

ส่วนความแตกต่างของแต่ละยี่ห้อ ซึ่งคนไข้มักจะถามเสมอว่า "ใช้ยี่ห้อไหนดีคะ?"    "ยี่ห้อไหนดีกว่าคะ?"

บอกตรงๆว่าไม่ทราบค่ะ ฮ่าๆๆ เพราะเราดูที่ตัวยาสำคัญเป็นหลักซึ่งทุกยี่ห้อก็เป็นตัวยา Clindamycin เหมือนกันหมด เท่าที่พอจะช่วยแนะนำได้คือแต่ละยี่ห้อจะต่างกันที่รูปแบบยา (dosage form) เช่น บางยี่ห้อเป็นเนื้อเจล บางยี่ห้อเป็นน้ำ ซึ่งความสามารถในการดูดซึมและความคงตัวอาจจะต่างกันบ้าง แต่โดยรวมถือว่าให้ผลการรักษาไม่ต่างกัน ขนาดในท้องตลอดส่วนมากจะเป็น 1%เท่ากันหมดค่ะ ส่วนใครชอบยี่ห้อไหนก็แล้วแต่ผู้บริโภคเลยค่ะ  หัวใจ


2.Erythromycin
ตัวนี้เหมือน clindamycin เลยค่ะ เพราะเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดทาเหมือนกันค่ะ (Topical Antibiotics)


ขอไปพักกินข้าวก่อนนะคะ เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อให้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่