กว่าจะมาเป็นผู้บริหาร หรือ CEO ดูแลบริษัทได้ ทุกคนต้องมีระบบและการจัดการชีวิตการทำงานได้เป็นอย่างดี เรามี 5 tips ดีๆจาก CEO บริษัทชั้นนำ ที่ควรจะเอาไปปรับใช้ในการทำงานไม่ว่าธุรกิจส่วนตัวหรืองานประจำที่ทำอยู่
ผู้บริหารที่ดีทุกคน ย่อมต้องมีความเจ๋งอยู่ในตัว ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความเจ๋งแตกต่างกันไป วันนี้เราขอนำเสนอ 5 tips ดีๆจาก CEO ที่ทุกคนสามารถขโมยเอาไปใช้ เพื่อพัฒนาการทำงานทั้งในธุรกิจส่วนตัว หรืองานประจำที่ออฟฟิศก็ตาม รับรองว่ามีประโยชน์สุดๆครับ
1. จงพ้กผ่อนทุก 90 นาที
ประธานบริษัท The Energy Project, Tony Schwarts, แนะนำว่าเราควรจะพักผ่อนหลังจากทำงานต่อเนื่องเป็นเวลา 90 นาที เนื่องจากร่างกายของเราจะมีพลังงานในรูปแบบ cycle ทุกๆ 90 นาที ดังนั้นเราควรจะแบ่งการทำงานที่ยากๆเป็นงานแรกในตอนเช้า ที่พลังงายยังมีเต็มเปี่ยม ก่อนที่พลังงานจะค่อยๆหมดไปพร้อมสมาธิ และเริ่มเปิด Facebook เล่น หรืออ่านข่าวตาม website ต่างๆ
คำแนะนำ ครั้งหน้าที่คุณรู้สึกอ่อนล้า หมดแรง หลังจากทำงานไป 90 นาที อย่าเดินไปกินกาแฟหรือกระทิงแดง แต่ให้ลุกหนีจากงานนั้นเป็นเวลา 10 - 15 นาที ก่อนกลับมาทำงานต่อ รับรองว่าคุณจะทำงานได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2. บอกให้รู้ว่าตอนไหนห้ามรบกวน
ลองคิดภาพว่าคุณกำลังคิดงานออกอย่างไหลลื่น แต่จังหวะที่จะเริ่มเขียนสิ่งที่คิดได้ลงไป ก็มีคนเดินมาทักคุณ คุยกับคุณเรื่องอื่นๆ จนคุณลืมไปแล้วว่าที่คิดได้เมื่อกี้คืออะไร และหมดสมาธิไปเสียแล้ว เพราะผลวิจัยชี้ว่าเราต้องใช้เวลานานถึง 25 นาทีในการกลับมาปะติดปะต่อจังหวะก่อนที่จะโดนขัดจังหวะ
Andrew Marsh, CEO บริษัทแห่งหนึ่งแนะนำว่า ให้ตั้งกฏหรือ symbol บางอย่างเพื่อให้คนอื่นรู้ว่า "ห้ามเข้าไปรบกวน" ทุกครั้งที่กำลังยุ่งกับงาน project ใหญ่ หรืองานที่ซับซ้อนมากๆ และคุณจะรู้ว่าการได้ focus กับงานที่ยุ่งยาก โดยไม่มีใครมารบกวน จะทำให้คุณคิดได้กระจ่าง ครบทุกด้านมากกว่าที่เคยทำ
3. จัดการงานให้เข้ากับลักษณะของคุณ
การจัดการเรื่องเวลา ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรจะต้องมีการจัดการงานให้เข้ากับลักษณะของตัวเองด้วย โดยที่เราจะต้องรู้จักตัวเองก่อน ว่าเป็นคนที่มีสมาธิช่วงไหน เช่นบางคนเป็นคนมีสมาธิตอนเช้า แต่บางคนมีสมาธิตอนเย็น เป็นต้น
เมื่อคุณรู้ว่าคุณมีสมาธิตอนไหน ก็พยายามจัดการงานให้เข้ากับตัวเองด้วย. CEO คนหนึ่งยกตัวอย่างว่า ตัวเองเป็นคนที่มีสมาธิตอนเช้า จึงพยายามทำงานที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ในช่วงนี้เสียก่อน และพยายามหลีกเลี่ยงการประชุมในช่วงเช้า เพราะเป็นการน่าเสียดายสมาธิและพลังงานไปอย่างน่าเสียดาย
4. อย่าเสียเวลาเช็คเมล์ตลอดทั้งวัน
คนทำงานออฟฟิศทุกคนมักจะต้องคอยเช็คเมล์อยู่ตลอดเวลา โดยคิดว่าจะได้ไม่พลาดการตอบคำถามจากเจ้านายหรือลูกค้า หรือประสานงานกับคนอื่น แต่นั่นเป็นการใช้เวลาและพลังงานอันมีค่าให้หมดไปอย่างน่าเสียดาย และจริงๆแล้ว ผู้ส่งอาจจะไม่ได้ต้องการ feedback อย่างรวดเร็วภายใน 1 นาทีขนาดนั้น
คำแนะนำคือให้กำหนดเวลาเช็คเมล์ใน 1 วัน อย่างเช่นช่วงเช้า และช่วงบ่ายเท่านั้น จะช่วยให้คุณมีพลังงานและสมาธิไปจัดการงานที่ค้างคาอยู่ตรงหน้าของคุณหมดไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นคุณยังสามารถแนะนำให้คนที่มีเรื่องด่วน เปลี่ยนจากส่งเมล์ เป็นโทรตรงเข้าหาคุณ แค่นี้ก็ไม่พลาดเรื่องสำคัญแล้วครับ
5. Delegate, delegate, delegate
การได้รับมอบหมาย project ใหม่ๆมา หลายคนคงพยายามจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากเสียเวลารอคนอื่นทำ ไม่อยากต้องมาแก้ภายหลัง และหลายครั้งที่เราต้องมานั่งปวดหัวกับ timeline ที่ทำให้ไม่ทัน กว่าจะมาแบ่งงานให้คนอื่นทำ ก็สายเกินไปเสียแล้ว
อย่างไรก็ตาม การ delegate งานนี้ ไม่ได้หมายถึงให้คุณโยนงานทุกอย่างออกไปให้คนอื่นทำทั้งหมด แต่เป็นการใช้ teamwork ให้เกิดประโยชน์มากกว่า และการจะกระจายงานให้ได้ผลดี เราควรมีความเชื่อใจในคนอื่น และรู้ว่าคนๆนั้นมีจุดเด่นในด้านไหน เพื่อให้งานแต่ละส่วนได้ผลดีที่สุด
Cr. unlockmen
ติดตามข่าวสารและเรื่องราวการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่
Thinkvestment Fanpage :
https://www.facebook.com/thinkvestment
5 Tips ที่ควรทำตาม เพื่อชีวิตการทำงานที่ดีจาก CEO ระดับโลก
กว่าจะมาเป็นผู้บริหาร หรือ CEO ดูแลบริษัทได้ ทุกคนต้องมีระบบและการจัดการชีวิตการทำงานได้เป็นอย่างดี เรามี 5 tips ดีๆจาก CEO บริษัทชั้นนำ ที่ควรจะเอาไปปรับใช้ในการทำงานไม่ว่าธุรกิจส่วนตัวหรืองานประจำที่ทำอยู่
ผู้บริหารที่ดีทุกคน ย่อมต้องมีความเจ๋งอยู่ในตัว ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความเจ๋งแตกต่างกันไป วันนี้เราขอนำเสนอ 5 tips ดีๆจาก CEO ที่ทุกคนสามารถขโมยเอาไปใช้ เพื่อพัฒนาการทำงานทั้งในธุรกิจส่วนตัว หรืองานประจำที่ออฟฟิศก็ตาม รับรองว่ามีประโยชน์สุดๆครับ
1. จงพ้กผ่อนทุก 90 นาที
ประธานบริษัท The Energy Project, Tony Schwarts, แนะนำว่าเราควรจะพักผ่อนหลังจากทำงานต่อเนื่องเป็นเวลา 90 นาที เนื่องจากร่างกายของเราจะมีพลังงานในรูปแบบ cycle ทุกๆ 90 นาที ดังนั้นเราควรจะแบ่งการทำงานที่ยากๆเป็นงานแรกในตอนเช้า ที่พลังงายยังมีเต็มเปี่ยม ก่อนที่พลังงานจะค่อยๆหมดไปพร้อมสมาธิ และเริ่มเปิด Facebook เล่น หรืออ่านข่าวตาม website ต่างๆ
คำแนะนำ ครั้งหน้าที่คุณรู้สึกอ่อนล้า หมดแรง หลังจากทำงานไป 90 นาที อย่าเดินไปกินกาแฟหรือกระทิงแดง แต่ให้ลุกหนีจากงานนั้นเป็นเวลา 10 - 15 นาที ก่อนกลับมาทำงานต่อ รับรองว่าคุณจะทำงานได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2. บอกให้รู้ว่าตอนไหนห้ามรบกวน
ลองคิดภาพว่าคุณกำลังคิดงานออกอย่างไหลลื่น แต่จังหวะที่จะเริ่มเขียนสิ่งที่คิดได้ลงไป ก็มีคนเดินมาทักคุณ คุยกับคุณเรื่องอื่นๆ จนคุณลืมไปแล้วว่าที่คิดได้เมื่อกี้คืออะไร และหมดสมาธิไปเสียแล้ว เพราะผลวิจัยชี้ว่าเราต้องใช้เวลานานถึง 25 นาทีในการกลับมาปะติดปะต่อจังหวะก่อนที่จะโดนขัดจังหวะ
Andrew Marsh, CEO บริษัทแห่งหนึ่งแนะนำว่า ให้ตั้งกฏหรือ symbol บางอย่างเพื่อให้คนอื่นรู้ว่า "ห้ามเข้าไปรบกวน" ทุกครั้งที่กำลังยุ่งกับงาน project ใหญ่ หรืองานที่ซับซ้อนมากๆ และคุณจะรู้ว่าการได้ focus กับงานที่ยุ่งยาก โดยไม่มีใครมารบกวน จะทำให้คุณคิดได้กระจ่าง ครบทุกด้านมากกว่าที่เคยทำ
3. จัดการงานให้เข้ากับลักษณะของคุณ
การจัดการเรื่องเวลา ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรจะต้องมีการจัดการงานให้เข้ากับลักษณะของตัวเองด้วย โดยที่เราจะต้องรู้จักตัวเองก่อน ว่าเป็นคนที่มีสมาธิช่วงไหน เช่นบางคนเป็นคนมีสมาธิตอนเช้า แต่บางคนมีสมาธิตอนเย็น เป็นต้น
เมื่อคุณรู้ว่าคุณมีสมาธิตอนไหน ก็พยายามจัดการงานให้เข้ากับตัวเองด้วย. CEO คนหนึ่งยกตัวอย่างว่า ตัวเองเป็นคนที่มีสมาธิตอนเช้า จึงพยายามทำงานที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ในช่วงนี้เสียก่อน และพยายามหลีกเลี่ยงการประชุมในช่วงเช้า เพราะเป็นการน่าเสียดายสมาธิและพลังงานไปอย่างน่าเสียดาย
4. อย่าเสียเวลาเช็คเมล์ตลอดทั้งวัน
คนทำงานออฟฟิศทุกคนมักจะต้องคอยเช็คเมล์อยู่ตลอดเวลา โดยคิดว่าจะได้ไม่พลาดการตอบคำถามจากเจ้านายหรือลูกค้า หรือประสานงานกับคนอื่น แต่นั่นเป็นการใช้เวลาและพลังงานอันมีค่าให้หมดไปอย่างน่าเสียดาย และจริงๆแล้ว ผู้ส่งอาจจะไม่ได้ต้องการ feedback อย่างรวดเร็วภายใน 1 นาทีขนาดนั้น
คำแนะนำคือให้กำหนดเวลาเช็คเมล์ใน 1 วัน อย่างเช่นช่วงเช้า และช่วงบ่ายเท่านั้น จะช่วยให้คุณมีพลังงานและสมาธิไปจัดการงานที่ค้างคาอยู่ตรงหน้าของคุณหมดไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นคุณยังสามารถแนะนำให้คนที่มีเรื่องด่วน เปลี่ยนจากส่งเมล์ เป็นโทรตรงเข้าหาคุณ แค่นี้ก็ไม่พลาดเรื่องสำคัญแล้วครับ
5. Delegate, delegate, delegate
การได้รับมอบหมาย project ใหม่ๆมา หลายคนคงพยายามจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากเสียเวลารอคนอื่นทำ ไม่อยากต้องมาแก้ภายหลัง และหลายครั้งที่เราต้องมานั่งปวดหัวกับ timeline ที่ทำให้ไม่ทัน กว่าจะมาแบ่งงานให้คนอื่นทำ ก็สายเกินไปเสียแล้ว
อย่างไรก็ตาม การ delegate งานนี้ ไม่ได้หมายถึงให้คุณโยนงานทุกอย่างออกไปให้คนอื่นทำทั้งหมด แต่เป็นการใช้ teamwork ให้เกิดประโยชน์มากกว่า และการจะกระจายงานให้ได้ผลดี เราควรมีความเชื่อใจในคนอื่น และรู้ว่าคนๆนั้นมีจุดเด่นในด้านไหน เพื่อให้งานแต่ละส่วนได้ผลดีที่สุด
Cr. unlockmen
ติดตามข่าวสารและเรื่องราวการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่
Thinkvestment Fanpage : https://www.facebook.com/thinkvestment