เราเกิดมากับสิ่งจอมปลอมด้วยกันทั้งนั้น รวมทั้งสัตว์ ทั้งบุคคลเข้าด้วยกัน ยังไม่มีความจริงเข้าแทรกสิงจิตใจได้
ใจจึงปลอมทั้งดวง สิ่งที่เป็นเครื่องใช้ของใจจึงปลอมไปตามๆ กัน ความคิดความเห็นในแง่ต่างๆ ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต
ทั้งความรับทราบ ทางหู ทางตา ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และอารมณ์ซึ่งเกิดขึ้นทางใจ ล้วนแต่ปลอมทั้งนั้น
เพราะไม่มีของจริงออกมาแสดง มีแต่ของปลอมออกแสดงอย่างออกหน้าออกตา ถ้าเป็นร้านค้าก็มีแต่ของปลอมเต็มไปทั้งหน้าร้าน
ส่วนของจริงอยู่โน้นอยู่หลังร้านโน้น หน้าร้านถูกของปลอมปิดไว้อย่างมิดชิดมองไม่เห็น
จึงไม่สามารถแสดงตัวออกได้ เพราะฉะนั้นเวลาท่านประกาศสอนธรรมว่า
“สัจธรรมเป็นของจริง”
ทั้งๆ ที่ได้ยินว่า “สัจธรรมเป็นของจริง”
ส่วนใจที่ระลึกตามในขณะที่ฟังว่า “สัจธรรมเป็นของจริง” นั้น มันยังปลอมอยู่
ปลอมอยู่โดยดี
เพราะจิตยังไม่จริง อะไรจะจริงก็ตาม เมื่อเข้ามาสู่ใจที่ยังปลอมอยู่แล้วมันก็ปลอมไปตามกันหมด
เพราะของปลอมมีอำนาจมากกว่า อะไรมาสัมผัสก็ตาม ความรู้สึกนั้นจะปลอมไปด้วยทุกระยะ จนกว่าธรรมของจริงจะแทรกเข้าได้
เพราะออกจากสิ่งจอมปลอมอยู่แล้วภายในจิตใจ จะเป็นของจริงขึ้นมาได้อย่างไร
การรื้อฟื้น การขุดค้น การปลดเปลื้อง การแก้ไขสิ่งจอมปลอมทั้งหลายเหล่านี้ จึงต้องใช้ความพยายามอยู่ไม่น้อย
ลำบากยากเย็นสักเพียงใดก็ต้องอดต้องทนเอาบ้าง เพราะอยากรู้เห็นธรรมของจริงเกิดขึ้นกับใจ
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความจงใจของผู้ทำ ถ้าทำด้วยความพอใจ ของยากก็กลายเป็นของง่ายขึ้นมา เพราะทำด้วยความพอใจ
ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อทำด้วยความพอใจแล้ว ของยากก็กลายเป็นของง่ายขึ้นมาได้
หนักก็กลายเป็นเบาขึ้นมา เพราะใจคล่องตัว ใจมีความเบา เบาด้วยความพอใจที่จะทำกิจการนั้นๆ
จิตที่หนักนั้นน่ะ แม้ไม่ยกอะไรก็หนักตามธรรมชาติของจิต เพราะกิเลสแต่ละประเภทเป็นของหนัก และฝังจมอยู่ภายในจิต
จะทำอะไรที่เป็นสารประโยชน์ก็ขี้เกียจทำเสีย นับแต่ในขณะแรกที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
มันหากหลอกลวงไปเอง
“งานนั้นจะหนัก งานนี้จะลำบาก” ความคิดนี่น่ะมันหลอกเอา เลยไม่สามารถทำกิจการนั้นๆให้ลุล่วงไปได้
การฝึก การอบรม จึงต้องอาศัยสติปัญญา ศรัทธา ความเพียร อาศัยความบึกบึนและหนักในทางเหตุทางผลไว้
คิดอ่านตามเหตุตามผลเรื่อยๆ พยายามตะเกียกตะกายไปตามเหตุผลนั้นๆ จะยากลำบากอย่างไรก็ทนเอา
เหตุผลนี้เป็นที่ต้องใจ เพราะเป็นเหตุผลที่ถูกต้องตามหลักความจริง เมื่อเป็นที่ต้องใจสำหรับผู้มุ่งความจริงแล้ว
ก็พยายามดำเนินไปตามนั้น
------------------------------
ของปลอม ของจริง - พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๘
อ่านเนื้อหาเต็มได้จาก
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1512&CatID=1
ของปลอม ของจริง
เราเกิดมากับสิ่งจอมปลอมด้วยกันทั้งนั้น รวมทั้งสัตว์ ทั้งบุคคลเข้าด้วยกัน ยังไม่มีความจริงเข้าแทรกสิงจิตใจได้
ใจจึงปลอมทั้งดวง สิ่งที่เป็นเครื่องใช้ของใจจึงปลอมไปตามๆ กัน ความคิดความเห็นในแง่ต่างๆ ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต
ทั้งความรับทราบ ทางหู ทางตา ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และอารมณ์ซึ่งเกิดขึ้นทางใจ ล้วนแต่ปลอมทั้งนั้น
เพราะไม่มีของจริงออกมาแสดง มีแต่ของปลอมออกแสดงอย่างออกหน้าออกตา ถ้าเป็นร้านค้าก็มีแต่ของปลอมเต็มไปทั้งหน้าร้าน
ส่วนของจริงอยู่โน้นอยู่หลังร้านโน้น หน้าร้านถูกของปลอมปิดไว้อย่างมิดชิดมองไม่เห็น
จึงไม่สามารถแสดงตัวออกได้ เพราะฉะนั้นเวลาท่านประกาศสอนธรรมว่า “สัจธรรมเป็นของจริง”
ทั้งๆ ที่ได้ยินว่า “สัจธรรมเป็นของจริง” ส่วนใจที่ระลึกตามในขณะที่ฟังว่า “สัจธรรมเป็นของจริง” นั้น มันยังปลอมอยู่
ปลอมอยู่โดยดี เพราะจิตยังไม่จริง อะไรจะจริงก็ตาม เมื่อเข้ามาสู่ใจที่ยังปลอมอยู่แล้วมันก็ปลอมไปตามกันหมด
เพราะของปลอมมีอำนาจมากกว่า อะไรมาสัมผัสก็ตาม ความรู้สึกนั้นจะปลอมไปด้วยทุกระยะ จนกว่าธรรมของจริงจะแทรกเข้าได้
เพราะออกจากสิ่งจอมปลอมอยู่แล้วภายในจิตใจ จะเป็นของจริงขึ้นมาได้อย่างไร
การรื้อฟื้น การขุดค้น การปลดเปลื้อง การแก้ไขสิ่งจอมปลอมทั้งหลายเหล่านี้ จึงต้องใช้ความพยายามอยู่ไม่น้อย
ลำบากยากเย็นสักเพียงใดก็ต้องอดต้องทนเอาบ้าง เพราะอยากรู้เห็นธรรมของจริงเกิดขึ้นกับใจ
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความจงใจของผู้ทำ ถ้าทำด้วยความพอใจ ของยากก็กลายเป็นของง่ายขึ้นมา เพราะทำด้วยความพอใจ
ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อทำด้วยความพอใจแล้ว ของยากก็กลายเป็นของง่ายขึ้นมาได้
หนักก็กลายเป็นเบาขึ้นมา เพราะใจคล่องตัว ใจมีความเบา เบาด้วยความพอใจที่จะทำกิจการนั้นๆ
จิตที่หนักนั้นน่ะ แม้ไม่ยกอะไรก็หนักตามธรรมชาติของจิต เพราะกิเลสแต่ละประเภทเป็นของหนัก และฝังจมอยู่ภายในจิต
จะทำอะไรที่เป็นสารประโยชน์ก็ขี้เกียจทำเสีย นับแต่ในขณะแรกที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย มันหากหลอกลวงไปเอง
“งานนั้นจะหนัก งานนี้จะลำบาก” ความคิดนี่น่ะมันหลอกเอา เลยไม่สามารถทำกิจการนั้นๆให้ลุล่วงไปได้
การฝึก การอบรม จึงต้องอาศัยสติปัญญา ศรัทธา ความเพียร อาศัยความบึกบึนและหนักในทางเหตุทางผลไว้
คิดอ่านตามเหตุตามผลเรื่อยๆ พยายามตะเกียกตะกายไปตามเหตุผลนั้นๆ จะยากลำบากอย่างไรก็ทนเอา
เหตุผลนี้เป็นที่ต้องใจ เพราะเป็นเหตุผลที่ถูกต้องตามหลักความจริง เมื่อเป็นที่ต้องใจสำหรับผู้มุ่งความจริงแล้ว
ก็พยายามดำเนินไปตามนั้น
------------------------------
ของปลอม ของจริง - พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๘
อ่านเนื้อหาเต็มได้จาก http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1512&CatID=1