ตรงตามหัวข้อเลยค่ะ เราจะทำอย่างไร หลายคนคงจะเคยมีประสบการณ์มาบ้าง แต่อาจจะไม่รู้ตัว มารู้จักและนึกย้อนดูกันค่ะว่า เมื่อก่อน เราเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ไหม แล้วถ้าเจอเราจะทำอย่างไหร่ จะไปต่อ หรือหยุดการรักษา หรือหา ร.พ ใหม่ แล้วจ่ายตังค์เอง
- ก่อนอื่น ต้องขอเล่า สิ่งที่ตัวเองประสบมาเองกับตัว ใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ นี้เองค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า
ข้าพเจ้า เป็นโรค ที่มีลักษณะ กระดูกนิ้วเท้าผิดรูป ซึ่งก้อเป็นมานาน แล้วละค่ะ แต่พักหลังๆ นี้ เริ่มปวด โดยเฉพาะ เวลาเดินมากๆ จะปวด ตั้งแต่ โคนนิ้วเท้า ยันหัวแม่โป้งเลย
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่คนใส่ร้องเท้าส้นสูงเลย แต่นิ้วหัวแม่เท้า ก็ค่อยๆ ผิดรูปออกมาเรื่อยๆ ล่าสุด ด้านซ้าย ก็เริ่มเกมากขึ้นด้วย ก็เลยพยายามหาทางรักษา โดยหาหมอเฉพาะทาง ด้วยการหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ทก่อน ว่าโรคนี้คืออะไร สาเหตุ มาจากอะไร อาการเป็นอย่างไร มีวิธีการรักษา หรือ บำบัดอย่างไร แล้ว คุณหมอที่ไหน พอจะช่วยได้
โรคนี้ชื่อว่า ภาวะนิ้วโป้งเท้าเก (Hallux Valgus)
http://www.icfoot.com/index.php?lite=article&qid=42107695
ซึ่งจากการค้นหาก็พบว่า ร.พ ที่ทำประกันสังคมอยู่ไม่มีหมอเฉพาะทางนี้ แต่จะมีคุณหมอเวรวันพุธ ที่ ร.พ ศิริราช จึงได้ไปตรวจที่ ศิริราช
คุณหมอตรวจและพบว่า เป็น ข้อกระดูกเสื่อม ทำให้นิ้วเท้า เคลื่อนออกมา ทั้งสองข้าง และที่ระยะหลังที่ปวด เพราะมีการเคลื่อนเพิ่มขึ้น
คุณหมอ ให้วางขาบนไว้เค้า และจับที่เท้า
ข้าพเจ้าตกใจหมด พร้อมยกมือไว้ เพราะ ข้าพเจ้าไม่คิดว่าหมอจะจับเท้า ไม่ได้เช็ดเพื่อทำความสะอาดก่อน
ซึ่งคุณหมอจับเคลื่อนดูทั้งสองเท้า พบว่า มันเคลื่อนออกมามาก
คุณหมอ แนะวิธีการรักษาและดูแล
1. กายภาพ ด้วยการใช้ยางยืด บริหารหัวแม่เท้า
2. ทำการผ่าตัด แต่ก็ไม่รับประกัน ว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม เพราะ มันเคยเคลื่อน เมื่อร่างกายคนเปลี่ยนไปตามการเวลา มันก็มีโอกาสจะกลับมาเคลื่อนอีกเช่นเคย แต่ถ้าปวดมาก ก็คงต้องทำการดึงกลับมาให้อยู่ในตำแหน่งเดิม และป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก ในเวลาอันรวดเร็ว
นั่นหมายถึงการเปลี่ยนรองเท้า และไม่ให้ใส่รองเท้าส้นสูงเลย ข้าพเจ้าก็ทำการ โดยการเปลี่ยนรองเท้าใหม่ พร้อมรับการรักษา
คุณหมออธิบายความเสียงให้ฟัง และ ผลที่จะเกิดขึ้น แต่ด้วย อาการปวด จึงตัดสินใจปรึกษาคุณหมอว่า ถ้าจะผ่าต้องทำอย่างไร
คุณหมอบอก ไปเอา 30 บาท มา แล้วจะผ่าให้
สั้นๆ
ข้าพเจ้าก็งง และถามหมอต่อว่า ถ้าใช้ประกันสังคมละค่ะ ครอบคลุมไหม คุณหมอก็ตอบตรงๆ ไม่รู้ ต้องไปถามประกันสังคมเอง ไปให้ ร.พ ประกันสังคมส่งตัวมา แต่ถ้าเค้ารักษาได้ ก็รักษาที่ ร.พ นั่นเลย
และคุณหมอก็นัดมาตรวจอีกครั้ง พร้อมให้ไปฝึกบริหาร ใช้คำนี้ละกันนะค่ะ จะได้เบากว่า กายภาพ
ข้าพเจ้าจึงโทรไปปรึกษาประกันสังคม ว่า โรคนี้ครอบคลุมไหม เจ้าหน้าที่ประกันสังคม ตอบว่า ไม่ใช่โรคที่ประกับไม่คลอบคลุม แต่การรักษาต้องเป็นไปตามวินิจฉัยของแพทย์
ต่อมา ข้าพเจ้า โทรไปยัง ร.พ เพื่อสอบถาม เพื่อถามว่า
กริ๊ง...
เจ้าหน้าที่ call center : สวัสดีครับ
ข้าพเจ้า : ค่ะ ขอสอบถามสิทธิการรักษา ในกรณีใช้สิทธิ ประกันสังคมหน่อยค่ะ ว่า หาก ร.พ ไม่สามารถทำการรักษาได้ จะมีการส่งตัวไปยัง ร.พ อื่นเพื่อรักษาต่อหรอป่าว
เจ้าหน้าที่ call center : คุณ คนไข้ ก็ต้องเข้ามาตรวจให้คุณหมอรักษานะคับ ไม่ใช่คนไข้จะขอไปเอง ไปไหนก็ได้ เรามี contact กับ ร.พ ที่มีความสามารถอยู่แล้ว ไม่ใช่จะมาขอให้ส่งตัวไป ยังไงก็ได้
ข้าพเจ้า : ?????
ข้าพเจ้าก็ งง เต็งเลย ใส่มาเป็นชุดแค่ถามว่า มีเรื่องการส่งตัวไปเพื่อรักษาต่อไหม กรณี ร.พ ไม่สามารถรักษาได้
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือน ข้าพเจ้ากลับไปตรวจอีกครั้ง พร้อมกับเอ็กซเรย์ ดูผล ซึ่ง เท้าที่เคลื่อนออกมา มันผิดรูปแต่โชคดีที่ไม่มี แคลเซียมเกาะที่ข้อ คุณหมออธิบายเพื่อว่า ผลมีวิธิการรักษาให้ 2 แบบ
แบบที่พักฟื้น นาน กับไม่พักฟื้นนาน..............
พร้อมออกหนังสือรับรองการรักษาถึง ผอ ร.พประกันสังคมในเหตุผลที่ต้องรักษา
หลังจากการตรวจครั้งที่ 2 ข้าพเจ้าก็คิดพิจารณาว่า จะผ่าดีไหม เพราะก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย แถมการพักฟื้น ก็ใช้เวลานาน จะรักษาความสะอาดอย่างไร เดินอย่างไร และที่สำคัญ จะรักษาอย่างไรดี 30บาท ประกันสังคม หรือ ประกันส่วนตัว ก็สอบถามสิทธิ ทุกทางแล้วว่า คลอบคลุมค่ารักษาพยาบาลได้แค่ไหน ประกันสังคม ก็เริ่มมีกลิ่น ตุๆแล้ว
ข้าพเจ้าจึงพยาบาลสอบถาม และ หาข้อมูลเรื่องการรักษา และ ค่ารักษาพยาบาลอยู่ เพราะการผ่าตัดแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจเดินทางไปแถว สะพานควาย ณ ตำแหน่งที่ ร.พประกันสังคมนี้ ตั้งอยู่
เข้าไปแจ้งขอการรักษา โดย ไปยังตึกท้ายๆ ร.พ เพื่อเข้าสู่กระบวนการใช้สิทธิ ประกันสังคมก่อน
ข้าพเจ้า : สวัสดีค่ะ คุณหมอ
คุณหมอ : สวัสดีครับ เป็นอะไรมา
ข้าพเจ้า : ปวดนิ้วหัวแม่เท้าที่เท้าผิดรูปนะค่ะ เวลาเดินมาก เดินไกล จะปวด เวลาออกกำลังกายจะปวด
คุณหมอ : อืม เท้าผิดรูปจริงๆ นะ มัน โค้ง และ ยื่นออกมา พร้อมเอาไฟฉายส่อง
คุณหมอ : เด๋วหมอเขียนใบสั่งยาให้นะเอาไปทาน และทา แก้ปวด
อึ้งนิดๆ กับการเอาไฟฉายส่องเท้าแล้วเขียนใบสั่งยา แต่ก็คิดในใจ คุณหมอไม่ใช่หมอกระดูก ก็คงไม่อยากวินิจฉัยเยอะ ให้คุณหมอเฉพาะทางตรวจดีกว่า
คุณหมอตรวจเสร็จ ภายใน 2 นาที แต่นั่งรอ ตั้งแต่ 9 โมง ได้ตรวจ สัก 10 โมงกว่าๆ
บุรุษพยายาม ก็ เอาใบแจ้งนัด เพื่อย้ายสิทธิไปรักษาต่อเฉพาะทาง โรคออร์โธปิดิกส์ ซึ่งนัดมาอีกครั้ง ในอีกสัปดาห์ ก้สงสัยว่าทำไม ตรวจต่อกันไม่ได้
แต่ก็กลับมาตรวจใหม่อีกครั้งตามนัด เมื่อเข้าไปพบกับคุณหมอ
คุณหมอ : เป็นอะไรมาครับ
ข้าพเจ้า : ปวดนิ้วหัวแม่เท้าที่เท้าผิดรูปนะค่ะ เวลาเดินมาก เดินไกล จะปวด เวลาออกกำลังกายจะปวด
..
คุณหมอ ก้มลงดู อืม ใช่ พร้อมกับวาดรูปลักษณะ อาการที่เป็น ในแฟ้มประวัติ พร้อมทั้งบอกว่า
คุณหมอ : โรคนี้เค้าเรียกว่า Hallux Valgus ใช่ Hallux Valgus นิ้วเท้าเก เพราะใส่ร้องเท้าส้นสูง
ข้าพเจ้า : ???
คุณหมอ : ใช่ เรียก Hallux Valgus ถ้าปวด ก็เปลี่ยนรองเท้า อย่าใส่รัด เอายาไปกิน เอายาไปทา
ส่วนการรักษา มีวิธีเดียวคือการผ่าตัด แต่เค้าไม่ทำกันหรอกนะ เพราะมันมีผลกระทบตามมาภายหลังเยอะ อีกอย่างผมก็ไม่ทำ (คุณหมอรีบตัดบท) ผมผ่าให้คุณไม่ได้หรอก เพราะผม ไม่ได้ดูเรื่องเท้า อะ เสร็จแล้วครับ
ข้าพเจ้า : (คิดในใจ)ห๊ะ!!! เสร็จละ ไม่ถามอีกหน่อยหรอค่ะ
จึงตัดสินใจปรึกษาคุณหมอว่า
ข้าพเจ้า : คุณหมอค่ะ รบกวนปรึกษาได้ไหมค่ะ
คับว่าไง
ข้าพเจ้า : ถ้าตามที่คุณหมอแจ้ง ว่า คุณหมอผ่าตัดให้ไม่ได้ จึงอยากจะปรึกษาคุณหมอว่า หากจะให้คุณหมอ ทำเรื่องส่งตัวเพื่อรักษาต่อ จะต้องทำอย่างไร่นะค่ะ
ข้าพเจ้าก็หยิบ เอกสารรับรองจาก ศิริราชเรื่อง โรคที่เป็น ว่า การรักษาคือการผ่าตัด เพื่อรักษาอาการเจ็บปวด
คุณหมอเอาไปอ่าน แล้วก็ เรียกพยาบาลมาถามว่า จะต้องทำอย่างไร โดยให้ออกไปรอข้างนอก
สักพัก มีนางพยาบาลในชุด private เดินมาคุยด้วย
คุณพยาบาล :แบบนี้ผ่าตัดไม่ได้หรอกค่ะ
คุณพยาบาล :ถ้าจะผ่าก็ต้องใช้งบส่วนตัวผ่า เพราะเราถือว่า เป็นการศัลยกรรม ไม่ใช่การรักษา ศัลยกรรมเพื่อใส่ร้องเท้าส้นสูงได้
ข้าพเจ้าก็งง กับคำพูดของนางคนนี้เรียกตัวเองว่า พยาบาล ไม่ใช่การรักษา
ข้าพเจ้า : ก็ดิฉันปวด เวลาเดิน เวลาออกกำลังกาย มาที่นี้ ก็เพื่อมาทำการรักษา
คุณพยาบาล :น้องไม่ได้แตกไม่ได้หักมา เราไม่ถือว่าน้องรักษา จะถือว่าเป็นการศัลยกรรม ก็อย่าที่บอก ว่าต้องจ่ายเอง
ข้าพเจ้าก็ถามย้ำว่าทำไม
ข้าพเจ้า : ก็ประกันสังคมไม่ครอบคลุมการศัลยกรรม
ข้าพเจ้า ก็ยืนยัน ดิฉันมาเพื่อทำการรักษา และ ดิฉัน โทรถามสิทธิแล้ว ว่า โรคนี้คลอบคลุมแล้ว
คุณพยาบาล : พนักงานคนไหน ที่คุย ชื่ออะไร เอาเบอร์มาเด๋วจะคุยเอง ว่า ทำไมคลอบคลุม อ้าว
ข้าพเจ้า ก็ชักเริ่มหงุดหงิด กันคนที่เรียกตัวเองว่า พยาบาลของคนๆ นี้แล้ว
ข้าพเจ้า : ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ดิฉันจะแจ้งไปยัง ประกันสังคมอีกครั้ง ถามชัดๆ ว่าทำไม ร.พ คุณ ถึงบอกว่าไม่คลอบคลุม
ข้าพเจ้ากลับออกมา ด้วยอารมณ์โกรธมาก ที่มาบอกว่านี้ไม่ใช่เรื่องการรักษา เป็นการทำศัลยกรรม เพื่อให้ใส่ร้องเท้าส้นสูงสวย มันรู้สึก หมดความเลื่อมใส กับความคิด ของคนที่เรียกตัวเองว่า พยาบาล ที่ไม่ใช่หมอ แต่สันนิษฐาน วัรถุประสงค์ของคนไข้แบบนี้
พยาบาลชุดขาวที่อยู่ตรง Counter คงเห็นอาการข้าพเจ้าแล้ว จึงมาคุยด้วยว่า
พยาบาลชุดขาว : เจ้าหน้าที่ได้ส่งเรื่องต่อว่า คงรักษาไม่ได้ คนไข้รอคุยกับ เจ้าหน้าที่ประกันสังคมของ ร.พ ไหมค่ะ หรือว่า กลับก่อน
เพราะตอนนี้ คนไข้ก็ตรวจเสร็จแล้วไม่มีอะไร
ข้าพเจ้าจึงถามไปว่า แล้ว คนเมื่อกี้ไปไหนแล้ว
พยาบาลชุดขาว : พี่เค้าแจ้งว่า เค้าออกไปข้างนอกสักพักนะค่ะ
ข้าพเจ้า : จะกลับเมื่อไหร่ค่ะ
พยาบาลชุดขาว : ไม่ทราบค่ะ
ก็ไม่อยากจะหงุดหงิดกับคนที่ไม่ใช่คู่กรณีหรอกนะ ก็ตอบไปตรงๆ ว่า
ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะมาเมื่อไหร่ รอตอนนี้ ก็เสียเวลาเปล่า เด๋วจะติดต่อกลับมาใหม่ค่ะ
พยาบาลชุดขาวเห็นหน้าตาที่ไม่สู้ดีของข้าพเจ้าแล้วมั้ง จึงตอบมาว่า
พยาบาลชุดขาว : แล้เด๋วจะแจ้งให้พี่เค้าติดต่อกลับนะค่ะ เรื่องนี้เพื่อแจ้งสิทธิ
ข้าพเจ้าจึงถามว่า แล้วมีเบอร์ เจ้าหน้าที่คนนั้นไหมค่ะ เด๋วจะให้เจ้าหน้าที่ประกันสังคมคุยด้วย
เมื่อข้าพเจ้า ได้มาแล้ว ก็กลับมานั่งสงบสติอารมณ์ ที่สถานีรถไฟฟ้า
รถไฟฟ้ายังไม่ทันมา ก็มี โทรศัพท์ เข้ามา เป็นสายของนางพยาบาลในชุดลำลองที่ดูแลสิทธิประกันสังคม
ข้าพเจ้า หงุดหงิดตั้งแต่ ประโยคแรกที่นางพูดเลยว่า
คุณพยาบาล :เนี่ย พี่คุย กะคุณหมอ แล้ว คุณ กับ ผอ ร.พ แล้ว ว่า เคสนี้ยังไงก็ผ่าไม่ได้ ประกันไม่ครอบคลุม
ข้าพเจ้าเลยสวนกลับไปว่า
ข้าพเจ้า : คุณหมอวินิจฉัยมาแล้วหรอค่ะว่า รักษาไม่ได้ด้วยการผ่าตัด
นางขึ้นเสียง พร้อมป่าวประกาศว่า
คุณพยาบาล :ก็พี่เป็น พยาบาล พี่รู้ค่ะ พี่เป็นพยาบาล
ข้าพเจ้า : พยาบาลแล้วไงค่ะ แล้วหมอวินิฉัยออกมาแล้วหรอค่ะ
คุณพยาบาล :ก็พี่เป็น พยาบาล พี่รู้ นางยังยืนยันคำเดิม พี่ถามสิทธิประกันสังคมแล้ว เค้าก็บอกว่าไม่ได้
ข้าพเจ้า : ดิฉันก็โทรไปถามแล้วเช่นกัน เจ้าหน้าที่แจ้งมาทุกๆ คนที่รับสายว่า ครอบคลุมและรักษาได้
ทำไมคุณ.......
นางสวนมา
คุณพยาบาล : พี่ถามกับหมอและ ผอ แล้ว ว่าไม่ได้ ก็ไมได้สิค่ะ
ตอนนั้นข้าพเจ้าหมดความอดทนละ ขอขึ้นเสียงกลับไปเลยว่า
ข้าพเจ้า : คุณพยาบาลค่ะ เมื่อสักครู่ตอนตรวจกับคุณหมอ คุณหมอยังบอกเลยว่า โรคนี้ต้องผ่าตัด แต่เค้าไม่ทำกัน เพราะเสี่ยง แต่หมอก็ไม่ทำให้ เพราะคุณหมอไม่ใช่แพทย์เฉพาะเท้า แต่ทำไมคุณมาบอกว่าทำไม่ได้
คุณพยาบาล : พี่ก็จะไปรู้หรอค่ะ พี่ไม่ใช่คุณหมอ แต่คุณหมอก็บอกพี่มาแบบนี้จะให้พี่พูดอะไรไปอื่นอีก
ข้าพเจ้า : อ้าว คุณพี่ค่ะ เมื่อกี้ยังบอก อยู่ยกๆ ว่าเป็น พยาบาล พี่รู้ ตอนนี้ไม่รู้แล้วหรอค่ะ
แล้วคุณพยาบาลค่ะ บอกมาสิค่ะ ว่า โรคนี้ ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด บอกมาสิ แล้วดิฉันจะเชื่อ
เพราะดิฉันไปตรวจอีก ร.พ มาแล้ว คุณหมอก็บอกว่า ผ่าได้ ดิฉัน ก็อยากหา Option 2 เพื่อยืนยันโรคจึงมาที่นี้
เพราะไว้ใจตลอดเวลา ก็มารักษาที่นี้....
คุณพยาบาล :น้องค่ะ น้องไม่ฟังพี่เลย พี่จะอธิบาย น้องก็ไม่ฟัง
ข้าพเจ้า : พี่จะอธิบายอะไรละค่ะ อธิบายมาซิ
คุณพยาบาล :ถ้าน้องบอกว่าน้องไปรักษาที่อื่นแล้ว ก็เอาประวัติมา แล้วจะไปคุยกะคุณหมอ กับ ผอ อีกครั้ง.
ข้าพเจ้า : นั่นซิค่ะ คุณพยาบาลพูดแบบนี้ตั้งแต่แรก ดิฉันจะฟังทุกคำแนะนำของคุณพยาบาลเลยค่ะ
คุณพยาบาล :ค่ะ ไปเอาประวัติมา แล้วจะพิจารณาให้นะค่ะ
แล้วนางก็วางสายไป พร้อมทิ้งให้ข้าพเจ้า ระเบิดไฟ อยู่บนสถานีรถไฟฟ้า
นั่งสงบสติ อารมณ์ สักพัก จึงโทรไป ที่ สำนักงานใหญ่ ประกันสังคม แจ้งปัญหาให้ทราบ
ต้องบอกว่า เจ้าหน้าที่ที่คุยด้วย และ โทรแจ้งกลับเพื่ออธิบายสิทธิให้ฟัง คุยด้วยดีมาก ผิดกับสิ่งที่เคยคิดไว้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐ สักพักก็คงเงียบหาย ไม่ตามเรื่องให้แต่ไม่ใช่ เจ้าหน้าที่ โทรกลับมาเพื่อพูดคุยและแจ้งสิทธิ ให้ทราบ พร้อมทั้งบอกว่า หากร.พ ยังยืนยันไม่รักษาให้ ให้โทรไปปรึกษา อีกหน่วยงาน คือ หน่วยงานรักษาพยาบาลหน่วยงานประกันสังคม ขออนุญาติ แจ้งหมายเลขนะค่ะ เพราะต้องบอกว่าขอบคุณมากค่ะ ที่คุยกับ ร.พ ให้ ..มีต่อ
เมื่อโรงพยาบาลประกันสังคมย่านสะพานควาย ปฏิเสธทำการรักษา...
- ก่อนอื่น ต้องขอเล่า สิ่งที่ตัวเองประสบมาเองกับตัว ใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ นี้เองค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า
ข้าพเจ้า เป็นโรค ที่มีลักษณะ กระดูกนิ้วเท้าผิดรูป ซึ่งก้อเป็นมานาน แล้วละค่ะ แต่พักหลังๆ นี้ เริ่มปวด โดยเฉพาะ เวลาเดินมากๆ จะปวด ตั้งแต่ โคนนิ้วเท้า ยันหัวแม่โป้งเลย
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่คนใส่ร้องเท้าส้นสูงเลย แต่นิ้วหัวแม่เท้า ก็ค่อยๆ ผิดรูปออกมาเรื่อยๆ ล่าสุด ด้านซ้าย ก็เริ่มเกมากขึ้นด้วย ก็เลยพยายามหาทางรักษา โดยหาหมอเฉพาะทาง ด้วยการหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ทก่อน ว่าโรคนี้คืออะไร สาเหตุ มาจากอะไร อาการเป็นอย่างไร มีวิธีการรักษา หรือ บำบัดอย่างไร แล้ว คุณหมอที่ไหน พอจะช่วยได้
โรคนี้ชื่อว่า ภาวะนิ้วโป้งเท้าเก (Hallux Valgus) http://www.icfoot.com/index.php?lite=article&qid=42107695
ซึ่งจากการค้นหาก็พบว่า ร.พ ที่ทำประกันสังคมอยู่ไม่มีหมอเฉพาะทางนี้ แต่จะมีคุณหมอเวรวันพุธ ที่ ร.พ ศิริราช จึงได้ไปตรวจที่ ศิริราช
คุณหมอตรวจและพบว่า เป็น ข้อกระดูกเสื่อม ทำให้นิ้วเท้า เคลื่อนออกมา ทั้งสองข้าง และที่ระยะหลังที่ปวด เพราะมีการเคลื่อนเพิ่มขึ้น
คุณหมอ ให้วางขาบนไว้เค้า และจับที่เท้า
ข้าพเจ้าตกใจหมด พร้อมยกมือไว้ เพราะ ข้าพเจ้าไม่คิดว่าหมอจะจับเท้า ไม่ได้เช็ดเพื่อทำความสะอาดก่อน
ซึ่งคุณหมอจับเคลื่อนดูทั้งสองเท้า พบว่า มันเคลื่อนออกมามาก
คุณหมอ แนะวิธีการรักษาและดูแล
1. กายภาพ ด้วยการใช้ยางยืด บริหารหัวแม่เท้า
2. ทำการผ่าตัด แต่ก็ไม่รับประกัน ว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม เพราะ มันเคยเคลื่อน เมื่อร่างกายคนเปลี่ยนไปตามการเวลา มันก็มีโอกาสจะกลับมาเคลื่อนอีกเช่นเคย แต่ถ้าปวดมาก ก็คงต้องทำการดึงกลับมาให้อยู่ในตำแหน่งเดิม และป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก ในเวลาอันรวดเร็ว
นั่นหมายถึงการเปลี่ยนรองเท้า และไม่ให้ใส่รองเท้าส้นสูงเลย ข้าพเจ้าก็ทำการ โดยการเปลี่ยนรองเท้าใหม่ พร้อมรับการรักษา
คุณหมออธิบายความเสียงให้ฟัง และ ผลที่จะเกิดขึ้น แต่ด้วย อาการปวด จึงตัดสินใจปรึกษาคุณหมอว่า ถ้าจะผ่าต้องทำอย่างไร
คุณหมอบอก ไปเอา 30 บาท มา แล้วจะผ่าให้
สั้นๆ
ข้าพเจ้าก็งง และถามหมอต่อว่า ถ้าใช้ประกันสังคมละค่ะ ครอบคลุมไหม คุณหมอก็ตอบตรงๆ ไม่รู้ ต้องไปถามประกันสังคมเอง ไปให้ ร.พ ประกันสังคมส่งตัวมา แต่ถ้าเค้ารักษาได้ ก็รักษาที่ ร.พ นั่นเลย
และคุณหมอก็นัดมาตรวจอีกครั้ง พร้อมให้ไปฝึกบริหาร ใช้คำนี้ละกันนะค่ะ จะได้เบากว่า กายภาพ
ข้าพเจ้าจึงโทรไปปรึกษาประกันสังคม ว่า โรคนี้ครอบคลุมไหม เจ้าหน้าที่ประกันสังคม ตอบว่า ไม่ใช่โรคที่ประกับไม่คลอบคลุม แต่การรักษาต้องเป็นไปตามวินิจฉัยของแพทย์
ต่อมา ข้าพเจ้า โทรไปยัง ร.พ เพื่อสอบถาม เพื่อถามว่า
กริ๊ง...
เจ้าหน้าที่ call center : สวัสดีครับ
ข้าพเจ้า : ค่ะ ขอสอบถามสิทธิการรักษา ในกรณีใช้สิทธิ ประกันสังคมหน่อยค่ะ ว่า หาก ร.พ ไม่สามารถทำการรักษาได้ จะมีการส่งตัวไปยัง ร.พ อื่นเพื่อรักษาต่อหรอป่าว
เจ้าหน้าที่ call center : คุณ คนไข้ ก็ต้องเข้ามาตรวจให้คุณหมอรักษานะคับ ไม่ใช่คนไข้จะขอไปเอง ไปไหนก็ได้ เรามี contact กับ ร.พ ที่มีความสามารถอยู่แล้ว ไม่ใช่จะมาขอให้ส่งตัวไป ยังไงก็ได้
ข้าพเจ้า : ?????
ข้าพเจ้าก็ งง เต็งเลย ใส่มาเป็นชุดแค่ถามว่า มีเรื่องการส่งตัวไปเพื่อรักษาต่อไหม กรณี ร.พ ไม่สามารถรักษาได้
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือน ข้าพเจ้ากลับไปตรวจอีกครั้ง พร้อมกับเอ็กซเรย์ ดูผล ซึ่ง เท้าที่เคลื่อนออกมา มันผิดรูปแต่โชคดีที่ไม่มี แคลเซียมเกาะที่ข้อ คุณหมออธิบายเพื่อว่า ผลมีวิธิการรักษาให้ 2 แบบ
แบบที่พักฟื้น นาน กับไม่พักฟื้นนาน..............
พร้อมออกหนังสือรับรองการรักษาถึง ผอ ร.พประกันสังคมในเหตุผลที่ต้องรักษา
หลังจากการตรวจครั้งที่ 2 ข้าพเจ้าก็คิดพิจารณาว่า จะผ่าดีไหม เพราะก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย แถมการพักฟื้น ก็ใช้เวลานาน จะรักษาความสะอาดอย่างไร เดินอย่างไร และที่สำคัญ จะรักษาอย่างไรดี 30บาท ประกันสังคม หรือ ประกันส่วนตัว ก็สอบถามสิทธิ ทุกทางแล้วว่า คลอบคลุมค่ารักษาพยาบาลได้แค่ไหน ประกันสังคม ก็เริ่มมีกลิ่น ตุๆแล้ว
ข้าพเจ้าจึงพยาบาลสอบถาม และ หาข้อมูลเรื่องการรักษา และ ค่ารักษาพยาบาลอยู่ เพราะการผ่าตัดแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจเดินทางไปแถว สะพานควาย ณ ตำแหน่งที่ ร.พประกันสังคมนี้ ตั้งอยู่
เข้าไปแจ้งขอการรักษา โดย ไปยังตึกท้ายๆ ร.พ เพื่อเข้าสู่กระบวนการใช้สิทธิ ประกันสังคมก่อน
ข้าพเจ้า : สวัสดีค่ะ คุณหมอ
คุณหมอ : สวัสดีครับ เป็นอะไรมา
ข้าพเจ้า : ปวดนิ้วหัวแม่เท้าที่เท้าผิดรูปนะค่ะ เวลาเดินมาก เดินไกล จะปวด เวลาออกกำลังกายจะปวด
คุณหมอ : อืม เท้าผิดรูปจริงๆ นะ มัน โค้ง และ ยื่นออกมา พร้อมเอาไฟฉายส่อง
คุณหมอ : เด๋วหมอเขียนใบสั่งยาให้นะเอาไปทาน และทา แก้ปวด
อึ้งนิดๆ กับการเอาไฟฉายส่องเท้าแล้วเขียนใบสั่งยา แต่ก็คิดในใจ คุณหมอไม่ใช่หมอกระดูก ก็คงไม่อยากวินิจฉัยเยอะ ให้คุณหมอเฉพาะทางตรวจดีกว่า
คุณหมอตรวจเสร็จ ภายใน 2 นาที แต่นั่งรอ ตั้งแต่ 9 โมง ได้ตรวจ สัก 10 โมงกว่าๆ
บุรุษพยายาม ก็ เอาใบแจ้งนัด เพื่อย้ายสิทธิไปรักษาต่อเฉพาะทาง โรคออร์โธปิดิกส์ ซึ่งนัดมาอีกครั้ง ในอีกสัปดาห์ ก้สงสัยว่าทำไม ตรวจต่อกันไม่ได้
แต่ก็กลับมาตรวจใหม่อีกครั้งตามนัด เมื่อเข้าไปพบกับคุณหมอ
คุณหมอ : เป็นอะไรมาครับ
ข้าพเจ้า : ปวดนิ้วหัวแม่เท้าที่เท้าผิดรูปนะค่ะ เวลาเดินมาก เดินไกล จะปวด เวลาออกกำลังกายจะปวด
..
คุณหมอ ก้มลงดู อืม ใช่ พร้อมกับวาดรูปลักษณะ อาการที่เป็น ในแฟ้มประวัติ พร้อมทั้งบอกว่า
คุณหมอ : โรคนี้เค้าเรียกว่า Hallux Valgus ใช่ Hallux Valgus นิ้วเท้าเก เพราะใส่ร้องเท้าส้นสูง
ข้าพเจ้า : ???
คุณหมอ : ใช่ เรียก Hallux Valgus ถ้าปวด ก็เปลี่ยนรองเท้า อย่าใส่รัด เอายาไปกิน เอายาไปทา
ส่วนการรักษา มีวิธีเดียวคือการผ่าตัด แต่เค้าไม่ทำกันหรอกนะ เพราะมันมีผลกระทบตามมาภายหลังเยอะ อีกอย่างผมก็ไม่ทำ (คุณหมอรีบตัดบท) ผมผ่าให้คุณไม่ได้หรอก เพราะผม ไม่ได้ดูเรื่องเท้า อะ เสร็จแล้วครับ
ข้าพเจ้า : (คิดในใจ)ห๊ะ!!! เสร็จละ ไม่ถามอีกหน่อยหรอค่ะ
จึงตัดสินใจปรึกษาคุณหมอว่า
ข้าพเจ้า : คุณหมอค่ะ รบกวนปรึกษาได้ไหมค่ะ
คับว่าไง
ข้าพเจ้า : ถ้าตามที่คุณหมอแจ้ง ว่า คุณหมอผ่าตัดให้ไม่ได้ จึงอยากจะปรึกษาคุณหมอว่า หากจะให้คุณหมอ ทำเรื่องส่งตัวเพื่อรักษาต่อ จะต้องทำอย่างไร่นะค่ะ
ข้าพเจ้าก็หยิบ เอกสารรับรองจาก ศิริราชเรื่อง โรคที่เป็น ว่า การรักษาคือการผ่าตัด เพื่อรักษาอาการเจ็บปวด
คุณหมอเอาไปอ่าน แล้วก็ เรียกพยาบาลมาถามว่า จะต้องทำอย่างไร โดยให้ออกไปรอข้างนอก
สักพัก มีนางพยาบาลในชุด private เดินมาคุยด้วย
คุณพยาบาล :แบบนี้ผ่าตัดไม่ได้หรอกค่ะ
คุณพยาบาล :ถ้าจะผ่าก็ต้องใช้งบส่วนตัวผ่า เพราะเราถือว่า เป็นการศัลยกรรม ไม่ใช่การรักษา ศัลยกรรมเพื่อใส่ร้องเท้าส้นสูงได้
ข้าพเจ้าก็งง กับคำพูดของนางคนนี้เรียกตัวเองว่า พยาบาล ไม่ใช่การรักษา
ข้าพเจ้า : ก็ดิฉันปวด เวลาเดิน เวลาออกกำลังกาย มาที่นี้ ก็เพื่อมาทำการรักษา
คุณพยาบาล :น้องไม่ได้แตกไม่ได้หักมา เราไม่ถือว่าน้องรักษา จะถือว่าเป็นการศัลยกรรม ก็อย่าที่บอก ว่าต้องจ่ายเอง
ข้าพเจ้าก็ถามย้ำว่าทำไม
ข้าพเจ้า : ก็ประกันสังคมไม่ครอบคลุมการศัลยกรรม
ข้าพเจ้า ก็ยืนยัน ดิฉันมาเพื่อทำการรักษา และ ดิฉัน โทรถามสิทธิแล้ว ว่า โรคนี้คลอบคลุมแล้ว
คุณพยาบาล : พนักงานคนไหน ที่คุย ชื่ออะไร เอาเบอร์มาเด๋วจะคุยเอง ว่า ทำไมคลอบคลุม อ้าว
ข้าพเจ้า ก็ชักเริ่มหงุดหงิด กันคนที่เรียกตัวเองว่า พยาบาลของคนๆ นี้แล้ว
ข้าพเจ้า : ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ดิฉันจะแจ้งไปยัง ประกันสังคมอีกครั้ง ถามชัดๆ ว่าทำไม ร.พ คุณ ถึงบอกว่าไม่คลอบคลุม
ข้าพเจ้ากลับออกมา ด้วยอารมณ์โกรธมาก ที่มาบอกว่านี้ไม่ใช่เรื่องการรักษา เป็นการทำศัลยกรรม เพื่อให้ใส่ร้องเท้าส้นสูงสวย มันรู้สึก หมดความเลื่อมใส กับความคิด ของคนที่เรียกตัวเองว่า พยาบาล ที่ไม่ใช่หมอ แต่สันนิษฐาน วัรถุประสงค์ของคนไข้แบบนี้
พยาบาลชุดขาวที่อยู่ตรง Counter คงเห็นอาการข้าพเจ้าแล้ว จึงมาคุยด้วยว่า
พยาบาลชุดขาว : เจ้าหน้าที่ได้ส่งเรื่องต่อว่า คงรักษาไม่ได้ คนไข้รอคุยกับ เจ้าหน้าที่ประกันสังคมของ ร.พ ไหมค่ะ หรือว่า กลับก่อน
เพราะตอนนี้ คนไข้ก็ตรวจเสร็จแล้วไม่มีอะไร
ข้าพเจ้าจึงถามไปว่า แล้ว คนเมื่อกี้ไปไหนแล้ว
พยาบาลชุดขาว : พี่เค้าแจ้งว่า เค้าออกไปข้างนอกสักพักนะค่ะ
ข้าพเจ้า : จะกลับเมื่อไหร่ค่ะ
พยาบาลชุดขาว : ไม่ทราบค่ะ
ก็ไม่อยากจะหงุดหงิดกับคนที่ไม่ใช่คู่กรณีหรอกนะ ก็ตอบไปตรงๆ ว่า
ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะมาเมื่อไหร่ รอตอนนี้ ก็เสียเวลาเปล่า เด๋วจะติดต่อกลับมาใหม่ค่ะ
พยาบาลชุดขาวเห็นหน้าตาที่ไม่สู้ดีของข้าพเจ้าแล้วมั้ง จึงตอบมาว่า
พยาบาลชุดขาว : แล้เด๋วจะแจ้งให้พี่เค้าติดต่อกลับนะค่ะ เรื่องนี้เพื่อแจ้งสิทธิ
ข้าพเจ้าจึงถามว่า แล้วมีเบอร์ เจ้าหน้าที่คนนั้นไหมค่ะ เด๋วจะให้เจ้าหน้าที่ประกันสังคมคุยด้วย
เมื่อข้าพเจ้า ได้มาแล้ว ก็กลับมานั่งสงบสติอารมณ์ ที่สถานีรถไฟฟ้า
รถไฟฟ้ายังไม่ทันมา ก็มี โทรศัพท์ เข้ามา เป็นสายของนางพยาบาลในชุดลำลองที่ดูแลสิทธิประกันสังคม
ข้าพเจ้า หงุดหงิดตั้งแต่ ประโยคแรกที่นางพูดเลยว่า
คุณพยาบาล :เนี่ย พี่คุย กะคุณหมอ แล้ว คุณ กับ ผอ ร.พ แล้ว ว่า เคสนี้ยังไงก็ผ่าไม่ได้ ประกันไม่ครอบคลุม
ข้าพเจ้าเลยสวนกลับไปว่า
ข้าพเจ้า : คุณหมอวินิจฉัยมาแล้วหรอค่ะว่า รักษาไม่ได้ด้วยการผ่าตัด
นางขึ้นเสียง พร้อมป่าวประกาศว่า
คุณพยาบาล :ก็พี่เป็น พยาบาล พี่รู้ค่ะ พี่เป็นพยาบาล
ข้าพเจ้า : พยาบาลแล้วไงค่ะ แล้วหมอวินิฉัยออกมาแล้วหรอค่ะ
คุณพยาบาล :ก็พี่เป็น พยาบาล พี่รู้ นางยังยืนยันคำเดิม พี่ถามสิทธิประกันสังคมแล้ว เค้าก็บอกว่าไม่ได้
ข้าพเจ้า : ดิฉันก็โทรไปถามแล้วเช่นกัน เจ้าหน้าที่แจ้งมาทุกๆ คนที่รับสายว่า ครอบคลุมและรักษาได้
ทำไมคุณ.......
นางสวนมา
คุณพยาบาล : พี่ถามกับหมอและ ผอ แล้ว ว่าไม่ได้ ก็ไมได้สิค่ะ
ตอนนั้นข้าพเจ้าหมดความอดทนละ ขอขึ้นเสียงกลับไปเลยว่า
ข้าพเจ้า : คุณพยาบาลค่ะ เมื่อสักครู่ตอนตรวจกับคุณหมอ คุณหมอยังบอกเลยว่า โรคนี้ต้องผ่าตัด แต่เค้าไม่ทำกัน เพราะเสี่ยง แต่หมอก็ไม่ทำให้ เพราะคุณหมอไม่ใช่แพทย์เฉพาะเท้า แต่ทำไมคุณมาบอกว่าทำไม่ได้
คุณพยาบาล : พี่ก็จะไปรู้หรอค่ะ พี่ไม่ใช่คุณหมอ แต่คุณหมอก็บอกพี่มาแบบนี้จะให้พี่พูดอะไรไปอื่นอีก
ข้าพเจ้า : อ้าว คุณพี่ค่ะ เมื่อกี้ยังบอก อยู่ยกๆ ว่าเป็น พยาบาล พี่รู้ ตอนนี้ไม่รู้แล้วหรอค่ะ
แล้วคุณพยาบาลค่ะ บอกมาสิค่ะ ว่า โรคนี้ ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด บอกมาสิ แล้วดิฉันจะเชื่อ
เพราะดิฉันไปตรวจอีก ร.พ มาแล้ว คุณหมอก็บอกว่า ผ่าได้ ดิฉัน ก็อยากหา Option 2 เพื่อยืนยันโรคจึงมาที่นี้
เพราะไว้ใจตลอดเวลา ก็มารักษาที่นี้....
คุณพยาบาล :น้องค่ะ น้องไม่ฟังพี่เลย พี่จะอธิบาย น้องก็ไม่ฟัง
ข้าพเจ้า : พี่จะอธิบายอะไรละค่ะ อธิบายมาซิ
คุณพยาบาล :ถ้าน้องบอกว่าน้องไปรักษาที่อื่นแล้ว ก็เอาประวัติมา แล้วจะไปคุยกะคุณหมอ กับ ผอ อีกครั้ง.
ข้าพเจ้า : นั่นซิค่ะ คุณพยาบาลพูดแบบนี้ตั้งแต่แรก ดิฉันจะฟังทุกคำแนะนำของคุณพยาบาลเลยค่ะ
คุณพยาบาล :ค่ะ ไปเอาประวัติมา แล้วจะพิจารณาให้นะค่ะ
แล้วนางก็วางสายไป พร้อมทิ้งให้ข้าพเจ้า ระเบิดไฟ อยู่บนสถานีรถไฟฟ้า
นั่งสงบสติ อารมณ์ สักพัก จึงโทรไป ที่ สำนักงานใหญ่ ประกันสังคม แจ้งปัญหาให้ทราบ
ต้องบอกว่า เจ้าหน้าที่ที่คุยด้วย และ โทรแจ้งกลับเพื่ออธิบายสิทธิให้ฟัง คุยด้วยดีมาก ผิดกับสิ่งที่เคยคิดไว้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐ สักพักก็คงเงียบหาย ไม่ตามเรื่องให้แต่ไม่ใช่ เจ้าหน้าที่ โทรกลับมาเพื่อพูดคุยและแจ้งสิทธิ ให้ทราบ พร้อมทั้งบอกว่า หากร.พ ยังยืนยันไม่รักษาให้ ให้โทรไปปรึกษา อีกหน่วยงาน คือ หน่วยงานรักษาพยาบาลหน่วยงานประกันสังคม ขออนุญาติ แจ้งหมายเลขนะค่ะ เพราะต้องบอกว่าขอบคุณมากค่ะ ที่คุยกับ ร.พ ให้ ..มีต่อ