สถานทูตสหรัฐในกรุงเทพเผยแพร่บทปาฐกถาของนายแดเนียล รัสเซลผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ....



ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแนะไทย ยกเลิกกฎอัยการศึก ยุติจำกัดเสรีภาพในการพูดและชุมนุม เปิดกว้างคนทุกฝ่ายมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความปรองดอง ชี้โลกมองกรณีเล่นงานอดีตนายกฯไทยเป็น ‘การเมือง’
สถานทูตสหรัฐในกรุงเทพเผยแพร่บทปาฐกถาของนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ซึ่งแสดงต่อที่ประชุมซึ่งจัดโดยสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เมื่อวันจันทร์ นายแดเนียลพบหารือกับอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, อดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐมนตรีต่างประเทศ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ก่อนไปแสดงปาฐกถาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลังจากบรรยายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในตอนท้ายของปาฐกถา นายรัสเซลกล่าวถึงสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทย และผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับไทยในช่วงปีที่ผ่านมา
เขาเริ่มด้วยการกล่าวแสดงความเสียดายที่ว่า ความสัมพันธ์สหรัฐ-ไทยต้องเผชิญกับอุปสรรค อันเป็นผลกระทบจากการรัฐประหาร ซึ่งได้ปลดรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตย
นายรัสเซลกล่าวว่า สหรัฐไม่เข้าข้างฝ่ายใดในการเมืองไทย ทว่าสหรัฐกังวลเกี่ยวกับการจำกัดเสรีภาพนับแต่รัฐประหาร และกังวลเป็นพิเศษที่กระบวนการทางการเมืองไม่ได้เป็นปากเสียงแทนคนทุกภาคส่วนของสังคมไทย
“กระบวนการที่เปิดกว้างจะส่งเสริมการปรองดองทางการเมือง กระบวนการในวงแคบที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนั้น เสี่ยงต่อการปล่อยให้คนไทยจำนวนมากรู้สึกถูกกีดกันจากระบบการเมือง”
ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ยังชี้ด้วยว่า การรับรู้เกี่ยวกับความเป็นธรรมก็นับเป็นสิ่งสำคัญ
“ผมขอกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า เมื่อผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งถูกปลดออกจากตำแหน่ง ถูกถอดถอนโดยผู้มีอำนาจที่ก่อรัฐประหาร และตกเป็นเป้าด้วยข้อหาอาญาในขณะที่กระบวนการและสถาบันพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยต้องหยุดชะงักลง  ประชาคมโลกจึงเกิดความรู้สึกว่า ขั้นตอนเหล่านี้อาจเกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง” ถ้อยแถลงที่แปลโดยสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยระบุ
เขาเน้นว่า สหรัฐหวังที่จะเห็นกระบวนการที่จะทำให้ประชาชนไทยเกิดความเชื่อมั่นในรัฐบาลและสถาบันตุลาการของตน รวมทั้งทำให้นานาประเทศเกิดความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่ระบอบประชาธิปไตย
ท้ายที่สุด ผู้แทนสหรัฐผู้นี้แนะนำว่า การดำเนินการปฏิรูปให้สอดคล้องกับความต้องการของคนทุกภาคส่วนนั้น ต้องยกเลิกกฎอัยการศึก ยกเลิกการจำกัดเสรีภาพในการพูดและการชุมนุม.

Source: สถานทูตสหรัฐฯ กรุงเทพ
http://news.voicetv.co.th/thailand/159705.html

ปอลิง .. สหรัฐไม่ใช่พ่อ คำนี้ถูกต้องที่สุด  ... ... ...
                 แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าสหรัฐคือพี่ใหญ่   พี่ใหญ่ที่พร้อมจะตบหัวใครก็ได้ที่ทำให้พี่ใหญ่ไม่พอใจหรือใครก็ได้ที่แตกแถว  ตบหัวทั้งลับและแจ้ง ตรงนี้ต่างหากที่น่ากลัวและน่ากังวล  ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่