ถ้าเปรียบกันด้วยรถที่เป็นรุ่นเดียวกัน มีรูปทรงภายนอกเหมือนกัน มีผลในด้านแอร์โร่ไดนามิกที่เหมือนกัน
แต่สมมติให้ คัน A เป็นเครื่องเบนซิน 2,000 cc. และ คัน B เป็นเครื่องเบนซิน 2.4 cc.
การขับขี่รูปแบบทั่วไปที่เราขับกันในเมือง ใช้ความเร็วไม่คงที่ และไม่ได้ใช้ความเร็วสูง คัน A เครื่อง 2,000 cc. อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง จะน้อยกว่า
แต่ขับทางไกล ใช้ความเร็วค่อนข้างสม่ำเสมอ คัน B ที่มีเครื่อง 2,400 cc. จะมีอัตราการสิ้นเปลืองที่น้อยกว่ากันเอครับ

กรณีที่ผมยกมานี้ เปรียบเทียบจากที่เกิดขึ้นในการใช้งานจริงเลย
เพราะว่า รถที่ผมใช้อยู่ เป็นเครื่อง 2,400 cc. และ มีรถรุ่นเดียวกันโฉมเดียวกัน ซึ่งเป็นตัวที่ขนาดเครื่อง 2,000 cc. ของเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกัน
การใช้งานในแต่ละวัน ส่วนใหญ่ก็ขับใช้งานในเมืองด้วยระยะทางที่ใกล้เคียงพอๆกัน
ค่าน้ำมันของคันที่เป็นเครื่อง 2,000 cc ที่เพื่อนรุ่นพี่ผมต้องจ่ายในแต่ละสัปดาห์ รวมแล้วถูกกว่าของผม (เติม E20 เหมือนกัน)

แต่ช่วงก่อน ได้มีโอกาสไปร่วมทริปแรลลี่การกุศลพร้อมกัน ทั้งสองคันแต่ละคันก็มีคนนั่งกันไป 4 คน พร้อมสัมภาระ ระยะทางรวมไปกลับก็เกือบๆ 700 กม.
ขาไปนั้นอาจจะไม่ค่อยเห็นความต่างมากสักเท่าไหร่เพราะต้องทำกิจกรรมระหว่างทางเป็นระยะๆ มีหลงหรือขับเลยจุดอยู่บ้าง
แต่ขากลับขับตามๆกันมาที่ราวๆ 120 กม./ชม. ของผมเครื่อง 2,400 พร้อมคนและสัมภาระ ก็ค่อนข้างจะไปแบบวิ่งสบายๆเร่งแซงได้ดีตามกำลังของมัน
ซึ่งท้ายสุดมาเทียบกัน อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ในการเดินทางไกล เครื่อง 2,400 เปลืองน้ำมันน้อยกว่าเครื่อง 2,000 ต่างกันชัดเจนเลย
ถ้าเป็นทางไกล เครื่อง 2,000 ลำพังน้ำหนักรถก็ค่อนข้างมากตามความเทอะทะของมันอยู่แล้ว บวกคนอีก 4 กับสัมภาระ เลยกลายเป็นซดน้ำมันไปเยอะกว่าเครื่องใหญ่อีก

แต่ว่า....ทุกวันนี้ผมเอง บางครั้งก็คิดอยู่นะ ว่าไม่รู้คิดถูกไหมที่ตอนนั้นดันเลือกคันที่ใช้อยู่นี้ ซึ่งมีเครื่องใหญ่ถึง 2,400 ทั้งที่วันๆหนึ่งก็ขับอยู่แค่ในเมืองเป็นส่วนใหญ่