[Spoil + แนะนำ] Kimi Shini Tamou Koto Nakare (Thou Shalt Not Die) ตอน 1 ผลงานเรื่องใหม่ของอ.โมริยามะ ไดสึเกะ

จริงๆ ก็ได้ข่าวมาพักนึงแล้วแฮะ ว่าอ.โมริยามะ ไดสึเกะได้เขียนเรื่องใหม่แล้วหลังจากเขียน World Embryo จบไปเมื่อปลายปีก่อน แต่พอดียังหาต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ (เจอแต่เวอร์ชั่นจีนกับอังกฤษ) ก็เลยไม่ได้เขียนแนะนำเสียที มาวันนี้ได้ข่าวว่าตอนแรกที่เพิ่งลงนิตยสารไปมีให้อ่านฟรีในเว็บหลักของเรื่องแล้ว ในฐานะแฟนผลงานอาจารย์มาตั้งแต่สมัย Chrono Crusade เลยขอแนะนำผลงานเรื่องใหม่ของแกซะตรงนี้เลย

โดยผลงานเรื่องใหม่ของอ.โมริยามะนั้นมีชื่อว่า Kimi Shini Tamou Koto Nakare (君死ニタマフ事ナカレ แปลกล้อมแกล้มเป็นภาษาไทยก็ประมาณ "จงอย่าตาย" หรือถ้าเอาแบบภาษาอังกฤษหรูๆ หน่อยก็ประมาณ Thou Shalt Not Die ประมาณนี้แล) โดยเขียนลงรายเดือนในนิตยสาร Big Gangan ของค่ายเหลี่ยม Square Enix ที่เรารู้จักกันดี


ภาพปก Big Gangan ที่ลงเรื่องนี้เป็นตอนแรก



ซึ่งผลงานเรื่องนี้นั้นอ.โมริยามะไม่ได้แต่งเนื้อเรื่องเอง แต่ได้คุณโยโค ทาโร่ ผู้กำกับและเขียนเนื้อเรื่องของเกม Drakengard และเกม Nier ที่รู้จักขึ้นชื่อกันดีในฐานะเกมที่เนื้อเรื่องโคตรจะหักมุมและฉากจบที่บัดซบได้ใจเกมหนึ่งในวงการมาแต่งเนื้อเรื่องให้ (นักวาดการ์ตูนแนวปวดตับจับมือกับคนเขียนบทเกมปวดตับมาจับมือกันเขียนการ์ตูนเรื่องใหม่ เรียกว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัวเป๊ะดีจริงๆ แถมได้ข่าวแว่วๆ ว่าเนื้อเรื่องการ์ตูนเรื่องนี้อาจต่อยอดหรือแตกแขนงมาจากเนื้อเรื่องเกม Nier อีก แค่นี้ก็พอเห็นแววปวดตับกับหักมุมชนิดหัวทิ่มอยู่รำไรแล้ว)


เนื้อเรื่องกล่าวถึงโลกยุคอนาคตที่ทรัพยากรน้ำมันใกล้จะหมดไปจากโลก มนุษย์จึงต้องเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงไบโอดีเซลแทน ทำให้เกิดสงครามเพื่อแย่งชิงทรัพยากรสำหรับทำไบโอดีเซล สงครามขยายขอบเขตมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นสงครามกระจายไปทั่วโลก ทางสหประชาชาติจึงต้องส่งทหารของตนเองเข้าไประงับข้อพิพาทในประเทศที่เกิดสงครามแต่ละแห่ง ซึ่งญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งกองกำลังของตนเข้าไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถส่งกองกำลังออกไปทำสงครามในต่างแดนได้ (ตามรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นที่ให้มีกองกำลังสำหรับป้องกันตนเองเท่านั้น) ดังนั้น ทางญี่ปุ่นจึงตัดสินใจส่งหน่วยรบพิเศษซึ่งประกอบด้วย "ผู้มีพลังพิเศษ" ซึ่งญี่ปุ่นค้นพบและทำการวิจัยมาตลอดเข้าไปแทนกองกำลังป้องกันตนเอง (เรียกง่ายๆ คือมนุษย์ที่มีพลังพิเศษจำพวกเสริมความแข็งแกร่งร่างกาย เคลื่อนย้ายวัตถุ มองเห็นตำแหน่งศัตรูในระยะไกลๆ) โดยส่งเข้าไปในนามของ NGO

โดยหน่วยรบนี้ส่วนมากจะเป็นเด็กวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ปีด้วยกันทั้งนั้น เนื่องจากพลังของผู้มีพลังพิเศษจะหายไปเมื่ออายุเกิน 20 ปี  ซึ่งพระเอกนางเอกของเรื่องก็อยู่ในหน่วยรบนี้นั่นแหละ


อนึ่ง ต่อไปนี้ผมจะเล่าเนื้อเรื่องตอน 1 ให้ฟังแบบคร่าวๆ นะครับ อาจไม่ตรงกับวิธีเรียบเรียบเนื้อเรื่องของอ.โมริยามะกับอ.โยโคบ้าง เพราะผมตั้งใจจะเล่าพอให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในเรื่องบ้างเท่านั้น ท่านใดที่อยากอ่านแบบอังกฤษก็สามารถหาได้ทั่วไป เพราะน่าจะมีสแกนอังกฤษออกมาให้แล้ว ส่วนท่านใดอยากอ่านเวอร์ชั่นดิบก็คลิกในลิงก์ข้างล่างนี้ได้เลยครับ

http://www.jp.square-enix.com/magazine/biggangan/tachiyomi/kimishini_01/_SWF_Window.html




- เปิดตอนมาที่หน่วยผู้มีพลังพิเศษที่พระเอกนางเอกสังกัดอยู่ออกไปปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนร่วมกับกองทัพอเมริกา

- แต่ยังไม่ทันได้สมทบกับกองทัพอเมริกาก็โดนทหารฝ่ายศัตรูซุ่มโจมตีกลางทางเสียก่อน คนในหน่วยโดนฆ่าตายไปหลายคน ที่เหลือรอดมาได้ก็รีบตั้งหลักแล้วถอยไปตั้งหลักทันที

- ฝ่ายหน่วยผู้มีพลังพิเศษเสียเปรียบมาก เพราะพลังพิเศษของแต่ละคนยังไม่สมบูรณ์แบบพอจะใช้รบกับศัตรูที่เป็นทหารติดอาวุธสงครามครบมือได้


*หมายเหตุ - อธิบายคร่าวๆ พลังพิเศษของผู้มีพลังพิเศษในเรื่องนี้จะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือพวกสายต่อสู้ระยะประชิดที่ใช้พลังจิตบัฟตัวเองให้มีกำลังเหนือมนุษย์ (แต่ร่างกายไม่ได้แข็งแกร่งขนาดต้านกระสุนปืนได้ โดนยิงเอาก็ตายเหมือนกัน) สายต่อสู้ระยะไกล (ประเภทใช้พลังจิตผลักกระแทกคู่ต่อสู้ กางโล่ป้องกัน หรือใช้สแกนเนอร์ระเบิดสมองคู่ต่อสู้ แต่พลังยิ่งแรงก็ยิ่งเสียเวลาชาร์จนาน แถมระยะหวังผลยังด้อยกว่าปืนอีก) และสายตรวจจับ (ประเภทใช้พลังจิตตาทิพย์ตรวจสอบรอบตัวว่ามีศัตรูหรือกับดักตรงไหนหรือเปล่า)


- ระหว่างที่หนีนั้น มาชิโระนางเอก (สาวผมสั้นหน้าตาเหมือนยูอิจาก World Embryo) เห็นเพื่อนโดนยิงสมองไหลศพไม่สวยต่อหน้า เกิดช็อคจนอาเจียนออกมากลางสนามรบ เดชะบุญได้คุโรอิ พระเอกของเรื่องเข้ามาช่วยลากตัวหนีออกมาได้ทัน พร้อมกับทิ้งคำถามเป็นปริศนาไว้ว่า "เธออยากตาย? หรือว่าไม่อยากตาย?"

- อุซึกิ หัวหน้าหน่วยหน่วยเห็นว่าฝ่ายตัวเองโดนระดมยิงไล่หลังก็ให้โบตั๋น รองหัวหน้าหน่วยและหัวหน้าหน่วยโจมตีระยะประชิดพาคนอื่นหนีไป ส่วนตัวเองรีบเรียกหน่วยจู่โจมระยะไกลออกไปกางกำแพงพลังจิตป้องกันกระสุนของศัตรูไว้ ส่วนตัวเองคอยใช้สแกนเนอร์ระเบิดหัวศัตรูไปพลาง

- แต่ศัตรูกำลังเหนือกว่า แถมติดอาวุธสงครามมาเต็มอัตราศึก พลังจิตครึ่งๆ กลางๆ ของพวกเด็กวัยรุ่นทำอะไรไม่ได้เลย โดนยิงเจาะกำแพงพลังจิตตายไปหลายศพ

- อุซึกิเห็นจวนตัวไม่รู้จะทำยังไง ก็ใช้พลังจิตของตัวเองสั่งจุดระเบิดน้ำมันในรถบรรทุกที่อยู่ใกล้ๆ น้ำมันในถังเลยระเบิดตูม ฆ่าพวกทหารศัตรูที่ระดมยิงใส่อยู่จนหมดในทีเดียว

- หน่วยผู้มีพลังพิเศษรีบฉวยโอกาสนี้ถอยทัพไปทันที


- หลังจากนั้นก็เป็นฉากย้อนอดีตในวันที่มีประกาศเรื่องจัดตั้งหน่วยผุ้มีพลังพิเศษในโรงเรียนสำหรับฝึกสอนผู้มีอำนาจพิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งในช่วงนี้จะมีการแนะนำตัวละครสำคัญในเรื่อง เริ่มจากคุโรอิพระเอกของเรื่อง นักเรียนปี 1 โรงเรียนผู้มีพลังพิเศษ ภาควิชาต่อสู้ระยะประชิด กับมาชิโระนางเอกของเรื่องที่เป็นนักเรียนปี 1 ภาควิชาเดียวกัน ภาพแสดงให้เห็นว่าคุโรอิมักชอบทำตัวทะเล้น และแกล้งแหย่มาชิโระเรื่องที่แอบชอบอุซึกิประธานนักเรียน (หัวหน้าหน่วยผู้มีพลังพิเศษ) จนโกรธเป็นประจำ


คุโรอิกับมาชิโระ พระเอกนางเอกของเรื่อง



- จากนั้นก็เป็นการแนะนำตัวอุซึกิ ประธานนักเรียนโรงเรียนผู้มีพลังพิเศษ และเป็นคนที่เก่งที่สุดในภาควิชาต่อสู้ระยะไกล (พวกสายเทเลคิเนซิส) โบตั๋น รองประธานนักเรียนที่เป็นสายต่อสู้ระยะประชิดซึ่งเป็นแฟนของอุซึกิ และซึมิ เลขาสภานักเรียนที่มีความสามารถสายตรวจจับ


อุซึกิกับโบตั๋น หัวหน้ากับรองหัวหน้า (คิดว่านะ) หน่วยผู้มีพลังพิเศษ



- จากนั้นก็เป็นฉากคุยกันระหว่างอุซึกิกับโบตั๋น โดยบ่นถึงเรื่องที่พวกตัวเองจะถูกส่งไปปฏิบัติการทางทหารในประเทศที่มีสงครามทั้งๆ ที่เป็นเพียงเด็กมัธยม โบตั๋นเห็นอุซึมิท่าทางกังวลก็ให้สัญญากับอุซึกิว่าหากเกิดอะไรขึ้น ตัวเธอจะปกป้องอุซึกิเอง


- จบฉากย้อนอดีตกลับมายังปัจจุบัน พวกนักเรียนที่ตอนนี้กลายเป็นหน่วยผู้มีพลังพิเศษในสนามรบไปแล้วกำลังถอยหนีเข้ามาในป่า ซึมิใช้พลังตรวจสอบรอบๆ ดูจนพบช่องโหว่ในวงล้อมของศัตรู และพบตึกร้างแห่งหนึ่งพอใช้เป็นที่หลบซ่อนชั่วคราวได้ จึงตัดสินใจฝ่าวงล้อมไปที่ตึกนั้น


ความสามารถตรวจจับตำแหน่งศัตรูของซึมิ




- ระหว่างนั้น คุโรอิก็แกล้งแหย่มาชิโระที่กำลังเครียดเล่นจนมาชิโระหน้าแดงแป๊ด ทำให้บรรยากาศที่กำลังตึงเครียดในหมู่นักเรียนผ่อนคลายลงบ้าง ส่วนมาชิโระคนถูกล้อนั้นเดินกระแทกเท้าหนีไปดื้อๆ เลย คุโรอิก็ตามไปเรียกไว้ แต่มาชิโระไม่ยอมฟังเอาแต่เดินหนีท่าเดียว จนคุโรอิต้องคว้าแขนไว้ แล้วชี้ให้ดูกับระเบิดที่อยู่ตรงหน้าห่างจากปลายเท้ามาชิโระไปแค่ไม่กี่นิ้ว

- มาชิโระถึงกับตัวเย็นวาบที่รอดตายมาหวุดหวิด คุโรอิก็ยิ้มให้แล้วบอกว่าถ้าจะตายก็ตายให้มันสวยๆ กว่านี้หน่อยน่า มาชิโระก็หันไปถามว่ารู้ได้ไงว่าตรงนั้นมีกับระเบิด คุโรอิเป็นสายสู้ระยะประชิดไม่ใช่สายตรวจจับไม่ใช่เหรอ คุโรอิก็บอกว่า "ความลับ" แล้วก็พูดอะไรบางอย่างที่ได้ยินไม่ถนัด (ในการ์ตูนทำเป็นฉากเบลอประโยคที่คุโรอิพูดตรงนี้ไว้ ทำให้เห็นไม่ชัด) ก่อนจะชวนกันกลับไปสมทบกับพรรคพวกแล้วเคลื่อนพลต่อไป




- เมื่อมาถึงตึกร้าง ทั้งหมดก็เคลื่อนที่ไปยังชั้นบนสุด แล้วใช้ที่นั่นเป็นที่มั่นชั่วคราวเพื่อหลบซ่อน พักเหนื่อย และรักษาคนเจ็บ โดยระหว่างนั้นหน่วยสื่อสารก็พยายามติดต่อบ.ก. (ศูนย์บัญชาการ) แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมาเลยเนื่องจากสัญญาณไม่ดี

- ระหว่างนั้นอุซึกิกับโบตั๋นก็มานั่งคุยกัน (โบตั๋นเอายาระงับอาการจากการใช้พลังมากเกินไปมาให้) คุยกันถึงเรื่องการออกปฏิบัติการครั้งแรกที่ควรจะเป็นปฏิบัติการลาดตระเวนธรรมดา แต่กลับถูกซุ่มโจมตีจนต้องเสียคนไปมากมาย ต้องฆ่าคน ต้องดูพวกพ้องถูกฆ่าตาย ได้รับรู้ประสบการณ์ในฐานะทหารเป็นครั้งแรกทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โบตั๋นได้ยินดังนั้นก็บอกว่าเรื่องที่พูดเมื่อกี้ห้ามพูดให้ใครในหน่วยนอกจากตัวเธอฟังเด็ดขาด ไม่งั้นจะฆ่าให้ตายเลย




- ปรับทุกข์กันเสร็จ อุซึกิก็ลุกขึ้นหันไปตะโกนปลอบขวัญลูกน้องทุกคน แล้วออกคำสั่งให้จัดกระบวนทัพเตรียมรับมือศัตรูที่จะหาที่นี่เจอในอีกไม่นานและบุกเข้ามาทันที

- โดยแผนของอุซึกิคือให้หน่วยจู่โจมระยะประชิดเข้าไปสู้กับศัตรู ล่อให้ศัตรูตามขึ้นมาจนถึงชั้น 12 ที่หน่วยจู่โจมระยะไกลกับหน่วยตรวจจับตั้งแนวรบรออยู่ จากนั้นหน่วยจู่โจมระยะไกลจะรวมพลังกันใช้เทเลคิเนซิสทำลายทางเชื่อมบนชั้น 12 เก็บกวาดศัตรูแบบม้วนเดียวจบ และตัดทางศัตรูไม่ให้ไล่ตามมาได้


หน่วยจู่โจมระยะประชิดออกไปรบล่อศัตรู