ลัทธิปกุธกัจจายนะ
ประวัติโดยย่อ
ท่านเจ้าลัทธิชื่อ ปกุโธ ชื่อสกุลคือ กัจจายนะ ท่านถือว่าน้ำมีชีวิต จึงห้ามใช้น้ำเย็น แม้จะถ่ายอุจจาระก็ไม่ใช้นํ้าเย็น ได้นํ้าร้อนหรือนํ้าข้าวจึงใช้ หากเดินผ่านแม่นํ้า หรือนํ้าในทางก็ถือว่าศีลขาดแล้ว จะต้องก่อทรายทำเป็นสถูปอธิษฐานศีลก่อนเดินต่อไป ท่านได้ตั้งลัทธิชื่อสัสสตทิฏฐิ สิ่งทั้งหลายเที่ยง ยั่งยืนอยู่อย่างนั้น เช่นโลกเที่ยง จิตเที่ยง
ปกุธกัจจายนะเป็นนักพหุนิยมและวัตถุนิยม มีทรรศนะถือว่าสัตว์ประกอบด้วยธาตุทั้งหลาย ธาตุเหล่านั้นเป็นสิ่งที่มีความมั่นคง ไม่เป็นบ่อเกิดของสิ่งใดๆ ได้อีก ไม่มีพฤติกรรมร่วมกับสิ่งใดๆ ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นจึงไม่มีใครฆ่าใคร ไม่มีใครถูกฆ่า ไม่มีใครแสดงอะไรแก่ใคร ไม่มีใครสอน ไม่มีใครเรียน แม้ดาบจะผ่านร่างกายของสัตว์ไปก็ไม่จัดเป็นการทำบาป ไม่จัดเป็นการทำลายสัตว์เป็นเพียงดาบได้ผ่านกลุ่มธาตุที่ปรากฏเป็นร่างกาย เท่านั้น ร่างกายนั้นเป็นกลุ่มของปรมาณูไม่มีสิ่งอื่นใดทุกอย่างสิ้นสุดลงพร้อมกับ การตายของสัตว์นั้นๆ
คำตอบของท่านปกุธกัจจายนะ (ย่อ)
”สภาวะ ๗ กอง คือ กองดิน กองน้ำ กองไฟ กองลม สุข ทุกข์ ชีวะ นี้ ไม่มีใครทำหรือเนรมิต มีอยู่ยั่งยืนไม่แปรปรวน ไม่มีผู้กระทำการใด ๆ ต่อกัน แม้การเอามีดตัดศีรษะกันก็ไม่มีผู้ใดฆ่าใคร เป็นแต่เอามีดผ่านช่องระหว่างสภาวะ ๗ กองนี้เท่านั้น”
สรุปคำสอนของลัทธิปกุธกัจจายนะ
เมื่อพิจารณาตามคำตอบของท่านปกุธกัจจายนะนี้ จะเห็นได้ว่าท่านเชื่อมั่นว่าชีวิตของสรรพสัตว์ ประกอบด้วยสภาวะ ๗ อย่าง คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม สุข ทุกข์ และชีวะ สภาวะเหล่านี้มีธรรมชาติเที่ยงแท้ เป็นอยู่นิรันดร มีอยู่เอง ไม่มีใครทำลายได้
ในองค์ประกอบทั้ง ๗ เหล่านี้ ธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ และชีวะเป็นองค์ประกอบทำให้ชีวิตมนุษย์เกิดขึ้นได้ ธาตุแต่ละอย่างมีธรรมชาติ เป็นอยู่นิรันดร เป็นอยู่ได้ด้วยตนเอง ไม่มีอะไรทำลายได้ ไม่มีอะไรทำให้เกิดขึ้น
ดังนั้น การฆ่าจะใช้ศาสตราวุธอย่างใด ไม่ถือว่าบาป
ลัทธิปกุธกัจจายนะ – พุทธปรัชญา
เทียบกับทิฏฐิ ๖๒
สัสสตทิฏฐิ (หมวดเห็นว่าเที่ยง) – เชื่อว่าสภาวะ ๗ กองเหล่านี้ เที่ยงแท้ มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่หวั่นไหว ไม่แปรปรวน
ขัดแย้งกับหลักไตรลักษณ์
อธิจจสมุปปันนิกทิฏฐิ (หมวดเห็นว่าสิ่งต่างๆ มีขึ้นเอง ไม่มีเหตุ) – เชื่อว่า สภาวะ ๗ กองเหล่านี้ ไม่หวั่นไหว ไม่แปรปรวน ไม่เบียดเบียนกัน ไม่อาจให้เกิดสุขหรือทุกข์หรือทั้งสุข และทุกข์แก่กันและกัน
ขัดแย้งกับหลักปฏิจสมุปบาท
อุจเฉททิฏฐิ (หมวดเห็นว่าขาดสูญ) – เชิ่อว่าผู้ฆ่าเองก็ดี หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่า ไม่มีในสภาวะ ๗ กองนั้น กล่าวคือไม่มีใครฆ่า ไม่มีใครตาย ตายแล้วจึงไม่มีอะไรเหลืออยู่อีก
ขัดแย้งกับสัมมาทิฏฐิ
เทียบกับนิยตมิจฉาทิฏฐิ ๓
นัตถิกทิฏฐิ - ไม่เชื่อทั้งเหตุและผลของการกระทำ ไม่เชื่อว่ามีบุญ มีบาป
ลัทธิ กองดิน กองน้ำ กองไฟ กองลม สุข ทุกข์ ชีวะ
ประวัติโดยย่อ
ท่านเจ้าลัทธิชื่อ ปกุโธ ชื่อสกุลคือ กัจจายนะ ท่านถือว่าน้ำมีชีวิต จึงห้ามใช้น้ำเย็น แม้จะถ่ายอุจจาระก็ไม่ใช้นํ้าเย็น ได้นํ้าร้อนหรือนํ้าข้าวจึงใช้ หากเดินผ่านแม่นํ้า หรือนํ้าในทางก็ถือว่าศีลขาดแล้ว จะต้องก่อทรายทำเป็นสถูปอธิษฐานศีลก่อนเดินต่อไป ท่านได้ตั้งลัทธิชื่อสัสสตทิฏฐิ สิ่งทั้งหลายเที่ยง ยั่งยืนอยู่อย่างนั้น เช่นโลกเที่ยง จิตเที่ยง
ปกุธกัจจายนะเป็นนักพหุนิยมและวัตถุนิยม มีทรรศนะถือว่าสัตว์ประกอบด้วยธาตุทั้งหลาย ธาตุเหล่านั้นเป็นสิ่งที่มีความมั่นคง ไม่เป็นบ่อเกิดของสิ่งใดๆ ได้อีก ไม่มีพฤติกรรมร่วมกับสิ่งใดๆ ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นจึงไม่มีใครฆ่าใคร ไม่มีใครถูกฆ่า ไม่มีใครแสดงอะไรแก่ใคร ไม่มีใครสอน ไม่มีใครเรียน แม้ดาบจะผ่านร่างกายของสัตว์ไปก็ไม่จัดเป็นการทำบาป ไม่จัดเป็นการทำลายสัตว์เป็นเพียงดาบได้ผ่านกลุ่มธาตุที่ปรากฏเป็นร่างกาย เท่านั้น ร่างกายนั้นเป็นกลุ่มของปรมาณูไม่มีสิ่งอื่นใดทุกอย่างสิ้นสุดลงพร้อมกับ การตายของสัตว์นั้นๆ
คำตอบของท่านปกุธกัจจายนะ (ย่อ)
”สภาวะ ๗ กอง คือ กองดิน กองน้ำ กองไฟ กองลม สุข ทุกข์ ชีวะ นี้ ไม่มีใครทำหรือเนรมิต มีอยู่ยั่งยืนไม่แปรปรวน ไม่มีผู้กระทำการใด ๆ ต่อกัน แม้การเอามีดตัดศีรษะกันก็ไม่มีผู้ใดฆ่าใคร เป็นแต่เอามีดผ่านช่องระหว่างสภาวะ ๗ กองนี้เท่านั้น”
สรุปคำสอนของลัทธิปกุธกัจจายนะ
เมื่อพิจารณาตามคำตอบของท่านปกุธกัจจายนะนี้ จะเห็นได้ว่าท่านเชื่อมั่นว่าชีวิตของสรรพสัตว์ ประกอบด้วยสภาวะ ๗ อย่าง คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม สุข ทุกข์ และชีวะ สภาวะเหล่านี้มีธรรมชาติเที่ยงแท้ เป็นอยู่นิรันดร มีอยู่เอง ไม่มีใครทำลายได้
ในองค์ประกอบทั้ง ๗ เหล่านี้ ธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ และชีวะเป็นองค์ประกอบทำให้ชีวิตมนุษย์เกิดขึ้นได้ ธาตุแต่ละอย่างมีธรรมชาติ เป็นอยู่นิรันดร เป็นอยู่ได้ด้วยตนเอง ไม่มีอะไรทำลายได้ ไม่มีอะไรทำให้เกิดขึ้น
ดังนั้น การฆ่าจะใช้ศาสตราวุธอย่างใด ไม่ถือว่าบาป
ลัทธิปกุธกัจจายนะ – พุทธปรัชญา
เทียบกับทิฏฐิ ๖๒
สัสสตทิฏฐิ (หมวดเห็นว่าเที่ยง) – เชื่อว่าสภาวะ ๗ กองเหล่านี้ เที่ยงแท้ มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่หวั่นไหว ไม่แปรปรวน
ขัดแย้งกับหลักไตรลักษณ์
อธิจจสมุปปันนิกทิฏฐิ (หมวดเห็นว่าสิ่งต่างๆ มีขึ้นเอง ไม่มีเหตุ) – เชื่อว่า สภาวะ ๗ กองเหล่านี้ ไม่หวั่นไหว ไม่แปรปรวน ไม่เบียดเบียนกัน ไม่อาจให้เกิดสุขหรือทุกข์หรือทั้งสุข และทุกข์แก่กันและกัน
ขัดแย้งกับหลักปฏิจสมุปบาท
อุจเฉททิฏฐิ (หมวดเห็นว่าขาดสูญ) – เชิ่อว่าผู้ฆ่าเองก็ดี หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่า ไม่มีในสภาวะ ๗ กองนั้น กล่าวคือไม่มีใครฆ่า ไม่มีใครตาย ตายแล้วจึงไม่มีอะไรเหลืออยู่อีก
ขัดแย้งกับสัมมาทิฏฐิ
เทียบกับนิยตมิจฉาทิฏฐิ ๓
นัตถิกทิฏฐิ - ไม่เชื่อทั้งเหตุและผลของการกระทำ ไม่เชื่อว่ามีบุญ มีบาป