วิธีสอบ TOEIC แล้วได้ 925 แบบไม่ต้องอ่านอะไรไปเลย... (แต่เตรียมตัวทั้งชีวิต)

สวัสดีครับ ช่วงนี้เห็นเพื่อนๆแชร์กันเยอะ เกี่ยวกับเรื่องวิธีเตรียมตัวสอบ TOEIC ซึ่งหลายๆกระทู้ก็สามารถแนะนำได้ดีทีเดียวครับ วันนี้ผมจะมาแชร์วิธีการทำข้อสอบ TOEIC ให้ได้ชิวๆ แบบไม่ต้องเตรียมตัวไป เพราะวันที่ผมไปสอบครั้งแรก ผมไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปเลย รู้แค่ว่าข้อสอบมี Listening กับ Reading อย่างละครึ่ง ตอนเรียนอาจารย์ไซโคว่าต้องรีบเตรียมตัวไว้ อย่างนู้นอย่างนี้ เลยกะว่าแค่ไปลองข้อสอบรอบแรกก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน ปรากฏว่าคะแนนออกมาดีกว่าที่คิดไว้มากเลยครับ -*-



อย่าเพิ่งเข้าใจผิดและหมั่นไส้ว่าผมเข้ามาอวด หรืออะไรนะครับ แต่ผมเห็นว่าการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบชาวไทยมันค่อนข้างจะไม่ได้ผลครับ ท่องกันไป จำกันไป มันไม่ได้อะไรครับ สุดท้ายไม่กล้าพูด และเขิน กลัวพูดผิด มันเลยไม่ไปไหนกันสักที  สำหรับกระทู้นี้ต้องบอกว่า วิธีของผมอาจจะต้องใช้เวลานาน ประมาณ 5 ปี เลยทีเดียว  หลายคนก็บอกอ่าว แล้วฉันไม่มีเวลา 5 ปีทำยังไงดี อันนี้อยากให้ลองเอาแนวๆไปดูละกันครับ เพราะว่าภาษาอังกฤษยังไงก็ต้องใช้ ที่มาโพสนี่อยากจะแชร์วิธีการของผม เผื่อใครจะเอาไปสอนลูกหลานนะครับ ยิ้ม


วิธีการของผมง่ายๆเลยครับ : เล่นเกม


อันนี้ได้ผลมากๆนะครับ ใครๆที่ลูกหลานติดเกมอยู่แล้ว (ผมงี้ติดงอมแงม) ให้เค้าเล่นเกมที่มีเนื้อเรื่องครับ ยุคของผมคือ Warcraft 3 ครับ ผมเล่นไม่ผ่าน เพราะไม่รู้ว่าเกมมันให้ทำอะไร ผมเลยเปิด Subtitle แล้วเอา Dictionary มาวางข้างๆคอมเลยครับ สงสัยคำไหน Pause แล้วเปิดดูเลย แรกๆ Tense ไม่ได้สนใจ เปิดศัพท์คำต่อคำ แล้วเอามาพยายาม Make sense ให้มันเข้ากันมากที่สุดก็พอ สุดท้ายมันก็ผ่านมาได้ครับ

อย่างเช่นตัวอย่างภาพในด้านบน ผมเจอศัพท์ยากสามคำ ผมเปิดทั้งสามคำเลย แล้วเอามาพยายามรวมกันให้ได้ มันก็แปลได้ประมาณว่า อะไรซักอย่าง เกี่ยวกับหอดูดาว และเราได้ขอร้อง ปนๆกัน แปลให้ Make sense ครับ เข้าใจผิดไม่เป็นไร ที่เราได้คือคำศัพท์ เพราะพอเราคำนี้เจออีกรอบ ถึงจะจำได้ไม่หมด แต่มันก็ติดอยู่ในหัวเราแล้วครับ จะนึกได้ลางๆ อันนั้นแสดงว่ามาถูกทางละครับ

ลองคิดดูว่าเล่นกว่าจะจบเกมจะได้คำศัพท์ใหม่กี่คำครับ? จะเห็นว่าเกมนี่มีประโยชน์มากๆเลยทีเดียวนะครับถ้าใช้ให้ถูกต้อง ทีนี้ทำให้เป็นนิสัยครับ เห็นคำไหนไม่รู้จัก เปิด Dict ทันทีครับอย่ารอ หรือว่างๆเปิด Dict เล่นครับ หาคำน่าสนใจหน่อย เอาง่ายๆคือเรียนคำใหม่ สักวันละสิบคำครับ ยังไงก็เก่งขึ้นแน่นอน

ขั้นตอนต่อมาคือ : มั่ว

พอเรามีคำศัพท์ที่เราจำได้สักจำนวนนึงแล้ว เราจะพบคำศัพท์ใกล้เคียงกับคำนั้นครับ พวกรากศัพท์เดียวกัน มาทั้งนั้นเช่น
Note - สังเกตุ
Notice - สังเกตุเห็น
Notify - ทำให้ notice
Notification - การ notify
(เครดิตจากเพื่อนคนนึงในเฟสบุค)


ดังนั้นครับพี่น้อง ถ้ามาใกล้ๆกัน สามารถเดาว่ามันประมาณนั้นได้เลย ซึ่งอาจจะผิด แต่ถ้าผิดแล้วเราเอาไปใช้แล้วมีคนทัก เราจะอายและจำไปตลอดชีวิต (ฮา) อย่างบางคำ

Separable - แยกกันได้
Inseparable - แยกกันไม่ได้


พอผมเจอ Genius (อัจฉริยะ) แล้วผมไปเจอ Ingenious แล้วเห็นว่ามันคล้ายๆกัน ผมก็ต้องมั่วเลยว่า (ไม่อัจฉริยะ) ซึ่งไม่ใช่ มันแปลว่าอัจฉริยะทั้งคู่ 55555 จำจนตาย

สำหรับในส่วนข้างบนนั่น ทำซ้ำๆให้เป็นนิสัยครับ ขึ้นอยู่กับความเร่งรีบในการอยากเก่ง ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็ค่อยๆสะสมไปครับ อย่า Overload หัวตัวเองมากครับ ทำไปแบบสบายใจดีกว่า แต่อย่าลืมครับ พยายามเรียนรู้คำใหม่ทุกวัน! แล้วคุณก็จะเห็นว่า จริงๆมันมีคำที่ใช้ในชีวิตประจำวันไม่กี่คำหรอก

สำหรับด้านการฟัง : ดูหนัง Soundtrack เท่านั้น!

ดูให้เป็นนิสัยเลยครับ คนกรุงเทพคงดูอยู่แล้ว แต่ถ้าอยู่ต่างจังหวัดนี่ พยายามหาหนัง Soundtrack ดูครับ (บางโรงไม่มีฉายนะ) นอกจากจะได้เสียงแบบออริจินอลแล้ว คุณจะได้ฟังด้วยไง ว่าเวลามนุษย์ฝรั่งเค้าคุยกัน เค้าพูดกันยังไง เพราะคำบางคำมันเป็น Slang คือเป็นคำเท่ๆซึ่งไม่มีในบทเรียนนะ แรกๆอ่าน Subtitle ไปเลยครับ ดูไปจนชินครับ แล้วพอถึงจุดนึงใหัหักดิบครับ ปิด Subtitle แล้วดูครับ ทีนี้อย่าไปกลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่องครับ ถ้าปิดรอบแรกแล้วฟังออกครึ่งนึง ถือว่าประสบความสำเร็จ ให้ดูไปเรื่อยๆจนเข้าใจสัก 70% เนี่ย แสดงว่าคุณพร้อมแล้วสำหรับ Part Listening ครับ ดูหนังนี่จะได้เรื่องของการ Read between the line หรือจับใจความที่ซ่อนอยู่ของคำพูดได้ครับ ซึ่งส่วนนี้ เราจะโดนทดสอบใน part listening ของ TOEIC นี่แหละ ดังนั้นครับ ฝึกบ่อยๆนะ

EDIT: ที่บอกว่าเปิด Subtitle ให้เปิดภาษาไทยก่อนครับในช่วงแรก พอช่วงหลังๆเริ่มปีกกล้าขาแข็งก็เปลี่ยนเป็น ENG เลยครับ แล้วหลังจากนั้นก็ปิดมันไปซะ!

ตามที่ผมคิดนะครับ ภาษาอังกฤษ ถ้าได้ศัพท์ มันก็เหมือนได้ไป 70% แล้วครับ คือสื่อสารได้แน่นอน ส่วนเรื่อง Grammar, Error ผมไม่เคยเรียนเลยครับ ผมฟังบ่อยๆจนกระทั่งรู้ว่า ประโยคไหนฟังแล้วดูแปลกๆ ผิดปกติ มันไม่น่าใช่แบบนี้ ก็จะบอกได้ว่าผิด แต่ถ้าจะให้บอกว่าผิดอะไร Tense ไหน อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ (ผมมั่นใจว่าฝรั่งก็ไม่แคร์ เวลาคุยกับคุณ)

จะเห็นได้ว่าวิธีผมมันง่ายๆจริงๆนะ แต่มันใช้เวลาหน่อย ถ้าคิดว่าเป็นชีวิตประจำวัน มันก็จะไม่เหนื่อยอะไรมากมายนักนะครับ ทีนี้ผมแนะนำเรื่องตอนจะสอบ TOEIC หน่อย เพราะปัญหาใหญ่ของการสอบคือ จะทำไม่ทัน เพราะว่าคิดนานครับ โดยเฉพาะ Listening ที่มาให้ฟังรอบเดียว ฟังเสร็จแล้วต้องตอบเลย คิดมากไม่ได้ ดังนั้นต้องแม่นพอสมควรครับ และสติต้องนิ่งด้วย วงแล้ววงเลย อย่ากลับไปคิด เพราะตอนกลับไปคิด ไอ้ข้อใหม่มันพูดแล้วครับ

ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดีนะครับ ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะตอบได้ ผมยินดีตอบคำถามนะครับ ผมย้ำอีกทีครับ พยายามเรียนรู้ศัพท์ใหม่ทุกวัน แล้วคุณจะเก่งภาษาอังกฤษโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่