เที่ยวญี่ปุ่น(โอซาก้า)ด้วยตัวเองต้องเริ่มยังไงมาดูกัน

เกริ่นก่อนว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วจขกท.ได้มีโอกาสแบกเป้เที่ยวโอซาก้ามาค่ะ จองตั๋วล่วงหน้าประมาณ 10เดือนแต่เพิ่งจะมาจัดตารางเที่ยวหนึ่งอาทิตย์ก่อนไป

พอเริ่มต้นเท่านั้นก็เกิดอาการมึนตึ๊บกับตั๋วรถไฟที่ไม่รู้จะมีเยอะไปไหน ไหนจะสถานที่เที่ยวกับเส้นทางรถไฟอีก แน่นอนว่างานนี้เครียด+กังวลมาก เวลาก็ใกล้เข้ามาแล้ว แต่คืนสุดท้ายก่อนเดินทางกำหนดการเสร็จทันเวลาพอดี(รอดตัวไป)

กลับมาคราวนี้อยากจะแบ่งปันประสบการณ์เล็กๆน้อยๆให้อีกหลายๆท่านที่กำลังเผชิญชะตากรรมเดียวกันค่ะ
**กระทู้นี้ไม่เน้นความสวยงามของรูปนะคะ อยากรีวิวเป็นแนวทางคร่าวๆแค่นั้นค่ะ**

วางแผนเที่ยวเองเริ่มต้นยังไง..
1.เนื่องจากจขกท.ได้ตั๋วไป-กลับแน่นอนแล้ว***ตั๋วเครื่องบินราคาถูกจขกท.ติดตามเพจของ Ar-pae ในFBค่ะ*** ไปเมืองไหนก็จะแพลนไว้คร่าวๆว่ามีสถานที่เที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง กรณีนี้ขอยกตัวอย่างที่โอซาก้า เช่น universal, osaka castle, ชมวิวที่ umeda sky building เป็นต้น (จขกท.ไม่ได้ไป universalนะคะ)

2.พอได้สถานที่เที่ยวที่เราสนใจแล้วก็มากางแผนที่กัน ดูว่าอะไรอยู่ตรงไหนก็จัดลงตารางเป็นโซนๆไป วันนี้ไปไหนบ้าง จัดคร่าวๆไว้ก่อน

3.พอได้วัน+สถานที่คร่าวๆก็มาดูสายรถไฟ
แต่ๆๆๆมันเยอะมาก ลายตาสุดๆแนะนำว่าให้หาก่อนว่าที่ๆเราอยู่มีสถานีอะไรและปลายทางต้องลงสถานีอะไร แล้วค่อยไล่ดูในแผนที่ เช่น หอคอยTsutenkaku สถานีEbisucho ไปย่านshinsaibashi shopping street สถานีNamba ก็ลากตามแผนที่ไปเลยว่ามีสายไหนไปได้บ้าง จขกท.ใช้วิธีดูสีของรถไฟแต่ละสายค่ะ

ถามว่าทำไมไม่ใช้บริการของเวป hyperdia ดูเส้นทางรถไฟ ใช้ค่ะแต่พอไปถึงจริงๆดูรถไฟแต่ละเส้นทางตามสีในแผนที่ง่ายกว่าค่ะ


4.แล้วจะซื้อตั๋วรถไฟแบบไหนดีล่ะ นี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาของจขกท.เลยค่ะ งงมาก อันนี้บอกละเอียดไม่ได้จริงๆ สำหรับจขกท.ใช้หลักแบบนี้ค่ะ
4.1อยู่เมืองไหนกี่วัน
4.2เที่ยวไหนบ้าง
4.3ขึ้นลงรถไฟบ่อยแค่ไหน หรือเน้นเดิน
4.4สถานที่นี้บัตรไหนเข้าฟรี(เน้นครอบคลุมสถานที่ๆเราไปให้เยอะที่สุด)
4.4เลือกบัตรตามใจฉันเลยค่ะ

จขกท.เที่ยวโอซาก้าวันที่ 1-2 ใช้บัตร amazing pass แบบ2day (บัตรนี้เข้าที่ไหนฟรีก็ระดมพลไปให้หมด)
วันที่3 เกียวโต ใช้บัตร JR แบบ1วัน+bus ticket 1วัน
วันที่4 เก็บตกโอซาก้า ใช้บัตร enjoy eco card 1day pass

5.จัดที่เที่ยว+สถานีรถไฟลงตาราง
ตัวอย่าง


เสร็จแล้วค่ะการวางแผนเที่ยวคร่าวๆ ไปถึงจริงๆวันแรกก็จะงงนิดหน่อย แต่ถามทางที่นายสถานีได้ค่ะ เค้าเต็มใจช่วยคุณแน่ๆ

การจองโรงแรม
แนะนำจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4เดือนก่อนเดินทาง ทำไมล่ะ?
ตอบ เต็มค่ะ สั้นๆง่ายๆแต่เรื่องจริงค่ะ ก่อนหน้านี้ดูไว้สองสามที่ เลือกจองแบบยกเลิกไม่เสียค่าธรรมเนียม (จขกท.ใช้บริการของBooking.com) ลองจองไว้ก่อน กะว่าจะมาเลือกทีหลังปรากฏว่าเต็มค่ะ จองอีกที่นึงก็เต็ม เริ่มใจคอไม่ดีต้องรีบหาใหม่ สุดท้ายก็ได้ที่ hotel naniwa ย่าน shinsaibashi ห้องเป็นแบบเรียวกัง(ปูฟูกนอนพื้น)


และเนื่องจากจขกท.ไปช่วงฤดูหนาวซึ่งจะต้องเตรียมตัวพอสมควร อะไรบ้างที่ต้องเตรียมตัว เคยหาจากอากู๋เจอหลายๆเวป อยากรวบรวมไว้ในกระทู้เดียว ถ้าเป็นฤดูอื่นไม่น่าจะมีปัญหาเนอะ
1.เสื้อผ้าต้องขนาดไหน
ตอบค่ะ ไม่ต้องเยอะเวอร์ เยอะเวอร์คือยังไง
ลองจอนแบบหนา เสื้อฟรีซคอเต่า2ชั้น แขนยาวผ้าwool เสื้อขนเป็ดแบบหนา โค้ทตัวยาว ผ้าพันคอ ที่ปิดหู ถุงมือถุงเท้าแบบหนา ขนไปได้แต่ถ้าขากลับไม่อยากทิ้ง แนะนำตามนี้

1.1ลองจอนแบบหนาหรือบางก็ได้ตามชอบ หรือจะเป็น heattech ของ uniqlo ก็เอาอยู่
1.2เสื้อคอเต่า
1.3โค้ทกันลม หรือขนเป็ด
1.4ผ้าพันคอ สำคัญมากถ้าคออุ่นคือชนะ
1.5หมวกผ้าwool ไม่ใช่คนขี้หนาวไม่ใส่ก็ได้ค่ะ ถ้าไม่เจอฝนหรือหิมะก็พอรับได้
1.6ถุงมือ คือมือจะเย็นมากถุงมือไม่ค่อยช่วยอะไรแถมยังหยิบจับอะไรลำบากโดยเฉพาะเวลาจะถ่ายรูป จขกท.ต้องเอามือซุกกระเป๋าเสื้อตลอดเวลา
***ทริกเล็กๆน้อยๆ ถ้ามือเย็นมากๆแนะนำกดน้ำกระป๋องจากตู้ข้างทางแบบร้อน! มาถือไว้ในกระเป๋าเสื้อจะช่วยได้มาก***
1.7รองเท้าอะไรก็ได้ที่พื้นหนาๆ ขอเป็นรองเท้าคู่ใจนะคะอย่าซื้อใหม่เลย ทำไม?
ตอบค่ะ ถ้าทริปที่เดินเยอะๆจะเกิดอาการปวดเท้าและเมื่อยขาค่ะ ถ้ารองเท้าพื้นหนาจะลดการกระแทกทำให้เวลาเดินนานๆจะไม่ค่อยปวดเท้า

รองเท้าเพื่อนร่วมทริปค่ะ


จะบอกว่าเป็นคนขี้หนาววันแรกไปถึงก็จัดเต็มแต่รู้สึกหนักตัวมากเวลาใส่หลายๆชั้น วันที่สองเดินในเมืองใส่แค่นี้เอาจริงๆก็อุ่นแล้วนะ ขอแค่เสื้อผ้าเป็นวัตถุดิบที่ดีพอใส่บางๆเบาๆก็อุ่นแล้วค่ะ

แล้วต้องเอาไปหลายชุดไหม?
ตอบค่ะ จขกท.ไป4วันเอา heattechกับคอเต่าอย่างละ2ตัว ใส่สลับกันก็พอแล้วค่ะ อากาศเย็นเหงื่อไม่มีพอรับได้ เหลือน้ำหนักและพื้นที่กระเป๋าเอาไว้ใส่ของกลับค่ะ

ที่สำคัญคือสะดวกเวลาที่ต้องผ่านเครื่องสแกนเพราะต้องถอดเสื้อ เข็มขัด กระเป๋าสะพาย ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นก็จะไม่พะรุงพะรัง ถ้ามีกางเกงผ้าก็ใส่วันไปและกลับก็จะสะดวกมากค่ะ

2.อุปกรณ์ช่วยชีวิตทั่วไป
2.1pocket wifi หรือ simcard ไว้ใช้เน็ต ใช้เน็ตในที่นี้ไม่ใช่แชทหรือโพสรูปใน FBนะคะ google mapมีประโยชน์มากเวลาหลงทาง
2.2power bank
2.3ที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าแบบพกพา สำหรับคนที่ช็อปเพลินแล้วกลัวน้ำหนักเกิน
2.4ตัวแปลงปลั๊กไฟ ถ้าลืมหาซื้อได้ตาม family mart หรือ 7-11
2.5ปลั๊กพ่วง
2.6ถุงซิปแบบศูนย์ญากาศไว้ใส่เสื้อผ้าใช้แล้ว ลดพื้นที่กระเป๋ามีขายตามfamily เช่นกัน


เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ
1.ที่โอซาก้ามีห้องน้ำเยอะมาก และห้องน้ำทุกที่มีกระดาษชำระ (ชอบจัง)
2.ถ้าจะไปซื้อรองเท้า(nike) ที่umeda ลดเยอะที่สุด แบบเยอะกว่าที่shop
3.สินค้า muji ถูกเหลือเชื่อ แต่ละที่ลดราคาไม่เท่ากัน
4.ปลาหมึกอบแห้งใน family mart อร่อยมาก
5.ซื้อขนมตามมินิมาร์ทั่วไปถูกกว่าในห้างนะ
6.สตรอเบอรี่ที่นาราอร่อยที่สุด
7.เวลาที่อากาศเย็นมากๆลองชิมถั่วแดงกระป๋องตามตู้ข้างทาง อร่อยและทำให้ร่างกายอุ่นขึ้น(นิดนึง)
8.ถ้าบังเอิญเจองานเทศกาลที่วัดหรือศาลเจ้าลองไปเล่นเกมส์ตามซุ้มต่างๆดู อาจจะได้ของถูกและดีเหลือเชื่อ
9.ลองสั่งโกโก้ปั่นที่ stutenkaku tower
10.เสื้อผ้าฤดูหนาวที่นี่สวยและถูกกว่าที่ไทย
11.โฟมล้างหน้ายี่ห้อสีน้ำเงินหาดีๆ บางร้านราคาแค่ 46฿
12.ห้ามพลาดไก่ทอดตามข้างทาง
13.ถ้าเจอของถูกใจให้ซื้อเลยค่ะ จะรอดูที่อื่นอาจจะไม่มีแล้ว ถ้ามีราคาจะต่างกันไม่เท่าไหร่
14.ร้านอาหารที่ไม่มีคนรีวิวก็อร่อยใช้ได้นะ
15.รถไฟและรถเมล์ที่นี่ตรงเวลามาก
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่