สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวพันทิปทุกคน

วันนี้มารีวิวท่องเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน : โอซาก้า เกียวโต

เพิ่งจะเคยเขียนรีวิวเป็นครั้งแรกนะคะ ผิดพลสดตรงไหนขออภัยไว้ก่อนนะคะ จุ้บๆ

ทริปนี้เริ่มจากเคยคุยกับเพื่อนสนิทไว้ แกร๊! อยากไปญี่ปุ่นจังง ไปกันมั้ย แต่สรุปทุกครั้งที่คุยกันคือสุดท้ายไม่ได้ไป 55555
พอดีวันนั้นช่วงประมาณเดือนพ.ย.เปิดเฟสเจอเพจ Changtrixget ของพี่ช้าง(กดsee firstไว้พร้อมเสียตังค์)
เจอโปรของหางแดงช่วงเดือนมกราไปโอซาก้า ราคารวมที่พักอยู่ที่ ประมาณ 15000 บาท
ก็บับบบบ เฮ้ยแกร๊!!! ไปเห๊อะะะะะ ตรงกับช่วงกีฬามหาลัยพอดี เพื่อนก็โอเคละ ไปไหนไปกัน
ทีนี้ก็เริ่มคิดได้ว่า 2 คนเองหรอ น้อยไปมั้ยวะ? ไปชวนคนอื่นอีกดีมั้ย เราเลยตัดสินใจชวนหม่าม๊าไปด้วย
ส่วนเพื่อนก็ไปหาอีกคนมา ก็คือเพื่อนที่รร.เก่านั่นเอง สรุปคือทริปนี้ไปกันทั้งหมด 4 คนสวย อิอิ
ทริปนี้เราคือคนหลักทุกอย่างตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม วางแพลน ซื้อบัตร เอวรี่ติงไอดิดอิทบายมายเซลฟ์มากๆค่ะ
ด้วยความที่ทริปนี้มีม๊าซึ่งไม่เคยไปประเทศไหนไกลเกินมาเลเซีย สิงค์โปรมาก่อน
และเพื่อนอีกคนที่เพิ่งเคยขึ้นเครื่องบินและไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก
เราพยายามหาข้อมูลทั้งซื้อหนังสือ และอ่านกระทู้ต่างๆในพันทิป เพื่อไม่ให้หลง 5555555555
เพราะแต่ละคนรักสบายมาก เดินไกลไม่ไหว แต่ช้อปปิ้งเดินสัก 10 โลก็ได้ ไรงี้
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น ขอชี้แจงเป็นเรื่องๆไปนะคะ

ทริป 21-25 มกราคม ค่ะ ไปถึงเช้า 21 กลับเช้า 25 ก็เที่ยวประมาณ 4 วัน

เอาหละค่ะ พร้อมแล้ว เริ่มได้!!!!!!

ก่อนอื่นใด ค่าตั๋ว Airasia flight XJ 612 1.55am - 8.40am / XJ613 9.55am-14.55am รวมกระเป๋าคนละ 20 กก. ราคา 47360/4 ตกคนละ 11840 บาท(ไม่ได้จองที่นั่ง และเลือกจะจ่ายเพิ่มนิดนึงเพื่อให้ได้ไฟลท์ที่ถึงตอนเช้าจะได้เที่ยวต่อได้เลย

ส่วนเรื่องโรงแรม เราเปิด Agoda ดูไปเรื่อยๆ เปิดดูใน Maps เลยค่ะ เลือกที่ใกล้รถไฟใต้ดินและแหล่งช้อปปิ้ง จนไปเจอโรงแรมนึง เป็นโรงแรมใหม่ชื่อ โรงแรม HOTEL CODE SHINSAIBASHI อยู่ใกล้ทุกสรรพสิ่ง ราคา 23102/4 ตกคนละ 5775.5 บาท

เรื่องการเดินทางนั้น เราใช้พาสทั้งหมด 2 พาส คือ OAP สำหรับ 2 วันแรก และ KTP 3 วันที่เหลือ ราคา OAP 2 days 990 บาทต่อคน KTP 3 days 1560 บาทต่อคน ทุกพาสซื้อที่ H.I.S สาขา Future Park ค่ะ

ทริปนี้เรามีไป Universal Studios Japan ด้วยค่ะ ซื้อพาสที่ราคา 2290 บาท ต่อคน ซื้อที่ H.I.S เช่นเคย
ได้เป็นกระดาษปริ้นท์ QR CODE มาค่ะ พอดีไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ ขอโทษด้วย

ก่อนไปก็วางแพลนไว้ ทำเป็นตารางสรุปต้องเดินทางยังไง รถไฟสายไหน รถออกกี่โมง เข้าไปดูที่ hyperdia.com เลยค่ะ

ถึงแม้ว่าจะทำตารางเวลาไว้ชัดเจน แต่ก็นั่นแหละค่ะ ทางเรา ปรับเปลี่ยนเวลาเองเช่นเคย 5555555 เร็วบ้างช้าบ้าง
เอาสบายๆ ชอบเที่ยวแบบสบายๆไม่เอาลำบาก ไม่ต้องเร่งรีบอะไรมาก ไปเรื่อยๆ

เริ่มกันที่วันแรกเลยนะคะ นัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง 3 ทุ่มครึ่งค่ะ(3 ทุ่มครึ่งของวันที่ 20 นะคะ) รีบค่ะรีบ กลัวรถติดงี้ไรงี้
สรุปคือเร็วไป เคาท์เตอร์ยังไม่เปิดให้โหลดกระเป๋า 5555555 รอกันไป จนสักประมาณ 4ทุ่มครึ่งก็เช็คอินกระเป๋าเรียบร้อย ผ่านด่านมาเรื่อยๆแวะ shopping duty free นิดหน่อย เสร็จก็ไปนั่งรอที่เกท รอ boarding ตอน 00.55 เครื่องขึ้นตี 1.55 หลับกันไปยาวๆ 5ชม.นิดๆ

เสียดายมากไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะว่าได้ที่นั่งไม่ติดริมหน้าต่างเลย แต่ก็ดี เพราะลุกไปเข้าห้องน้ำสะดวก

ได้เวลา 8.55 am เครื่องบิน landing @ Kansai International Airport ต่อคิวเข้าแถวสแกนนิ้วมือผ่านตม.ไปรับกระเป๋า ผ่านศุลกากร
ทุกคนผ่านหมด เย้ะ!!!!!!!! เที่ยวได้แล้ววว

เนื่องจาก OAP นั่งรถไฟเข้าเมืองไม่ได้ เราจึงต้องซื้อตั๋วเพิ่ม Nankai Airport Express ราคาอยู่ที่ 920 yen ต่อคน Ticket Office อยู่ข้างหน้าอาคารผู้โดยสารเลยค่ะ เดินขึ้นไปชั้น 2 มีทางเดินเชื่อมไป ที่ซื้ออยู่ด้านซ้ายมือค่ะ ด้านขวาเป็นทางเข้าสถานี มีที่ดูดตั๋ว

ตอนไปรถไฟไม่มีที่นั่งเลยค่ะ คนเยอะมาก ยืนกันไป 40กว่านาที ถึงสถานีปลายทาง Namba
ต่อด้วย Subway Midosuji Line ไป Shinsaibashi อีก 1 สถานี
ถึงสถานี Shinsaibashi ออก Exit 4-B จะเจอห้าง Daimaru เดินอีกนิดหน่อย ประมาณ 5 นาทีก็ถึงโรงแรมแล้วค่ะ

ถึงโรงแรมแล้วเราก็ฝากกระเป๋าไว้ค่ะ เพราะเช็คอินได้ตอน บ่าย3โมง
ตอนนั้นก็เที่ยงละ เริ่มหิวละ จัดไปตามแพลน ร้านข้าวหน้าปลาดิบ Wakasaya Kaisendon

ขอรีวิวว่าค่อนข้างเลี่ยน ตอนแรกที่พนักงานเอามาเสิร์ฟคือ ว้าวมาก!!! ตู้วหูววว น่าทานสุดๆ
แต่พอทานไปได้สัก 5-6คำ เลี่ยนจ้ะ ไม่ไหวแล้วจ้ะ ช่วยชั้นที~ 5555555
คือรสชาติมันก็เฉยๆนะคะ ไข่ปลาแซลมอนจะเค็มๆไปนิด
ราคาถ้าจำไม่ผิด 1690 เยนค่ะ ที่ไทยคงจะหาราคานี้ยากหน่อย (มั้งนะคะ ไม่ค่อยเซียนอาหารญี่ปุ่น)

*ปล.ขอเตือนทุกคนว่า แต่ละสถานที่ที่จะไปนั้น ให้ศึกษาเส้นทางหาทางออกจากสถานีรถไฟไว้เลยนะคะ เพราะว่าสัญญาณเน็ตตอนที่อยู่ในสถานีมันไม่ค่อยมี จะเดินตามgoogle maps ก็เปิดไม่ได้

ทานข้าวเสร็จแล้ว ไปต่อกันที่ Osaka Castle

ระหว่างทางหิวน้ำ ขอลองกดตู้ๆดูสักหน่อย

เดินข้ามถนนๆมาเรื่อยๆก็จะเจอทางเข้าปราสาทจะมีวิวสวยๆให้ถ่ายรูปเล็กน้อย

รูปนี้ม๊าถ่ายให้ วิวสวยแต่คนไม่ค่อยจะสวย ขออภัยในความไม่สะดวกนี้ด้วยนะคะ ไม่มีรูปวิวเดี่ยวๆเลย

เดินต่อไปอีกนิดนึงก็ถึงปราสาทแล้วค่ะ คนเยอะดี เยอะมาก เยอะสุดๆ อาจจะเป็นเพราะเป็นวันอาทิตย์พอดี(เกี่ยวมั้ย?)

ถ่ายรูปเสร็จเดินออกมาจะมีร้านขายอาหารอยู่ เคยอ่านรีวิวในนี้ มีคนบอกว่าไอติมที่นี่อร่อย เลยขอลองสักหน่อย จัดไป

ที่ชิมเป็นรส chocolate matcha ค่ะ ราคาไม่แน่ใจ คิดว่าประมาณ 450 เยน

ถ่ายรูปเสร็จ กินเสร็จ กลับค่ะ กลับโรงแรมไปเช็คอิน
ตอนแรกที่วางแพลนไว้ว่าจะไป Osaka Museum of History
แต่สุดท้ายไม่ได้ไปเพราะเหนื่อย เดินไม่ไหวแล้ว อยากกลับโรงแรมแล้วค่ะ ทางเราเน้นสบาย ตามใจฉันมากๆ

กลับมาถึงโรงแรม เก็บของ พักเท้าก่อนเล็กน้อย ปวดเมื่อยไปทั้งตัว เนื่องจากไฟลท์บิน5ชม.
และต้องลากและยกกระเป๋าขึ้นรถไฟ(จริงๆแล้วเค้ามีลิฟท์ให้ค่ะ แต่ทางเราไม่เห็นก็แบกกันหลังแทบหักไป)

พักเสร็จแล้วไปต่อค่ะ ทางเราหิวอีกเช่นเคย ออกมาจากโรงแรมเดินนิดเดียวก็ถึง Shinsaibashi Shopping Street แล้วค่ะ
เดินตรงมาเรื่อยๆข้ามสะพานกูลิโกะแล้วเลี้ยวซ้าย

เลี้ยวซ้ายมาทางร้านปูยักษ์ จะเจอร้านอาหารเยอะแยะตาแป๊ะมากมายหลายอย่างเลยค่ะ

เลือกเอาตามสะดวก เราเดินไปไกลพอสมควร
จนในที่สุดม๊าบอกว่า ขอหาอะไรร้อนๆทานหน่อย หันซ้ายหันขวา สักพัก เจอร้านบะหมี่มังกร จัดไปค่ะหญิงแม่

มีแต่รูปหน้าร้านค่ะ ไม่มีรูปบะหมี่ ซอรี่ค่ะทุกคน

จบจากบะหมี่มังกร ทางเรายังไม่หยุด ขอไปต่อที่ร้านของทอดเสียบไม้ ที่มีรูปปั้นคุณลุงยืนถือไม้ของทอดอยู่หน้าร้าน

รสชาติสำหรับเราแล้ว เราว่าธรรมดาไปค่ะ ก็อร่อยดี แต่ไม่ได้ว้าวอ่ะค่ะ ก็ถือว่าได้ลอง ราคาแรงพอสมควร

แค่ของทอดมันก็ยังไม่ค่อยจะสะใจใช่มั้ยคะ? ไปต่อสิคะ รออะไร 5555555 ทาโกะยากิค่ะ จัดไป

มีให้เลือกสั่งหลายไซส์ เริ่มต้นที่ไซส์ s 6 ลูก 650 เยน แต่ทางเราขอเพิ่มอีกนิดนึงเขยิบมาเป็นไซส์ m 8 ลูก 750 เยน

จริงๆแล้ววันที่1 เราควรจะต้องไป Umeda Sky แต่เนื่องจาก ทุกคนล้ามาก เลยขอเดินเล่นแถวโรงแรมไปแทนละกัน
วันนี้ขอตัด Umeda Sky ทิ้งไปค่ะ

จบวันที่ 1