ออกตัวก่อนนะครับว่า ผมเป็นผู้ที่ค้าขายกับราชการ โดยล่าสุดได้ทำการขายรถดับเพลิงให้กับหน่วยงานหนึ่งในอีสาน ถึงเวลาส่งมอบงานผมก็ได้ทำการส่งมอบงานล่าช้าก็ไม่เป็นไรเราก็ยอมรับสภาพโดนปรับโดยไม่ต่อรองอะไรเพราะช้าเอง
แต่ปัญหามาเกิดตอนที่นำรถมาส่งมอบโดนกรรมการตรวจรับ (ซึ่งไม่น่าจะมีความรู้ด้านนี้) ติโน่นตินี่และถามหาเอกสารซึ่งไม่มีในสัญญา ถามหาแม้กระทั่งใบสั่งอุปกรณ์ที่บริษัทผมสั่งมาใส่รถคันนี้ แถมยังถามหาแม้กระทั่งใบเบิกของจากสโตร์ของผม
ผมนี่มึนไปแป๊บนึง อยู่ในวงการมาหลายปีเพิ่งเคยเจอ แต่ก็ไม่เป็นไรอยากได้ก็ให้ได้ถือว่าอำนวยความสะดวกให้
ปรากฎว่าผลการตรวจรับครั้งนี้มีข้อแก้ไข ทางผมก็ได้ส่งทีมงานไปทำการแก้ไขให้เรียบร้อยหลังจากนั้น 5 วัน (เนื่องจากต้องรออะไหล่) 25 ธันวาคม 2557 หลังจากที่แก้ไขเสร็จเรียบร้อยก็ทดลองระบบก็ผ่านไปด้วยดี ก็ขออนุญาตนำรถไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อย
ก่อนที่ผมจะลากลับ ก็ได้สอบถามทุกคนเป็นอย่างดีว่า มีข้อสงสัยหรือมีอะไรให้แก้ไขอีกมั้ย ทุกคนส่ายหน้าและบอกว่าไม่มี ผมก็ลากลับ ปิดปีใหม่ไปเที่ยวสบายใจ กะว่าหลังปีใหม่จะไปเก็บเช็ค
พอเปิดปีใหม่มาก็เลยให้เลขาฯโทร.ไปถามว่า เช็คออกยัง ปรากฏได้รับคำตอบว่า กรรมการไม่ตรวจรับ เนื่องจากไปดูในคู่มือจดทะเบียนจากขนส่งแล้ว สรุปว่า ตัวถังบรรทุกน้ำของผมไม่ได้มาตรฐานตามสัญญา โดยวิธีการคิดของกรรมการคือ เอาน้ำหนักลงเพลาที่ระบุมาในเล่ม (โดยมาตรฐานของขนส่งเวลาชั่งน้ำหนักจะชั่งรวมทั้งคันพร้อมอุปกรณ์ประกอบ โดยไม่ได้แยกน้ำหนักถังบรรทุกน้ำ กับ อุปกรณ์ออกจากกัน ก็จะได้น้ำหนักลงเพลา
หลังจากนั้นก็มาทำการวัดเฉพาะตัวถังบรรทุกน้ำและมาคำนวนขนาดและไปเทียบกับแบบรถก็จะรู้ว่ารถคันนี้ผ่านมาตรฐานหรือไม่) แล้วมาหักลบกับน้ำหนักที่เหลือที่เพลาจะสามารถรับได้โดยมันขาดไป 200 ลิตร (ซึ่งตรงนี้วันที่นำรถไปชั่งมันมีน้ำค้างถังที่เหลือจากการทดสอบประมาณ 300 ลิตร ตอนเอารถมาตรวจกรรมการก็เห็น)
แล้วพวกพี่ก็เลยสรุปกันเลยว่า ตัวถังบรรทุกน้ำผมไม่ได้ขนาด ขั้นแรกผมก็ได้อธิบายทางโทรศัพท์ไปว่าจะใช้วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้ โดยต้องใช้สูตรคำนวนเฉพาะตัวถังถึงจะได้ขนาดที่แท้จริง ก็ไม่เข้าใจ แถมทำหนังสือแจ้งมาที่บริษัทโดยอ้างสูตรการคำนวนน้ำหนักน้ำในแล็ป (ว่าไปโน่น) ผมก็เลยเอาเป็นว่า เดี๋ยวเตรียมเอกสารชี้แจงและจะไปวัดและคำนวนให้ดู ขอให้ช่วยนัดกรรมการให้มากันครบๆ จะได้ฟังพร้อมกัน
พอถึงวัน (ุ6-1-58) ผมก็ไปเปิดห้องประชุมกันดิบดี อธิบายด้วยหลักการใช้สูตรคำนวน เอาแบบที่วิศวรับรองให้ดูปรากฏว่า พอผมอธิบายจบกรรมการมันพูดหน้าตาเฉยว่า จริงๆ แล้วผมไม่ได้สงสัยหรอกว่า ตัวถังบรรทุกน้ำของผมจะไม่ได้ขนาด (อ้าว แล้วหนังสือที่พวกท่านส่งมามันหมายความว่าไง)
ผมนี่อึ้งไปเลย ขับรถมา 300 กว่าโล แล้วกรรมการมันแถต่อไปว่าจริงๆแล้ว กลัวเวลา สตง. มาตรวจแล้วมาดูคู่มือจดทะเบียนแล้วจะมองว่า ตัวถังไม่ได้ขนาด แล้วจะมาเล่นงาน พวกพี่แกผมก็อธิบายไปว่า สตง.เค้าน่าจะมีหลักการคิดที่มาตรฐาน คงไม่เอาวิธีคิดแบบชาวบ้านมาใช้เป็นมาตรฐานหรอกมั๊ง (เริ่มขึ้น) และรถผมก็ผ่านการรับรองมาจากขนส่งถูกต้อง
ผมก็เลยถามว่าแล้วจะให้ผมทำยังไง พี่แกตอบว่าให้ผมไปคุยกะขนส่งได้มั๊ยว่าให้เปลี่ยนแปลงน้ำหนักลงเพลาให้ลดลง ผมนี่ตกใจกับวิธีคิดของแกเลย อยู่ดีๆ ก็เอาคุกมาให้ ผมก็เลยแนะนำไปว่าเอาอย่างนี้มั้ย ลองเอาน้ำในถังออกให้หมด หรือเอาน้ำใส่ให้เต็ม แล้วไปชั่งใหม่ เอาใบที่ชั่งใหม่แนบไว้เผื่อ สตง. มาดู เพราะการที่จะไปเปลี่ยนข้อมูลในขนส่งมันทำไม่ได้แล้ว ก็ไม่เอาอีก
ผลสรุปวันนั้นก็ไม่ได้อะไร แล้วก็ยังบอกว่า จะทำหนังสือไปหารือกับขนส่ง (หารือในเรื่องที่ขนส่งอนุมัติมาแล้วทำไม) ให้ผมรอ ผ่านมาจากวันที่ตรวจรับหลังจากแก้ไข 25-1-57 จนถึงวันนี้ก็ยังเงียบ
ผมก็เลยคิดว่าจะไม่รอ และเพราะดูแนวแล้วออกแนวเตะถ่วงและเจตนาไม่ดี ก็เลยอยากถามว่า ผมจะร้องเรียนกับหน่วยงานไหนที่เห็นผลเร็ว เพราะทุกวันนี้ผมก็เสียทั้งเวลา ค่าใช้จ่ายไปเยอะแยะแล้ว (เดี๋ยวจะต้องมีคนถามผมว่าขายงานราชการมาหลายปีไม่รู้หรือไงว่าต้องทำยังไง หรือมันต้องการอะไร ตอบเลยว่า ทราบดีครับ แต่เคจนี้มันเกินไปผมจึงอยากทำให้เป็นตัวอย่างบ้าง)
ส่งมอบงานครบถ้วนตามสัญญาแต่กรรมการไม่ยอมตรวจรับ
แต่ปัญหามาเกิดตอนที่นำรถมาส่งมอบโดนกรรมการตรวจรับ (ซึ่งไม่น่าจะมีความรู้ด้านนี้) ติโน่นตินี่และถามหาเอกสารซึ่งไม่มีในสัญญา ถามหาแม้กระทั่งใบสั่งอุปกรณ์ที่บริษัทผมสั่งมาใส่รถคันนี้ แถมยังถามหาแม้กระทั่งใบเบิกของจากสโตร์ของผม
ผมนี่มึนไปแป๊บนึง อยู่ในวงการมาหลายปีเพิ่งเคยเจอ แต่ก็ไม่เป็นไรอยากได้ก็ให้ได้ถือว่าอำนวยความสะดวกให้
ปรากฎว่าผลการตรวจรับครั้งนี้มีข้อแก้ไข ทางผมก็ได้ส่งทีมงานไปทำการแก้ไขให้เรียบร้อยหลังจากนั้น 5 วัน (เนื่องจากต้องรออะไหล่) 25 ธันวาคม 2557 หลังจากที่แก้ไขเสร็จเรียบร้อยก็ทดลองระบบก็ผ่านไปด้วยดี ก็ขออนุญาตนำรถไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อย
ก่อนที่ผมจะลากลับ ก็ได้สอบถามทุกคนเป็นอย่างดีว่า มีข้อสงสัยหรือมีอะไรให้แก้ไขอีกมั้ย ทุกคนส่ายหน้าและบอกว่าไม่มี ผมก็ลากลับ ปิดปีใหม่ไปเที่ยวสบายใจ กะว่าหลังปีใหม่จะไปเก็บเช็ค
พอเปิดปีใหม่มาก็เลยให้เลขาฯโทร.ไปถามว่า เช็คออกยัง ปรากฏได้รับคำตอบว่า กรรมการไม่ตรวจรับ เนื่องจากไปดูในคู่มือจดทะเบียนจากขนส่งแล้ว สรุปว่า ตัวถังบรรทุกน้ำของผมไม่ได้มาตรฐานตามสัญญา โดยวิธีการคิดของกรรมการคือ เอาน้ำหนักลงเพลาที่ระบุมาในเล่ม (โดยมาตรฐานของขนส่งเวลาชั่งน้ำหนักจะชั่งรวมทั้งคันพร้อมอุปกรณ์ประกอบ โดยไม่ได้แยกน้ำหนักถังบรรทุกน้ำ กับ อุปกรณ์ออกจากกัน ก็จะได้น้ำหนักลงเพลา
หลังจากนั้นก็มาทำการวัดเฉพาะตัวถังบรรทุกน้ำและมาคำนวนขนาดและไปเทียบกับแบบรถก็จะรู้ว่ารถคันนี้ผ่านมาตรฐานหรือไม่) แล้วมาหักลบกับน้ำหนักที่เหลือที่เพลาจะสามารถรับได้โดยมันขาดไป 200 ลิตร (ซึ่งตรงนี้วันที่นำรถไปชั่งมันมีน้ำค้างถังที่เหลือจากการทดสอบประมาณ 300 ลิตร ตอนเอารถมาตรวจกรรมการก็เห็น)
แล้วพวกพี่ก็เลยสรุปกันเลยว่า ตัวถังบรรทุกน้ำผมไม่ได้ขนาด ขั้นแรกผมก็ได้อธิบายทางโทรศัพท์ไปว่าจะใช้วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้ โดยต้องใช้สูตรคำนวนเฉพาะตัวถังถึงจะได้ขนาดที่แท้จริง ก็ไม่เข้าใจ แถมทำหนังสือแจ้งมาที่บริษัทโดยอ้างสูตรการคำนวนน้ำหนักน้ำในแล็ป (ว่าไปโน่น) ผมก็เลยเอาเป็นว่า เดี๋ยวเตรียมเอกสารชี้แจงและจะไปวัดและคำนวนให้ดู ขอให้ช่วยนัดกรรมการให้มากันครบๆ จะได้ฟังพร้อมกัน
พอถึงวัน (ุ6-1-58) ผมก็ไปเปิดห้องประชุมกันดิบดี อธิบายด้วยหลักการใช้สูตรคำนวน เอาแบบที่วิศวรับรองให้ดูปรากฏว่า พอผมอธิบายจบกรรมการมันพูดหน้าตาเฉยว่า จริงๆ แล้วผมไม่ได้สงสัยหรอกว่า ตัวถังบรรทุกน้ำของผมจะไม่ได้ขนาด (อ้าว แล้วหนังสือที่พวกท่านส่งมามันหมายความว่าไง)
ผมนี่อึ้งไปเลย ขับรถมา 300 กว่าโล แล้วกรรมการมันแถต่อไปว่าจริงๆแล้ว กลัวเวลา สตง. มาตรวจแล้วมาดูคู่มือจดทะเบียนแล้วจะมองว่า ตัวถังไม่ได้ขนาด แล้วจะมาเล่นงาน พวกพี่แกผมก็อธิบายไปว่า สตง.เค้าน่าจะมีหลักการคิดที่มาตรฐาน คงไม่เอาวิธีคิดแบบชาวบ้านมาใช้เป็นมาตรฐานหรอกมั๊ง (เริ่มขึ้น) และรถผมก็ผ่านการรับรองมาจากขนส่งถูกต้อง
ผมก็เลยถามว่าแล้วจะให้ผมทำยังไง พี่แกตอบว่าให้ผมไปคุยกะขนส่งได้มั๊ยว่าให้เปลี่ยนแปลงน้ำหนักลงเพลาให้ลดลง ผมนี่ตกใจกับวิธีคิดของแกเลย อยู่ดีๆ ก็เอาคุกมาให้ ผมก็เลยแนะนำไปว่าเอาอย่างนี้มั้ย ลองเอาน้ำในถังออกให้หมด หรือเอาน้ำใส่ให้เต็ม แล้วไปชั่งใหม่ เอาใบที่ชั่งใหม่แนบไว้เผื่อ สตง. มาดู เพราะการที่จะไปเปลี่ยนข้อมูลในขนส่งมันทำไม่ได้แล้ว ก็ไม่เอาอีก
ผลสรุปวันนั้นก็ไม่ได้อะไร แล้วก็ยังบอกว่า จะทำหนังสือไปหารือกับขนส่ง (หารือในเรื่องที่ขนส่งอนุมัติมาแล้วทำไม) ให้ผมรอ ผ่านมาจากวันที่ตรวจรับหลังจากแก้ไข 25-1-57 จนถึงวันนี้ก็ยังเงียบ
ผมก็เลยคิดว่าจะไม่รอ และเพราะดูแนวแล้วออกแนวเตะถ่วงและเจตนาไม่ดี ก็เลยอยากถามว่า ผมจะร้องเรียนกับหน่วยงานไหนที่เห็นผลเร็ว เพราะทุกวันนี้ผมก็เสียทั้งเวลา ค่าใช้จ่ายไปเยอะแยะแล้ว (เดี๋ยวจะต้องมีคนถามผมว่าขายงานราชการมาหลายปีไม่รู้หรือไงว่าต้องทำยังไง หรือมันต้องการอะไร ตอบเลยว่า ทราบดีครับ แต่เคจนี้มันเกินไปผมจึงอยากทำให้เป็นตัวอย่างบ้าง)