ไก่อู ยืนยันตั้งอาชีวะ โดนอาญาไม่ใช่คดีการเมือง พ้อหากคนหนีคดีนิวซีแลนด์มาไทยบ้างจะทำยังไง
เมื่อวันที่ 17 มกราคม พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยถึงการที่นายตั้ง อาชีวะ หรือนายเอกภพ เหลือรา ได้รับการช่วยเหลือจาก สำนักงาน
ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ช่วยให้สถานะผู้ลี้ภัยไปประเทศนิวซีแลนด์
จนขณะนี้ได้เป็นพลเมืองนิวซีแลนด์แล้ว ว่า ไม่ทราบว่าทางกระทรวงการต่างประเทศติดตาม
ความคืบหน้าเรื่องนี้อย่างไร แต่รู้สึกว่าทั้งเราและทางรัฐบาลนิวซีแลนด์ต่างคนต่างโตๆ กันแล้ว
เล่าแบบนี้ให้ฟังแล้วเขาก็ควรต้องรู้ว่าอย่างไร แต่อย่างน้อยผลที่ตามมาก็คือทำให้เขารู้ว่าคนที่
หนีคดีไปบ้านเขามันไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีอาญาแล้วหนีไป ไม่ต้องไปพูดว่าหมิ่น
พระบรมเดชานุภาพ เพราะบางประเทศที่ปกครองคนละระบบกับเราเขาอาจไม่เข้าใจ แต่เราต้อง
บอกว่าคนที่หนีไปนั้นทำร้ายหัวใจคนไทยอย่างไร และถ้าวันหนึ่งมีใครสักคนของเขาทำร้ายคน
ของเขาแล้วหนีมาอยู่ในประเทศเรา แล้วเราเพิกเฉย เขาจะเป็นรู้สึกอย่างไร
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1421477170
สนช.ซัด"ยิ่งลักษณ์"ไม่ให้เกียรติ! เหน็บ ไม่มาเพราะข้อสอบไม่รั่ว เลยทำโพยไม่ได้
"กิตติศักดิ์" แจงเหตุกมธ.ซักถาม ปิดปากตัวแทน "ยิ่งลักษณ์" จวก "ปู"ไม่กล้ามาเอง
เพราะข้อสอบไม่รั่ว
เมื่อวันที่ 17 มกราคม นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)
ในฐานะคณะกรรมาธิการซักถามคดีถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
กล่าวถึงกรณีการตัดสิทธิไม่ให้ทีมผู้แทนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอบข้อซักถามแทน
ในกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว ว่า ที่ผ่านมานายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.
ให้หลักการบอกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไปแล้วว่า หากใครเป็นผู้มาแถลงเปิดคดี ก็ควรมาตอบ
ข้อซักถามด้วยตัวเอง เป็นหลักการที่ทั้งสองฝ่ายทราบดีอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในการยื่น
ญัตติคำถามของผู้ยื่นคำถามทั้ง 13 ราย ยืนยันว่า ต้องการให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้ตอบ
คำถามเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ประสงค์ให้ผู้อื่นเป็นผู้ตอบคำถามแทน ดังนั้นคณะ
กรรมาธิการซักถามจึงไม่สามารถให้ผู้อื่นมาตอบคำถามแทนได้ ถือว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ให้
เกียรติสมาชิกที่ตั้งคำถาม เพราะคำถามทั้งหมดเกี่ยวข้องกับน.ส.ยิ่งลักษณ์โดยตรง ไม่
สามารถให้คนอื่นมาตอบได้
"ทีมทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ข้อบังคับการประชุมสนช. ข้อ 154 เปิดช่องให้
ผู้เกี่ยวข้องสามารถมาตอบคำถามแทนได้นั้น เป็นกรณีที่หมายถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องเดิน
ทางมาตอบคำถามเอง แต่หากมีคำถามข้อใดที่เป็นรายละเอียดในทางปฏิบัติ ก็อาจจะ
พิจารณาให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยตอบคำถามแทนได้ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องมาชี้แจงร่วมด้วย
มองว่าสาเหตุที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ยอมเดินทางมาตอบคำถามด้วยตัวเอง เพราะข้อสอบไม่รั่ว
เลยไม่สามารถเขียนโพยมาอ่านคำตอบได้ ยืนยันว่า สนช.ให้ความเป็นธรรมน.ส.ยิ่งลักษณ์
อย่างถึงที่สุดแล้ว ถึงขนาดเปิดโอกาสว่า จะรอน.ส.ยิ่งลักษณ์มาตอบคำถามจนถึงเวลา
18.00 น. วันที่ 16 มกราคม แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไม่มา เรื่องคอขาดบาดตายที่มีความสำคัญ
กับตัวเองขนาดนี้ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ยังไม่สนใจ ก็ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณตัดสินเอง
ว่าเป็นอย่างไร" นายกิตติศักดิ์ กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1421490999
อนาคต ริบหรี่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร "ความเมตตา"
หากดูจากท่าทีและท่วงทำนองของ นายสมชาย แสวงการ ประสานเข้ากับอากัปกิริยา
ของ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์
มั่นใจ
มิได้มั่นใจอย่างธรรมดา หากเป็นความมั่นใจอย่างยิ่ง มั่นใจอย่างถึงที่สุดและมั่นใจอย่างสิ้นเชิง
"ถอดถอน" ได้แน่
ไม่ว่าจะเป็นกรณี นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนันท์ ไม่ว่าจะเป็นกรณี
นายนิคม ไวยรัชพานิช
ไม่ว่าจะเป็นกรณี
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ไม่รอด
ขณะที่ซีกทางด้านอดีต
"กลุ่ม 40 ส.ว." มากด้วยความมั่นใจ ซีกทางด้าน สนช.
"สายทหาร"
กลับกบดานอยู่ในที่ตั้ง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ให้เป็นที่ปรากฏ
เรียกตามสำนวนอีสานก็
"มิดอิมซิม"
การยึดครอง "พื้นที่" เป็นของฝ่ายที่เรียกร้องต้องการให้ "ถอดถอน" ส่งเสียงดังไม่ว่าบน
อกระดาษ ไม่ว่าบนสื่อกระจก
กลายเป็น "กระแส" ครอบงำ "สังคม"
ประเมินผ่านประสบการณ์และความจัดเจนของการเคลื่อนไหวในลักษณะ
"มวลชน"
ต้องยอมรับว่าฝ่ายของ
"กลุ่ม 40 ส.ว." ฝ่ายที่ต้องการถอดถอน
เก่งกว่า ชำนาญกว่า
ไม่เพียงแต่เก่งกว่าฝ่ายของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฝ่ายของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
นายของ นายนิคม ไวยรัชพานิช
หากเก่งกว่า สนช.
"สายทหาร" หลายขุม
ขณะเดียวกัน สนช.
"สายทหาร" เองก็มีความโน้มเอียงอยู่แล้ว เพราะโดย พื้นฐานก็เห็นชอบ
กับกระบวนการรัฐประหาร
ไม่ว่าเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
เป้าหมายเมื่อเดือนกันยายน 2549 อาจเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป้าหมายเมื่อ
เดือนพฤษภาคม 2557 อาจเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ก็ล้วนแต่
"ชินวัตร" เหมือนกัน
จึงไม่ยากที่
"กลุ่ม 40 ส.ว." จะขับเคลื่อน จึงไม่ยากที่จะโน้มน้าวให้เกิดความเอนเอียงมา
ยืนอยู่ในซีกเดียวกัน ความแข็งขันอันเคยแสดงผ่าน พล.อ.นพดล อินทปัญญา หรือแม้กระทั่ง
พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ก็เริ่มจางจากหายไป
จั่งซี่ต้อง
"ถอด" จังซี่ต้อง
"ถอน" สถานเดียว
หากมองอย่าง "ตัดตอน" เหมือนกับว่ารัฐประหารเดือนกันยายน 2549 กับ รัฐประหารเดือน
พฤษภาคม 2557 อยู่คนละส่วน
อาจจะจริงเมื่อดูที่ "นายกรัฐมนตรี"
เพราะนายกรัฐมนตรีในเดือนตุลาคม 2549 คือ
พล.อ.สุรยุทธ์ จุนนลาท์ เพราะนายกรัฐมนตรี
ในเดือนสิงหาคม 2557 คือ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่ถ้าดูรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็จะประจักษ์ในการเคลื่อนไหวหลังการเลือกตั้ง
เดือนธันวาคม 2550 ก็จะประจักษ์ในการปราบปรามเมื่อเดือนเมษายน 2552 และเมื่อ
เดือนเมษายน พฤษภาคม 2553
ใครกันเล่าที่มีบทบาท
เป็นบทบาทจากยุคของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ต่อเนื่องมายังยุคของ พล.อ. ประยุทธ์
จันทร์โอชา
แท้จริงแล้ว 2557 คือความต่อเนื่องของ 2549
ภารกิจยังเป็นเหมือนเดิม คือ ขจัดสิ่งที่เรียกว่า
"ระบอบทักษิณ"
เพียงแต่หลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 อาศัย คตส.อาศัยรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550
ขณะที่หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เป็น สนช. เป็นรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2558
"อนาคต" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึง "เสี่ยง"
เส้นทางของ นายสมศักดิ์ เกียรติ สุรนนท์ นายนิคม ไวยรัชพานิช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คืออะไร
1 คือ ความเมตตาปรานีจาก คสช.จากรัฐบาล ขณะเดียวกัน 1 คือ ความเมตตาปรานีของ
สนช.สายทหาร ตำรวจและข้าราชการ
คือ ความเป็นธรรมอันมาจาก "ความเมตตา"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1421485357
นงนุช สิงหเดชะ : เก็บ "ภาษีมรดก-ที่ดิน" ประจาน "นักเลือกตั้ง"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1419427204&grpid=&catid=50&subcatid=5000
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์: การเมืองที่ต้องการจิตสำนึก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418952973&grpid=&catid=50&subcatid=5000
นงนุช สิงหเดชะ: ค่านิยม 12 ประการ ต่อต้านกัน "เว่อร์" เกินไปหรือเปล่า
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418251656&grpid=&catid=50&subcatid=5000
"เครือมติชน" ..... เขาว่าเป็น "สื่อสีแดง" แล้ว เรียกว่า สื่อเลือกข้างด้วยไหม ..../sao..เหลือ..noi
เมื่อวันที่ 17 มกราคม พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยถึงการที่นายตั้ง อาชีวะ หรือนายเอกภพ เหลือรา ได้รับการช่วยเหลือจาก สำนักงาน
ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ช่วยให้สถานะผู้ลี้ภัยไปประเทศนิวซีแลนด์
จนขณะนี้ได้เป็นพลเมืองนิวซีแลนด์แล้ว ว่า ไม่ทราบว่าทางกระทรวงการต่างประเทศติดตาม
ความคืบหน้าเรื่องนี้อย่างไร แต่รู้สึกว่าทั้งเราและทางรัฐบาลนิวซีแลนด์ต่างคนต่างโตๆ กันแล้ว
เล่าแบบนี้ให้ฟังแล้วเขาก็ควรต้องรู้ว่าอย่างไร แต่อย่างน้อยผลที่ตามมาก็คือทำให้เขารู้ว่าคนที่
หนีคดีไปบ้านเขามันไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีอาญาแล้วหนีไป ไม่ต้องไปพูดว่าหมิ่น
พระบรมเดชานุภาพ เพราะบางประเทศที่ปกครองคนละระบบกับเราเขาอาจไม่เข้าใจ แต่เราต้อง
บอกว่าคนที่หนีไปนั้นทำร้ายหัวใจคนไทยอย่างไร และถ้าวันหนึ่งมีใครสักคนของเขาทำร้ายคน
ของเขาแล้วหนีมาอยู่ในประเทศเรา แล้วเราเพิกเฉย เขาจะเป็นรู้สึกอย่างไร
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1421477170
สนช.ซัด"ยิ่งลักษณ์"ไม่ให้เกียรติ! เหน็บ ไม่มาเพราะข้อสอบไม่รั่ว เลยทำโพยไม่ได้
"กิตติศักดิ์" แจงเหตุกมธ.ซักถาม ปิดปากตัวแทน "ยิ่งลักษณ์" จวก "ปู"ไม่กล้ามาเอง
เพราะข้อสอบไม่รั่ว
เมื่อวันที่ 17 มกราคม นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)
ในฐานะคณะกรรมาธิการซักถามคดีถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
กล่าวถึงกรณีการตัดสิทธิไม่ให้ทีมผู้แทนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอบข้อซักถามแทน
ในกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว ว่า ที่ผ่านมานายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.
ให้หลักการบอกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไปแล้วว่า หากใครเป็นผู้มาแถลงเปิดคดี ก็ควรมาตอบ
ข้อซักถามด้วยตัวเอง เป็นหลักการที่ทั้งสองฝ่ายทราบดีอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในการยื่น
ญัตติคำถามของผู้ยื่นคำถามทั้ง 13 ราย ยืนยันว่า ต้องการให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้ตอบ
คำถามเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ประสงค์ให้ผู้อื่นเป็นผู้ตอบคำถามแทน ดังนั้นคณะ
กรรมาธิการซักถามจึงไม่สามารถให้ผู้อื่นมาตอบคำถามแทนได้ ถือว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ให้
เกียรติสมาชิกที่ตั้งคำถาม เพราะคำถามทั้งหมดเกี่ยวข้องกับน.ส.ยิ่งลักษณ์โดยตรง ไม่
สามารถให้คนอื่นมาตอบได้
"ทีมทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ข้อบังคับการประชุมสนช. ข้อ 154 เปิดช่องให้
ผู้เกี่ยวข้องสามารถมาตอบคำถามแทนได้นั้น เป็นกรณีที่หมายถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องเดิน
ทางมาตอบคำถามเอง แต่หากมีคำถามข้อใดที่เป็นรายละเอียดในทางปฏิบัติ ก็อาจจะ
พิจารณาให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยตอบคำถามแทนได้ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องมาชี้แจงร่วมด้วย
มองว่าสาเหตุที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ยอมเดินทางมาตอบคำถามด้วยตัวเอง เพราะข้อสอบไม่รั่ว
เลยไม่สามารถเขียนโพยมาอ่านคำตอบได้ ยืนยันว่า สนช.ให้ความเป็นธรรมน.ส.ยิ่งลักษณ์
อย่างถึงที่สุดแล้ว ถึงขนาดเปิดโอกาสว่า จะรอน.ส.ยิ่งลักษณ์มาตอบคำถามจนถึงเวลา
18.00 น. วันที่ 16 มกราคม แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไม่มา เรื่องคอขาดบาดตายที่มีความสำคัญ
กับตัวเองขนาดนี้ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ยังไม่สนใจ ก็ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณตัดสินเอง
ว่าเป็นอย่างไร" นายกิตติศักดิ์ กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1421490999
อนาคต ริบหรี่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร "ความเมตตา"
หากดูจากท่าทีและท่วงทำนองของ นายสมชาย แสวงการ ประสานเข้ากับอากัปกิริยา
ของ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์
มั่นใจ
มิได้มั่นใจอย่างธรรมดา หากเป็นความมั่นใจอย่างยิ่ง มั่นใจอย่างถึงที่สุดและมั่นใจอย่างสิ้นเชิง
"ถอดถอน" ได้แน่
ไม่ว่าจะเป็นกรณี นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนันท์ ไม่ว่าจะเป็นกรณี นายนิคม ไวยรัชพานิช
ไม่ว่าจะเป็นกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ไม่รอด
ขณะที่ซีกทางด้านอดีต "กลุ่ม 40 ส.ว." มากด้วยความมั่นใจ ซีกทางด้าน สนช. "สายทหาร"
กลับกบดานอยู่ในที่ตั้ง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ให้เป็นที่ปรากฏ
เรียกตามสำนวนอีสานก็ "มิดอิมซิม"
การยึดครอง "พื้นที่" เป็นของฝ่ายที่เรียกร้องต้องการให้ "ถอดถอน" ส่งเสียงดังไม่ว่าบน
อกระดาษ ไม่ว่าบนสื่อกระจก
กลายเป็น "กระแส" ครอบงำ "สังคม"
ประเมินผ่านประสบการณ์และความจัดเจนของการเคลื่อนไหวในลักษณะ "มวลชน"
ต้องยอมรับว่าฝ่ายของ "กลุ่ม 40 ส.ว." ฝ่ายที่ต้องการถอดถอน
เก่งกว่า ชำนาญกว่า
ไม่เพียงแต่เก่งกว่าฝ่ายของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฝ่ายของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
นายของ นายนิคม ไวยรัชพานิช
หากเก่งกว่า สนช. "สายทหาร" หลายขุม
ขณะเดียวกัน สนช. "สายทหาร" เองก็มีความโน้มเอียงอยู่แล้ว เพราะโดย พื้นฐานก็เห็นชอบ
กับกระบวนการรัฐประหาร
ไม่ว่าเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
เป้าหมายเมื่อเดือนกันยายน 2549 อาจเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป้าหมายเมื่อ
เดือนพฤษภาคม 2557 อาจเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ก็ล้วนแต่ "ชินวัตร" เหมือนกัน
จึงไม่ยากที่ "กลุ่ม 40 ส.ว." จะขับเคลื่อน จึงไม่ยากที่จะโน้มน้าวให้เกิดความเอนเอียงมา
ยืนอยู่ในซีกเดียวกัน ความแข็งขันอันเคยแสดงผ่าน พล.อ.นพดล อินทปัญญา หรือแม้กระทั่ง
พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ก็เริ่มจางจากหายไป
จั่งซี่ต้อง "ถอด" จังซี่ต้อง "ถอน" สถานเดียว
หากมองอย่าง "ตัดตอน" เหมือนกับว่ารัฐประหารเดือนกันยายน 2549 กับ รัฐประหารเดือน
พฤษภาคม 2557 อยู่คนละส่วน
อาจจะจริงเมื่อดูที่ "นายกรัฐมนตรี"
เพราะนายกรัฐมนตรีในเดือนตุลาคม 2549 คือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุนนลาท์ เพราะนายกรัฐมนตรี
ในเดือนสิงหาคม 2557 คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่ถ้าดูรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็จะประจักษ์ในการเคลื่อนไหวหลังการเลือกตั้ง
เดือนธันวาคม 2550 ก็จะประจักษ์ในการปราบปรามเมื่อเดือนเมษายน 2552 และเมื่อ
เดือนเมษายน พฤษภาคม 2553
ใครกันเล่าที่มีบทบาท
เป็นบทบาทจากยุคของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ต่อเนื่องมายังยุคของ พล.อ. ประยุทธ์
จันทร์โอชา
แท้จริงแล้ว 2557 คือความต่อเนื่องของ 2549
ภารกิจยังเป็นเหมือนเดิม คือ ขจัดสิ่งที่เรียกว่า "ระบอบทักษิณ"
เพียงแต่หลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 อาศัย คตส.อาศัยรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550
ขณะที่หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เป็น สนช. เป็นรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2558
"อนาคต" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึง "เสี่ยง"
เส้นทางของ นายสมศักดิ์ เกียรติ สุรนนท์ นายนิคม ไวยรัชพานิช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คืออะไร
1 คือ ความเมตตาปรานีจาก คสช.จากรัฐบาล ขณะเดียวกัน 1 คือ ความเมตตาปรานีของ
สนช.สายทหาร ตำรวจและข้าราชการ
คือ ความเป็นธรรมอันมาจาก "ความเมตตา"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1421485357
นงนุช สิงหเดชะ : เก็บ "ภาษีมรดก-ที่ดิน" ประจาน "นักเลือกตั้ง"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1419427204&grpid=&catid=50&subcatid=5000
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์: การเมืองที่ต้องการจิตสำนึก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418952973&grpid=&catid=50&subcatid=5000
นงนุช สิงหเดชะ: ค่านิยม 12 ประการ ต่อต้านกัน "เว่อร์" เกินไปหรือเปล่า
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418251656&grpid=&catid=50&subcatid=5000