( ข้อจำกัดด้านข้อความ ข่าวที่เหลือ UP ผ่าน ช่องทางอื่นแทนครับรวมไว้เยอะ หรือค้นหาข่าวเก่าผ่าน GOOGLE โดยพิมม์ magawn19 นำหน้า หรือ magawn19.blogspot.com )
1.... (บทความ) จับตาไมโครซอฟท์กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง // NOKIA 215 เล่นแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติม ผ่านแค่ 2G เป้าหมายผู้เริ่มต้นใช้งาน
2.... เครือข่ายภาคประชาชน(ไม่พอใจกม.เศรษฐกิจดิจิตอล 10 ฉบับ) เอื้อทหาร!! โดยเฉพาะ แก้ไข พรบ.กสทช. ( เอาคลื่นเช่น FM ทีวี คืน)
3.... (เกาะติดประมูล4G) ICT.พรชัย ไม่ได้ขัดขวาง CAT ร่วมประมูลเพราะมีเงินสดเพียงพอ!! แต่ถ้าเป็น TOT น่าเป็นห่วง
___________________________________
(เพิ่มเติม)
1..... คาด CAT จับมือ SK telecom ประมูล4G และ CAT มีมติให้จัดตั้งธุรกิจร่วมค้าและการทำระบบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมออนไลน์อย่างครบวงจร หรือเพย์เมนต์ จะสามารถสร้างรายได้ 1 พันล้านบาทภายใน 5 ปี
2..... SLC.อารักษ์ ระบุ SLC ฟ้อง ศาลอาญาต่อ นายธนา ทุมมานนท์ และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ( ไม่เป็นความจริงกรณีปลดพนักงาน 600 คน )
3..... samart.ทวี ระบุ ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ และนำเอกสารไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทยกว่าแสนฉบับ มูลค่า 100 กว่าล้านบาท พบว่า ขณะนี้เอกสารถูกตรวจสอบ และจ่ายเงินมาเพียง 200 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าหลักแสนบาทเท่านั้น
4..... TOT ระบุ รายชื่อผู้สมัคร CEO TOT ทั้ง 3 คนว่า ประกอบด้วย นายศิริพงษ์ โลหะศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โพรเกรส ซอฟท์แวร์ จำกัด นายสมพงษ์ สาระโกเศศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วีจีเอ็ม กรุ๊ป และพลตรี สุรพล ตาปนานนท์
SLC.อารักษ์ ระบุ SLC ฟ้อง ศาลอาญาต่อ นายธนา ทุมมานนท์ และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ( ไม่เป็นความจริงกรณีปลดพนักงาน 600 คน )
ประเด็นหลัก
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีปัญหาเข้าไปถือหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG จนกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งในการครอบงำสื่อ ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ระบุว่า เป้าหมายของ SLC จะมีการเข้าไปปลดพนักงาน รวมถึงผู้บริหารในเครือเนชั่นนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ต้องการลงทุนจากสิ่งที่เนชั่นสร้างสมมา นั่นก็คือ ทรัพยากรบุคคลเหล่านั้นซึ่งถือว่ามีคุณภาพสูง โดยหากบริษัทฯ ปฏิบัติตามกระแสข่าวลือดังกล่าวถือว่าผิดหลักการบริหาร และไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น เพราะทาง SLC ได้ยืนยันแล้วว่า จะไม่มีการแทรกแซงใดๆ ในการถือหุ้น NMG ครั้งนี้เป็นการเข้าลงทุนระยะยาวเท่านั้น
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยว่า วันนี้และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ได้เข้ายื่นฟ้องกับศาลอาญาต่อ นายธนา ทุมมานนท์ และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่ง นายธนา ทุมมานนท์ ได้โพสต์เฟสบุ๊ก 3 ครั้ง โดยกล่าวหาว่าบริษัทฯเป็นกลุ่มทุนของตระกูลชินวัตร ซึ่งเข้ามาซื้อหุ้นของกลุ่มบริษัทเนชั่น โดยต้องการครอบงำสื่อ ซึ่งข้อความดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับบริษัทฯ และไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ซึ่งเป็นกรรมการและผู้บริหารของกลุ่มเนชั่นได้นำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ
ทั้งนี้บริษัทฯจะเข้ายื่นฟ้องในคดีแพ่งต่อบุคคลทั้ง 2 ในสัปดาห์หน้าต่อไป เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 800-1,000 ล้านบาท เนื่องจากกระทำของทั้ง 2 คนข้างต้น สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของ บริษัทฯ และทำให้ผู้ที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนสละสิทธิ์ ซึ่ง ณ ปัจจุบันประเมินมูลค่าได้กว่า 600 ล้านบาทแล้ว
http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000005848&Keyword=slc
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20150116/629059/SLCมั่นใจหานลท.ซื้อหุ้นPPได้ทันกำหนด.html
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20150116/629047/SLCฟ้องอาญายันไม่ได้เป็นนอมินีชินวัตร.html
_____________________________________________________
คาด CAT จับมือ SK telecom ประมูล4G และ CAT มีมติให้จัดตั้งธุรกิจร่วมค้าและการทำระบบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมออนไลน์อย่างครบวงจร หรือเพย์เมนต์ จะสามารถสร้างรายได้ 1 พันล้านบาทภายใน 5 ปี
ประเด็นหลัก
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กสท มีความพร้อมที่จะร่วมประมูล 4G ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยกำลังจะกลับไปคุยกับพันธมิตรเดิม คือ SK telecom ที่เคยเจรจาร่วมกันมาก่อนหน้านี้ถึงการร่วมทุนในการประมูล 4G ก่อนที่จะถูกคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งเลื่อนการประมูลออกไป ทั้งนี้ นอกจาก SK telecom แล้ว บริษัทยังได้หาพันธมิตรผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์) จากประเทศญี่ปุ่นอีกรายหนึ่งด้วย ซึ่งหากท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถหาพันธมิตรได้ กสท ก็ยังคงยืนยันเข้าร่วมประมูลด้วยเงินทุนของตนเอง
***ปั้นธุรกิจเพย์เมนต์ ตั้งเป้าพันล้านใน 5 ปี
ขณะที่ผลการประชุมบอร์ด กสท เมื่อวันที่ 12 ม.ค.58 ที่ผ่านมา มีมติให้จัดตั้งธุรกิจร่วมค้าและการทำระบบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมออนไลน์อย่างครบวงจร หรือเพย์เมนต์ โดยจะดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบกิจการจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับรูปแบบของธุรกิจ กสท จะหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญหลายด้านที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นด้านค้าปลีก การเงิน การขนส่ง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ และจะสามารถสร้างรายได้ 1 พันล้านบาทภายใน 5 ปี
“ที่เราสนใจทำธุรกิจนี้เพราะมองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีมูลค่าตลาดถึงหมื่นล้านบาท แม้ว่าในตลาดจะมีคู่แข่งอยู่หลายรายแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น ทรูมันนี่ หรือเพย์สบาย แล้วก็ตาม แต่ตลาดยังมีการเติบโตอีกมาก ยิ่งต่อไปนโยบาย Digital Economy เกิดจะยิ่งทำให้ตลาดเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการบริการภาครัฐ ซึ่งเราสามารถเข้าไปสนับสนุนโครงการภาครัฐได้ เช่น การชำระค่าน้ำ ค่าไฟ หรือบริการของรัฐแบบออนไลน์ได้สะดวกขึ้น โดยเรามั่นใจว่า จะสามารถแข่งขันได้ด้วยศักยภาพของเน็ตเวิร์กที่มีความเสถียร และระบบความปลอดภัยในการให้บริการ”
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000004455
_____________________________________________________
TOT ระบุ รายชื่อผู้สมัคร CEO TOT ทั้ง 3 คนว่า ประกอบด้วย นายศิริพงษ์ โลหะศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โพรเกรส ซอฟท์แวร์ จำกัด นายสมพงษ์ สาระโกเศศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วีจีเอ็ม กรุ๊ป และพลตรี สุรพล ตาปนานนท์
ประเด็นหลัก
เผยโผ 3 ผู้สมัครกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที มีทั้งภาคเอกชนและทหาร ไร้เงาคนทีโอที ด้านประธานสรรหาฯเตรียมเสนอชื่อพิจารณาคุณสมบัติวันจันทร์ที่ 19 ม.ค.นี้ก่อนจะเรียกมาแสดงวิสัยทัศน์ภายใน 1 เดือน ลั่น คนทำตำแหน่งนี้ต้องสามารถแก้ปัญหาทีโอทีให้ได้ พร้อมสนองนโยบายของรัฐบาล ขณะที่พนักงานทีโอทีเตรียมเฮ รอโบนัส หลังพบบริษัทอาจฟื้นจากขาดทุนกลายเป็นมีกำไรพันล้าน จากผลงานบอร์ดปัจจุบัน
นายพิพัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทีโอทีได้เปิดรับสมัครตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ระหว่างวันที่ 19 ธ.ค.57-12 ม.ค.58 ขณะนี้มีผู้สนใจสมัครในตำแหน่งดังกล่าวแล้วจำนวน 3 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นว่าผ่านเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ โดยคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ต้องสามารถเข้ามาแก้ปัญหาทีโอทีที่มีอยู่ปัจจุบันให้ได้ ที่สำคัญคือต้องสามารถทำงานตอบสนองความต้องการของรัฐบาลได้ มีวิสัยทัศน์ที่ต้องสามารถบริหารคน ที่มีอยู่กว่า 16,000 คน บริหารโครงการที่มีมูลค่าสูงให้ได้เพราะเงินทุกบาทเป็นเงินที่รัฐบาลลงทุน
ทั้งนี้คณะกรรมการสรรหาฯจะประชุมเพื่อพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครในวันจันทร์ที่ 19 ม.ค. นี้ จากนั้นภายใน 1 เดือนจะเรียกผู้เข้าสมัครมาแสดงวิสัยทัศน์ โดยคาดว่าหากผู้เข้าสมัครผ่านการคัดเลือก ทีโอที จะสามารถมีกรรมการผู้จัดการใหญ่ได้ภายในเดือนมิ.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม มีการรายงานจากทีโอทีถึงรายชื่อผู้สมัครทั้ง 3 คนว่า ประกอบด้วย นายศิริพงษ์ โลหะศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โพรเกรส ซอฟท์แวร์ จำกัด นายสมพงษ์ สาระโกเศศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วีจีเอ็ม กรุ๊ป และพลตรี สุรพล ตาปนานนท์
ทั้งนี้หลังจากที่คณะกรรมการชุดนี้เข้ามาทำงานจากเดิมที่ทีโอทีคาดว่าจะขาดทุนประมาณ 8,700 ล้านบาท ก็สามารถพลิกฟื้นกลับมาเป็นกำไรกว่าพันล้าน ทำให้สามารถปรับขึ้นเงินเดือนและพิจารณาโบนัสได้ในการประชุมบอร์ดวันที่ 20ม.ค. ที่จะถึงนี้ โดยนายพิพัฒน์ อธิบายว่า กำไรที่คาดว่าจะมีนั้นเป็นผลมาจาก 3 ปัจจัยได้แก่ ปัจจัยแรกการชะลอโครงการที่ไม่สำคัญออกไปก่อน เช่น การเช่ารถทีโอที ปัจจัยที่สองมาจากการลดต้นทุนของโครงการบางโครงการลง เช่น โครงการไฟเบอร์ออพติก ซึ่งแต่ก่อนเป็นโครงการที่มีต้นทุนแพงกว่าตลาดทั่วไป จึงต้องมาวิเคราะห์หาต้นทุนที่แท้จริง และปัจจัยสุดท้ายคือ การเร่งรัดตามหนี้จากบริษัทต่างๆที่แต่ก่อนอาจจะละเลยไปมาก
ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้างใหม่ต้องบอกว่าทีโอทีไม่ได้ปรับโครงสร้างใหม่แต่เป็นการปรับเปลี่ยนหน้าตักการทำงานมากกว่าเพื่อให้ทีโอทีมีการทำงานลักษณะองค์กรธุรกิจมากกว่าการเป็นราชการ ดังนั้นพนักงานที่กระทบจริงๆจากการเปลี่ยนหน้าตักการทำงานครั้งนี้มีน้อยมาก โดยอีกกว่า80% ซึ่งเป็นพนักงานระดับภูมิภาคก็ยังคงทำงานเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้ก็ยอมรับว่าพนักงานที่ต้องทำงานในตำแหน่งใหม่ที่ตนเองไม่คุ้นชินก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัว ศึกษางานใหม่ ขณะที่งานเก่าที่คั่งค้างก็ต้องทำต่อเนื่อง ที่สำคัญคือทีโอทีมีการวางรายละเอียดของงานแต่ละงานไว้อย่างชัดเจนไม่ใช่ไม่มีอย่างที่เป็นข่าวหรือเป็นไปตามที่พนักงานทีโอทีบางส่วนกังวลแต่อย่างใด
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000005280
_____________________________________________________
samart.ทวี ระบุ ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ และนำเอกสารไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทยกว่าแสนฉบับ มูลค่า 100 กว่าล้านบาท พบว่า ขณะนี้เอกสารถูกตรวจสอบ และจ่ายเงินมาเพียง 200 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าหลักแสนบาทเท่านั้น
ประเด็นหลัก
นายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด กล่าวระหว่างการประชุมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีผู้ประกอบการกล่องทีวีดิจิตอล จำนวน 56 ราย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถึงเรื่องปัญหาโครงการรับแลกคูปองทีวีดิจิตอล ว่า ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ และนำเอกสารไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทยกว่าแสนฉบับ มูลค่า 100 กว่าล้านบาท พบว่า ขณะนี้เอกสารถูกตรวจสอบ และจ่ายเงินมาเพียง 200 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าหลักแสนบาทเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องการให้ กสทช.หรือ สตง.ทบทวนการตรวจเอกสารให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
ขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายต่างเห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันว่า ขณะนี้ต้องแบกรับต้นทุนในการซื้อกล่อง หรือบางรายก็ไม่สามารถมีเงินหมุนเวียนไปซื้อกล่องได้ เพราะเงินที่ได้ล่าช้า และเป็นการทยอยให้ บางรายถึงขนาดได้รับโทรศัพท์จากโรงงานในประเทศจีนเพื่อเร่งรัดหนี้สิน ขณะที่บางรายไม่ได้รับเครดิตในการปล่อยสินค้ามาให้ก่อน เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีเงินมาจ่าย
http://m
สรุป!! โทรคมนาคมและการสือสาร (เพิ่มเติม) ประจำวัน 16/12/2557
1.... (บทความ) จับตาไมโครซอฟท์กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง // NOKIA 215 เล่นแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติม ผ่านแค่ 2G เป้าหมายผู้เริ่มต้นใช้งาน
2.... เครือข่ายภาคประชาชน(ไม่พอใจกม.เศรษฐกิจดิจิตอล 10 ฉบับ) เอื้อทหาร!! โดยเฉพาะ แก้ไข พรบ.กสทช. ( เอาคลื่นเช่น FM ทีวี คืน)
3.... (เกาะติดประมูล4G) ICT.พรชัย ไม่ได้ขัดขวาง CAT ร่วมประมูลเพราะมีเงินสดเพียงพอ!! แต่ถ้าเป็น TOT น่าเป็นห่วง
___________________________________
(เพิ่มเติม)
1..... คาด CAT จับมือ SK telecom ประมูล4G และ CAT มีมติให้จัดตั้งธุรกิจร่วมค้าและการทำระบบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมออนไลน์อย่างครบวงจร หรือเพย์เมนต์ จะสามารถสร้างรายได้ 1 พันล้านบาทภายใน 5 ปี
2..... SLC.อารักษ์ ระบุ SLC ฟ้อง ศาลอาญาต่อ นายธนา ทุมมานนท์ และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ( ไม่เป็นความจริงกรณีปลดพนักงาน 600 คน )
3..... samart.ทวี ระบุ ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ และนำเอกสารไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทยกว่าแสนฉบับ มูลค่า 100 กว่าล้านบาท พบว่า ขณะนี้เอกสารถูกตรวจสอบ และจ่ายเงินมาเพียง 200 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าหลักแสนบาทเท่านั้น
4..... TOT ระบุ รายชื่อผู้สมัคร CEO TOT ทั้ง 3 คนว่า ประกอบด้วย นายศิริพงษ์ โลหะศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โพรเกรส ซอฟท์แวร์ จำกัด นายสมพงษ์ สาระโกเศศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วีจีเอ็ม กรุ๊ป และพลตรี สุรพล ตาปนานนท์
SLC.อารักษ์ ระบุ SLC ฟ้อง ศาลอาญาต่อ นายธนา ทุมมานนท์ และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ( ไม่เป็นความจริงกรณีปลดพนักงาน 600 คน )
ประเด็นหลัก
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีปัญหาเข้าไปถือหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG จนกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งในการครอบงำสื่อ ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ระบุว่า เป้าหมายของ SLC จะมีการเข้าไปปลดพนักงาน รวมถึงผู้บริหารในเครือเนชั่นนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ต้องการลงทุนจากสิ่งที่เนชั่นสร้างสมมา นั่นก็คือ ทรัพยากรบุคคลเหล่านั้นซึ่งถือว่ามีคุณภาพสูง โดยหากบริษัทฯ ปฏิบัติตามกระแสข่าวลือดังกล่าวถือว่าผิดหลักการบริหาร และไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น เพราะทาง SLC ได้ยืนยันแล้วว่า จะไม่มีการแทรกแซงใดๆ ในการถือหุ้น NMG ครั้งนี้เป็นการเข้าลงทุนระยะยาวเท่านั้น
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยว่า วันนี้และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ได้เข้ายื่นฟ้องกับศาลอาญาต่อ นายธนา ทุมมานนท์ และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่ง นายธนา ทุมมานนท์ ได้โพสต์เฟสบุ๊ก 3 ครั้ง โดยกล่าวหาว่าบริษัทฯเป็นกลุ่มทุนของตระกูลชินวัตร ซึ่งเข้ามาซื้อหุ้นของกลุ่มบริษัทเนชั่น โดยต้องการครอบงำสื่อ ซึ่งข้อความดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับบริษัทฯ และไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ซึ่งเป็นกรรมการและผู้บริหารของกลุ่มเนชั่นได้นำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ
ทั้งนี้บริษัทฯจะเข้ายื่นฟ้องในคดีแพ่งต่อบุคคลทั้ง 2 ในสัปดาห์หน้าต่อไป เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 800-1,000 ล้านบาท เนื่องจากกระทำของทั้ง 2 คนข้างต้น สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของ บริษัทฯ และทำให้ผู้ที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนสละสิทธิ์ ซึ่ง ณ ปัจจุบันประเมินมูลค่าได้กว่า 600 ล้านบาทแล้ว
http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000005848&Keyword=slc
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20150116/629059/SLCมั่นใจหานลท.ซื้อหุ้นPPได้ทันกำหนด.html
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20150116/629047/SLCฟ้องอาญายันไม่ได้เป็นนอมินีชินวัตร.html
_____________________________________________________
คาด CAT จับมือ SK telecom ประมูล4G และ CAT มีมติให้จัดตั้งธุรกิจร่วมค้าและการทำระบบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมออนไลน์อย่างครบวงจร หรือเพย์เมนต์ จะสามารถสร้างรายได้ 1 พันล้านบาทภายใน 5 ปี
ประเด็นหลัก
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กสท มีความพร้อมที่จะร่วมประมูล 4G ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยกำลังจะกลับไปคุยกับพันธมิตรเดิม คือ SK telecom ที่เคยเจรจาร่วมกันมาก่อนหน้านี้ถึงการร่วมทุนในการประมูล 4G ก่อนที่จะถูกคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งเลื่อนการประมูลออกไป ทั้งนี้ นอกจาก SK telecom แล้ว บริษัทยังได้หาพันธมิตรผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์) จากประเทศญี่ปุ่นอีกรายหนึ่งด้วย ซึ่งหากท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถหาพันธมิตรได้ กสท ก็ยังคงยืนยันเข้าร่วมประมูลด้วยเงินทุนของตนเอง
***ปั้นธุรกิจเพย์เมนต์ ตั้งเป้าพันล้านใน 5 ปี
ขณะที่ผลการประชุมบอร์ด กสท เมื่อวันที่ 12 ม.ค.58 ที่ผ่านมา มีมติให้จัดตั้งธุรกิจร่วมค้าและการทำระบบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมออนไลน์อย่างครบวงจร หรือเพย์เมนต์ โดยจะดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบกิจการจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับรูปแบบของธุรกิจ กสท จะหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญหลายด้านที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นด้านค้าปลีก การเงิน การขนส่ง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ และจะสามารถสร้างรายได้ 1 พันล้านบาทภายใน 5 ปี
“ที่เราสนใจทำธุรกิจนี้เพราะมองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีมูลค่าตลาดถึงหมื่นล้านบาท แม้ว่าในตลาดจะมีคู่แข่งอยู่หลายรายแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น ทรูมันนี่ หรือเพย์สบาย แล้วก็ตาม แต่ตลาดยังมีการเติบโตอีกมาก ยิ่งต่อไปนโยบาย Digital Economy เกิดจะยิ่งทำให้ตลาดเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการบริการภาครัฐ ซึ่งเราสามารถเข้าไปสนับสนุนโครงการภาครัฐได้ เช่น การชำระค่าน้ำ ค่าไฟ หรือบริการของรัฐแบบออนไลน์ได้สะดวกขึ้น โดยเรามั่นใจว่า จะสามารถแข่งขันได้ด้วยศักยภาพของเน็ตเวิร์กที่มีความเสถียร และระบบความปลอดภัยในการให้บริการ”
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000004455
_____________________________________________________
TOT ระบุ รายชื่อผู้สมัคร CEO TOT ทั้ง 3 คนว่า ประกอบด้วย นายศิริพงษ์ โลหะศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โพรเกรส ซอฟท์แวร์ จำกัด นายสมพงษ์ สาระโกเศศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วีจีเอ็ม กรุ๊ป และพลตรี สุรพล ตาปนานนท์
ประเด็นหลัก
เผยโผ 3 ผู้สมัครกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที มีทั้งภาคเอกชนและทหาร ไร้เงาคนทีโอที ด้านประธานสรรหาฯเตรียมเสนอชื่อพิจารณาคุณสมบัติวันจันทร์ที่ 19 ม.ค.นี้ก่อนจะเรียกมาแสดงวิสัยทัศน์ภายใน 1 เดือน ลั่น คนทำตำแหน่งนี้ต้องสามารถแก้ปัญหาทีโอทีให้ได้ พร้อมสนองนโยบายของรัฐบาล ขณะที่พนักงานทีโอทีเตรียมเฮ รอโบนัส หลังพบบริษัทอาจฟื้นจากขาดทุนกลายเป็นมีกำไรพันล้าน จากผลงานบอร์ดปัจจุบัน
นายพิพัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทีโอทีได้เปิดรับสมัครตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ระหว่างวันที่ 19 ธ.ค.57-12 ม.ค.58 ขณะนี้มีผู้สนใจสมัครในตำแหน่งดังกล่าวแล้วจำนวน 3 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นว่าผ่านเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ โดยคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ต้องสามารถเข้ามาแก้ปัญหาทีโอทีที่มีอยู่ปัจจุบันให้ได้ ที่สำคัญคือต้องสามารถทำงานตอบสนองความต้องการของรัฐบาลได้ มีวิสัยทัศน์ที่ต้องสามารถบริหารคน ที่มีอยู่กว่า 16,000 คน บริหารโครงการที่มีมูลค่าสูงให้ได้เพราะเงินทุกบาทเป็นเงินที่รัฐบาลลงทุน
ทั้งนี้คณะกรรมการสรรหาฯจะประชุมเพื่อพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครในวันจันทร์ที่ 19 ม.ค. นี้ จากนั้นภายใน 1 เดือนจะเรียกผู้เข้าสมัครมาแสดงวิสัยทัศน์ โดยคาดว่าหากผู้เข้าสมัครผ่านการคัดเลือก ทีโอที จะสามารถมีกรรมการผู้จัดการใหญ่ได้ภายในเดือนมิ.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม มีการรายงานจากทีโอทีถึงรายชื่อผู้สมัครทั้ง 3 คนว่า ประกอบด้วย นายศิริพงษ์ โลหะศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โพรเกรส ซอฟท์แวร์ จำกัด นายสมพงษ์ สาระโกเศศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วีจีเอ็ม กรุ๊ป และพลตรี สุรพล ตาปนานนท์
ทั้งนี้หลังจากที่คณะกรรมการชุดนี้เข้ามาทำงานจากเดิมที่ทีโอทีคาดว่าจะขาดทุนประมาณ 8,700 ล้านบาท ก็สามารถพลิกฟื้นกลับมาเป็นกำไรกว่าพันล้าน ทำให้สามารถปรับขึ้นเงินเดือนและพิจารณาโบนัสได้ในการประชุมบอร์ดวันที่ 20ม.ค. ที่จะถึงนี้ โดยนายพิพัฒน์ อธิบายว่า กำไรที่คาดว่าจะมีนั้นเป็นผลมาจาก 3 ปัจจัยได้แก่ ปัจจัยแรกการชะลอโครงการที่ไม่สำคัญออกไปก่อน เช่น การเช่ารถทีโอที ปัจจัยที่สองมาจากการลดต้นทุนของโครงการบางโครงการลง เช่น โครงการไฟเบอร์ออพติก ซึ่งแต่ก่อนเป็นโครงการที่มีต้นทุนแพงกว่าตลาดทั่วไป จึงต้องมาวิเคราะห์หาต้นทุนที่แท้จริง และปัจจัยสุดท้ายคือ การเร่งรัดตามหนี้จากบริษัทต่างๆที่แต่ก่อนอาจจะละเลยไปมาก
ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้างใหม่ต้องบอกว่าทีโอทีไม่ได้ปรับโครงสร้างใหม่แต่เป็นการปรับเปลี่ยนหน้าตักการทำงานมากกว่าเพื่อให้ทีโอทีมีการทำงานลักษณะองค์กรธุรกิจมากกว่าการเป็นราชการ ดังนั้นพนักงานที่กระทบจริงๆจากการเปลี่ยนหน้าตักการทำงานครั้งนี้มีน้อยมาก โดยอีกกว่า80% ซึ่งเป็นพนักงานระดับภูมิภาคก็ยังคงทำงานเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้ก็ยอมรับว่าพนักงานที่ต้องทำงานในตำแหน่งใหม่ที่ตนเองไม่คุ้นชินก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัว ศึกษางานใหม่ ขณะที่งานเก่าที่คั่งค้างก็ต้องทำต่อเนื่อง ที่สำคัญคือทีโอทีมีการวางรายละเอียดของงานแต่ละงานไว้อย่างชัดเจนไม่ใช่ไม่มีอย่างที่เป็นข่าวหรือเป็นไปตามที่พนักงานทีโอทีบางส่วนกังวลแต่อย่างใด
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000005280
_____________________________________________________
samart.ทวี ระบุ ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ และนำเอกสารไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทยกว่าแสนฉบับ มูลค่า 100 กว่าล้านบาท พบว่า ขณะนี้เอกสารถูกตรวจสอบ และจ่ายเงินมาเพียง 200 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าหลักแสนบาทเท่านั้น
ประเด็นหลัก
นายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด กล่าวระหว่างการประชุมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีผู้ประกอบการกล่องทีวีดิจิตอล จำนวน 56 ราย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถึงเรื่องปัญหาโครงการรับแลกคูปองทีวีดิจิตอล ว่า ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ และนำเอกสารไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทยกว่าแสนฉบับ มูลค่า 100 กว่าล้านบาท พบว่า ขณะนี้เอกสารถูกตรวจสอบ และจ่ายเงินมาเพียง 200 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าหลักแสนบาทเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องการให้ กสทช.หรือ สตง.ทบทวนการตรวจเอกสารให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
ขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายต่างเห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันว่า ขณะนี้ต้องแบกรับต้นทุนในการซื้อกล่อง หรือบางรายก็ไม่สามารถมีเงินหมุนเวียนไปซื้อกล่องได้ เพราะเงินที่ได้ล่าช้า และเป็นการทยอยให้ บางรายถึงขนาดได้รับโทรศัพท์จากโรงงานในประเทศจีนเพื่อเร่งรัดหนี้สิน ขณะที่บางรายไม่ได้รับเครดิตในการปล่อยสินค้ามาให้ก่อน เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีเงินมาจ่าย
http://m