#ก่อนอื่นเลยถ้าเพื่อนอ่านไม่ต้องถามเลยค่ะ เราเอง 5555 น่าจะจำได้อยู่แล้ว คือเขินคนรู้จักง่า แต่ก็อ่านสนุกๆกันเนอะ : )

สวัสดีค่ะ เรามารีวิวเที่ยวแบบแบกเป้ครั้งแรกที่อินเดียค่ะ พอดีเพื่อนรีเควสมา ความจริงแล้วเราก็แอบถ่ายรูปมากะว่าจะรีวิวนี่แหละ หาเวลาว่างๆ ยาก วันนี้พอดีไฟดับ เลยนั่งพิมใส่ word ไว้ 55555 เริ่มเลยดีกว่า !!
เราเดินทางจากกรุงเทพฯ วันที่ 24 ธันวาคม 2557 เดินทางกันสี่คนค่ะ สามคนเป็นลูกพี่ลูกน้องเรา อีกคนเป็นรุ่นน้องที่ร.ร.ค่ะ เพิ่งมารู้จักน้องวันเดินทางค่ะ
วันแรก : 24 ธันวาคม 2557
เราตื่นตีสามครึ่ง เพราะนอนไม่หลับค่ะ ตื่นเต้น 55555 เดินทางแบบโนพาเร้นท์ครั้งแรกอะ ไม่ตื่นเต้นได้ไง ไฟลท์เช้าด้วยค่ะ เราก็ตื่นมาเตรียมตัว จัดของ เช็คว่าลืมอะไรบ้างไหม เพราะเป็นคนขี้ลืมมาก อีกอย่างพ่อบอกให้ตื่นไวๆด้วยค่ะ เดี๋ยวจะมารับตอนตีห้า เพราะเรานัดกับผู้ร่วมเดินทางไว้ตอน 6 โมงเช้า
พอประมาณตีห้ากว่าๆ พ่อก็มารับหน้าบ้านค่ะ เรามานั่งรอหน้าบ้านเลย ล็อกบ้านเรียบร้อย กลัวพ่อบ่นว่าช้า ปรากฏพ่อดันเข้าบ้านอีก เราก็นั่งรออีกสักพักก็สะพายกระเป๋าขึ้นรถ
เราเอากระเป๋าไปสองใบค่ะ ใบนึงสะพายหลังใบใหญ่มาก แม่บอกยกไม่ขึ้น 5555 อีกใบกระเป๋าลาก แล้วก็มีกระเป๋าผ้าพ่วงมาอีกใบ อ่อ ลืมอีกใบเป็นกระเป๋ากล้อง (สำคัญเลย อิอิ)
พอออกจากบ้านได้สักพัก เราก็มาถึงสุวรรณภูมิ เพราะบ้านใกล้ มาถึง 6 โมงพอดีเป๊ะ เรานึกในใจแบบตรงต่อเวลาจัง สรุปคือแบกกระเป๋ามา ถึงคนแรก รถเข็นก็มีค่ะ แต่ไม่ใช้คืออยากลองแบก ปรากฏคือหลังแทบหัก T^T หนักอะ มีเสื้อผ้านิดเดียวเอง แค่สิบกว่าชุดทำไมหนักแบบนี้ก็ไม่รู้ แต่ก็สู้แบกมาถึงจุดที่นัดกันไว้ค่ะ เราก็โทรหาเพื่อนๆ พวกนางยังไม่มีใครถึงเลย มาคนแรกค้า ฮี่ ก็นั่งรอไป สักพักก็มาถึงกัน
พอเจอกันก็เอากระเป๋าไปชั่งน้ำหนักกันค่ะ สายการบินที่เราไปให้น้ำหนัก 30 กิโลกรัมค่ะ ตอนแรกก่อนชั่งเรานึกในใจแบบ ถ้าเกินทำไงอะ แต่ก็เตรียมถุงมาแล้วค่ะคิดว่าถ้าเกินก็จะเอาออก เดี๋ยวค่อยไปซื้อที่นู้นเอา พอเอาไปชั่งจริงๆ ที่เครื่องชั่งแบบหยอดเหรียญได้น้ำหนัก 22 กิโลกรัม เราเอาอะไรไปเยอะแยะ หนักอยู่นะ แต่ไม่เกินเราไม่เอาออกค่ะ 5555
พอชั่งน้ำหนักเสร็จก็รอน้องคนเล็กค่ะ น้องยังไม่มา ระหว่างรอพวกเราสามคนก็พลั่นค่ะ สามสาวไปหาซื้อขนมกิน แล้วก็แลกเงินระหว่างที่รอน้อง เราแลกเงินไปหมดเลย ไม่ได้ฝากไว้ในธนาคารเลย เพราะพ่อให้เงินสดมา กลัวหายมาก แต่ก็ระวังสุดชีวิตค่ะ 5555 เราแลกเป็นดอลลาร์ไปค่ะ เอาไปแลกเป็นรูปีต่อที่อินเดีย พี่บอกว่าที่นี่ไม่มีรูปีแลกค่ะ
น้องคนเล็กมาถึงแล้ววววววววววววว เย้ !! : ) พอน้องมาถึงก็ชั่งน้ำหนัก แล้วเราก็เช็คอิน-โหลดกระเป๋าตอนนั้น 7 โมงกว่าๆแล้วค่ะ ยืนต่อแถวกันสักพักค่ะ คิวยาวเหมือนกัน พอถึงคิวเราก็เข้าไปกันทั้งสามสี่คนเลย พอเช็คอินเสร็จก็ถ่ายรูปรวมกันค่ะ
ความสนุกปนเหนื่อยจะเกิดขึ้น หลังจากนี้ค่ะ !! หลังจากเราสแกนสัมภาระกันเสร็จ ก็ตามหา GATE ค่ะ พี่สาวบอก GATE A เราก็เดินๆตามกันไป เดินชิวๆค่ะ เดินเรื่อยๆ 55555 พอไปถึง GATE A โล่งค่ะ โล่งมาก แบบพนักงานก็ไม่มี เรานี่แบบ เห้ย เอาแล้วไง มาผิดแน่ๆเลย ทำไมไม่มีคนเลยอะ ฮืออ TT พี่สาวก็เลยไปถามคนแถวๆนั้น เค้าบอกมาว่า น้องมาผิดแล้วค่ะ อยู่อีกทางนึง คราวนี้ก็วิ่งกันเลยค่ะ หน้าตั้ง พี่ก็แวะถามอีก เค้าก็บอกๆทาง แล้วก็บอกว่า เป็นกิโลเลยนะ ไกลมาก อย่างเดียวเลยค่ะ ต้องวิ่ง คือระหว่างวิ่งเราก็นึกในใจ แบบคืออ้วนอะแล้วไม่ได้เตรียมตัวมาวิ่งเลยจริงๆ เหนื่อยมาก เหลือบไปเห็นว่าไฟลท์เราลาสคอลแล้ว ในใจนึกอย่างเดียว อย่าตกเครื่องเลย ขี้เกียจตื่นเต้นเก้อ 55555 แล้วก็วิ่งหน้าตั้งจาก GATE A มาถึง GATE G ค่ะ มาจนถึงค่ะ เหนื่อยสุดๆเลย
เดี๋ยวกลับมาต่อค่ะ ผิดพลาดขออภัยด้วยค่ะ > , <
[CR] รีวิวเที่ยว Himachal Pradesh ที่อินเดียช่วง Winter แบกเป้ unplanned สุดๆ
เราเดินทางจากกรุงเทพฯ วันที่ 24 ธันวาคม 2557 เดินทางกันสี่คนค่ะ สามคนเป็นลูกพี่ลูกน้องเรา อีกคนเป็นรุ่นน้องที่ร.ร.ค่ะ เพิ่งมารู้จักน้องวันเดินทางค่ะ
วันแรก : 24 ธันวาคม 2557
เราตื่นตีสามครึ่ง เพราะนอนไม่หลับค่ะ ตื่นเต้น 55555 เดินทางแบบโนพาเร้นท์ครั้งแรกอะ ไม่ตื่นเต้นได้ไง ไฟลท์เช้าด้วยค่ะ เราก็ตื่นมาเตรียมตัว จัดของ เช็คว่าลืมอะไรบ้างไหม เพราะเป็นคนขี้ลืมมาก อีกอย่างพ่อบอกให้ตื่นไวๆด้วยค่ะ เดี๋ยวจะมารับตอนตีห้า เพราะเรานัดกับผู้ร่วมเดินทางไว้ตอน 6 โมงเช้า
พอประมาณตีห้ากว่าๆ พ่อก็มารับหน้าบ้านค่ะ เรามานั่งรอหน้าบ้านเลย ล็อกบ้านเรียบร้อย กลัวพ่อบ่นว่าช้า ปรากฏพ่อดันเข้าบ้านอีก เราก็นั่งรออีกสักพักก็สะพายกระเป๋าขึ้นรถ
เราเอากระเป๋าไปสองใบค่ะ ใบนึงสะพายหลังใบใหญ่มาก แม่บอกยกไม่ขึ้น 5555 อีกใบกระเป๋าลาก แล้วก็มีกระเป๋าผ้าพ่วงมาอีกใบ อ่อ ลืมอีกใบเป็นกระเป๋ากล้อง (สำคัญเลย อิอิ)
พอออกจากบ้านได้สักพัก เราก็มาถึงสุวรรณภูมิ เพราะบ้านใกล้ มาถึง 6 โมงพอดีเป๊ะ เรานึกในใจแบบตรงต่อเวลาจัง สรุปคือแบกกระเป๋ามา ถึงคนแรก รถเข็นก็มีค่ะ แต่ไม่ใช้คืออยากลองแบก ปรากฏคือหลังแทบหัก T^T หนักอะ มีเสื้อผ้านิดเดียวเอง แค่สิบกว่าชุดทำไมหนักแบบนี้ก็ไม่รู้ แต่ก็สู้แบกมาถึงจุดที่นัดกันไว้ค่ะ เราก็โทรหาเพื่อนๆ พวกนางยังไม่มีใครถึงเลย มาคนแรกค้า ฮี่ ก็นั่งรอไป สักพักก็มาถึงกัน
พอเจอกันก็เอากระเป๋าไปชั่งน้ำหนักกันค่ะ สายการบินที่เราไปให้น้ำหนัก 30 กิโลกรัมค่ะ ตอนแรกก่อนชั่งเรานึกในใจแบบ ถ้าเกินทำไงอะ แต่ก็เตรียมถุงมาแล้วค่ะคิดว่าถ้าเกินก็จะเอาออก เดี๋ยวค่อยไปซื้อที่นู้นเอา พอเอาไปชั่งจริงๆ ที่เครื่องชั่งแบบหยอดเหรียญได้น้ำหนัก 22 กิโลกรัม เราเอาอะไรไปเยอะแยะ หนักอยู่นะ แต่ไม่เกินเราไม่เอาออกค่ะ 5555
พอชั่งน้ำหนักเสร็จก็รอน้องคนเล็กค่ะ น้องยังไม่มา ระหว่างรอพวกเราสามคนก็พลั่นค่ะ สามสาวไปหาซื้อขนมกิน แล้วก็แลกเงินระหว่างที่รอน้อง เราแลกเงินไปหมดเลย ไม่ได้ฝากไว้ในธนาคารเลย เพราะพ่อให้เงินสดมา กลัวหายมาก แต่ก็ระวังสุดชีวิตค่ะ 5555 เราแลกเป็นดอลลาร์ไปค่ะ เอาไปแลกเป็นรูปีต่อที่อินเดีย พี่บอกว่าที่นี่ไม่มีรูปีแลกค่ะ
น้องคนเล็กมาถึงแล้ววววววววววววว เย้ !! : ) พอน้องมาถึงก็ชั่งน้ำหนัก แล้วเราก็เช็คอิน-โหลดกระเป๋าตอนนั้น 7 โมงกว่าๆแล้วค่ะ ยืนต่อแถวกันสักพักค่ะ คิวยาวเหมือนกัน พอถึงคิวเราก็เข้าไปกันทั้งสามสี่คนเลย พอเช็คอินเสร็จก็ถ่ายรูปรวมกันค่ะ
ความสนุกปนเหนื่อยจะเกิดขึ้น หลังจากนี้ค่ะ !! หลังจากเราสแกนสัมภาระกันเสร็จ ก็ตามหา GATE ค่ะ พี่สาวบอก GATE A เราก็เดินๆตามกันไป เดินชิวๆค่ะ เดินเรื่อยๆ 55555 พอไปถึง GATE A โล่งค่ะ โล่งมาก แบบพนักงานก็ไม่มี เรานี่แบบ เห้ย เอาแล้วไง มาผิดแน่ๆเลย ทำไมไม่มีคนเลยอะ ฮืออ TT พี่สาวก็เลยไปถามคนแถวๆนั้น เค้าบอกมาว่า น้องมาผิดแล้วค่ะ อยู่อีกทางนึง คราวนี้ก็วิ่งกันเลยค่ะ หน้าตั้ง พี่ก็แวะถามอีก เค้าก็บอกๆทาง แล้วก็บอกว่า เป็นกิโลเลยนะ ไกลมาก อย่างเดียวเลยค่ะ ต้องวิ่ง คือระหว่างวิ่งเราก็นึกในใจ แบบคืออ้วนอะแล้วไม่ได้เตรียมตัวมาวิ่งเลยจริงๆ เหนื่อยมาก เหลือบไปเห็นว่าไฟลท์เราลาสคอลแล้ว ในใจนึกอย่างเดียว อย่าตกเครื่องเลย ขี้เกียจตื่นเต้นเก้อ 55555 แล้วก็วิ่งหน้าตั้งจาก GATE A มาถึง GATE G ค่ะ มาจนถึงค่ะ เหนื่อยสุดๆเลย
เดี๋ยวกลับมาต่อค่ะ ผิดพลาดขออภัยด้วยค่ะ > , <
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น