ความคิดถึง จากลูก...ถึง...แม่

เราเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ เราสนิทกับแม่มาก มาก.....ถึงมากที่สุด เราและแม่ไม่เคยห่างกัน ไปไหนมาไหนตัวติดกนัตลอด อาจเป็นเพราะ แม่เราอายุยังน้อยด้วยค่ะ ตอนนี้เรา 19 แต่คุณแม่ 37 ค่ะ ....... จำได้ว่า เราและแม่มาสนิทกันมากก็ตอนที่เราเป็น "โรคซึมเศร้า" ในตอนเด็กๆค่ะ  โรคซึมเศร้าที่ว่านี้ เราผิดปกติจากเด็กคนอื่นค่ะ เช่น เด็กในวัยเดียวกันชอบเล่นขายหม้อข้าวหม้อแกง แต่เราชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว เพื่อนในวัยเดียวกันชอบวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่นทุกวัน แต่เราชอบนั่งเฉยๆ ไม่ชอบวิ่ง ไม่ชอบพูดกับใคร เวลาไปเดินห้าง แม่ถามว่า อยากได้กางเกงตัวนี้มั้ย เราก็ได้แต่ยืนเฉยๆแล้วร้องไห้ น้ำตาไหล... จนคุณแม่ตัดสินใจพาเราไปรักษาโดยการไปพบจิตแพทย์ ช่วงเวลานี้แหละค่ะ ที่ทำให้แม่และเราได้ใกล้ชิดกันและเข้าใจกันมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาแม่ทำแต่งาน จนได้คุยกับคุณหมอ แม่จึงเสียสละเวลามาให้เรามากขึ้น อ่อ ลืมบอกค่ะ เราเป็นลูกคนโต มีน้องสาวอีก 1 คนค่ะ จากวันนั้นที่เริ่มไปพบจิตแพทย์เราและแม่สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเพื่อนกันตั้งแต่เรายังเด็กๆนั้นแหละค่ะ เพราะเรามีความคิดที่ค่อนข้างโตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ก็มักจะคุยกับผู้ใหญ่ได้ดีกว่า .... จนเราโตขึ้นๆ มีเรื่องราวต่างๆมากมายเข้ามาในชีวิต ทั้งที่เลวร้ายสุดๆ และดีสุดๆ ทุกเหตุการณ์มีแม่เราอยู่ในนั้นทั้งหมดค่ะ ในเหตุการณ์ร้ายๆ แม่ให้อภัยอย่างที่คนอื่นให้ไม่ได้ อีกทั้งในเหตุการณ์ดีๆแม่คือคนที่นำทาง นำพาสิ่งดีๆมาให้กับตัวเรา เสมอๆ แล้ววันหนึ่งที่ "พ่อ" ผู้เป็นผู้ชายคนเดียวในบ้านเดินจากแม่ไป จากแม่ที่เคยเข้มแข็งที่สุดในสายตาลูกๆ กลับกลายเป็นแม่ที่อ่อนแอที่สุดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
       ตอนนั้นเราอยู่ ม.3 ค่ะ ภาพที่ยังติดตามาถึงทุกวันนี้ หลังจากที่แม่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์กับพ่อ (หลังจากแยกทางกันแล้ว) ที่อีกห้องหนึ่ง เราเป็นเด็กจิตตกอยู่แล้วค่ะ เลยสงสัยว่าทำไมแม่หายไปนาน หลังจากเราตัดสินใจเปิดประตูห้อง เพื่อไปตามแม่ ภาพที่เห็น ...แม่นอนอาเจียน ไม่มีแรงหายใจอยู่หน้าห้องน้ำ ร้องไห้ฟูมฟาย (คล้ายๆกับพยายามจะไปอาเจียนในห้องน้ำ แต่ไม่มีแรง) เราตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ร้องไห้โฮ รีบเข้าไปกอดแม่ เรียกแม่ "คุณแม่ๆๆๆๆ เป็นอะไร คุณพ่อว่ายังไงบ้าง " แม่เราได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น จนสุดท้าย เราพาแม่ไปโรงพยาบาล กลางดึกคืนนั้นค่ะ
        เหตุการณ์ในวันนั้นมันทำให้เรากับแม่สนิทกันมากขึ้นไปอีก เพาะเรื่องเลวร้ายมาถึงนี้แล้ว แม่เราจึงตัดสินใจบอกเราเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะ แม่เราไม่มีใครค่ะ อีกอย่างเราค่อนข้างจะเข้าใจอะไรหลายๆอย่างได้ดี เพราะ การไปพบจิตแพทย์นั้นแหละค่ะ.... เหตุการณ์เลวร้ายต่างๆยังไม่จจบเพียงเท่านั้นค่ะ แต่เราขอข้ามไปนะคะ
        แต่ฟ้าหลังฝน ย่อมสดใสเสมอ ใช่ไหมคะ ... เราตัดสินใจ บอกคุณแม่ว่า คุณแม่ ลูกคิดว่าคุณแม่คงต้องมีเพื่อนคู่คิดและเพื่อนคู่ชีวิตไว้นะ คุณแม่จะอยู่คนเดียวอย่างนี้ ไม่ได้ เพราะ ลูกยินดีรับฟังคุณแม่ทุกเรื่องก็จริง แต่ลูกไม่สามารถช่วยคุณแม่แก้ไขได้ในทุกเรื่อง.... หลังจากวันนั้น คุณแม่ก็โชคดีมากๆๆๆๆๆๆที่สุดเลยค่ะ คุณแม่ได้มีโอกาสรู้จักกับชาวต่างชาติคนหนึ่ง เค้าดีกับคุณแม่มากๆ ครอบครัวเราทุกคน รวมถึงน้องสาว คุณตา คุณยายและเราด้วย ตัดสินใจให้คุณแม่แต่งงานใหม่ค่ะ มีหลายคนบอกว่า ทำไมต้องแต่ง ต้องประกาศให้โลกรู้ ว่าเรารักใคร เราอยากอยู่กับใคร.... แต่เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำพูดเหล่านั้นค่ะ เรากลับบอกคุณแม่ว่าเราอยากให้คุณแม่แต่ง อย่างน้อย คนอื่นจะได้รู้ ว่าการแต่งงานของคุณแม่ครั้งนี้ หรือความรักของคุณแม่ครั้งนี้ ได้รับการยอมรับจากทุกคนในครอบครัว... ทีนี้ละค่ะ คือจุดเริ่มต้นของ การเปลี่ยนแปลงที่จะนำมาซึ่ง "ความคิดถึง" ที่ไม่รู้เมื่อไหร่ จะสิ้นสุด เพราะการแต่งงานของคุณแม่ในครั้งนี้ ทำให้ " (ตัว)เราห่างกัน"

ปล.ความตั้งใจแรกที่มาสร้างกระทู้นี้ เพราะ ความคิดถึงของเรากับแม่กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้วค่ะ ใจหายอย่างบอกไม่ถูก เพราะอะไร เดี๋ยวเราขออนุญาตใช้พื้นที่แห่งนี้เป็นที่บรรยายและระบายความในใจที่มีต่อ "แม่" เพิ่มเติมนะคะ เราค่อนข้างจะมีคนข้างกายที่ดีมากๆ แต่ขอระบายตรงนี้ เพราะ ไม่อยากให้ใครต้องมาเห็นน้ำตาของเราค่ะ เรา (กำลังจะ) คิดถึงแม่มากจริงๆ

หากวกวนหรือสับสนยังไง ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่