เพิ่งผ่านประสบการณ์ซ่อมรถติดแก๊สมาหมาดๆ ท่ามกลางเสียงซักถาม และวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูว่า บอกแล้วอย่าติดแก๊ส,รถอีโคฯติดแก๊สทำไม, รถแค่สองปีทำไมพังไวจัง ฯลฯ
เกิดอาการนอยย์เล็กน้อย เดี๋ยวปั๊ดถอดแก๊สทิ้ง

เลย ยิ่งตอนนี้เบนซินลดราคาคืนความสุขอยู่ด้วย ฮึ่ม... แต่..เดี๋ยวก่อน ลองมาระลึกชาติหน่อยดีกว่าว่า ไอ้สองปีที่ดมแก๊สมา ได้กับเสียอะไรมาบ้าง
รถผมติดแก๊สตอนสัก 5,000โลได้ (นิสสันอัลเมรา) โดยเลือกติดแก๊สยี่ห้อเจ้าตลาดตัวนึง ระบบมาตรฐานทั่วไป ในราคา 2,1xxx (จริงๆมันราวๆ สองหมื่น แต่เปลี่ยนถังใหม่ เล็กลงแต่แพงขึ้น T T) ช่วงนั้นจำได้ว่าราคาของ น้ำมัน E20 คือราวๆ 29 บาท/ลิตร ราวๆ นั้น ในขณะที่ราคาแก๊สคือ 12.xx บาท ด้วยขนาดเครื่องยนต์กระจิ๋วหลิวของมัน แต่แบกรับภาระตัวถังน้องๆ อัลติส ทำให้อัตราการดมแก๊สค่อนข้างดุ คือตก 1 บาท/ กิโลเมตร ในช่วงราคาแก๊สตอนนั้น (ทอสอบโดยการขับจนแก๊สหมดถังตัดเข้าน้ำมัน จากนั้นเติมแก๊สจนเต็ม แล้วเซทเลขไมล์จับตัวเลขระยะทางจนหมดถังอีกรอบ) ซึ่งถ้าเทียบกับการใช้ E20 ถือว่าประหยัดกว่ากันราวๆ ครึ่งนึง (ทดสอบด้วยวิธีคล้ายๆ กัน อันนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่แต่ละคน)
ผมขับรถเดินทางประมาณ 100 กม./วัน และใช้งานรถแทบทุกวัน โดยเฉพาะวันหยุดบางครั้งเดินทางไปทำงานพิเศษ ตจว.ใกลๆ ด้วยเสมอๆ เพียงแค่ปีเดียวเข็มไมล์ก็ปาเข้าไปร่วม50,000 กม.เชียว เรื่องการดูแลรถ ก็เข้าศูนย์เช็คระยะตามปกติ ทั้งศูนย์นิสสันและการเข้าเช็คระยะจากศูนย์ติดตั้งแก๊ส จนกระทั่งเมื่อสักราวๆ สองเดือนทื่ผ่านมาพบว่ารถเริ่มมีอาการผิดปกติ ออกตัวมีสะดุดดับ ไหลเข้าไฟแดงดับ ไฟโชว์ ฯลฯ ก็เข้าศูนย์นิสสันเพื่อหาสาเหตุก็ไม่พบอาการผิดปกติ เอาออกมาเข้าศูนย์ติดแก๊ส ก็ได้ปรับจูนให้ใหม่ สักพักอาการเดิมก็ออกอีก เลยตัดสินใจหาข้อมูลอู่รถนิสสันโดยเฉพาะจากคลับรถนิสสัน ก็ได้รับการตรวจวัดกำลังอัด และเช็ควาล์ว ทำให้ถึงบางอ้อว่า รถเราวาล์วยันซะแล้ว ที่ระยะทางที่วิ่งแก๊สราว 85,000 กม. โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอารถเข้าเช็ควาล์วใดๆ มาก่อน ซึ่งถือว่าผิดมหันต์ เพราะตามปกติรถติดแก๊สต้องมีการปรับตั้งวาล์วที่ระยะประมาณ 40,000 กม.(ผมพลาดเอง)
สรุปสุดท้าย ผมนำรถมาให้อู่ของช่างที่เป็นเพื่อนกันจัดการทำบ่าวาล์ว เปลี่ยนอุปกรณ์ชิ้นส่วนที่เสียหาย โดยผมรับหน้าที่วิ่งเบิกอะไหล่จากศูนย์เอง หมดค่าใช้จ่ายไปทั้งสิ้นราวๆ 14,000 บาท จบกระบวนการ รถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ (ถ้าเอารถเข้าทำที่ศูนย์ เขาประเมินราคามา 32,xxx (ยกของใหม่หมด) เลยขอบาย)
ลองคิดคำนวณค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบ รถผมวิ่งมา 90,000 กม. ถ้าใช้นำมันเพียวๆ ก็คงหมดค่าน้ำมันไปราวๆ 180,000 บาท แต่ ผมติดแก๊สแล้วขับมาราวๆ 85,000 กม. เท่ากับผมจ่ายค่าเชื้อเพลิงไปทั้งสิ้นราวๆ 85,000+(10,000 ค่าน้ำมันก่อนติดแก๊ส) = 95,000 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 85,000 บาท โดยประมาณ คิดตามอัตราที่น้ำมันและแก๊สต่างขยับราคาขึ้นมาพร้อมๆ กันในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยที่ค่าใช้จ่ายเรื่องการดูแลรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องผมถือว่าเท่ากัน เพราะใช้ของมาตรฐานศูนย์นิสสันตามปกติ มีที่เพิ่มมาคือค่าอุปกรณ์กรองแก๊ส ที่เปลี่ยนตามระยะทางมา 3 ครั้ง รวมแล้วราวๆ 2 พันบาท (โดยที่ไม่เสียค่าบริการตรวจเช็ค และค่าแรงในการเปลี่ยนอะไหล่แต่อย่างใด)
ลองคิดเปรียบเทียบดูแล้ว ผมถือว่าผมคิดถูกที่ใช้รถติดแก๊ส ด้วยลักษณะการใช้งานแบบที่ว่ามา ส่วนสำหรับคนที่คิดจะหันมาใช้รถแก๊ส หรือกำลังลังเลอยู่ ผมมีแนวคิดให้ลองเอาไปคิดดูคือ
1. ใช้รถมากแค่ไหน ในความคิดผมถ้าคุณใช้รถเดือนๆ นึงไม่ถึง 2,000 กม. อย่าเพิ่งติดครับ อันนี้มีผลกับระยะคุ้มทุน ยิ่งตอนนี้ราคาน้ำมันยั่วยวนมาก ลองคิดดูสักสองตลบ
2. ดูแลรถเบื้องต้นได้แค่ไหน บางคนจะเปิดฝากระโปรงยังคิดดูก่อน อันนี้ถ้าอยากใช้รถแก๊สต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่ครับ
3. คุณขับรถดีแค่ไหน ทิ่มตูดชาวบ้านบ่อยไหม ฯลฯ คือรถดัดแปลงเวลาเฉี่ยวชน เราต้องยอมรับว่ามันมีผลต่อความเสียหายมากกว่าชาวบ้านเค้า ลองคำนึงจุดนี้นิดนึงด้วย
4. คุณทำใจได้ไหม ว่ารถเราจะโทรมไวกว่าชาวบ้านเค้า ในขณะที่อายุการใช้งานพอๆ กัน
ประมาณนี้ครับ ที่ผมคิดออก ถือว่าเอามาเล่าสู่กันฟังครับ ใครจะเก็บเอาไปเป็นแนวทางการตัดสินใจก็ลองดูครับ ข้อสำคัญจำไว้ว่า"รถติดแก๊ส ห้ามมีกลิ่นแก๊ส นอกจากตอนเติมแก๊สเท่านั้น " ขอบคุณครับ
ข้อคิดคนติดแก๊ส
เกิดอาการนอยย์เล็กน้อย เดี๋ยวปั๊ดถอดแก๊สทิ้ง
รถผมติดแก๊สตอนสัก 5,000โลได้ (นิสสันอัลเมรา) โดยเลือกติดแก๊สยี่ห้อเจ้าตลาดตัวนึง ระบบมาตรฐานทั่วไป ในราคา 2,1xxx (จริงๆมันราวๆ สองหมื่น แต่เปลี่ยนถังใหม่ เล็กลงแต่แพงขึ้น T T) ช่วงนั้นจำได้ว่าราคาของ น้ำมัน E20 คือราวๆ 29 บาท/ลิตร ราวๆ นั้น ในขณะที่ราคาแก๊สคือ 12.xx บาท ด้วยขนาดเครื่องยนต์กระจิ๋วหลิวของมัน แต่แบกรับภาระตัวถังน้องๆ อัลติส ทำให้อัตราการดมแก๊สค่อนข้างดุ คือตก 1 บาท/ กิโลเมตร ในช่วงราคาแก๊สตอนนั้น (ทอสอบโดยการขับจนแก๊สหมดถังตัดเข้าน้ำมัน จากนั้นเติมแก๊สจนเต็ม แล้วเซทเลขไมล์จับตัวเลขระยะทางจนหมดถังอีกรอบ) ซึ่งถ้าเทียบกับการใช้ E20 ถือว่าประหยัดกว่ากันราวๆ ครึ่งนึง (ทดสอบด้วยวิธีคล้ายๆ กัน อันนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่แต่ละคน)
ผมขับรถเดินทางประมาณ 100 กม./วัน และใช้งานรถแทบทุกวัน โดยเฉพาะวันหยุดบางครั้งเดินทางไปทำงานพิเศษ ตจว.ใกลๆ ด้วยเสมอๆ เพียงแค่ปีเดียวเข็มไมล์ก็ปาเข้าไปร่วม50,000 กม.เชียว เรื่องการดูแลรถ ก็เข้าศูนย์เช็คระยะตามปกติ ทั้งศูนย์นิสสันและการเข้าเช็คระยะจากศูนย์ติดตั้งแก๊ส จนกระทั่งเมื่อสักราวๆ สองเดือนทื่ผ่านมาพบว่ารถเริ่มมีอาการผิดปกติ ออกตัวมีสะดุดดับ ไหลเข้าไฟแดงดับ ไฟโชว์ ฯลฯ ก็เข้าศูนย์นิสสันเพื่อหาสาเหตุก็ไม่พบอาการผิดปกติ เอาออกมาเข้าศูนย์ติดแก๊ส ก็ได้ปรับจูนให้ใหม่ สักพักอาการเดิมก็ออกอีก เลยตัดสินใจหาข้อมูลอู่รถนิสสันโดยเฉพาะจากคลับรถนิสสัน ก็ได้รับการตรวจวัดกำลังอัด และเช็ควาล์ว ทำให้ถึงบางอ้อว่า รถเราวาล์วยันซะแล้ว ที่ระยะทางที่วิ่งแก๊สราว 85,000 กม. โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอารถเข้าเช็ควาล์วใดๆ มาก่อน ซึ่งถือว่าผิดมหันต์ เพราะตามปกติรถติดแก๊สต้องมีการปรับตั้งวาล์วที่ระยะประมาณ 40,000 กม.(ผมพลาดเอง)
สรุปสุดท้าย ผมนำรถมาให้อู่ของช่างที่เป็นเพื่อนกันจัดการทำบ่าวาล์ว เปลี่ยนอุปกรณ์ชิ้นส่วนที่เสียหาย โดยผมรับหน้าที่วิ่งเบิกอะไหล่จากศูนย์เอง หมดค่าใช้จ่ายไปทั้งสิ้นราวๆ 14,000 บาท จบกระบวนการ รถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ (ถ้าเอารถเข้าทำที่ศูนย์ เขาประเมินราคามา 32,xxx (ยกของใหม่หมด) เลยขอบาย)
ลองคิดคำนวณค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบ รถผมวิ่งมา 90,000 กม. ถ้าใช้นำมันเพียวๆ ก็คงหมดค่าน้ำมันไปราวๆ 180,000 บาท แต่ ผมติดแก๊สแล้วขับมาราวๆ 85,000 กม. เท่ากับผมจ่ายค่าเชื้อเพลิงไปทั้งสิ้นราวๆ 85,000+(10,000 ค่าน้ำมันก่อนติดแก๊ส) = 95,000 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 85,000 บาท โดยประมาณ คิดตามอัตราที่น้ำมันและแก๊สต่างขยับราคาขึ้นมาพร้อมๆ กันในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยที่ค่าใช้จ่ายเรื่องการดูแลรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องผมถือว่าเท่ากัน เพราะใช้ของมาตรฐานศูนย์นิสสันตามปกติ มีที่เพิ่มมาคือค่าอุปกรณ์กรองแก๊ส ที่เปลี่ยนตามระยะทางมา 3 ครั้ง รวมแล้วราวๆ 2 พันบาท (โดยที่ไม่เสียค่าบริการตรวจเช็ค และค่าแรงในการเปลี่ยนอะไหล่แต่อย่างใด)
ลองคิดเปรียบเทียบดูแล้ว ผมถือว่าผมคิดถูกที่ใช้รถติดแก๊ส ด้วยลักษณะการใช้งานแบบที่ว่ามา ส่วนสำหรับคนที่คิดจะหันมาใช้รถแก๊ส หรือกำลังลังเลอยู่ ผมมีแนวคิดให้ลองเอาไปคิดดูคือ
1. ใช้รถมากแค่ไหน ในความคิดผมถ้าคุณใช้รถเดือนๆ นึงไม่ถึง 2,000 กม. อย่าเพิ่งติดครับ อันนี้มีผลกับระยะคุ้มทุน ยิ่งตอนนี้ราคาน้ำมันยั่วยวนมาก ลองคิดดูสักสองตลบ
2. ดูแลรถเบื้องต้นได้แค่ไหน บางคนจะเปิดฝากระโปรงยังคิดดูก่อน อันนี้ถ้าอยากใช้รถแก๊สต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่ครับ
3. คุณขับรถดีแค่ไหน ทิ่มตูดชาวบ้านบ่อยไหม ฯลฯ คือรถดัดแปลงเวลาเฉี่ยวชน เราต้องยอมรับว่ามันมีผลต่อความเสียหายมากกว่าชาวบ้านเค้า ลองคำนึงจุดนี้นิดนึงด้วย
4. คุณทำใจได้ไหม ว่ารถเราจะโทรมไวกว่าชาวบ้านเค้า ในขณะที่อายุการใช้งานพอๆ กัน
ประมาณนี้ครับ ที่ผมคิดออก ถือว่าเอามาเล่าสู่กันฟังครับ ใครจะเก็บเอาไปเป็นแนวทางการตัดสินใจก็ลองดูครับ ข้อสำคัญจำไว้ว่า"รถติดแก๊ส ห้ามมีกลิ่นแก๊ส นอกจากตอนเติมแก๊สเท่านั้น " ขอบคุณครับ