สวัสดีครับผม ในข้อความขั้นต้นเป็นการบ่นเรื่องราวชีวิต จขกท ล้วนๆ อาจมีภาพ/หรือเนื้อหาที่เด็กไม่ควรรับชม อายุต่ำกว่า 18ปีไม่ควรอ่าน [ขรรม]
>>สำหรับใครที่ไม่ต้องการอ่านเกริ่น กรุณาข้ามไปให้คำแนะนำที่ ข้อ 1-3 เลยครับ
>>ผมเรียนจบเมื่อวันที่ 4 เมษา 2557 แต่ผมต้องไปคัดเลือกทหารวันที่ 1 เมษา 2557 ซึ่งในวันนั้นเกรดผมยังออกไม่ครบ
[ทางเจ้าหน้าที่ของมหาลัยไม่รู้จักใบรับรองผลคาดว่าจะจบ แค้นมากอันนี้] และในระหว่างนั้นตัวผมมีแผนจะไปศึกษาต่อต่างประเทศอยู่แล้ว...
คือสมัคร 6 เดือนรับใช้ชาติเก็บสะสมระเบียบวินัย ฯลฯ
จึงต้องขอผ่อนผันไปในที่สุด เพราะสมัคร หรือ จับเลย อย่างน้อยก็ 1-2 ปีเสียเวลาเรียนต่อ [ตอนนั้นมองแบบนั้น]
เลยใช้สิทธิ์ผ่อนผันได้ เพราะยังเรียนไม่จบ อีก 3 วันจบ
>> หลังจากผ่อนผันเสร็จ ข้าพเจ้าก็ออกจากเมืองเกิดของข้า ....
มาเล่ามาเรียนมาศึกษาที่ประเทศแห่งหนึ่งด้วยความยากลำบาก
>>การเรียนไปได้ด้วยดี และต่อเนื่องครับ เรื่องทหารก็คิดใว้กะเรียนจบแล้วค่อยกลับไปเป็น เพราะเรื่องพวกนี้มันหยุดไม่ได้
-ทั้งเรื่อง ภาษา ก็สำคัญ การใช้ชีวิตอีก เลยให้ทางบ้านส่งเสียค่าเทอมให้จนถึง สิ้นปี 2558 และนำเนินการต่อ VISA เรียบร้อย
เรียนแบบเรื่อยๆตามภาษา 3 - 4 ปีน่าจะจบ
>>ผมก็เข้าไปอ่านกฏหมายมา ผมพบกับ
พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497
มาตรา 27/(2) นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ตามที่กำหนด ในกฎกระทรวง [ประมาณได้รับสิทธิ์ ให้ครอบครัวผ่อนผันแทนได้]
คือ...เฮ้ยยย!! เข้าทางมันดีอ่ะ ผมนี้ติดปีกบินเลย

เลยแจ้งทางบ้านไปก็แม่คนเดียวแหละครับ พ่อผมเสียตั้งแต่ยังเด็ก ท่านแม่ไปที่ศาลากลางจังหวัด ติดต่อเรื่อง ผ่อนผันทหารให้ลูก ... หวังลูกจะได้ร่ำเรียน ผลปรากฏว่า .....
สัสดีเรียกเงินสด จำนวน XX,XXX บาทจากแม่ผมครับโดยแจ้งมาว่าจ่ายตรงนี้ก็จบเลย ลูกไม่ต้องมาอีกเลยจนกว่าจะเรียนจบ!!
งงไหมครับ ผมก็งง !! แม่ผมนี้โมโหมากเลยบอกกลับไปว่า "ลูกอยากเป็นทหาร มันบอกมันจะกลับมาสมัคร"

ตอนหลังมาถามแม่ จะให้เอาจริงๆหรอ ค่าเทอมจ่ายไปแล้วนะ ไหนจะ VISA ที่ได้มาด้วยความยากลำบากอีก อยู่ๆกลับไทยเลย จะกลับมาประเทศเค้าอีกทีเราก็เสียเครดิตสิ เผลอๆไม่ได้เรียนต่ออีก
[ผลสรุปคือผมต้องกลับไปผ่อนผันด้วยตัวเองครับ ตกลงกันแล้ว จะได้ Holiday ด้วย]
แม่บอกค่าตั๋วกับสัสดีเรียกมานี้ พอๆกันเลย แต่...แม่ได้เจอลูกนะ
ใครสงใสทำไมไม่เรียน รด. >> ตอนนั้นแม่ผมล้มละลายครับซึ่งท่านก็ตัวคนเดียว เงินไม่พอด้านค่าใช้จ่ายชุด/อุปกรณ์
สำหรับตอนนั้นเป็นเงินที่สำคัญและคิดว่าการเป็นทหารก็ดีมีเงินเดือน [ไม่คิดว่าจะได้เรียนต่อขนาดนี้]
>>เลยขอเข้าคำถามเลยแล้วกันครับ
1.การสมัครทหารแต่ละผลัดนี้ มีเดือนไหนบ้างครับ จะได้วางแผนการไปเป็นทหารและเรียนต่อได้ถูกต้อง
2.ถ้าผมผ่อนผันไปเรื่อยๆ จนอายุเกินทั้งที่ยังเรียนไม่จบจะถูกจับเป็นไหมครับ ? [ ความคิดชั่วร้าย

]
3.ขอบคุณครับผม !!
ทำอย่างไร ? เมื่อเรียนต่อเมืองนอก แต่ติดผ่อนผันทหาร O_o
>>สำหรับใครที่ไม่ต้องการอ่านเกริ่น กรุณาข้ามไปให้คำแนะนำที่ ข้อ 1-3 เลยครับ
>>ผมเรียนจบเมื่อวันที่ 4 เมษา 2557 แต่ผมต้องไปคัดเลือกทหารวันที่ 1 เมษา 2557 ซึ่งในวันนั้นเกรดผมยังออกไม่ครบ
[ทางเจ้าหน้าที่ของมหาลัยไม่รู้จักใบรับรองผลคาดว่าจะจบ แค้นมากอันนี้] และในระหว่างนั้นตัวผมมีแผนจะไปศึกษาต่อต่างประเทศอยู่แล้ว...
คือสมัคร 6 เดือนรับใช้ชาติเก็บสะสมระเบียบวินัย ฯลฯ
จึงต้องขอผ่อนผันไปในที่สุด เพราะสมัคร หรือ จับเลย อย่างน้อยก็ 1-2 ปีเสียเวลาเรียนต่อ [ตอนนั้นมองแบบนั้น]
เลยใช้สิทธิ์ผ่อนผันได้ เพราะยังเรียนไม่จบ อีก 3 วันจบ
>> หลังจากผ่อนผันเสร็จ ข้าพเจ้าก็ออกจากเมืองเกิดของข้า ....
มาเล่ามาเรียนมาศึกษาที่ประเทศแห่งหนึ่งด้วยความยากลำบาก
>>การเรียนไปได้ด้วยดี และต่อเนื่องครับ เรื่องทหารก็คิดใว้กะเรียนจบแล้วค่อยกลับไปเป็น เพราะเรื่องพวกนี้มันหยุดไม่ได้
-ทั้งเรื่อง ภาษา ก็สำคัญ การใช้ชีวิตอีก เลยให้ทางบ้านส่งเสียค่าเทอมให้จนถึง สิ้นปี 2558 และนำเนินการต่อ VISA เรียบร้อย
เรียนแบบเรื่อยๆตามภาษา 3 - 4 ปีน่าจะจบ
>>ผมก็เข้าไปอ่านกฏหมายมา ผมพบกับ
พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497
มาตรา 27/(2) นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ตามที่กำหนด ในกฎกระทรวง [ประมาณได้รับสิทธิ์ ให้ครอบครัวผ่อนผันแทนได้]
คือ...เฮ้ยยย!! เข้าทางมันดีอ่ะ ผมนี้ติดปีกบินเลย
สัสดีเรียกเงินสด จำนวน XX,XXX บาทจากแม่ผมครับโดยแจ้งมาว่าจ่ายตรงนี้ก็จบเลย ลูกไม่ต้องมาอีกเลยจนกว่าจะเรียนจบ!!
งงไหมครับ ผมก็งง !! แม่ผมนี้โมโหมากเลยบอกกลับไปว่า "ลูกอยากเป็นทหาร มันบอกมันจะกลับมาสมัคร"
ตอนหลังมาถามแม่ จะให้เอาจริงๆหรอ ค่าเทอมจ่ายไปแล้วนะ ไหนจะ VISA ที่ได้มาด้วยความยากลำบากอีก อยู่ๆกลับไทยเลย จะกลับมาประเทศเค้าอีกทีเราก็เสียเครดิตสิ เผลอๆไม่ได้เรียนต่ออีก
[ผลสรุปคือผมต้องกลับไปผ่อนผันด้วยตัวเองครับ ตกลงกันแล้ว จะได้ Holiday ด้วย]
แม่บอกค่าตั๋วกับสัสดีเรียกมานี้ พอๆกันเลย แต่...แม่ได้เจอลูกนะ
ใครสงใสทำไมไม่เรียน รด. >> ตอนนั้นแม่ผมล้มละลายครับซึ่งท่านก็ตัวคนเดียว เงินไม่พอด้านค่าใช้จ่ายชุด/อุปกรณ์
สำหรับตอนนั้นเป็นเงินที่สำคัญและคิดว่าการเป็นทหารก็ดีมีเงินเดือน [ไม่คิดว่าจะได้เรียนต่อขนาดนี้]
>>เลยขอเข้าคำถามเลยแล้วกันครับ
1.การสมัครทหารแต่ละผลัดนี้ มีเดือนไหนบ้างครับ จะได้วางแผนการไปเป็นทหารและเรียนต่อได้ถูกต้อง
2.ถ้าผมผ่อนผันไปเรื่อยๆ จนอายุเกินทั้งที่ยังเรียนไม่จบจะถูกจับเป็นไหมครับ ? [ ความคิดชั่วร้าย
3.ขอบคุณครับผม !!