นวัตกรรม 10 อย่างที่อาจเปลี่ยนแปลงการแพทย์ในอนาคต

เดี๋ยวนี้โลกของเรา ก็ประสบกับปัญหาสุขภาพกันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับโรคติดเชื้อ (อีโบล่า) โรคไม่ติดต่อ (เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ)
แต่วันนี้ ผมขอนำบทความของต่างประเทศมาให้เราได้อ่านกัน เพื่อเป็นดูกันว่า นวัตกรรมด้านการแพทย์ในต่างประเทศ เขาไปถึงไหนกันแล้ว

ปล. ผมเป็นแพทย์ แต่ก็ยังทึ่งถึงแนวคิดที่แปลก แหวกแนวของพวกต่างชาติจริงๆครับ
ปล.2 ผมไม่ได้แปลตามตัวอักษรมาตรงๆเป้ะๆนะครับ และเนื่องจากเป็นนวตกรรมใหม่ๆ ซึ่งผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่ายังไม่มีศัพท์ภาษาไทยแน่นอน เลยขอแปลตามใจผมละกันนะครับ อิอิ

ที่มา : Medscape.com (http://www.medscape.com/features/slideshow/innovations?nlid=73927_904&src=wnl_edit_medp_obgy&uac=85828AR&spon=16#2)

เริ่มกันที่
1. Fecal therapy or Fecal microbiota transplant (FMT) (อุจจาระบำบัด หรือการเปลี่ยนเชื้อในอุจจาระ)
แม้ว่าจะเป็นแนวคิดที่ดูแปลกแหวกแนว แต่ก็พิสูจน์แล้ว ว่าสามารถรักษาโรคติดเชื้อ Clostidium difficile ได้ประสบผลสำเร็จมากกว่า 90% ซึ่งมากกว่าการให้ยาฆ่าเชื้อนี้ซะอีก
ในช่วงแรกของการรักษาแบบนี้ เขาสวนอุจจาระของผู้ป่วยออก และส่องกล้องเข้าไปทางลำไส้ใหญ่ เพื่อนำเชื้อโรคตัวดีเข้าไปใส่ไว้ในลำไส้ใหญ่
(note จากผู้แปล : เชื้อ Clostridium นี้เกิดจากการได้ยาฆ่าเชื้อมากเกินไป จนทำให้เชื้อดีในลำไส้ใหญ่ตาย เชื้อไม่ดีตัว Clostridium นี้เลยโตขึ้นแพร่กระจายมากมาย)

แต่นวัตกรรมนี้ก็ถูกทำให้ง่ายขึ้น เป็นรูปแบบการกิน โดยกินแคปซูลที่มีอุจจาระ(ที่มีเชื้อโรคดีแช่แข็ง)เข้าไป โดยที่เจ้าอุจจาระที่เราจะกินเข้าไปนี้ ต้องผ่านการตรวจจากห้องปฏิบัติการเป็นอย่างดี เพื่อความสะอาดและเข้ากันได้กับผู้ป่วย

โดยการรักษานี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เชื้อดีในลำไส้ใหญ่ของเรากลับมาสู่สมดุล โดย ณ ปัจจุบัน มีงานวิจัยหลายอย่างแล้วว่า การที่เชื้อในลำไส้เราไม่สมดุล เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคเบาหวาน รูมาตอยด์ และอาจเป็นโรคเกี่ยวกับสมองได้

========================

ตอบคำถามคุณ nowan นะครับ ว่าทำไมไม่เอาเชื้อแบคทีเรียดีๆมาใส่ในเม็ดยาเลย
ก็เพราะว่า ในอุจจาระจริงๆมีแบคทีเรียอยู่หลายชนิดมากครับ ดังนั้น การแยกออกมาแต่ละตัวและใส่ในแคปซูลนั้น อาจได้เชื้อที่ไม่ครบตามที่ธรรมชาติควรจะเป็นครับ และอีกอย่างในอุจจาระจะมีเชื้อที่ไม่ใช่ออกซิเจนในการหายใจ ดังนั้น หากโดนอากาศเชื้อเหล่านั้นจะตายได้

ปล.อีกครั้ง การรักษาวิธีนี้ยังอยู่ในชั้นตอนวิจัยอยู่นะครับ อย่าไปสุ่มสี่สุ่มห้ากินอึนะครับ เด่วจะหาว่าไม่เตือน

========================

ต้องขอโทษด้วย ที่ link ที่มา ต้องเป็นสมาชิกของ Medscape.com ครับ
ผมเป็นสมาชิกอยู่เลยกดดูได้เลย

แต่หากต้องการดูต้นฉบับจริงๆ ก็สมัครสมาชิกเว็บเขาได้นะครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่