คำว่า "คนดี" กับ "คนโง่" มีแค่เส้นบางๆคั่นอยู่
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องชีวิตจริงที่ผมได้ตัดเอามาเฉพาะในส่วนใจความสำคัญเท่านั้นนะครับ อยากให้จบในการตั้งกระทู้ครั้งเดียว
ผมกับแฟนคบกันมาได้ 14 ปี อยู่ด้วยกันจริงๆจนถึงวันนี้ก็ 10 ปี ระหว่างที่อยู่กันมาก็มีบ้างที่ทะเลาะกัน อาจจะด้วยความผิดของผม และ ความผิดของเธอ แต่ทุกๆครั้งคำว่า
"ขอโทษ" จะต้องออกมาจากปากของผมเพียงเท่านั้น ไม่ว่าผมจะผิดหรือเธอจะผิดก็ตาม หากเวลาทะเลาะกันก็จะต้องแลกมาด้วยการง้อด้วยการต้องซื้อของให้ ตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่นแล้วแต่ความต้องการของเธอ หลายๆคนคงอาจจะเคยเจอแบบผมก็ได้
ย้อนไปเมื่อเกือบ 7 ปีก่อน แฟนผมได้แอบคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง และท่าทีของเธอก็เปลี่ยนไปจนทำให้ผมรับรู้ความรู้สึกของเธอที่เปลี่ยนไปได้ ผมเคยเห็นข้อความที่เธอส่งหาผู้ชายคนนั้นโดยใช้ข้อความที่เรียกว่า
"ที่รัก" ผมเห็นผมออกบ้านไปสงบสติอารมณ์ ส่วนเธอร้องไห้และโทรหาผมว่าจะเลิกติดต่อกับผู้ชายคนนั้น แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เธอเองยังคุยกับผู้ชายคนนั้นอยู่
ช่วงนั้นผมเองยอมรับว่าผมต้องการความรัก ต้องการคนที่เข้าใจ ทำไงได้เมื่อแฟนผมยังคุยกับคนอื่น ทำไมผมจะคุยกับใครบ้างไม่ได้ ผมจึงได้คบกับผู้หญิงคนหนึ่ง คบมาได้นานพอสมควร แฟนผมรู้ ผมก็เลิก แต่เธอเองกลับยังคงคุยกับผู้ชายคนนั้น โดยที่ผมก็รู้มาโดยตลอด ซึ่งในตอนนั้นผมคิดแค่ว่า หากเขาคนนั้นดีและพร้อมจะดูแลเธอ ผมก็จะเดินออกจากแฟนผมมา
ผมเปิดบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งมีพนักงาน 5-6 คน แฟนผมออกไปติดต่อลูกค้า ตจว. โดยบอกผมว่าไปกับเพื่อน แต่ผมเองก็รู้นะว่าจริงๆแล้วไปกับผู้ชายคนนั้น
แล้วอยู่ๆวันหนึ่งแฟนผมก็โทรหาผมตอนเลิกงานว่า
"วันนี้เค้าจะพาพี่เขาไปให้รู้จัก พี่เขาคงเข้ากับตัวเองได้ ตัวเองว่าไง"
เป็นคำถามที่ทำเอาผมอึ้งไปพักหนึ่ง แต่ผมก็ต้องกลั้นใจแล้วตอบไปว่า
"โอเค"
แฟนผมพาผู้ชายคนนั้นมาให้ผมรู้จัก โดยแฟนผมบอกกับผู้ชายคนนั้นว่าผมเป็นแฟนเก่า แต่ต้องทำงานร่วมกันเฉยๆ
ตั้งแต่แฟนผมพามาให้ผมรู้จัก แฟนผมก็จะนอนพักที่ออฟฟิศกะผู้ชายคนนั้น ส่วนผมเองก็จะกลับไปนอนบ้าน แต่ก็จะกลับบ้านกับผมเดือนนึง 3-4 วัน เพื่อไม่ให้ที่บ้านผมสงสัย แต่บอกไว้ ณ. ตรงนี้เลยนะว่า
ตั้งแต่วันที่แฟนผมคบกับผู้ชายคนนั้น จนวันนี้ เกือบ 7 ปี ผมกับแฟนไม่เคยมีอะไรกันอีกเลย
ระหว่างที่แฟนผมกับผู้ชายคนนั้นคบกัน ผมถูกหลายๆคนบอกว่าผม
"โง่" ที่ทนได้อย่างไร ส่วนเพื่อนผู้หญิงของแฟนผมก็บอกว่าผมเป็น
"คนดี" (อาจจะชมแต่ลึกๆคงคิดว่าผมโง่เหมือนกัน) แต่ผมก็อดทนเพื่ออีกหลายๆชีวิตที่ผมดูแล อดทนใช้หนี้ที่สร้างมาด้วยกัน อดทนหาเงินเลี้ยงทั้งแฟนและผู้ชายคนนั้น เพราะต้องจ่ายเงินเดือนให้เขาด้วยที่มาช่วยออกไปทำงานกับแฟนผมที่ ตจว. จากผู้ชายที่มีคนนับหน้าถือตา กลับถูกมองว่าเป็นคนยอมให้แฟนมีคนอื่นและพามาอยู่ด้วย และแปลสภาพตัวเองให้อยู่ในฐานะ
"เพื่อน" หลายๆคนเริ่มหมดความนับถือ เพื่อนๆผมเริ่มเอือมระอา เด็กๆในออฟฟิศหลายคนรับไม่ได้ลาออกไปเรื่อยๆ
ผู้ชายคนนั้นอยากได้รถใหม่ แฟนผมบอกไม่มีเงินซื้อให้ เขาคนนั้นก็บอกว่าหากไม่ซื้อให้จะเดินจากไป สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ แฟนผม
ขอร้องผมให้ผมช่วยไปพูดให้ผู้ชายคนนั้นไม่ไป และมาปรึกษาผมว่าจะเอารถเข้าไฟแนนซ์เพื่อเอาเงินไปซื้อรถให้ผู้ชายคนนั้น ผมก็เลยบอกว่าก็แล้วแต่ละกัน และแฟนผมก็ได้ทำและซื้อรถใหม่ให้ผู้ชายคนนั้น ทั้งๆที่ผมเองอยากได้มาตั้งนานแต่ยังไม่เคยคิดที่จะซื้อให้ผมต้องเก็บเงินและซื้อเอาเอง
ระยะเวลา 2 ปีเต็มที่ผู้ชายคนนั้นเข้ามาอยู่ที่ออฟฟิศ ผมก็คบๆเขาเหมือนเพื่อนคนหนึ่งและคิดว่าเขาคงพร้อมที่จะดูแลแฟนผมได้แล้ว อีกอย่างการถูกทำร้ายแบบนี้มันมากกว่าการถูกแฟนแอบไปคบใครสักคนเสียอีก เรียกว่าไม่ให้เกียรติและไม่แคร์ความรู้สึกของผมเลย ระยะเวลาเหล่านั้นทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนหัวใจตัวเอง ความรักในแบบแฟนได้ค่อยๆหายไปเรื่อยๆ จนในที่สุดผมก็รู้สึกกับแฟนผมได้เหมือนเพื่อนที่สนิทกันมากเท่านั้น ผมคิดแล้วว่าผมจะคุยกับเธอ แล้วตกลงแยกทางกันให้เป็นเรื่องเป็นราว ผมจะได้เดินไปตามทางของผม ไม่ใช่การกักขังผมไว้แบบนี้ให้ผมทนอยู่แบบไปเรื่อยๆ เหมือนแฟนเก็บยังไงยังงั้น
แต่แล้วสิ่งที่ผมคิดจะบอก คิดจะคุยกับเธอ ผมก็ไม่ได้ทำ!!!
แฟนผมกับผู้ชายคนนั้นไปงานเลี้ยง แล้วก็เอารถไปชน ผู้ชายคนนั้นเสียชีวิตคาที่ ส่วนแฟนผมอยู่ ICU อาการหนักมาก
ญาติของแฟนผมโทรหาผมในตอนเช้า ผมรีบไป รพ. ญาติของเธออยู่หน้าห้องผ่าตัดหลายคน ทุกๆคนมาถามผมว่าทำไมแฟนผมถึงไปกับผู้ชายคนนั้น ไม่ได้ไปกับผม เพื่อนของแฟนผมได้เล่าให้ญาติของแฟนทราบว่าเรื่องราวเป็นมายังไง คำพูดของญาติแฟนผมแต่ละคนพูดว่า
"ไปหาแฟนใหม่เถอะ ทิ้งไปเถอะ"
แต่ด้วยความที่สงสารว่าแฟนผมเจ็บขนาดนี้ แล้วจะมีใครมาดูแล ทั้งแขนหัก หน้าต้องเสริมเหล็ก ศัลยกรรมไรอีกเยอะ เธอจะอยู่ได้ยังไง อาจจะด้วยความเป็นสุภาพบุรุษและความรับผิดชอบในหน้าที่ ผมเลยบอกญาติๆของแฟนผมไปว่า
"ผมจะขอดูแลเธอไปจนกว่าเธอจะดีขึ้น และสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองให้ได้ก่อนนะครับ"
จากวันนั้นจนวันนี้ 3 ปีแล้วครับที่ผมอยู่ดูแลเธอ ช่วยให้กำลังใจ และช่วยผลักดันให้เธอมีกำลังใจในการลุกขึ้นมาทำอะไรๆเพื่อตัวเธอเอง ถามว่าผมรักเธอเหมือนที่ผมเคยรักหรือไม่ ผมทำหัวใจให้รู้สึกแบบนั้นอีกไม่ได้ เพราะตลอด 3 ปีที่เธอมีเขา มันทำให้ผมเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองให้กลายเป็นความรักแบบเพื่อนไปแล้ว ถึงเธอเองจะพยายามทำอะไรๆให้ดีขึ้น แต่มันก็ยากที่จะทำให้หัวใจผมกลับกลายไปเป็นเหมือนเดิมแล้วครับ
ตอนนี้เธอเริ่มยืนด้วยตัวเองได้บ้าง เริ่มหาเงินเลี้ยงตัวเองได้บ้างเดือนละ 4-5 หมื่น ผมอยากจะส่งเธอให้ถึงฝันที่เธอจะหาเงินให้ได้มากๆเพื่อที่เธอจะได้ไม่ลำบาก ส่วนตัวผมเองผมอยากกลับไปรักตัวเอง รักครอบครัว กลับไปดูแลพ่อแม่ที่ผมทิ้งมาตั้งแต่มาดูแลแฟนผม ผมอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ต้องดิ้นรนหาเงินเดือนละแสนสองแสนเพื่อมาใช้หนี้ที่ทำร่วมกันมา
ถามว่าผมอยู่ได้ยังไงโดยไม่มีรัก ผมรักแฟนผมนะแต่ตอนนี้มันรักในฐานะเพื่อนคนหนึ่งที่รักมาก แต่ไม่ใช่รักแบบสเน่ห์หาอีกต่อไปแล้ว
เมื่อมันถึงเวลาที่เหมาะสม และทุกอย่างลงตัวแล้ว ผมก็จะขอชีวิตที่เหลือของผมคืน และพร้อมจะยินดีกับเส้นทางที่เธอเดินไปได้อย่างสบายและไม่ลำบาก ณ.วันนั้นผมอาจจะถูกตราหน้าว่าเป็น
"คนเลว" ผมก็ยินดีจะยืดอกรับมันไว้ ถึงใครหลายๆคนจะไม่รู้ว่าที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกับผมมามากมายก็ตาม แต่สำหรับผมแล้วผมคิดว่า
"ผมทำดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้ผู้หญิงสักคนหนึ่งแล้วครับ"
จริงๆมี Full Story แต่มันยาวมากๆคนอาจจะไม่สนใจอ่าน และผมก็ยังเขียนมันไม่เสร็จ
http://pantip.com/topic/32993280
เมื่อแฟนเราไปเป็นแฟนคนอื่น 3 ปี เป็นคุณจะทำยังไง?
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องชีวิตจริงที่ผมได้ตัดเอามาเฉพาะในส่วนใจความสำคัญเท่านั้นนะครับ อยากให้จบในการตั้งกระทู้ครั้งเดียว
ผมกับแฟนคบกันมาได้ 14 ปี อยู่ด้วยกันจริงๆจนถึงวันนี้ก็ 10 ปี ระหว่างที่อยู่กันมาก็มีบ้างที่ทะเลาะกัน อาจจะด้วยความผิดของผม และ ความผิดของเธอ แต่ทุกๆครั้งคำว่า "ขอโทษ" จะต้องออกมาจากปากของผมเพียงเท่านั้น ไม่ว่าผมจะผิดหรือเธอจะผิดก็ตาม หากเวลาทะเลาะกันก็จะต้องแลกมาด้วยการง้อด้วยการต้องซื้อของให้ ตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่นแล้วแต่ความต้องการของเธอ หลายๆคนคงอาจจะเคยเจอแบบผมก็ได้
ย้อนไปเมื่อเกือบ 7 ปีก่อน แฟนผมได้แอบคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง และท่าทีของเธอก็เปลี่ยนไปจนทำให้ผมรับรู้ความรู้สึกของเธอที่เปลี่ยนไปได้ ผมเคยเห็นข้อความที่เธอส่งหาผู้ชายคนนั้นโดยใช้ข้อความที่เรียกว่า "ที่รัก" ผมเห็นผมออกบ้านไปสงบสติอารมณ์ ส่วนเธอร้องไห้และโทรหาผมว่าจะเลิกติดต่อกับผู้ชายคนนั้น แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เธอเองยังคุยกับผู้ชายคนนั้นอยู่
ช่วงนั้นผมเองยอมรับว่าผมต้องการความรัก ต้องการคนที่เข้าใจ ทำไงได้เมื่อแฟนผมยังคุยกับคนอื่น ทำไมผมจะคุยกับใครบ้างไม่ได้ ผมจึงได้คบกับผู้หญิงคนหนึ่ง คบมาได้นานพอสมควร แฟนผมรู้ ผมก็เลิก แต่เธอเองกลับยังคงคุยกับผู้ชายคนนั้น โดยที่ผมก็รู้มาโดยตลอด ซึ่งในตอนนั้นผมคิดแค่ว่า หากเขาคนนั้นดีและพร้อมจะดูแลเธอ ผมก็จะเดินออกจากแฟนผมมา
ผมเปิดบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งมีพนักงาน 5-6 คน แฟนผมออกไปติดต่อลูกค้า ตจว. โดยบอกผมว่าไปกับเพื่อน แต่ผมเองก็รู้นะว่าจริงๆแล้วไปกับผู้ชายคนนั้น
แล้วอยู่ๆวันหนึ่งแฟนผมก็โทรหาผมตอนเลิกงานว่า
"วันนี้เค้าจะพาพี่เขาไปให้รู้จัก พี่เขาคงเข้ากับตัวเองได้ ตัวเองว่าไง"
เป็นคำถามที่ทำเอาผมอึ้งไปพักหนึ่ง แต่ผมก็ต้องกลั้นใจแล้วตอบไปว่า
"โอเค"
แฟนผมพาผู้ชายคนนั้นมาให้ผมรู้จัก โดยแฟนผมบอกกับผู้ชายคนนั้นว่าผมเป็นแฟนเก่า แต่ต้องทำงานร่วมกันเฉยๆ
ตั้งแต่แฟนผมพามาให้ผมรู้จัก แฟนผมก็จะนอนพักที่ออฟฟิศกะผู้ชายคนนั้น ส่วนผมเองก็จะกลับไปนอนบ้าน แต่ก็จะกลับบ้านกับผมเดือนนึง 3-4 วัน เพื่อไม่ให้ที่บ้านผมสงสัย แต่บอกไว้ ณ. ตรงนี้เลยนะว่า ตั้งแต่วันที่แฟนผมคบกับผู้ชายคนนั้น จนวันนี้ เกือบ 7 ปี ผมกับแฟนไม่เคยมีอะไรกันอีกเลย
ระหว่างที่แฟนผมกับผู้ชายคนนั้นคบกัน ผมถูกหลายๆคนบอกว่าผม "โง่" ที่ทนได้อย่างไร ส่วนเพื่อนผู้หญิงของแฟนผมก็บอกว่าผมเป็น "คนดี" (อาจจะชมแต่ลึกๆคงคิดว่าผมโง่เหมือนกัน) แต่ผมก็อดทนเพื่ออีกหลายๆชีวิตที่ผมดูแล อดทนใช้หนี้ที่สร้างมาด้วยกัน อดทนหาเงินเลี้ยงทั้งแฟนและผู้ชายคนนั้น เพราะต้องจ่ายเงินเดือนให้เขาด้วยที่มาช่วยออกไปทำงานกับแฟนผมที่ ตจว. จากผู้ชายที่มีคนนับหน้าถือตา กลับถูกมองว่าเป็นคนยอมให้แฟนมีคนอื่นและพามาอยู่ด้วย และแปลสภาพตัวเองให้อยู่ในฐานะ "เพื่อน" หลายๆคนเริ่มหมดความนับถือ เพื่อนๆผมเริ่มเอือมระอา เด็กๆในออฟฟิศหลายคนรับไม่ได้ลาออกไปเรื่อยๆ
ผู้ชายคนนั้นอยากได้รถใหม่ แฟนผมบอกไม่มีเงินซื้อให้ เขาคนนั้นก็บอกว่าหากไม่ซื้อให้จะเดินจากไป สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ แฟนผม ขอร้องผมให้ผมช่วยไปพูดให้ผู้ชายคนนั้นไม่ไป และมาปรึกษาผมว่าจะเอารถเข้าไฟแนนซ์เพื่อเอาเงินไปซื้อรถให้ผู้ชายคนนั้น ผมก็เลยบอกว่าก็แล้วแต่ละกัน และแฟนผมก็ได้ทำและซื้อรถใหม่ให้ผู้ชายคนนั้น ทั้งๆที่ผมเองอยากได้มาตั้งนานแต่ยังไม่เคยคิดที่จะซื้อให้ผมต้องเก็บเงินและซื้อเอาเอง
ระยะเวลา 2 ปีเต็มที่ผู้ชายคนนั้นเข้ามาอยู่ที่ออฟฟิศ ผมก็คบๆเขาเหมือนเพื่อนคนหนึ่งและคิดว่าเขาคงพร้อมที่จะดูแลแฟนผมได้แล้ว อีกอย่างการถูกทำร้ายแบบนี้มันมากกว่าการถูกแฟนแอบไปคบใครสักคนเสียอีก เรียกว่าไม่ให้เกียรติและไม่แคร์ความรู้สึกของผมเลย ระยะเวลาเหล่านั้นทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนหัวใจตัวเอง ความรักในแบบแฟนได้ค่อยๆหายไปเรื่อยๆ จนในที่สุดผมก็รู้สึกกับแฟนผมได้เหมือนเพื่อนที่สนิทกันมากเท่านั้น ผมคิดแล้วว่าผมจะคุยกับเธอ แล้วตกลงแยกทางกันให้เป็นเรื่องเป็นราว ผมจะได้เดินไปตามทางของผม ไม่ใช่การกักขังผมไว้แบบนี้ให้ผมทนอยู่แบบไปเรื่อยๆ เหมือนแฟนเก็บยังไงยังงั้น
แต่แล้วสิ่งที่ผมคิดจะบอก คิดจะคุยกับเธอ ผมก็ไม่ได้ทำ!!!
แฟนผมกับผู้ชายคนนั้นไปงานเลี้ยง แล้วก็เอารถไปชน ผู้ชายคนนั้นเสียชีวิตคาที่ ส่วนแฟนผมอยู่ ICU อาการหนักมาก
ญาติของแฟนผมโทรหาผมในตอนเช้า ผมรีบไป รพ. ญาติของเธออยู่หน้าห้องผ่าตัดหลายคน ทุกๆคนมาถามผมว่าทำไมแฟนผมถึงไปกับผู้ชายคนนั้น ไม่ได้ไปกับผม เพื่อนของแฟนผมได้เล่าให้ญาติของแฟนทราบว่าเรื่องราวเป็นมายังไง คำพูดของญาติแฟนผมแต่ละคนพูดว่า
"ไปหาแฟนใหม่เถอะ ทิ้งไปเถอะ"
แต่ด้วยความที่สงสารว่าแฟนผมเจ็บขนาดนี้ แล้วจะมีใครมาดูแล ทั้งแขนหัก หน้าต้องเสริมเหล็ก ศัลยกรรมไรอีกเยอะ เธอจะอยู่ได้ยังไง อาจจะด้วยความเป็นสุภาพบุรุษและความรับผิดชอบในหน้าที่ ผมเลยบอกญาติๆของแฟนผมไปว่า
"ผมจะขอดูแลเธอไปจนกว่าเธอจะดีขึ้น และสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองให้ได้ก่อนนะครับ"
จากวันนั้นจนวันนี้ 3 ปีแล้วครับที่ผมอยู่ดูแลเธอ ช่วยให้กำลังใจ และช่วยผลักดันให้เธอมีกำลังใจในการลุกขึ้นมาทำอะไรๆเพื่อตัวเธอเอง ถามว่าผมรักเธอเหมือนที่ผมเคยรักหรือไม่ ผมทำหัวใจให้รู้สึกแบบนั้นอีกไม่ได้ เพราะตลอด 3 ปีที่เธอมีเขา มันทำให้ผมเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองให้กลายเป็นความรักแบบเพื่อนไปแล้ว ถึงเธอเองจะพยายามทำอะไรๆให้ดีขึ้น แต่มันก็ยากที่จะทำให้หัวใจผมกลับกลายไปเป็นเหมือนเดิมแล้วครับ
ตอนนี้เธอเริ่มยืนด้วยตัวเองได้บ้าง เริ่มหาเงินเลี้ยงตัวเองได้บ้างเดือนละ 4-5 หมื่น ผมอยากจะส่งเธอให้ถึงฝันที่เธอจะหาเงินให้ได้มากๆเพื่อที่เธอจะได้ไม่ลำบาก ส่วนตัวผมเองผมอยากกลับไปรักตัวเอง รักครอบครัว กลับไปดูแลพ่อแม่ที่ผมทิ้งมาตั้งแต่มาดูแลแฟนผม ผมอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ต้องดิ้นรนหาเงินเดือนละแสนสองแสนเพื่อมาใช้หนี้ที่ทำร่วมกันมา
ถามว่าผมอยู่ได้ยังไงโดยไม่มีรัก ผมรักแฟนผมนะแต่ตอนนี้มันรักในฐานะเพื่อนคนหนึ่งที่รักมาก แต่ไม่ใช่รักแบบสเน่ห์หาอีกต่อไปแล้ว
เมื่อมันถึงเวลาที่เหมาะสม และทุกอย่างลงตัวแล้ว ผมก็จะขอชีวิตที่เหลือของผมคืน และพร้อมจะยินดีกับเส้นทางที่เธอเดินไปได้อย่างสบายและไม่ลำบาก ณ.วันนั้นผมอาจจะถูกตราหน้าว่าเป็น "คนเลว" ผมก็ยินดีจะยืดอกรับมันไว้ ถึงใครหลายๆคนจะไม่รู้ว่าที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกับผมมามากมายก็ตาม แต่สำหรับผมแล้วผมคิดว่า "ผมทำดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้ผู้หญิงสักคนหนึ่งแล้วครับ"
จริงๆมี Full Story แต่มันยาวมากๆคนอาจจะไม่สนใจอ่าน และผมก็ยังเขียนมันไม่เสร็จ http://pantip.com/topic/32993280