กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราแล้วเราก็คิดว่าสิ่งที่เราได้เล่าต่อไปนี้จะทำให้เราสามารถตามหาสุภาพบุรุษของเราและเพื่อนสาวของเราได้ยังไงก็ช่วยด้วยนะคะ



อยากจะบอกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตของความเป็นวัยรุ่น เราเองก็อยากจะไปพิชิตยอดภูกระดึงกับเค้าบ้างซักครั้ง ซึ่งเมื่อวันที่26-28ธันวาที่ผ่านมา เรากับกลุ่มเพื่อนสาวของเราอีก4คนก็ได้ตกลงกันว่าจะไปพิชิตยอดภูกระดึงกันโดยที่จัดเป็นทริปสาวโสด(เพราะทุกคนยังไม่มีแฟน) พอเริ่มไปเดินขึ้นภูกระดึงวันที่26ช่วงแรกๆพวกเรา5คนก็ยังมีพลังในการเดินขึ้นแแบบล้นหลามชนิดที่เรียกว่าตูดติดจรวดวิ่งขึ้นภูกันเลยทีเดียว แต่พอผ่านไปได้ซักพักพวกเราก็เหนื่อยเลยนั่งพักกันที่ดงไผ่ข้างทางและเราก็ได้เห็นกลุ่มของผู้ชายล้วนกลุ่มหนึ่งมี6คนซึ่งตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเค้ามากมายเราเลยเดินขึ้นไปต่อจนถึงซำแฮกเลยหยุดพักกัน แล้วพวกเราก็เริ่มสังเกตว่ากลุ่มพวกเรากับกลุ่มพี่เค้าเดินขึ้นภูมาเกือบจะพร้อมๆกัน(ที่เรียกพี่เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเด็กมหาลัยช่วงปี2-4 ส่วนเราอยู่ปี1ค่ะ) ช่วงที่พักอยู่ตรงซำแฮกเรา5คนก็ได้ทำการถ่ายรูปเซลฟี่กันกระจาย แล้วแบบพวกเราก็พยายามที่จะตั้งกล้องเพื่อถ่ายรูปให้ครบทั้งแก๊งซึ่งพยายามตั้งกล้องบนขอนไม้แล้วตั้งเวลาถ่าย พอถ่ายได้ซักพักนึงก็มีพี่ใส่เสื้อสีขาวจากกลุ่มของพี่เค้าที่นั่งพักอยู่ใกล้ๆลุกขึ้นแล้วเดินมาถามว่าถ่ายรูปให้มั้ยครับ? แล้วยิ้มแบบใจเจ๊จะละลายเพราะพี่เค้าน่ารักมาก55555พวกเราก็แบบเอิ่มเขินๆเล็กน้อยเพราะพยายามเซลฟี่แบบไม่อายชาวบ้านแล้วก็ไม่ได้ขอให้คนอื่นถ่ายรูปให้แต่พี่เค้าเดินมาถามเองซะงั้น พอถ่ายเสร็จพวกเราก็เดินต่อโดยที่มีกลุ่มของพวกพี่เค้าเดินตามหลังมาบ้างบางทีก็เดินแซงบ้างในส่วนที่ต้องปีนเขา ในความรู้สึกของพวกเราเหมือนพวกพี่เค้าคอยดูแลกลุ่มเราอยู่ห่างๆ แบบจะเดินขึ้นเขางี้มันจะมีทางให้เลือกเดินพี่เค้าก็เหมือนจะไปดูทางให้ก่อนว่ามันโอเคมั้ยแล้วก็ทำท่าตะโกนบอกเพื่อนว่าให้เดินตามมาทางนั้น(รึแอบบอกพวกเรา อันนี้เราก็แอบขี้มโนเล็กน้อยนะคะ5555) แล้วมีช่วงนึงที่เพื่อนเราเป็นตะคริวตอนปีนเขาชันๆพี่เสื้อขาวคนเดิมก็ทำท่าว่าจะมาดูแต่เพื่อนพี่เค้าก็เป็นตะคริวเหมือนกันเลยแซะพี่เสื้อขาวประมาณว่าเห้ยมาดูแลเพื่อนก่อนมั้ยตะคริว-จะตายแล้วครับอะไรประมาณนี้เลยไม่ได้ช่วยอะไรกลุ่มเราแต่เค้าก็แอบมองกลุ่มเราอยู่ห่างๆ พอขึ้นไปถึงยอดภูกระดึงพวกเรากับพวกพี่เค้าก็แยกย้ายกันไปเพราะพวกเราต้องไปจองเต้นท์ของอุทยาน ส่วนพวกพี่เค้าหอบเต้นท์มากันเอง
ณ จุดนี้เริ่มประทับใจพี่เสื้อขาวขึ้นมาเล็กน้อยค่ะตั้งแต่ถ่ายรูปให้จนถึงดูทางเดินเขาให้ค่ะ อยากจะบอกว่าแอบฟังพวกพี่เค้าคุยกันสำเนียงอีสานค่ะ เลยรู้ได้ว่าเป็นคนภาคไหนแล้วแอบได้ยินพวกพี่เค้าคุยเกี่ยวกับม.ขอนแก่นเลยคิดว่าพี่เค้าน่าจะอยู่ม.ขอนแก่นค่ะ
พออยู่บนภูพวกเรากเดินๆแล้วเจอพวกพี่เค้าบ่อยๆค่ะแบบก็น่ารักเนอะแอบมองกลุ่มพี่เค้าบ่อยๆแล้ววลีเด็ดกลุ่มเราคือคำว่า"รู้เรื่องเลย" เคยพูดต่อหน้ากลุ่มพี่เค้าครั้งนึงแล้วกลุ่มพี่เค้าก็พูดตาม พอถึงวันสุดท้ายคือวันที่พวกเราลงจากภูกระดึงก็ยังบังเอิญเดินลงภูกระดึงพร้อมกันอีก ก็รู้สึกฟินอ่ะนะที่เดินเจอพวกเค้าบ่อยๆเหมือนพรหมลิขิตเลยค่ะ แล้วตอนเดินลงภูทางมันก็จะชันมากขนาดต้องสไลด์ลงภู กลุ่มพวกพี่เค้าก็เดินตามลงมาแบบเว้นระยะห่างเล็กน้อยเพราะกลุ่มพี่เค้าสไลด์ลงภูแบบฝุ่นตลบ แล้วมีพี่ผู้ชายที่ใส่เสื้อเหลืองอีกคนนึงรีบลงภูมากสไลด์ยาวถึงขนาดวิ่งชนต้นไม้พวกเราก็แอบขำ แอบคิดว่ามันเป็นเทคนิคการลงเขาของพี่เค้า หน้าเค้าจะทิ่มต้นไม้แหกโค้งเลยทีเดียว มีช่วงนึงที่เค้าเดินมาใกล้ๆแล้วแบบพูดว่าเดี๋ยวเจอกันข้างล่างนะครับ ฟินไปเลยครับพี่น้องแต่พอลงจากภูก็ไม่ได้คุยไรกันต่อเลยเสียดายมากค่ะ อยากจะทำความรู้จักพวกพี่เค้าไว้ เผื่อทริปหน้าจะได้ชวนไปเที่ยวด้วยแหะๆ ใครรู้จักพวกพี่เค้าไงก็ทิ้งเฟสรึไอจีของพี่เค้าไว้ด้วยได้มั้ยคะอยากจะบอกขอบคุณพวกพี่เค้าที่ทำให้ทริปสาวโสดไม่น่ากลัวจนเกินไปเพราะมีพวกพี่เค้าอยู่ด้วย
ตามหาสุภาพบุรุษยอดภูกระดึง ที่ขึ้นภูกระดึงวันที่26-28ธันวาคม2557
อยากจะบอกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตของความเป็นวัยรุ่น เราเองก็อยากจะไปพิชิตยอดภูกระดึงกับเค้าบ้างซักครั้ง ซึ่งเมื่อวันที่26-28ธันวาที่ผ่านมา เรากับกลุ่มเพื่อนสาวของเราอีก4คนก็ได้ตกลงกันว่าจะไปพิชิตยอดภูกระดึงกันโดยที่จัดเป็นทริปสาวโสด(เพราะทุกคนยังไม่มีแฟน) พอเริ่มไปเดินขึ้นภูกระดึงวันที่26ช่วงแรกๆพวกเรา5คนก็ยังมีพลังในการเดินขึ้นแแบบล้นหลามชนิดที่เรียกว่าตูดติดจรวดวิ่งขึ้นภูกันเลยทีเดียว แต่พอผ่านไปได้ซักพักพวกเราก็เหนื่อยเลยนั่งพักกันที่ดงไผ่ข้างทางและเราก็ได้เห็นกลุ่มของผู้ชายล้วนกลุ่มหนึ่งมี6คนซึ่งตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเค้ามากมายเราเลยเดินขึ้นไปต่อจนถึงซำแฮกเลยหยุดพักกัน แล้วพวกเราก็เริ่มสังเกตว่ากลุ่มพวกเรากับกลุ่มพี่เค้าเดินขึ้นภูมาเกือบจะพร้อมๆกัน(ที่เรียกพี่เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเด็กมหาลัยช่วงปี2-4 ส่วนเราอยู่ปี1ค่ะ) ช่วงที่พักอยู่ตรงซำแฮกเรา5คนก็ได้ทำการถ่ายรูปเซลฟี่กันกระจาย แล้วแบบพวกเราก็พยายามที่จะตั้งกล้องเพื่อถ่ายรูปให้ครบทั้งแก๊งซึ่งพยายามตั้งกล้องบนขอนไม้แล้วตั้งเวลาถ่าย พอถ่ายได้ซักพักนึงก็มีพี่ใส่เสื้อสีขาวจากกลุ่มของพี่เค้าที่นั่งพักอยู่ใกล้ๆลุกขึ้นแล้วเดินมาถามว่าถ่ายรูปให้มั้ยครับ? แล้วยิ้มแบบใจเจ๊จะละลายเพราะพี่เค้าน่ารักมาก55555พวกเราก็แบบเอิ่มเขินๆเล็กน้อยเพราะพยายามเซลฟี่แบบไม่อายชาวบ้านแล้วก็ไม่ได้ขอให้คนอื่นถ่ายรูปให้แต่พี่เค้าเดินมาถามเองซะงั้น พอถ่ายเสร็จพวกเราก็เดินต่อโดยที่มีกลุ่มของพวกพี่เค้าเดินตามหลังมาบ้างบางทีก็เดินแซงบ้างในส่วนที่ต้องปีนเขา ในความรู้สึกของพวกเราเหมือนพวกพี่เค้าคอยดูแลกลุ่มเราอยู่ห่างๆ แบบจะเดินขึ้นเขางี้มันจะมีทางให้เลือกเดินพี่เค้าก็เหมือนจะไปดูทางให้ก่อนว่ามันโอเคมั้ยแล้วก็ทำท่าตะโกนบอกเพื่อนว่าให้เดินตามมาทางนั้น(รึแอบบอกพวกเรา อันนี้เราก็แอบขี้มโนเล็กน้อยนะคะ5555) แล้วมีช่วงนึงที่เพื่อนเราเป็นตะคริวตอนปีนเขาชันๆพี่เสื้อขาวคนเดิมก็ทำท่าว่าจะมาดูแต่เพื่อนพี่เค้าก็เป็นตะคริวเหมือนกันเลยแซะพี่เสื้อขาวประมาณว่าเห้ยมาดูแลเพื่อนก่อนมั้ยตะคริว-จะตายแล้วครับอะไรประมาณนี้เลยไม่ได้ช่วยอะไรกลุ่มเราแต่เค้าก็แอบมองกลุ่มเราอยู่ห่างๆ พอขึ้นไปถึงยอดภูกระดึงพวกเรากับพวกพี่เค้าก็แยกย้ายกันไปเพราะพวกเราต้องไปจองเต้นท์ของอุทยาน ส่วนพวกพี่เค้าหอบเต้นท์มากันเอง
ณ จุดนี้เริ่มประทับใจพี่เสื้อขาวขึ้นมาเล็กน้อยค่ะตั้งแต่ถ่ายรูปให้จนถึงดูทางเดินเขาให้ค่ะ อยากจะบอกว่าแอบฟังพวกพี่เค้าคุยกันสำเนียงอีสานค่ะ เลยรู้ได้ว่าเป็นคนภาคไหนแล้วแอบได้ยินพวกพี่เค้าคุยเกี่ยวกับม.ขอนแก่นเลยคิดว่าพี่เค้าน่าจะอยู่ม.ขอนแก่นค่ะ
พออยู่บนภูพวกเรากเดินๆแล้วเจอพวกพี่เค้าบ่อยๆค่ะแบบก็น่ารักเนอะแอบมองกลุ่มพี่เค้าบ่อยๆแล้ววลีเด็ดกลุ่มเราคือคำว่า"รู้เรื่องเลย" เคยพูดต่อหน้ากลุ่มพี่เค้าครั้งนึงแล้วกลุ่มพี่เค้าก็พูดตาม พอถึงวันสุดท้ายคือวันที่พวกเราลงจากภูกระดึงก็ยังบังเอิญเดินลงภูกระดึงพร้อมกันอีก ก็รู้สึกฟินอ่ะนะที่เดินเจอพวกเค้าบ่อยๆเหมือนพรหมลิขิตเลยค่ะ แล้วตอนเดินลงภูทางมันก็จะชันมากขนาดต้องสไลด์ลงภู กลุ่มพวกพี่เค้าก็เดินตามลงมาแบบเว้นระยะห่างเล็กน้อยเพราะกลุ่มพี่เค้าสไลด์ลงภูแบบฝุ่นตลบ แล้วมีพี่ผู้ชายที่ใส่เสื้อเหลืองอีกคนนึงรีบลงภูมากสไลด์ยาวถึงขนาดวิ่งชนต้นไม้พวกเราก็แอบขำ แอบคิดว่ามันเป็นเทคนิคการลงเขาของพี่เค้า หน้าเค้าจะทิ่มต้นไม้แหกโค้งเลยทีเดียว มีช่วงนึงที่เค้าเดินมาใกล้ๆแล้วแบบพูดว่าเดี๋ยวเจอกันข้างล่างนะครับ ฟินไปเลยครับพี่น้องแต่พอลงจากภูก็ไม่ได้คุยไรกันต่อเลยเสียดายมากค่ะ อยากจะทำความรู้จักพวกพี่เค้าไว้ เผื่อทริปหน้าจะได้ชวนไปเที่ยวด้วยแหะๆ ใครรู้จักพวกพี่เค้าไงก็ทิ้งเฟสรึไอจีของพี่เค้าไว้ด้วยได้มั้ยคะอยากจะบอกขอบคุณพวกพี่เค้าที่ทำให้ทริปสาวโสดไม่น่ากลัวจนเกินไปเพราะมีพวกพี่เค้าอยู่ด้วย