คนที่บอกว่า เตะถี่นักเตะไม่ฟิตลองอ่านบทสัมภาษณ์ผู้จัดการสเปอร์สที่ต้องเล่นทั้ง UEL และลีกคัพ ดูนะครับ
ตบหน้าหัน!"พอช"ขำๆพักวันเดียวไก่ผมเตะหลายถ้วยไม่เคยบ่น
http://pantip.com/topic/33039732/comment11
0 โดยสรุปครึ่งแรก ไลน์ของกองหลังสเปอร์สใกล้กับกองกลางมากเกินไป แมนฯยูโดยมาต้าจึงใช้การตักบอลยาวจากแดนกลางรวมถึงยังที่ cross บอลให้คู่หน้า (RVP กับฟัลเกา) ได้มีโอกาสยิงหลายครั้ง แต่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ จึงไม่ได้ประตู ส่วนรูนีย์พยายามดันขึ้นมาแต่ก็ค่อยไม่ได้บอล
ครึ่งหลัง ไลน์กองหลังสเปอร์สลงไปแพ็คมากขึ้น และกองกลางเพรสซิ่งเร็ว แมนฯยูจึงบุกไม่ค่อยได้ แถม 20 นาทีสุดท้าย แผงหน้าสเปอร์สทำเกมรุกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ได้ยิงหลายลูก แต่เดเกอาก็เซฟไว้ได้
Worse of the Match กลับมาเป็น LVG อีกครั้ง เพราะช่วงครึ่งหลังเขาน่าจะเอาเฟล็ทเชอร์ลงเป็นคู่คาริก (ไม่ใช่เปลี่ยนคาริกออกแล้วเอาเฟล็ทเชอร์ลงแทนนะครับ มีกลางรับ 2 ตัวช่วยกัน ย่อมดีกว่าให้รูนีย์ที่เล่นตำแหน่งนี้ไม่ดีพอเป็นแน่)
แล้วดันรูนขึ้นเป็นกองหน้าแทน RVP หรือ ฟัลเกาสักคน เพื่อที่การยิงจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แทนที่จะเปลี่ยนกองหลังถึง 3 ตัว
Worse of the Match ที่เป็นนักเตะคืออีแวนส์ตามเคย เขาแก้ไขเกมรุกของสเปอร์สด้วยการเตะทิ้งมั่วๆ จนโดน LVG เปลี่ยนตัว
Man of the Match ให้เดเกอา เพราะช่วยเซฟไว้หลายลูกเหมือนกัน
1. เริ่มแมทช์ LVG ยังคงใช้ตัวจริงเหมือน 45 นาทีแรกกับวิลล่าและชนะนิวคาสเซิ่ล โดยใช้เซ็นเตอร์ 3 คน ซึ่งโดนทดสอบด้วยแผงหน้าของสเปอร์สที่จ่ายตัดหลังแบ็คไปทำอันตรายต่อเดเกอาได้หลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วง 20 นาทีสุดท้าย
2. วาเลนเซียที่เป็นวิงแบ็คขวาแทบไม่ได้ cross บอล จึงโดนเปลี่ยนออกในต้นครึ่งหลังให้ราฟาเอลลงมา ซึ่งก็ cross บอลสวยๆ ได้ 2-3 ครั้ง ส่วนยังวิงแบ็คซ้ายครึ่งแรก cross บอลได้ 2-3 ครั้ง แต่ครึ่งหลังหายเงียบ
3. รูนีย์ที่เกมก่อนเติมเกมรุกและยิงประตูได้ดี (เพราะนิวคาสเซิ่ลไม่ค่อยแพ็คแน่น และไม่เพรสซิ่งด้วย) เกมนี้แทบไม่มีบทบาทในเกมรุก
4. กองหน้า 2 คน (RVP กับฟัลเกา) ขยันแต่ประสิทธิภาพค่อนข้างน้อย แทบไม่สร้างความหนักใจให้ประตูของสเปอร์ส ส่วนมาต้าที่ครึ่งแรกสร้างสรรค์ได้ดี ครึ่งหลังก็เงียบไป รวมถึงมีครั้งหนึ่งที่ยิงลูก cross ของราฟาเอลข้ามคานไปไกล
5. ครึ่งหลัง นอกจากจะเปลี่ยนราฟาเอลลงมา (นอกจาก cross ได้ 2-3 ครั้งก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอีก แถมมีช็อทเหวออีก 1-2 ครั้ง) แล้ว LVG ก็เปลี่ยนอีแวนส์ที่อาจจะทำให้ทีมเสียประตูได้ออก ให้สมอลลิ่งลงแทน
และสุดท้ายเปลี่ยนแม็คแนร์ออกให้ชอว์ลงแทน (แต่ก็ยังเล่นเซ็นเตอร์ 3 ตัวอยู่ดี)
ขอถามพี่จะเปลี่ยนกองหลังลงมาทำแมวน้ำอะไรนักหนา อยากเป็นแชมป์ไม่ใช่รึ ?
6. 20 นาทีสุดท้าย สเปอร์สได้ยิงอีก 3-4 ครั้ง แต่เดเกอาก็เซฟไว้ได้อย่างที่ได้บอกไปแล้ว
สุดท้ายต้องบอกว่า โชคดีที่ทั้งเชลซีและแมนซิตี้ก็เสมอทำให้ช่วงห่างของคะแนนยังเหมือนเดิม
ได้แต่หวังว่า แมทช์หน้ากับสโต็ค เมื่อราฟาเอลกับชอว์ลงได้แล้ว LVG จะหันมาใช้แบ็คโฟร์เสียที และควรเอารูนีย์ลงแทน RVP หรือฟัลเกาคนใดคนหนึ่ง (พัก 1 ใน 2 คนนี้เป็นตัวสำรองเปลี่ยนเกม ส่วนกองกลางถ้าไม่มีใครจริงๆ ก็เอาเฟล็ทเชอร์มาคู่คาริก เพราะสโต๊คทีมอันดับ 11 ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก (ยิง 21 เสีย 23 ลูก)
แมทช์กับสเปอร์สน่าจะทำให้ LVG รู้ว่า รูนีย์ไม่เหมาะกับเล่นเป็นกองกลางหรอก
[กระทู้สนทนาผีแดง 2014-12-29] มาสนทนากันหลังแมทช์สเปอร์ส 0-0 แมนฯยูไนเต็ดกัน
ตบหน้าหัน!"พอช"ขำๆพักวันเดียวไก่ผมเตะหลายถ้วยไม่เคยบ่น
http://pantip.com/topic/33039732/comment11
0 โดยสรุปครึ่งแรก ไลน์ของกองหลังสเปอร์สใกล้กับกองกลางมากเกินไป แมนฯยูโดยมาต้าจึงใช้การตักบอลยาวจากแดนกลางรวมถึงยังที่ cross บอลให้คู่หน้า (RVP กับฟัลเกา) ได้มีโอกาสยิงหลายครั้ง แต่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ จึงไม่ได้ประตู ส่วนรูนีย์พยายามดันขึ้นมาแต่ก็ค่อยไม่ได้บอล
ครึ่งหลัง ไลน์กองหลังสเปอร์สลงไปแพ็คมากขึ้น และกองกลางเพรสซิ่งเร็ว แมนฯยูจึงบุกไม่ค่อยได้ แถม 20 นาทีสุดท้าย แผงหน้าสเปอร์สทำเกมรุกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ได้ยิงหลายลูก แต่เดเกอาก็เซฟไว้ได้
Worse of the Match กลับมาเป็น LVG อีกครั้ง เพราะช่วงครึ่งหลังเขาน่าจะเอาเฟล็ทเชอร์ลงเป็นคู่คาริก (ไม่ใช่เปลี่ยนคาริกออกแล้วเอาเฟล็ทเชอร์ลงแทนนะครับ มีกลางรับ 2 ตัวช่วยกัน ย่อมดีกว่าให้รูนีย์ที่เล่นตำแหน่งนี้ไม่ดีพอเป็นแน่)
แล้วดันรูนขึ้นเป็นกองหน้าแทน RVP หรือ ฟัลเกาสักคน เพื่อที่การยิงจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แทนที่จะเปลี่ยนกองหลังถึง 3 ตัว
Worse of the Match ที่เป็นนักเตะคืออีแวนส์ตามเคย เขาแก้ไขเกมรุกของสเปอร์สด้วยการเตะทิ้งมั่วๆ จนโดน LVG เปลี่ยนตัว
Man of the Match ให้เดเกอา เพราะช่วยเซฟไว้หลายลูกเหมือนกัน
1. เริ่มแมทช์ LVG ยังคงใช้ตัวจริงเหมือน 45 นาทีแรกกับวิลล่าและชนะนิวคาสเซิ่ล โดยใช้เซ็นเตอร์ 3 คน ซึ่งโดนทดสอบด้วยแผงหน้าของสเปอร์สที่จ่ายตัดหลังแบ็คไปทำอันตรายต่อเดเกอาได้หลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วง 20 นาทีสุดท้าย
2. วาเลนเซียที่เป็นวิงแบ็คขวาแทบไม่ได้ cross บอล จึงโดนเปลี่ยนออกในต้นครึ่งหลังให้ราฟาเอลลงมา ซึ่งก็ cross บอลสวยๆ ได้ 2-3 ครั้ง ส่วนยังวิงแบ็คซ้ายครึ่งแรก cross บอลได้ 2-3 ครั้ง แต่ครึ่งหลังหายเงียบ
3. รูนีย์ที่เกมก่อนเติมเกมรุกและยิงประตูได้ดี (เพราะนิวคาสเซิ่ลไม่ค่อยแพ็คแน่น และไม่เพรสซิ่งด้วย) เกมนี้แทบไม่มีบทบาทในเกมรุก
4. กองหน้า 2 คน (RVP กับฟัลเกา) ขยันแต่ประสิทธิภาพค่อนข้างน้อย แทบไม่สร้างความหนักใจให้ประตูของสเปอร์ส ส่วนมาต้าที่ครึ่งแรกสร้างสรรค์ได้ดี ครึ่งหลังก็เงียบไป รวมถึงมีครั้งหนึ่งที่ยิงลูก cross ของราฟาเอลข้ามคานไปไกล
5. ครึ่งหลัง นอกจากจะเปลี่ยนราฟาเอลลงมา (นอกจาก cross ได้ 2-3 ครั้งก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอีก แถมมีช็อทเหวออีก 1-2 ครั้ง) แล้ว LVG ก็เปลี่ยนอีแวนส์ที่อาจจะทำให้ทีมเสียประตูได้ออก ให้สมอลลิ่งลงแทน
และสุดท้ายเปลี่ยนแม็คแนร์ออกให้ชอว์ลงแทน (แต่ก็ยังเล่นเซ็นเตอร์ 3 ตัวอยู่ดี)
ขอถามพี่จะเปลี่ยนกองหลังลงมาทำแมวน้ำอะไรนักหนา อยากเป็นแชมป์ไม่ใช่รึ ?
6. 20 นาทีสุดท้าย สเปอร์สได้ยิงอีก 3-4 ครั้ง แต่เดเกอาก็เซฟไว้ได้อย่างที่ได้บอกไปแล้ว
สุดท้ายต้องบอกว่า โชคดีที่ทั้งเชลซีและแมนซิตี้ก็เสมอทำให้ช่วงห่างของคะแนนยังเหมือนเดิม
ได้แต่หวังว่า แมทช์หน้ากับสโต็ค เมื่อราฟาเอลกับชอว์ลงได้แล้ว LVG จะหันมาใช้แบ็คโฟร์เสียที และควรเอารูนีย์ลงแทน RVP หรือฟัลเกาคนใดคนหนึ่ง (พัก 1 ใน 2 คนนี้เป็นตัวสำรองเปลี่ยนเกม ส่วนกองกลางถ้าไม่มีใครจริงๆ ก็เอาเฟล็ทเชอร์มาคู่คาริก เพราะสโต๊คทีมอันดับ 11 ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก (ยิง 21 เสีย 23 ลูก)
แมทช์กับสเปอร์สน่าจะทำให้ LVG รู้ว่า รูนีย์ไม่เหมาะกับเล่นเป็นกองกลางหรอก