ผมว่าผมเป็นโรคซึมเศร้านะ

ผมคิดว่า ผมเป็นโรคซึมเศร้าไปแล้วล่ะครับเพื่อนๆ ...

การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้แปลว่าคุณไม่ดีนะครับ ผมเริ่มจะยอมรับตัวเองว่าเป็นโรคซึมเศร้าได้ไม่นานนี่ล่ะ และหาทางรักษาด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพึงพายา ในการรักษา และเป็นการพัฒนาจิตใจให้มีพลังมากขึ้น

โรคซึมเศร้า เป็นยังไง ผมขอเอาประสบการณ์ที่ผมเจอมาเป็นวิทยาทานนะครับ

โรคซึมเศร้า ขั้นไม่รู้ตัว
แปลกประหลาดใช่มั้ยครับ แต่นี่เป็นประสบการณ์ตรงของผม ผมเป็นโรคซึมเศร้ามาแต่เด็กๆ สาเหตุก็มาจาก ผมถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวบ่อยมากตั้งแต่จำความได้ กลายเป็นคนที่โหยหาความรักตลอดเวลา และมักจะมองสังคมในมุมที่แปลกแยก ตีตัวห่างจากสังคม เพื่อนๆ ก็ชอบด่าว่าผมเก๊ก จริงๆ ผมไม่ได้เก๊ก แค่ทำตัวไม่ถูก เวลาต้องอยู่ต่อหน้าสังคม และมักสร้างตัวตนบางอย่างมาปกป้องตัวเองไว้

คำแนะนำ ผมคิดว่ามีหลายคนที่เป็นแบบนี้ อย่าไปคิดว่าเค้าเก๊กอะไรเลยครับ บางคนมีเพื่อนมากมาย แต่เค้าเหล่านั้น ต้องใช้ชีวิตคนเดียว ไม่มีใครเลือกที่จะเป็นแบบนั้นหรอกครับ มันทั้งเศร้าและเหงา ถ้าเปลี่ยนความคิดได้ก็เปลี่ยนเถอะครับ บางคนสร้างกำแพงขึ้นมาหนามาก อย่าไปว่าเค้าเลยครับ วันนึงเมื่อเค้ารู้สึกปลอดภัย เค้าเองพร้อมจะเป็นเพื่อนตายกับคุณจริงๆ

โรคซึมเศร้า ขั้นปานกลาง
ผมใช้ชีวิตกับโรคซึมเศร้ามามากกว่า  15  ปี ตอนนั้นยังไม่มีโรคนี้เกิดขึ้น ไม่มีการรักษา หลายคนต้องฆ่าตัวตายไปเสียก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะจัดการกับชีวิตได้อย่างไร บางคนเป็นโรคซึมเศร้าจากการอกหัก บางคนก็มาจากการที่สังคมไม่ยอมรับ จากการเจ็บป่วย และอีกมากมาย ซึ่งถ้ามองในเรื่องของกรรม ก็ต้องยอมรับนะครับ ว่าเลี่ยงกันไม่ได้หรอก แต่าทงแก้ไข มันก็ต้องมีสิ เพราะถ้าการฆ่าตัวตายแล้วปัญหาจบ ผมคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว

ในขั้นนี้ ผมเกิดขึ้น ช่วงตอนกำลังเข้ามัธยมครับ ชีวิตในวัยเด็กผมติดแม่มาก แม่คือทุกอย่างในชีวิต แต่ผมมักถูกพรากจากแม่เสมอ ผมร้องไห้จนทรมาน เพราะ ในช่วงนั้น คนที่อยู่ใกล้ผม แล้วทำให้รู้สึกปลอดภัยก็มีแต่แม่นี่ล่ะ ชนวนมันมาจากตรงนี้ล่ะครับ มาถึงตรงนี้ ถ้ามีคนแย้งขึ้นมาว่าผมอ่อนแอจัง ก็ต้องยอมรับเลยล่ะครับว่าอ่อนแอ ผมเป็นเด็กตัวเล็ก ตาโศก ทำให้มีเด็กคนอื่นมาแกล้งบ่อย แรกๆ ผมก็สู้คน แต่พอบ่อยเข้า ผมคิดว่าการหลบเลี่ยงน่าจะช่วยให้เราไม่เจ็บตัว ความคิดผมช่วงนั้นไม่เป็นนักสู้เอาเสียเลย

มาเล่าต่อ ช่วงที่ผมเข้ามัธยม ผมถูกส่งไปอยู่กับญาติที่ห่างมากๆ อารมณ์เดียวกับแฮรี่เลยครับ ผมถูกให้ไปนอนในห้องเล็กๆ ขนาดพอพลิกตัวได้ มันแย่นะครับ กับการต้องใช้ชีวิตแบบนั้น ผมเข้ากับใครไม่ได้เลย เพราะเค้าคิดว่า ผมแค่มาอาศัย ชีวิตช่วงนั้น มืดมนมาก สิ่งที่เข้ามาทนแทนความเศร้าในช่วงนั้น คือการเข้าวงโยธวาทิตครับ ผมเริ่มเรียนโรงเรียนมัธยมได้ก็เพราะ วงโยนี่ล่ะ

ในช่วงที่แย่ที่สุดช่วงนั้น กลับมีป้า ที่เป็นคนรับผมมาอยู่ด้วยเป็นคนที่ช่วยเหลือผม ผมรักป้ามาก เพราะ เป็นคนเดียวที่ผมรู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วมีความรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่ แต่ลูกป้านี่สิ สรรหาวิธีมาแกล้งมากมาย แต่ก็สนุกดี เพราะ มันทำให้ผมแข็งแกร่งมาได้บ้าง เพราะเราต้องเริ่มสู้คนอีกครั้ง

แต่ชีวิตในโรงเรียนนี่เหมือนฝันร้ายเลย ผมนี่เหมือนเป็นเป้าให้กับพวกเด็กเกเร เจ้าพวกนี้ตัวใหญ่ และพวกก็เยอะ ผมสู้พวกมันไม่ไหวจริงๆ แต่สุดท้ายมันก็ได้แค่ขู่นะ เพราะผมก็พร้อมจะสู้ และพร้อมจะวิ่งไปด้วย 555

คำแนะนำ ช่วงนี้เราอาจไม่คิดว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า เพราะ บางอย่างเข้ามาเยียวยา ถ้ากำลังเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ ให้รีบปรักษาคนที่เราไว้ใจครับ ผมว่าต้องมีสักคนนั่นล่ะ ที่พร้อมจะฟังเรา ถ้าปล่อยไว้ มันจะกลายเป็นนิสัยลึกๆ ของเราไปเลย แก้ยากครับ ผมเองต้องอาศัยการปรับความคิดใหม่เลย เพราะ มันผ่านเรื่องที่ไม่น่าจำมาเยอะ จำไว้นะครับ จงยอมรับ และเข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น แล้วคุณจะรักษามันได้ตรงจุด

โรคซึมเศร้า ขั้นหลอก
ในชีวิตของคนเรา เมื่อผ่านเรื่องที่แย่ๆ มาได้ เราจะเริ่มรู้วิธีการสร้างตัวตนใหม่ ซึ่งก็เป็นแค่การปิดบังตัวตนเองไว้ ใช่ครับ ผมทำมาแล้ว ผมเป็นเด็กอ้วนดำมาก่อน และหนักมากถึง 80 โล ไม่แปลกเลยที่จะมีแต่คนมาแกล้งบ่อย แต่นั่นล่ะ เราต้องปรับตัว ผมใช้เวลาปิดเทอมใหญ่ ม. 6 ฟิตตัวเอง ไปรักษาหน้าใหม่ และลดน้ำหนักมาเรื่อยๆ จาก 80 ก็ลงมาถึง 56 ในเวลา 1 ปีกว่า ชีวิต เปลียนไปมาก คนเริ่มเข้าหา ชีวิตมีความสุขแต่ลึกๆ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ความรู้สึกข้างในมันยังมีอยู่ แต่ก็เบาลงเยอะ เพราะ ชอบความรู้สึกการเป็นที่ยอมรับ มากกว่า ผมเปลี่ยนจากเด็กห่วยมาเป็นเด็กที่เรียน ได้เกือบ 4.00 ตอนนั้น ผมคิดอย่างเดียว กูจะเปลี่ยนตัวเอง กูจะไม่ยอมรับด้านที่มืดมิดของตัวเอง ผมทำได้สักพัก ก็เริ่มอยากมีความรัก ตอนนั้นปี 3 และ ได้เจอกับสาวสวยดีกรี ดาวมหาลัยเลยล่ะ

ผมเป็นคนขี้อาย ได้รู้จักกับน้องเค้าก็เพราะ เพื่อน เรารู้จักกันไม่นาน ก็ต้องเลิกลา เอาแล้วสิ โรคเก่าถามหา ตอนนั้น คิดว่าจะไม่เกิดโรคซึมเศร้าแล้ว เพราะ เพื่อนเยอะ แต่ผิดกันเลย มันเป็นหนักที่สุด มากกว่าที่เคยเจอเลย ใช้เวลาปีนึงได้ล่ะครับ ถึงสงบ และประคองตัวเองจนรอด ถือว่าโรคซึมเศร้าสงบได้อีกครั้ง

คำแนะนำ การรู้ว่าตัวเองเป็นใคร และไม่ลืมสิ่งที่ตัวเองเคยเป็น มันคือความภูมิใจของเรานะครับ ชีวิตมันวนเวียนแบบนี้ล่ะ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ถ้าเรารอบคอบระมัดระวัง พัฒนาตัวเองให้ดี เราจะหายจากโรคซึมเศร้าได้ไม่ยากนะครับ

โรคซึมเศร้า ขั้นดื้อยา
หลังจากเรียนจบ โรงซึมเศร้า เหมือนจะมาวนรอบใหม่ครั้ง เหตุการณ์มันวนเหมือนเดิมเป๊ะๆ เลย แต่มันดีตรงที่เรารู้ว่าจะจัดการอย่างไร อายุที่มากขึ้นทำให้เรากลัวน้อยลง โรคซึมเศร้าของผมกลับมาเป็นอีกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มันย้ายเข็มจากการใช้ชีวิตมาเรื่องงาน เพราะเราใช้ชีวิตที่เริ่มต่างจากคนอื่นๆ มีเป้าหมายมากขึ้น เลิกเที่ยว เลิกกินเหล้า และมีแฟนที่ตัวติดกันมาก ผมคิดว่าโอเคร มันเยี่ยมแล้วลงชีวิตลงตัว

แต่ใครจะคาดคิด ชีวิตการทำงาน มันเหมือนการรบเลย ถ้าคุณไม่มีของ คุณจะถูกปล่อยลอยแพ ผมโดนมากับตัว เจ็บตัดขั้วหัวใจมาก ไม่มีใครเค้ามานึกถึงความสำเร็จในอดีตเราครับ เค้ามองปัจจุบันทั้งนั้น วันนี้ถ้าคุณไม่เก่ง ขาเก้าอี้คุณก็เริ่มหักทีละข้างแล้วล่ะ

มันมืดแปดด้านเลย ผมแก้ปัญหาใหม่โดยไปเรียนต่อ เหมือนจะดีเลยครับ ชีวิตกลับมายืนได้ แต่หัวใจมันหักซะ เพราะ แฟนที่อยู่ร่วมกันมาอยากจะขอเลิก ด้วยเหตุผลของเวลา เอาสิครับ มีรัก ก็ต้องมีจาก เอาอีกแล้วเนาะ คนนี้ ทำเอาผมช็อค เพราะ เรารักกันมาก สุดท้ายก็ต้องปล่อยเธอไปจริงๆ

หลายสิ่งหลายอย่างที่พยายามฝึกใจมา ก็ไม่ช่วยอะไรเลย เป๋ไปพักนึกเลยครับ ช่วงนี้ซึมเศร้าอย่างหนัก ผมไม่บอกใครเลยอยู่ เกือบปี จนสุดท้ายถึงได้เล่าให้เพื่อนฟัง ผมคิดว่าตัวเองจะไม่ไหวนะ แต่เพราะแม่นี่ล่ะ ผมเลยพลิกตัวเองใหม่ พอเริ่มหายดี ผมก็ดันไปชอบน้องที่ออฟฟิต ได้คบกันสักพักก็เลิก เหมือนถูกจี้เลย เพ้อไปเกือบๆ สามอาทิตย์ จนวันนี้ล่ะครับ ถึงมาจัดความสำคัญของชีวิตใหม่

ตัดไฟเสียแต่ต้นลม เพราะไม่รู้ว่าอาการเราจะกำเริบอีกมั้ย ผมเล่ามันเหมือนจะผ่านง่ายนะครับ มันมีหลายช่วง ที่คิดจะฆ่าตัวตาย แต่ก็เปลี่ยนใจเสมอ เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองจะทำได้ คิดถึงความฝันที่ยังไม่ได้ทำ คิดถึงพ่อแม่ และคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของเรา

โรคนี้ผมว่าใครๆ ก็เป็นได้ แต่ขอให้ยอมรับกับตัวเองนะครับ ทางออกมันมี แล้วเราจะยิ้มได้ เมื่อมันผ่าน และสร้างความสุขได้ด้วยตัวเราเอง
ยาวหน่อยนะครับ เพราะผมตั้งใจว่า ถ้ามีเพื่อนคนไหนเจอเหตุการณ์เหมือนกัน จะได้มีความหวังจะใช้ชีวิตต่อไป

ก่อนจบ ผมขอสรุปประสบการณ์ที่ผ่านมาให้เพื่อนๆ  เพื่อใครกำลังเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะได้รับมือได้ทัน ว่าผมผ่านช่วงเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้อย่างไร
1. เพื่อนที่ดี มักมาหาเราในยามที่เราทุกข์ใจเสมอ เค้าอาจด่าเราบ้างก็จงฟังเอาไว้ เพราะ นั่นเค้ากำลังเตือนสติเรา จงรักษาเพื่อนแบบนี้ไว้ครับ เวลาที่เรามีความสุขจงนึกถึงเขา และให้ความสุขไปถึงเพื่อนเราด้วย
2. หากจะดูว่าคนรัก รักเราหรือเปล่าให้ดูช่วงที่เราลำบากที่สุด ถ้าเขายังอยู่ และไม่ไปไหน นั่นล่ะ คนนี้คุณควรรักษาไว้
3. อย่าเชื่อหมอดูมาก ไม่มีใครเปลี่ยนชีวิตคุณได้นอกจากตัวเอง ต่อให้หมอดูแม่นที่สุดในโลก แต่ถ้าพฤติกรรมคุณห่วย การดูดวงก็แทบเป็นการเพ้อฝัน ลิขิตชีวิตด้วยตัวเองครับ ถ้าจะดู ก็อย่าเพิ่งเชื่อหมด สร้างเหตุการณ์ที่ดีเอาไว้รองรับเรื่องเหล่านั้นด้วย
4. การจดเป้าหมาย เป็นเรื่องที่ดี แต่อย่าใจร้อน เพราะ ก่อนจะเจอความสำเร็จจริงๆ เค้ามักจะส่งความสำเร็จปลอมๆ มาให้เราซ้อมความรู้สึกก่อน ถ้ารับมือได้ ความสำเร็จของจริง จะตามมา
5. คิดแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ ยิ่งเห็นเป็นภาพในหัวได้จะยิ่งดี
6. อย่ามองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป เพราะ ชีวิตไม่ได้แย่ตลอดทั้งวัน
7. อย่าเอาเวลา ไปทุ่มกับงาน 24 ชม. แบ่งไว้ให้คนที่เรารักบ้าง มันไม่ตายหรอก
8. อย่ารีบร้อนรับใครเข้ามาในชีวิต ตอนอกหัก เพราะ มันจะเจ็บหนักกว่าเดิม
9. เงินทอง ให้รู้จักใช้ มีสติมากๆ จดได้ให้จด อย่ารีบซื้อของที่ไร้สาระ เพราะ มันจะหมดไปไว กว่าที่คุณคิด
10. อ่านหนังสือดีๆ ให้ได้ทุกๆ วัน เพราะ มันจะเป็นรากฐานชีวิตที่ดี
11. สวดมนต์ให้ได้ทุกวัน เพราะ เราไม่รู้ว่าเราจะมีกรรมหนักมาส่งผลช่วงไหน
12. รักตัวเอง ดีกว่ารักคนอื่นครับ

สุดท้ายรักทุกคนนะครับ ใครเป็นโรคนี้ เรามาช่วยกันรักษา และพัฒนาตัวเองให้เป็นที่รักของตัวเอง และสังคม ครอบครัวกันครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เราจะทราบได้ไงว่าเราเป็นโรคซึมเศร้ารึป่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่