เรื่องมีอยู่ว่า เรื่องราวเกิดเมื่อช่วง มีค 2010 ได้ครับ จิงๆผมก็เป็นแค่เกย์ธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งครับ ขาวตี๋ สูงโปร่ง...ที่มีไลฟ์สไตล์เหมือนเกย์ทั่วไป ทำงานออฟฟิซ ใจกลาง กทม จนมาวันนึง....ผมได้มีโอกาสได้สมัครเล่นฟิตเนสดังย่านใจกลางเมือง ซึ่ง ณ ปัจจุบันเจ๊งแล้วครับที่นี่ ผมได้ไปบังเอิญชอบ ผช คนนึงครับ แอบมองอยู่ 3เดือน จนเก็บไปฝันเหมือนเดจาวู !!!! ฝันว่าเราได้รู้จักกันครับ555 แน่นอนครับหน้าตาเค้าดีมากๆหุ่นดีมากๆดูสุภาพกวนๆ(แต่หน้าเค้าจะดูแบดบอยหน่อย ผมชอบสเปคแบบนี้ครับ555)
จนอยู่มาวันนึงครับ ผมได้รู้จักกันกับเค้า โอ้โหว!!!มันเหมือนฝันมากอ่ะ เนื่องจากผมเปนคนชอบใครแล้วจะไม่กล้าคุยด้วยก่อนเลย แต่เนื่องด้วยผมเปนเมมเบอร์ทึ่ค่อนข้างสนิทและรู้จักเทรนเนอร์ไปทั่ว 555 ก็เลยวางแผนเด็ดสิครับ เทรนเนอร์เค้ากะเทรนเนอร์ผมสนิทกันครับ. เทรนเนอร์ผมด้วยความที่รู้อยู่แล้วว่าผมชอบ ผช คนนี้นะ ก็จัดให้สิครับ แล้วก็ได้มาทานร้านที่โรแมนติกม๊ากกกกก มันคือร้าน.... ร้ า น ล า บ ส้ ม ต ำ ครับ555 นั่งทานกันอยู่หลายคนนะครับ ทั้งเทรนเนอร์เค้าและผม รวมประมาณ6-7 คนเห็นจะได้
ฟิลลิ่งตอนนั้นนี่แบบ ว่า ยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลทึ่1 อีกอ่ะ5555 คำแรกที่เค้าพูดมาว่า "สวัสดีครับ ผมชื่อ บี ครับ( ชื่อสมมุติ) " มันเหมือน เพลงหากันจนเจอ มาบรรเลงออเครสต้ากระหึ่มอยู่ใกล้ๆโต๊ะลาบส้มตำเลยอ่ะครับ 555 อื้ออึงมากกกกก เหมือนในหนังเลยครับ วันนั้นทานเสด มีดื่มเบียร์ทั่วไป อยู่กันดึกหน่อย แล้วเค้ากับผมบ้านอยู่ทางเดวกันครับ 555 เค้าถามผมว่า กลับทางเดวกันกับผมมั้ย เด๋วผมไปส่งกลางทาง โอ้โหวววว!!!! เพลงตอบได้มั้ยว่าได้มั้ย ( ของพี่เบลสุพล) ก็เริ่มบรรเลงออเครสต้าอีกครั้งเลยทีนี้ กลับบ้านมาที่สัมผัสได้คือ เค้าเปน ผช ที่แมนและสุภาพบุรุษมั่กๆและสิ่งที่สัมผัสได้อย่างนึงคือ " เค้าเป็นคนดีมากๆที่หล่ออกมาจากภายในจริงๆครับ
และความสัมพันธ์เราก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆแบบเพื่อนครับ แต่อย่านึงที่ผมได้ข้อมูลจากเค้าเป็นข้อมูลแรกๆคือ เค้าโสดครับ เพิ่งเลิกกันกะแฟน ผญ มาได้ 4 เดือน (ในใจนี่คือ เยสสสสสส!!!!! แล้วเอาศอกฟันเหมือนเวลา ผชนั่งลุ้นผลบอลเลยอ่ะ555 ) แล้วข้อมูลแรกๆที่เค้าได้จากผมเช่นกันคือ เค้ารู้ว่าผมเปนเก์ครับ5555. แล้วเราก็เริ่มมีการแลกเบอร์กัน ซึ่งเค้าเปนฝ่ายขอเราก่อน555 คราวนี้บ้าไปกันใหญ่เลย เริ่มมโนละว่า เค้าน่าจะพอรู้สึกดีกับเราอยู่บ้างน่ะ เอาวะ!!! เปนไงเปนกันวุ้ยทีนี้
ผมเริ่มโทรหาเค้า วีคละครั้งบ้าง ส่งข้อความบ้าง เปนห่วงบ้าง หรือไม่ก็นัดเจอให้มาเล่นฟิตเนสกันบ้าง เริ่มเซฟให้กัน เริ่มมีการได้กินข้าวกันหลายครั้งแบบเปนกลุ่มๆเหมือนเดิม ไม่ใช่แบบ สองต่อสองนะครับ
( ขอเล่าไว้แค่นี้ก่อนนะครับ เด๋วมาต่อภาคสองเรวๆนี้ครับ)
เปลี่ยนจาก ผช แท้ๆหล่อล่ำ นิสัยดี ให้มารักเกย์ธรรมดาๆอย่างผม คุณๆว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้มันคืออะไรกันแน่ครับ
จนอยู่มาวันนึงครับ ผมได้รู้จักกันกับเค้า โอ้โหว!!!มันเหมือนฝันมากอ่ะ เนื่องจากผมเปนคนชอบใครแล้วจะไม่กล้าคุยด้วยก่อนเลย แต่เนื่องด้วยผมเปนเมมเบอร์ทึ่ค่อนข้างสนิทและรู้จักเทรนเนอร์ไปทั่ว 555 ก็เลยวางแผนเด็ดสิครับ เทรนเนอร์เค้ากะเทรนเนอร์ผมสนิทกันครับ. เทรนเนอร์ผมด้วยความที่รู้อยู่แล้วว่าผมชอบ ผช คนนี้นะ ก็จัดให้สิครับ แล้วก็ได้มาทานร้านที่โรแมนติกม๊ากกกกก มันคือร้าน.... ร้ า น ล า บ ส้ ม ต ำ ครับ555 นั่งทานกันอยู่หลายคนนะครับ ทั้งเทรนเนอร์เค้าและผม รวมประมาณ6-7 คนเห็นจะได้
ฟิลลิ่งตอนนั้นนี่แบบ ว่า ยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลทึ่1 อีกอ่ะ5555 คำแรกที่เค้าพูดมาว่า "สวัสดีครับ ผมชื่อ บี ครับ( ชื่อสมมุติ) " มันเหมือน เพลงหากันจนเจอ มาบรรเลงออเครสต้ากระหึ่มอยู่ใกล้ๆโต๊ะลาบส้มตำเลยอ่ะครับ 555 อื้ออึงมากกกกก เหมือนในหนังเลยครับ วันนั้นทานเสด มีดื่มเบียร์ทั่วไป อยู่กันดึกหน่อย แล้วเค้ากับผมบ้านอยู่ทางเดวกันครับ 555 เค้าถามผมว่า กลับทางเดวกันกับผมมั้ย เด๋วผมไปส่งกลางทาง โอ้โหวววว!!!! เพลงตอบได้มั้ยว่าได้มั้ย ( ของพี่เบลสุพล) ก็เริ่มบรรเลงออเครสต้าอีกครั้งเลยทีนี้ กลับบ้านมาที่สัมผัสได้คือ เค้าเปน ผช ที่แมนและสุภาพบุรุษมั่กๆและสิ่งที่สัมผัสได้อย่างนึงคือ " เค้าเป็นคนดีมากๆที่หล่ออกมาจากภายในจริงๆครับ
และความสัมพันธ์เราก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆแบบเพื่อนครับ แต่อย่านึงที่ผมได้ข้อมูลจากเค้าเป็นข้อมูลแรกๆคือ เค้าโสดครับ เพิ่งเลิกกันกะแฟน ผญ มาได้ 4 เดือน (ในใจนี่คือ เยสสสสสส!!!!! แล้วเอาศอกฟันเหมือนเวลา ผชนั่งลุ้นผลบอลเลยอ่ะ555 ) แล้วข้อมูลแรกๆที่เค้าได้จากผมเช่นกันคือ เค้ารู้ว่าผมเปนเก์ครับ5555. แล้วเราก็เริ่มมีการแลกเบอร์กัน ซึ่งเค้าเปนฝ่ายขอเราก่อน555 คราวนี้บ้าไปกันใหญ่เลย เริ่มมโนละว่า เค้าน่าจะพอรู้สึกดีกับเราอยู่บ้างน่ะ เอาวะ!!! เปนไงเปนกันวุ้ยทีนี้
ผมเริ่มโทรหาเค้า วีคละครั้งบ้าง ส่งข้อความบ้าง เปนห่วงบ้าง หรือไม่ก็นัดเจอให้มาเล่นฟิตเนสกันบ้าง เริ่มเซฟให้กัน เริ่มมีการได้กินข้าวกันหลายครั้งแบบเปนกลุ่มๆเหมือนเดิม ไม่ใช่แบบ สองต่อสองนะครับ
( ขอเล่าไว้แค่นี้ก่อนนะครับ เด๋วมาต่อภาคสองเรวๆนี้ครับ)