เอามาเล่าสู่กันฟังค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนของน้าเราที่อยู่ด้วยกัน เอารถไปใช้แล้วนางดันไปถอยเฉียวรถกระบะคันหนึ่งเข้า
โดยมีชาย 3 คนแถวนั้นโบกให้ แต่ก็ยังไปโดนรถกระบะคันนี้จนได้ ที่โบกก็บอกว่า รถกระบะไม่เป็นอะไรครับ
นางลงรถไปดูนะคะ แต่เห็นว่าไม่เป็นอะไรเพราะตำแหน่งที่เฉี่ยวนั้นคือกันชนท้าย ซึ่งทีรอยเชียวชนสีแดงอยู่แล้ว
เลยไม่ได้สนใจ พอค่ำมีคนโทรมาบอกเราว่าไปชนเค้ามา พอเราไปเช็ครถน้ารอยนี่เล็กกว่าแมวข่วนซะอีก แล้วไปชนใครมาได้ไง
รายละเอียดอยู่ตรงนี้ค่ะ
พี่ชายเราที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ลูกป้านะคะ โทรหาเราอย่างตกใจว่า "น้าไปถอยรถชนใครที่...... "
เราก็งง เลยตอบไปว่า "ไม่รู้สิ ทำไมหรอ มีอะไรเกิดขึ้น"
พี่ชายเราเลยตอบว่า "ก็เนี่ย มีตำรวจโทรมาเบอร์พี่แล้วบอกว่ารถทะเบียน xx xxxx ถอยรถชนเค้า ถามหาชื่อพี่กับเทอด้วย ไม่รู้ไปเอามาจากไหน พี่งงเลย รถทะเบียนชื่อน้า ทำไมโทรมาบอกพี่ ให้พวกเราเข้าไปรับทราบข้อหาที่ สน. ด้วย พี่กลัวว่าเค้าจะหลอกอ่ะ โทรไปหาน้าก็ไม่รับ"
เลยตอบไปว่า "โอเค เราอยู่ในเมือง จะไปหาน้าให้นะ" คือ เรากับพี่ชายจะอยู่ที่ชานเมืองห่างจากตัวเมืองเกือบ 20 กิโล ส่วนน้าอยู่ในตัวเมืองเลย
พี่ชายเราเลยส่งเบอร์โทรของคนที่บอกว่าตัวเองเป็นตำรวจให้เรา บอกลองโทรไปถามหน่อยสิ เราก็เลยลองโทรกลับไปดู บอกตรงๆ หวั่นๆพี่โดนต้มเหมือนกัน เพราติดต่อน้าไม่ได้ แล้วทั้งที่ไปแจ้งความที่ สน. โดยอ้างจากทะเบียนรถซึ่งเป็นชื่อน้า ทำไมถึงไม่โทรหาน้าเราเลย โทรหาหลานทำไม อยู่กันคนละฟากเมือง พี่เราเป็นนักดนตรีค่ะ เบอร์เค้าค่อนข้างจะสาธารณะ อยู่บนเฟสบุ๊คเลย ไว้สำหรับติดต่องาน
เราก็เลยโทรกลับไปที่พอเค้ารับสายก็ไม่ได้พูดอะไร เราก็เริ่มถามไปตามที่ควรถามอ่ะว่า คู่กรณีเป็นใครค่ะ แล้วรถเป็นอะไรมากมั้ย ทางนั้นแทบไม่ตอบ พอถามว่าเอาอะไรมายืนยันว่าเราชนจริง เค้าก็บอกไม่ต้องสนใจ เอาเป็นว่ามีลงบันทึกข้อความไว้แล้ว เหมือนไม่อยากตอบเราเท่าไหร่ เราคิดว่าเค้าเป็นตำรวจที่โทรมาตามไป สน. เลยไม่อยากซักไซร้มากนัก บทสนทนาประมาณว่า
เรา : แล้ว เราต้องทำยังไงบ้างค่ะ อยากเคลียร์ให้มันจบๆ
ทางนั้น : ก็เดี๋ยวให้นัดกับทางประกันของคู่กรณีมาคุยกันที่ สน. นะครับ
เรา : คือ ไม่มีอะไรหรอกค่ะโทรมาเช็คกลัวโดนหลอก
ทางนั้น : ไม่หลอกครับ ตอนนี่อยู่ที่ สน. เลย(วินาทีนี้เราเชื่อเลยว่าเป็นตำรวจโทรมาตาม)
เรา : งั้นเข้าไปคุยเลยก็ได้นะคะ อยู่ใกล้ๆพอดี จะได้จบๆไปซะ
ทางนั้น : ไม่ต้องมาครับ มาตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ (เอ้า ....!!!! จะเข้าไปหาทำไมไม่ให้ไป จะได้ไปดูบันทึกกับคุณตำรวจไง หรือไม่ว่าง)
เรา : ได้ค่ะๆ ว่าแต่ถามอีกได้มั้ยค่ะ ไปเอาชื่อของ.....(ชื่อพี่) กับ .......(ชื่อเรา) มาจากไหนค่ะ แล้วทำไมไม่โทรหาเจ้าของรถโดยตรง โทรหาคนอื่นทำไม
ทางนั้น : ฮึ เรื่องนั้นคุณไม่ต้องรู้หรอกครับ
วินาทีนั้นบอกเลย คุณพูดจาเหมือนมิจฉาชีพมาก ชื่อแซ่ไม่บอก รายละเอียดไม่แจง แต่ในใจเราก็คิดเป็นตำรวจนี่นาคงไม่มั้ง เค้าคงยุ่งๆ พอเราไปถึงเพื่อนน้าไปชนมาจริงๆค่ะ แต่รอยเล็กแทบไม่เห็น เลยโทรกลับไปเบอร์เดิม ไปถามอีกทีให้แน่ใจ เราบอกเลยว่า รำคาญมากค่ะ ทำเหมือนกับว่า 'อย่าถามมาก คุณมาชนเราคุณจ่ายค่าเสียหายมาก็พอ' เริ่มคิดว่าไม่ใช่ตำรวจแล้ว พูดจาน่ากระโดดถีบขาคู่ขนาดนี้ เรายอมรับ ไปเฉียวมาจริง แต่รอยแค่นี้ ไม่น่าเสียหายมากขนาดสีถลอกได้ พอเรารัวไปรัวมา จนเค้าคงเริ่มขึ้นมั่งค่ะ จากที่ตอบประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาว่า เดี๋ยวนัดประกันคุณกับประกันคู่กรณีไปคุยที่ สน. เลยตอบมาว่า
ทางนั้น : คุณนี่ หยุดถามแล้วฟังผมนะ (ตะโกนด้วย)
เรา : ค่ะ ว่ามา (ตามแผน สติแตกแล้วสินะ)
ทางนั้น : ผมก็ไม่รู้นะว่ารถคุณจะมีร่องรอยเล็กใหญ่ หรือ จะรู้มั้ยว่าไปชนเค้ามา แต่คุณต้องเรียกประกันมาประเมินว่าไปชนมาจริงมั้ย แต่อาจไม่ต้องประเมินก็ได้คุณ(มั่นใจมากว่าใช่เรา) มีคนที่จดทะเบียนรถคุณใส่กระดาษมาบอกว่าคุณน่ะ ถอยรถมาชนรถลูกค้าผม ....
เรา : เดี๋ยวนะคะ ลูกค้า หมายความว่า คุณเป็นประกัน ไม่ใช่ตำรวจหรอค่ะ(ว่าแล้ว) แล้วทำไมถึงบอกให้ไปนัดกับประกันคู่กรณีที่ สน. มันก็คุณไม่ใช่หรอ นัดคุยเลยไม่ได้หรอ แล้วที่บอกว่าจดกระดาษนี่ โมเมหรือป่าวค่ะ คุณพูดเหมือนชนเยอะ แต่รถเรามีรอยแค่นี่ แน่ใจนะคะว่ารถของเราคันเดียวที่ไปเฉียวชนคุณเข้า แล้วนี่แจ้งความจริงมั้ยเนี่ย(เค้าชะงักไปแปปนึง)
ทางนั้น : แจ้งจริงสิ แจ้งกับตำรวจชื่อ..... แล้วรอยที่ชนนิดเดียวครับ ไม่ใหญ่ อยู่ที่กันชนหลัง เป็นรอยครับ (คือพูดให้กระจ่าง ลงรายละเอียดแต่แรกก็จบ คุณรู้มั้ย การถามรั่วเป็นชุดโดยไม่หยุดหายใจเพื่อทำให้คุณสติแตกนี่มันเหนื่อยแค่ไหน)
เรา : งั้นโทรหาเบอร์นี้ได้ใช่มั้ย รอรับสายประกันเลยนะ จะให้โทรไปนัด เจอกันที่ สน. (วางสาย)
เราก็สงสัยมากเลยอ่ะนะ ด้วยความกลัวเป็นมิจฉาชีพอย่างในข่าว ชนแล้วรีดไถ
เราก็สงสัยมากเลยอ่ะนะ ด้วยความกลัวเป็นมิจฉาชีพอย่างในข่าว ชนแล้วรีดไถ
1. ทำไมไม่โทรหาน้าเราที่เป็นเจ้าของรถเลย โทรเบอร์พี่เราทำไม
2. ทำไมทำตัวเหมือนตำรวจ บอกพี่ชายเราเลยว่าเป็นตำรวจอยู่สน.
3. ทำไมใช่คำว่า "ประกันของคู่กรณี" แทนตัวเอง
4. ถามอะไรไม่ค่อยตอบ เอาตำรวจมาอ้างให้เรากลัวลูกเดียว
5. ทำซะเรื่องใหญ่โต เหมือนชนจนรถพังเละ ทั้งๆที่แมวข่วน
สรุป
เปลี่ยนคนคุยเพราะพูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่เคลียร์ ถามชื่อแซ่ ถามชื่อบริษัท ไม่ยอมบอก
เอาตำรวจมาขู่ว่าแจ้งความไว้ ชวนไปเจอที่ สน. ก็ไม่ไป(ทั้งที่ตอนแรกชวนไปจังเลย อร๊ายยย เขิล ปุ๋จายชวนออกไปหา)
ท่านน้าเจ้าของรถขึ้นอย่างแรง สงสัยคนนั้งข้างๆทนไม่ไหวเลยมาคุยแทน มาแนะนำตัว บอกที่มา ยืนยันตัวกับเราอย่างดี
เราก็เข้าใจหน้าที่เค้าว่าต้องโทรมาบอกเราอ่ะนะ แต่ขอรายละเอียดหน่อยไม่ได้รึไง พูดซะหน่อยดอกพิกุลร่วงหรอ รู้ตัวมั้ยคุณเหมือน 18 มงกุฏมาก
และแล้วก็ไม่ต้องไปที่ สน. (ตกลงนี่มันแจ้งความจริงมั้ยเนี่ย) โทรมาหาที่ บ.ประกันได้เลย
นี่มันคืออะไร ตอนแรกขู่เราซะน่ากลัวเลย ทำตัวอย่างกับพวกมารีดไถเงิน ชื่อตัวเองยังไม่แนะนำเลย โถ........
เพิ่มเติม
อันนี้ข้อสงสัยส่วนตัวนะคะ พี่ชายเราสงสัยว่า เค้าได้ชื่อน้ามาจากทะเบียนรถ จากนั้นไปค้นในเฟสบุ๊ค เพราะในเฟสกับชื่อจริงน้าชื่อเดียวกัน
เลยได้ชื่อเรามา และได้ชื่อกับเบอร์พี่ชายจากเฟสบุ๊คมากกว่า ไม่งั้นคงโทรหาน้าไปแล้ว ไม่โทรหาพี่ก่อนหรอก
เอาเป็นว่าประกันคุยกันยังไงจะมาเล่านะคะ ^^
คนเคลมประกันเดี๋ยวนี้น่ากลัวจัง ถามแค่ชื่อกับบริษัทก็ไม่ยอมบอก =_="
เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนของน้าเราที่อยู่ด้วยกัน เอารถไปใช้แล้วนางดันไปถอยเฉียวรถกระบะคันหนึ่งเข้า
โดยมีชาย 3 คนแถวนั้นโบกให้ แต่ก็ยังไปโดนรถกระบะคันนี้จนได้ ที่โบกก็บอกว่า รถกระบะไม่เป็นอะไรครับ
นางลงรถไปดูนะคะ แต่เห็นว่าไม่เป็นอะไรเพราะตำแหน่งที่เฉี่ยวนั้นคือกันชนท้าย ซึ่งทีรอยเชียวชนสีแดงอยู่แล้ว
เลยไม่ได้สนใจ พอค่ำมีคนโทรมาบอกเราว่าไปชนเค้ามา พอเราไปเช็ครถน้ารอยนี่เล็กกว่าแมวข่วนซะอีก แล้วไปชนใครมาได้ไง
รายละเอียดอยู่ตรงนี้ค่ะ
พี่ชายเราที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ลูกป้านะคะ โทรหาเราอย่างตกใจว่า "น้าไปถอยรถชนใครที่...... "
เราก็งง เลยตอบไปว่า "ไม่รู้สิ ทำไมหรอ มีอะไรเกิดขึ้น"
พี่ชายเราเลยตอบว่า "ก็เนี่ย มีตำรวจโทรมาเบอร์พี่แล้วบอกว่ารถทะเบียน xx xxxx ถอยรถชนเค้า ถามหาชื่อพี่กับเทอด้วย ไม่รู้ไปเอามาจากไหน พี่งงเลย รถทะเบียนชื่อน้า ทำไมโทรมาบอกพี่ ให้พวกเราเข้าไปรับทราบข้อหาที่ สน. ด้วย พี่กลัวว่าเค้าจะหลอกอ่ะ โทรไปหาน้าก็ไม่รับ"
เลยตอบไปว่า "โอเค เราอยู่ในเมือง จะไปหาน้าให้นะ" คือ เรากับพี่ชายจะอยู่ที่ชานเมืองห่างจากตัวเมืองเกือบ 20 กิโล ส่วนน้าอยู่ในตัวเมืองเลย
พี่ชายเราเลยส่งเบอร์โทรของคนที่บอกว่าตัวเองเป็นตำรวจให้เรา บอกลองโทรไปถามหน่อยสิ เราก็เลยลองโทรกลับไปดู บอกตรงๆ หวั่นๆพี่โดนต้มเหมือนกัน เพราติดต่อน้าไม่ได้ แล้วทั้งที่ไปแจ้งความที่ สน. โดยอ้างจากทะเบียนรถซึ่งเป็นชื่อน้า ทำไมถึงไม่โทรหาน้าเราเลย โทรหาหลานทำไม อยู่กันคนละฟากเมือง พี่เราเป็นนักดนตรีค่ะ เบอร์เค้าค่อนข้างจะสาธารณะ อยู่บนเฟสบุ๊คเลย ไว้สำหรับติดต่องาน
เราก็เลยโทรกลับไปที่พอเค้ารับสายก็ไม่ได้พูดอะไร เราก็เริ่มถามไปตามที่ควรถามอ่ะว่า คู่กรณีเป็นใครค่ะ แล้วรถเป็นอะไรมากมั้ย ทางนั้นแทบไม่ตอบ พอถามว่าเอาอะไรมายืนยันว่าเราชนจริง เค้าก็บอกไม่ต้องสนใจ เอาเป็นว่ามีลงบันทึกข้อความไว้แล้ว เหมือนไม่อยากตอบเราเท่าไหร่ เราคิดว่าเค้าเป็นตำรวจที่โทรมาตามไป สน. เลยไม่อยากซักไซร้มากนัก บทสนทนาประมาณว่า
เรา : แล้ว เราต้องทำยังไงบ้างค่ะ อยากเคลียร์ให้มันจบๆ
ทางนั้น : ก็เดี๋ยวให้นัดกับทางประกันของคู่กรณีมาคุยกันที่ สน. นะครับ
เรา : คือ ไม่มีอะไรหรอกค่ะโทรมาเช็คกลัวโดนหลอก
ทางนั้น : ไม่หลอกครับ ตอนนี่อยู่ที่ สน. เลย(วินาทีนี้เราเชื่อเลยว่าเป็นตำรวจโทรมาตาม)
เรา : งั้นเข้าไปคุยเลยก็ได้นะคะ อยู่ใกล้ๆพอดี จะได้จบๆไปซะ
ทางนั้น : ไม่ต้องมาครับ มาตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ (เอ้า ....!!!! จะเข้าไปหาทำไมไม่ให้ไป จะได้ไปดูบันทึกกับคุณตำรวจไง หรือไม่ว่าง)
เรา : ได้ค่ะๆ ว่าแต่ถามอีกได้มั้ยค่ะ ไปเอาชื่อของ.....(ชื่อพี่) กับ .......(ชื่อเรา) มาจากไหนค่ะ แล้วทำไมไม่โทรหาเจ้าของรถโดยตรง โทรหาคนอื่นทำไม
ทางนั้น : ฮึ เรื่องนั้นคุณไม่ต้องรู้หรอกครับ
วินาทีนั้นบอกเลย คุณพูดจาเหมือนมิจฉาชีพมาก ชื่อแซ่ไม่บอก รายละเอียดไม่แจง แต่ในใจเราก็คิดเป็นตำรวจนี่นาคงไม่มั้ง เค้าคงยุ่งๆ พอเราไปถึงเพื่อนน้าไปชนมาจริงๆค่ะ แต่รอยเล็กแทบไม่เห็น เลยโทรกลับไปเบอร์เดิม ไปถามอีกทีให้แน่ใจ เราบอกเลยว่า รำคาญมากค่ะ ทำเหมือนกับว่า 'อย่าถามมาก คุณมาชนเราคุณจ่ายค่าเสียหายมาก็พอ' เริ่มคิดว่าไม่ใช่ตำรวจแล้ว พูดจาน่ากระโดดถีบขาคู่ขนาดนี้ เรายอมรับ ไปเฉียวมาจริง แต่รอยแค่นี้ ไม่น่าเสียหายมากขนาดสีถลอกได้ พอเรารัวไปรัวมา จนเค้าคงเริ่มขึ้นมั่งค่ะ จากที่ตอบประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาว่า เดี๋ยวนัดประกันคุณกับประกันคู่กรณีไปคุยที่ สน. เลยตอบมาว่า
ทางนั้น : คุณนี่ หยุดถามแล้วฟังผมนะ (ตะโกนด้วย)
เรา : ค่ะ ว่ามา (ตามแผน สติแตกแล้วสินะ)
ทางนั้น : ผมก็ไม่รู้นะว่ารถคุณจะมีร่องรอยเล็กใหญ่ หรือ จะรู้มั้ยว่าไปชนเค้ามา แต่คุณต้องเรียกประกันมาประเมินว่าไปชนมาจริงมั้ย แต่อาจไม่ต้องประเมินก็ได้คุณ(มั่นใจมากว่าใช่เรา) มีคนที่จดทะเบียนรถคุณใส่กระดาษมาบอกว่าคุณน่ะ ถอยรถมาชนรถลูกค้าผม ....
เรา : เดี๋ยวนะคะ ลูกค้า หมายความว่า คุณเป็นประกัน ไม่ใช่ตำรวจหรอค่ะ(ว่าแล้ว) แล้วทำไมถึงบอกให้ไปนัดกับประกันคู่กรณีที่ สน. มันก็คุณไม่ใช่หรอ นัดคุยเลยไม่ได้หรอ แล้วที่บอกว่าจดกระดาษนี่ โมเมหรือป่าวค่ะ คุณพูดเหมือนชนเยอะ แต่รถเรามีรอยแค่นี่ แน่ใจนะคะว่ารถของเราคันเดียวที่ไปเฉียวชนคุณเข้า แล้วนี่แจ้งความจริงมั้ยเนี่ย(เค้าชะงักไปแปปนึง)
ทางนั้น : แจ้งจริงสิ แจ้งกับตำรวจชื่อ..... แล้วรอยที่ชนนิดเดียวครับ ไม่ใหญ่ อยู่ที่กันชนหลัง เป็นรอยครับ (คือพูดให้กระจ่าง ลงรายละเอียดแต่แรกก็จบ คุณรู้มั้ย การถามรั่วเป็นชุดโดยไม่หยุดหายใจเพื่อทำให้คุณสติแตกนี่มันเหนื่อยแค่ไหน)
เรา : งั้นโทรหาเบอร์นี้ได้ใช่มั้ย รอรับสายประกันเลยนะ จะให้โทรไปนัด เจอกันที่ สน. (วางสาย)
เราก็สงสัยมากเลยอ่ะนะ ด้วยความกลัวเป็นมิจฉาชีพอย่างในข่าว ชนแล้วรีดไถ
เราก็สงสัยมากเลยอ่ะนะ ด้วยความกลัวเป็นมิจฉาชีพอย่างในข่าว ชนแล้วรีดไถ
1. ทำไมไม่โทรหาน้าเราที่เป็นเจ้าของรถเลย โทรเบอร์พี่เราทำไม
2. ทำไมทำตัวเหมือนตำรวจ บอกพี่ชายเราเลยว่าเป็นตำรวจอยู่สน.
3. ทำไมใช่คำว่า "ประกันของคู่กรณี" แทนตัวเอง
4. ถามอะไรไม่ค่อยตอบ เอาตำรวจมาอ้างให้เรากลัวลูกเดียว
5. ทำซะเรื่องใหญ่โต เหมือนชนจนรถพังเละ ทั้งๆที่แมวข่วน
สรุป
เปลี่ยนคนคุยเพราะพูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่เคลียร์ ถามชื่อแซ่ ถามชื่อบริษัท ไม่ยอมบอก
เอาตำรวจมาขู่ว่าแจ้งความไว้ ชวนไปเจอที่ สน. ก็ไม่ไป(ทั้งที่ตอนแรกชวนไปจังเลย อร๊ายยย เขิล ปุ๋จายชวนออกไปหา)
ท่านน้าเจ้าของรถขึ้นอย่างแรง สงสัยคนนั้งข้างๆทนไม่ไหวเลยมาคุยแทน มาแนะนำตัว บอกที่มา ยืนยันตัวกับเราอย่างดี
เราก็เข้าใจหน้าที่เค้าว่าต้องโทรมาบอกเราอ่ะนะ แต่ขอรายละเอียดหน่อยไม่ได้รึไง พูดซะหน่อยดอกพิกุลร่วงหรอ รู้ตัวมั้ยคุณเหมือน 18 มงกุฏมาก
และแล้วก็ไม่ต้องไปที่ สน. (ตกลงนี่มันแจ้งความจริงมั้ยเนี่ย) โทรมาหาที่ บ.ประกันได้เลย
นี่มันคืออะไร ตอนแรกขู่เราซะน่ากลัวเลย ทำตัวอย่างกับพวกมารีดไถเงิน ชื่อตัวเองยังไม่แนะนำเลย โถ........
เพิ่มเติม
อันนี้ข้อสงสัยส่วนตัวนะคะ พี่ชายเราสงสัยว่า เค้าได้ชื่อน้ามาจากทะเบียนรถ จากนั้นไปค้นในเฟสบุ๊ค เพราะในเฟสกับชื่อจริงน้าชื่อเดียวกัน
เลยได้ชื่อเรามา และได้ชื่อกับเบอร์พี่ชายจากเฟสบุ๊คมากกว่า ไม่งั้นคงโทรหาน้าไปแล้ว ไม่โทรหาพี่ก่อนหรอก
เอาเป็นว่าประกันคุยกันยังไงจะมาเล่านะคะ ^^