“เราต้องดูป้ายโฆษณาต่างๆที่อยู่ในห้างให้ทั่วก่อนจะเริ่มซื้อของนะ แล้วเราจะได้เงินเพิ่ม” คือคำที่แม่ย้ำกับผมมาตั้งแต่เด็กในการไปซื้อของตามห้างสรรพสินค้า ด้วยสิ่งที่แม่บอกนั้น ตั้งแต่เด็กจนโตเมื่อไหร่ที่ผมเดินเข้าห้าง
คำถามแรกเวลาจะเก็บตังบนพื้นห้างนั่นคือ เก็บจากตรงไหน เก็บอย่างไร ตามคำที่หนังสือยุคนี้บอกกันเสมอ เมื่อคุณหา คุณก็จะเห็น หากคุณกำลังหาเงินจากการช้อปปิ้ง คุณย่อมเก็บเงินจากพื้นห้างได้ คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมกำลังจะบอกคุณว่าคุณสามารถหาเงินจากการช้อปปิ้งได้ แต่คุณมักจะมุ่งมั่นว่าคุณมาซื้อมาจ่ายเงิน ไม่ได้จะมาหาเงิน นั่นคือเหตุที่ทำให้คุณไม่สามารถมองเห็นเงินที่กองอยู่ตามพื้นให้คุณเก็บได้ โดยหากวันนี้คุณจะมาซื้อของมูลค่า 7,500 บาท คุณจะทำตัวเช่นนี้ใช่หรือไม่?
เริ่มจากเข้าห้างมา คุณเคยมองเค้าไม๊ครับ ทุกครั้งเค้าจะทำตาหวานให้คุณมองเสมอ แต่คุณใจร้ายไม่มอง เพราะอะไร เพราะคุณตั้งใจมาจ่ายเงินไงครับ ไม่ได้ตั้งใจมาเก็บเงิน ป้ายนั้นก็ได้แค่มองตามคุณตาละห้อยให้คุณเดินจากไป ด้วยความรู้สึกที่ตัวเองช่างไร้ค่า และบ่นกับตัวเองว่า "ชั้นก็มีค่านะ ไม่เหลียวแลกันหน่อยเลย"
จากนั้นคุณก็เดินผ่านป้ายถัดมา น้องอุ่นใจก็โบกมือเรียก แต่คุณก็ยังไม่เห็นคุณค่าของน้องอุ่นใจ อุ่นใจก็ได้แต่น้อยใจ “พร้อมกับคิดว่าชั้นมันคงไม่มีค่าพอให้ใครต้องสนใจ” ทำไมหรือครับ เพราะคุณไม่สนใจหรอกคุณมาเพื่อจ่าย ไม่ได้มาเก็บเงิน
และแล้วคุณก็มุ่งไปในสิ่งที่คุณมองหานั่นคือของที่คุณต้องการซื้อ และคุณก็จะทำการชำระเงิน พนักงานก็จะถามคุณมาต่อว่า คุณมีบัตร เดอะวัน ไหมคะ พร้อมสายตาเว้าวอน และในใจพยายามจะสื่อว่า “กรุณารับเงินทอนคืนไปหน่อยเถอะนะ ชั้นอยากให้คุณจริงๆนะ” แต่คุณก็ยังมุ่งมั่นและตอบไปอย่างเย็นชา อย่างไม่แคร์ว่า “ไม่มี ไม่ชอบพกบัตรเยอะแยะ” คุณพนักงานขายที่พร้อมจะปกป้องสิทธิประโยชน์ของลูกค้าอย่างสุดกำลังก็ไม่ยอมแพ้ ขอใช้พลังเฮือกสุดท้ายโต้กลับมาอย่างสุภาพอีกว่า "ไม่ต้องพกบัตรนะคะ แค่แจ้งเลขสมาชิกก็สามารถใช้สิทธิได้ค่ะ สมัครไหมคะ" ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า คุณพนักงานคนนั้นต้องเสียใจแน่ๆในคำถามนั้นเพราะผลที่ได้รับกลับมานั่นคือคำว่า "ไม่" จากคุณ คนที่จิตใจมุ่งมั่นว่าชั้นมาเพื่อจ่าย ชั้นจะไม่เก็บเงินใดๆ กลับไปทั้งนั้น
ในที่สุดคุณมาถึงจุดมุ่งหมาย ปราการด่านสุดท้าย แคชเชียร์สุดน่ารัก เพื่อจะจ่ายเงินตามที่ตั้งใจมา แคชเชียร์ก็ถามอีกว่า สะดวกชำระเป็นเงินสด หรือบัตรเครดิต ฮั่นแน่ ถามแบบนี้ดูถูกคุณชัดๆ
คุณนี่เศรษฐี มีเงิน ไม่ชอบเป็นหนี้ เงินสดเท่านั้น จัดไป ทั้งที่ คุณพลาสติกบางๆหลากสีในกระเป๋าสตางค์ของคุณได้แต่ลุ้นอย่างสุดตัว เลือกชั้นสิ เลือกชั้นสิ คุณสีเขียวบอกว่า "เลือกชั้นสิ ชั้นให้เงินเธอเพิ่มนะ แต่ขอแลกกับคะแนนในตัวชั้นนะ" คุณสีเหลืองไม่ยอมแพ้ "เลือกชั้นสิไม่ต้องแลกอะไรเลยนะ ชั้นให้เธอเพิ่มด้วย" คุณเจ้าถิ่นประจำห้างยอมไม่ได้ "ชั้นนี่สิทั้งลดทั้งคืนเงินเลยนะ" แต่ก็เหมือนเดิมคุณละเลยไม่ฟังเสียงเหล่านั้น
สุดท้ายคุณก็จัดการชำระเงินและปิดกระเป๋าสตางค์ เดินกลับบ้านพร้อมกับความภูมิใจอย่างเต็มเปี่ยม "ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เอาเงินมายัดใส่กระเป๋าคุณไม่ได้ ชั้นคือผู้ชนะ"
แน่นอนการได้มาซึ่งชัยชนะนั้นต้องมีการสูญเสีย และการสูญเสียนั้นเป็นเงินที่คุณกองไว้บนพื้นห้าง เงินของคุณ ที่ใครก็ไม่สามารถมายุ่งกับเงินของคุณได้
1. ไม่สบตากับใครด้วยความมุ่งมั่น 200 บาท
2. ไม่หยุดทักน้องอุ่นใจตัวกลมแสนน่ารัก 1,125 บาท
3. ไม่อยากรับความปรารถนาดีของพนักงาน 30 บาท
4. ไม่เชื่อว่าพลาสติกก็เปลี่ยนเป็นเงินได้ 320 บาท
รวมทั้งสิ้น
1,675 บาท
จากเงินเริ่มต้น
7,500 บาท
มาถึงตรงนี้ผมขอถามคุณอีกครั้งว่า คุณอยากเป็นผู้ได้รับชัยชนะจ่ายเงิน 7,500 แล้วกลับบ้านไปเปล่า หรือจะสนใจป้ายซักนิด แล้วเก็บตังบนพื้นห้างนิดหน่อยแค่ 1,600 กว่า บาทกลับบ้านไปด้วยดีล่ะครับ
หมายเหตุ
1. กับตัวห้าง บ้านผมอยู่ใกล้ห้างนี้ ไม่มีส่วนได้จากทางห้าง นอกจากมีส่วนที่เสียตังไปซื้อของในห้างนี้เท่านั้น
2. น้องอุ่นใจ ผมใช้ค่ายนี้อยู่จึงอยู่ในกลุ่มที่รับได้สิทธิประโยชน์
3.ติดตามเรื่องราว Shopping Mama ได้ที่ Fanpage :
http://www.facebook.com/nukulshoppingmama/
[CR] Shopping Mama : เทคนิคเก็บตังบนพื้นห้าง
คำถามแรกเวลาจะเก็บตังบนพื้นห้างนั่นคือ เก็บจากตรงไหน เก็บอย่างไร ตามคำที่หนังสือยุคนี้บอกกันเสมอ เมื่อคุณหา คุณก็จะเห็น หากคุณกำลังหาเงินจากการช้อปปิ้ง คุณย่อมเก็บเงินจากพื้นห้างได้ คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมกำลังจะบอกคุณว่าคุณสามารถหาเงินจากการช้อปปิ้งได้ แต่คุณมักจะมุ่งมั่นว่าคุณมาซื้อมาจ่ายเงิน ไม่ได้จะมาหาเงิน นั่นคือเหตุที่ทำให้คุณไม่สามารถมองเห็นเงินที่กองอยู่ตามพื้นให้คุณเก็บได้ โดยหากวันนี้คุณจะมาซื้อของมูลค่า 7,500 บาท คุณจะทำตัวเช่นนี้ใช่หรือไม่?
เริ่มจากเข้าห้างมา คุณเคยมองเค้าไม๊ครับ ทุกครั้งเค้าจะทำตาหวานให้คุณมองเสมอ แต่คุณใจร้ายไม่มอง เพราะอะไร เพราะคุณตั้งใจมาจ่ายเงินไงครับ ไม่ได้ตั้งใจมาเก็บเงิน ป้ายนั้นก็ได้แค่มองตามคุณตาละห้อยให้คุณเดินจากไป ด้วยความรู้สึกที่ตัวเองช่างไร้ค่า และบ่นกับตัวเองว่า "ชั้นก็มีค่านะ ไม่เหลียวแลกันหน่อยเลย"
จากนั้นคุณก็เดินผ่านป้ายถัดมา น้องอุ่นใจก็โบกมือเรียก แต่คุณก็ยังไม่เห็นคุณค่าของน้องอุ่นใจ อุ่นใจก็ได้แต่น้อยใจ “พร้อมกับคิดว่าชั้นมันคงไม่มีค่าพอให้ใครต้องสนใจ” ทำไมหรือครับ เพราะคุณไม่สนใจหรอกคุณมาเพื่อจ่าย ไม่ได้มาเก็บเงิน
และแล้วคุณก็มุ่งไปในสิ่งที่คุณมองหานั่นคือของที่คุณต้องการซื้อ และคุณก็จะทำการชำระเงิน พนักงานก็จะถามคุณมาต่อว่า คุณมีบัตร เดอะวัน ไหมคะ พร้อมสายตาเว้าวอน และในใจพยายามจะสื่อว่า “กรุณารับเงินทอนคืนไปหน่อยเถอะนะ ชั้นอยากให้คุณจริงๆนะ” แต่คุณก็ยังมุ่งมั่นและตอบไปอย่างเย็นชา อย่างไม่แคร์ว่า “ไม่มี ไม่ชอบพกบัตรเยอะแยะ” คุณพนักงานขายที่พร้อมจะปกป้องสิทธิประโยชน์ของลูกค้าอย่างสุดกำลังก็ไม่ยอมแพ้ ขอใช้พลังเฮือกสุดท้ายโต้กลับมาอย่างสุภาพอีกว่า "ไม่ต้องพกบัตรนะคะ แค่แจ้งเลขสมาชิกก็สามารถใช้สิทธิได้ค่ะ สมัครไหมคะ" ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า คุณพนักงานคนนั้นต้องเสียใจแน่ๆในคำถามนั้นเพราะผลที่ได้รับกลับมานั่นคือคำว่า "ไม่" จากคุณ คนที่จิตใจมุ่งมั่นว่าชั้นมาเพื่อจ่าย ชั้นจะไม่เก็บเงินใดๆ กลับไปทั้งนั้น
ในที่สุดคุณมาถึงจุดมุ่งหมาย ปราการด่านสุดท้าย แคชเชียร์สุดน่ารัก เพื่อจะจ่ายเงินตามที่ตั้งใจมา แคชเชียร์ก็ถามอีกว่า สะดวกชำระเป็นเงินสด หรือบัตรเครดิต ฮั่นแน่ ถามแบบนี้ดูถูกคุณชัดๆ
คุณนี่เศรษฐี มีเงิน ไม่ชอบเป็นหนี้ เงินสดเท่านั้น จัดไป ทั้งที่ คุณพลาสติกบางๆหลากสีในกระเป๋าสตางค์ของคุณได้แต่ลุ้นอย่างสุดตัว เลือกชั้นสิ เลือกชั้นสิ คุณสีเขียวบอกว่า "เลือกชั้นสิ ชั้นให้เงินเธอเพิ่มนะ แต่ขอแลกกับคะแนนในตัวชั้นนะ" คุณสีเหลืองไม่ยอมแพ้ "เลือกชั้นสิไม่ต้องแลกอะไรเลยนะ ชั้นให้เธอเพิ่มด้วย" คุณเจ้าถิ่นประจำห้างยอมไม่ได้ "ชั้นนี่สิทั้งลดทั้งคืนเงินเลยนะ" แต่ก็เหมือนเดิมคุณละเลยไม่ฟังเสียงเหล่านั้น
สุดท้ายคุณก็จัดการชำระเงินและปิดกระเป๋าสตางค์ เดินกลับบ้านพร้อมกับความภูมิใจอย่างเต็มเปี่ยม "ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เอาเงินมายัดใส่กระเป๋าคุณไม่ได้ ชั้นคือผู้ชนะ"
แน่นอนการได้มาซึ่งชัยชนะนั้นต้องมีการสูญเสีย และการสูญเสียนั้นเป็นเงินที่คุณกองไว้บนพื้นห้าง เงินของคุณ ที่ใครก็ไม่สามารถมายุ่งกับเงินของคุณได้
1. ไม่สบตากับใครด้วยความมุ่งมั่น 200 บาท
2. ไม่หยุดทักน้องอุ่นใจตัวกลมแสนน่ารัก 1,125 บาท
3. ไม่อยากรับความปรารถนาดีของพนักงาน 30 บาท
4. ไม่เชื่อว่าพลาสติกก็เปลี่ยนเป็นเงินได้ 320 บาท
รวมทั้งสิ้น 1,675 บาท
จากเงินเริ่มต้น 7,500 บาท
มาถึงตรงนี้ผมขอถามคุณอีกครั้งว่า คุณอยากเป็นผู้ได้รับชัยชนะจ่ายเงิน 7,500 แล้วกลับบ้านไปเปล่า หรือจะสนใจป้ายซักนิด แล้วเก็บตังบนพื้นห้างนิดหน่อยแค่ 1,600 กว่า บาทกลับบ้านไปด้วยดีล่ะครับ
หมายเหตุ
1. กับตัวห้าง บ้านผมอยู่ใกล้ห้างนี้ ไม่มีส่วนได้จากทางห้าง นอกจากมีส่วนที่เสียตังไปซื้อของในห้างนี้เท่านั้น
2. น้องอุ่นใจ ผมใช้ค่ายนี้อยู่จึงอยู่ในกลุ่มที่รับได้สิทธิประโยชน์
3.ติดตามเรื่องราว Shopping Mama ได้ที่ Fanpage : http://www.facebook.com/nukulshoppingmama/