สวัสดีครับกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมใน พันทิป

ผมได้อ่านกระทู้ของเพื่อนคนอื่น ๆมามากมาย เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ของตัวเองบ้าง..... ทริปนี้เป็นการขึ้นภูกระดึงของผม "ครั้งแรกและเป็นการขึ้นคนเดียวครับ" ช่วงขึ้นวันที่ 18-20 ธันวา 57(เพื่อนเบี้ยวแต่เรานี้ดิไหน ๆก็ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาได้สองเดือนแล้ว) เอาละครับเข้าเรื่องกันเลย Let' Go...!! ผมนั่งรถสายขอนแก่น - เมืองเลย มาลงที่ อ.ภูกระดึง แล้วต่อรถสองแถวเข้ามาในเขตอุทยานอีกคนละ 30 บาท มาถึงอุทยานตอนประมาณแปดโมงนิด ๆ เสร็จแล้วไปจ่ายค่าขึ้นภู ค่าพื้นที่เช้าเต้นท์ ส่วนเต็นท์ไปจองอีกทีข้างบน ส่วนใครจะเอาของไปฝากลูกหาบ กก.ละ 30 บาทครับ ตอนนี้หนาวมากครับ (สงสัยเพราะใส่ขาสั้นมาด้วยละมั้ง เพราะคิดว่าเดินไปหน่อยคงร้อน ลูกหาบบางคนใส่แค่กางเกงตัวเดียว) เมือคืนถามเจ้าหน้าที่ ๆบอก 5 องศา

(ตลอดทริปนี้ใช้กล้องโทรศัพท์นะครับ พยายามเอาของไปน้อยที่สุด) ขนาดภาพ 4128*2322 บีบไฟล์เพื่อให้เอารูปลงได้ภาพเลยไม่ค่อยชัด
ได้น้ำสักขวด..Go...Go... 8.30

เส้นทางของเรายังอีกยาวไกล จุดหมายแรกตอนนี้คือซำแฮก ที่เค้าว่ากันว่าเป็นด่านแรกสุดทรหด

ทางขึ้นซำแฮก สำหรับผมขึ้นไม่ยากแต่ตอนลงยาก
เดินไปเรื่อย ๆคนเดียว ทักทายคนนูนคนนี้ไปบ้าง ( คำถามที่โดนถามประจำคือ ทำไหมถึงได้มาคนเดียว ??

)
ถึงแล้ว ซำแฮก...!!! ใช่เวลาประมาณ 30 นาที ไม่เหนื่อยเท่าที่คิด (ข้อดีของการไปคนเดียวคือความคล่องตัวสูง)
พักถ่ายรูปแตงโมสักชิ้น แล้วไปต่อ Go...Go...
คนพักซำแฮกเยอะ ทางเดินช่วงนี้เลยไม่ค่อยมีคนมีจะคุยกับใครดีละ เห็นละเดินตามหลังกลุ่ม ๆหนึ่งมาก็ได้สักพักละ เค้ามากัน 5 คน (มาครั้งแรกเหมือนกัน) เดินไปทักทายกับเค้าหน่อยละกันเพื่อได้เพื่อนเดินแก้เหงา เราเดินคุยกันไปเรื่อย ๆตอนนี้กลุ่มนี้มีสมาชิกเพื่มมาอีกคนละ คือผมเอง

เดินเรื่อย ๆเหนื่อยก็พัก
ในที่สุดเราก็มาถึงหลังแป.....แล้วววว....
จุดหมายต่อไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ประมาณ 3 กม.กว่า
รู้สึกว่าระยะทางตรงนี้เดินนานมาก...ถึงแล้วครับ...จุดบริการนักท่องเที่ยววังกว้าง
พอเรามาถึงตรงจุดบริการนักท่องเที่ยว...ให้เราติดต่อเรื่องเต้นท์ ถุงนอน ผ้าห่ม หมอน จ่ายตังค์เสร็จแล้วนำใบเสร็จไปยื่นรับของอีกอาคารที่ใกล้ ๆกันพร้อมบัตรประจำตัวประชาชน (วันที่คืนของเราก็จะได้รับบัตรของเราคืนครับ) ของเราสามารถเลือกเองเลยครับ ตามสบายกองเยอะมาก ส่วนผ้าห่มให้ไปเอาที่โรงเก็บผ้าห่มห่างจากจุดนี้ไปประมาณ 200 ม. แล้วเต้นท์ว่างที่ไหนชอบที่ไหนก็จับจองเลยครับตามความชอบเราเลย (แนะนำพยายามอย่าอยู่ริมมากนะครับ ตอนกลางคืนลมจะแรงแล้วไม่มีทีบังจะหนาวมากครับ) ตอนนี้ว่างแล้วครับรอไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ ผาหมากดูกอย่างเดียวจะทำไรตามสบายครับ (ส่วนผมอาบน้ำครับเย็นมาคงอาบไม่ได้แน่.....หนาวชัวร์ เครื่องทำน้ำอุ่นเสีย ผมลองไปถามร้านอาหารที่เค้ามาน้ำอุ่น ค่าบริการ 70 บาท สุดท้ายน้ำเย็นครับ

ยังกะน้ำเอาออกมาจากตู้เย็น) (อยู่ที่ศูนย์มีบริการชาร์จแบต 2 ชม. 20 บาท บริการถึง 22.00 หรือชาร์จฟรีตามร้านอาหารที่เราไปกินครับ)
ประมาณ 17.00 ไปชมพระอาทิตย์ตกดินกันครับที่ผาหมากดูก ใครไม่ชอบเดินเช่าจักรยานได้ครับค่าบริการเท่าไหร่ไม่รู้เหมือนกัน (อย่าลืมพกไฟฉายติดตัวไปด้วยนะครับเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก...พกติดตัวเลยตลอดทริป) แต่ระหว่างทาง.......กวางครับ หันมายิ้มให้ด้วย

ก่อนจะวิ่งเข้าป่าข้างทาง แต่อยู่แถวที่พักเราก็มีครับ กวางเจ้าถิ่นนอนอยู่แถวร้านอาหารบ้าง เดินป่วนเปี้ยนแถวเต้นท์เราบ้าง
หลังจากรีบเดินมาได้สักพักใหญ่ (กลัวไม่ทันพระอาทิตย์ตก) ถึงแล้วครับ....ผาหมากดูก

อยู่นี้ลมแรง และหนาวมาก ปากสั่นเลยทีเดียว ใส่ขาสั้นมาอีก

วิวอยู่ตรงผาหมากดูกสวยมาก
จบทริปวันแรก ที่ผาหมากดูกครับ
วันที่สอง.... 
รอดมาแล้วหนึ่งวัน ฮ่าาาา (ผมตื่นขึ้นมาโทรศัพท์เย็นมากและชื้นเลยทีเดียว แนะนำเก็บไว้ในกระเป๋าเลยครับ)
เมื่อคืนหลับเร็วน่าจะสองทุ่มกว่าแต่รู้สึกตัวบ่อยลมตีเต็นท์แรงมากเหมือนคนจะเปิด นอนเก็บแรงไว้ลุยวันนี้ ตื่นมาตีสีนิด ๆเปิดเต็นท์ออกมาเท่านั้นแระ

ความเย็นสั้นสะท้านไปทั่ว 5 องศา ดาวตอนนี้สวยมากกก...ไปล้างหน้า แปรงฟัน รอไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น แต่คนไปไหนหมด ทั้งเงียบทั้งหนาว เสร็จแล้วเข้าเต็นท์ต่ออยู่ข้างนอกไม่ไหว

มานอนฟังเพลงรอถึงตีห้า เจ้าหน้าที่จะพาไป ตีห้าแล้วแต่เพื่อนที่มาด้วยกันยังไมาตื่น ไปเรียกสักหน่อย เดินทางไปผานกแอ่นระยะทางประมาณ 2 กม. เดินมาถึงแรก ๆไม่ค่อยมีคน หาทำเลดี ๆแล้วไปนั่งขด สักพักหันกลับมาคนพรึ่บ..!!
ผานกแอ่น เวลาประมาณ 5.40


รอมาจนสายสุดท้ายเมฆบังพระอาทิตย์ เช้าวันนี้ก็ไม่ค่อยมีหมอก เลยตัดสินใจพากันเดินทางกลับที่พัก

แยกไปไหว้พระก่อนกลับที่พัก ลานวัดพระแก้ว (ได้ยินเสียงกระดิ่งแล้วมันทำให้สบายใจมาก อยู่บริเวณนี้...กระดิ่งจะแขวนไว้ตามต้นไม้ ต่าง ๆเยอะพอสมควร)
เพื่อน ๆร่วมทริปผมเดินกลับที่พักแล้วววว....แอบถ่ายข้างหลัง

ประมาณ 10.00 หลังจากเติมพลังทั้งคนทั้งโทรศัพท์เสร็จ พร้อมกับห่อข้าวกลางวัน เพราะทางนี้จะไม่มีร้านค้าจนกว่าจะถึงผาหล่มสัก ออกเดินทางกันต่อ จุดหมายผาหล่มสักประมาณ 9 กม. เราใช้เส้นทางเดินเลาะไปตามป่าครับเพราะจะได้แวะน้ำตก (บ่ายสามไปห้ามใช้เส้นทางนี้เพราะจะมีช้างป่าออกมาหากิน ถ้าสังเกตุจะเห็นลวดไฟฟ้าล้อมไว้เพื่อกันสัตว์ป่า) อีกเส้นทางลัดเลาะริมหน้าผา เราจะใช้เป็นเส้นทางขากลับครับ Go...Go...
แวะไหว้พระ...ตีระฆังก่อน
ถึงแล้วน้ำตกถ้ำใหญ่เดินลงมารู้สึกถึงความเย็นเลย...ช่วงนี้น้ำจะน้อย คนที่จะมาชมน้ำตกต้องมาช่วงปลายฝนที่อุทยานจะเปิดพอดี
ใบเมเปิ้ล....!!! เห็นเฉพาะช่วงปลายธันวาคม - มกราคม


ถ่ายรูป..ชมธรรมชาติเต็มที่ ได้เวลาขึ้นไปข้างบน ผมคิดเลยเหมือนซำแฮกเลย ขึ้นมาข้างบนถึงกับเหนื่อย ต่อไปจะไปน้ำตกธารสวรรค์ซึ้งอยู่ใกล้ ๆกันแต่หาทางเข้าไม่เจอ.....

เลยเดินยาวไปสระอโนดาด ระหว่างทางเจอคุณลุงขายน้ำแถวนี้ด้วยปั่นจักรยานมา
ระหว่างทางไปสระอโนดาด เริ่มร้อนแล้ววว...ต้นไม้ใหญ่ไม่ค่อยมีแต่ก็มีลม นี้มันยังกะทุ่งสะวันน้าเลย

เดินมาประมาณ 2 กม.ครึ่ง ถึงแล้วสระอโนดาด ตอนเย็น ๆสัตว์จะลงมากินน้ำแถวนี้กัน....หลายๆ ตั้งเป็นจุดพัก หรือกินข้าวกันแถวนี้ ผมนั่งพักแถวนี้ประมาณ 20 นาที แล้วก็ออกเดินต่อครับ
จุดหมายต่อไปน้ำตกถ่ำสอเหนือ มั่วแต่ถ่ายรูป เพื่อน ๆเดินไปก่อนแล้วผ่านลำธารเล็ก ๆน้ำเย็นสดชื้น
ถึงแล้ววว....น้ำตกถ่ำสอเหนือช่วงนำเยอะคงสวยมาก ๆ เพื่อนนั่งพักข้างล่าง ส่วนผมหามุมถ่ายรูปครับ ลองเอาเท้าลงไปแช่น้ำแปบเดียวขาชาเลย น้ำเย็นเจี๊ยบ...

ขึ้นไปข้างบน พักกินข้าวครับ ยื่นบนนี้เสียวเลย สูงมาก

เขียนไปก็ง่วงแล้ว...เดี่ยวพรุ่งนี้มาต่อนะครับ
หลังจากที่พักกินข้าวเสร็จ บ่ายสองครึ่ง ออกเดินไปยังผาหล่มสักครับ จุดหมายสุดท้ายของวันนี้ จากจุดนี้ไปถึงผาหล่มสักประมาณ 3 กม. (ตั้งเป้าไว้ห้าโมงเย็นต้องถึง)
ต้อนนี้รู้สึกว่าเริ่มจะเจ็บนิ้วเท้าแล้วครับ เหมือนร้องเท้าจะกัด งานเข้าแล้วไง

สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการเดินเริ่มจะเจ็บขึ้นมาแล้ว...ตอนนี้ก็เดินพยายามเอาเท้าลงพื้นให้เบาทีสุดหลีกเลี้ยงการสะดุดต่าง ๆต้องระวังแล้วว...เดินมาเรื่อย ๆแทบจะไม่ได้พักก็ มาถึงผาหล่มสัก ดูนาฬิกา บ่ายสามยี่สิบห้า โอ้...บร๊ะเจ้า.. !! เดินไม่ถึง ชม.มาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้เยอะแหะ (คนก็เยอะพอสมควร รถจักรยานจอดเพียบ คนปั่นรถมาคงเยอะ หวังในใจหวังว่าขากลับขอให้มีคนเดินเยอะ ๆ) หาที่นังพักได้ชามะนาวเย็น ๆสักแก้ว 40 บาทเปรี้ยวจี๊ดดด... ร้านค้าแถวนี้ซื้อของแล้วสามารถยืมเสื่อไปปูนั้งได้เลย...ได้แล้วก็ไปที่หาสร้างแลนด์มาร์ค (นอนรอ) เจ็บนิ้วเท้า ตอนกลับจุดพักไม่ไหวก็ต้องไหว 10 กม.

ระหว่างนอนรอก็ถ่ายรูปเล่นไป
[CR] ทริป "ภูกระดึง" ครั้งแรก...คนเดียว Backpack 3 วัน 2 คืน ได้อะไรมากกว่าที่คิด.....
สวัสดีครับกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมใน พันทิป
เดินไปเรื่อย ๆคนเดียว ทักทายคนนูนคนนี้ไปบ้าง ( คำถามที่โดนถามประจำคือ ทำไหมถึงได้มาคนเดียว ??
ถึงแล้ว ซำแฮก...!!! ใช่เวลาประมาณ 30 นาที ไม่เหนื่อยเท่าที่คิด (ข้อดีของการไปคนเดียวคือความคล่องตัวสูง)
พักถ่ายรูปแตงโมสักชิ้น แล้วไปต่อ Go...Go...
คนพักซำแฮกเยอะ ทางเดินช่วงนี้เลยไม่ค่อยมีคนมีจะคุยกับใครดีละ เห็นละเดินตามหลังกลุ่ม ๆหนึ่งมาก็ได้สักพักละ เค้ามากัน 5 คน (มาครั้งแรกเหมือนกัน) เดินไปทักทายกับเค้าหน่อยละกันเพื่อได้เพื่อนเดินแก้เหงา เราเดินคุยกันไปเรื่อย ๆตอนนี้กลุ่มนี้มีสมาชิกเพื่มมาอีกคนละ คือผมเอง
พอเรามาถึงตรงจุดบริการนักท่องเที่ยว...ให้เราติดต่อเรื่องเต้นท์ ถุงนอน ผ้าห่ม หมอน จ่ายตังค์เสร็จแล้วนำใบเสร็จไปยื่นรับของอีกอาคารที่ใกล้ ๆกันพร้อมบัตรประจำตัวประชาชน (วันที่คืนของเราก็จะได้รับบัตรของเราคืนครับ) ของเราสามารถเลือกเองเลยครับ ตามสบายกองเยอะมาก ส่วนผ้าห่มให้ไปเอาที่โรงเก็บผ้าห่มห่างจากจุดนี้ไปประมาณ 200 ม. แล้วเต้นท์ว่างที่ไหนชอบที่ไหนก็จับจองเลยครับตามความชอบเราเลย (แนะนำพยายามอย่าอยู่ริมมากนะครับ ตอนกลางคืนลมจะแรงแล้วไม่มีทีบังจะหนาวมากครับ) ตอนนี้ว่างแล้วครับรอไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ ผาหมากดูกอย่างเดียวจะทำไรตามสบายครับ (ส่วนผมอาบน้ำครับเย็นมาคงอาบไม่ได้แน่.....หนาวชัวร์ เครื่องทำน้ำอุ่นเสีย ผมลองไปถามร้านอาหารที่เค้ามาน้ำอุ่น ค่าบริการ 70 บาท สุดท้ายน้ำเย็นครับ
ประมาณ 17.00 ไปชมพระอาทิตย์ตกดินกันครับที่ผาหมากดูก ใครไม่ชอบเดินเช่าจักรยานได้ครับค่าบริการเท่าไหร่ไม่รู้เหมือนกัน (อย่าลืมพกไฟฉายติดตัวไปด้วยนะครับเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก...พกติดตัวเลยตลอดทริป) แต่ระหว่างทาง.......กวางครับ หันมายิ้มให้ด้วย
หลังจากรีบเดินมาได้สักพักใหญ่ (กลัวไม่ทันพระอาทิตย์ตก) ถึงแล้วครับ....ผาหมากดูก
อยู่นี้ลมแรง และหนาวมาก ปากสั่นเลยทีเดียว ใส่ขาสั้นมาอีก
จบทริปวันแรก ที่ผาหมากดูกครับ
วันที่สอง....
เมื่อคืนหลับเร็วน่าจะสองทุ่มกว่าแต่รู้สึกตัวบ่อยลมตีเต็นท์แรงมากเหมือนคนจะเปิด นอนเก็บแรงไว้ลุยวันนี้ ตื่นมาตีสีนิด ๆเปิดเต็นท์ออกมาเท่านั้นแระ
รอมาจนสายสุดท้ายเมฆบังพระอาทิตย์ เช้าวันนี้ก็ไม่ค่อยมีหมอก เลยตัดสินใจพากันเดินทางกลับที่พัก
แยกไปไหว้พระก่อนกลับที่พัก ลานวัดพระแก้ว (ได้ยินเสียงกระดิ่งแล้วมันทำให้สบายใจมาก อยู่บริเวณนี้...กระดิ่งจะแขวนไว้ตามต้นไม้ ต่าง ๆเยอะพอสมควร)
ประมาณ 10.00 หลังจากเติมพลังทั้งคนทั้งโทรศัพท์เสร็จ พร้อมกับห่อข้าวกลางวัน เพราะทางนี้จะไม่มีร้านค้าจนกว่าจะถึงผาหล่มสัก ออกเดินทางกันต่อ จุดหมายผาหล่มสักประมาณ 9 กม. เราใช้เส้นทางเดินเลาะไปตามป่าครับเพราะจะได้แวะน้ำตก (บ่ายสามไปห้ามใช้เส้นทางนี้เพราะจะมีช้างป่าออกมาหากิน ถ้าสังเกตุจะเห็นลวดไฟฟ้าล้อมไว้เพื่อกันสัตว์ป่า) อีกเส้นทางลัดเลาะริมหน้าผา เราจะใช้เป็นเส้นทางขากลับครับ Go...Go...
ถ่ายรูป..ชมธรรมชาติเต็มที่ ได้เวลาขึ้นไปข้างบน ผมคิดเลยเหมือนซำแฮกเลย ขึ้นมาข้างบนถึงกับเหนื่อย ต่อไปจะไปน้ำตกธารสวรรค์ซึ้งอยู่ใกล้ ๆกันแต่หาทางเข้าไม่เจอ.....
เดินมาประมาณ 2 กม.ครึ่ง ถึงแล้วสระอโนดาด ตอนเย็น ๆสัตว์จะลงมากินน้ำแถวนี้กัน....หลายๆ ตั้งเป็นจุดพัก หรือกินข้าวกันแถวนี้ ผมนั่งพักแถวนี้ประมาณ 20 นาที แล้วก็ออกเดินต่อครับ
เขียนไปก็ง่วงแล้ว...เดี่ยวพรุ่งนี้มาต่อนะครับ
หลังจากที่พักกินข้าวเสร็จ บ่ายสองครึ่ง ออกเดินไปยังผาหล่มสักครับ จุดหมายสุดท้ายของวันนี้ จากจุดนี้ไปถึงผาหล่มสักประมาณ 3 กม. (ตั้งเป้าไว้ห้าโมงเย็นต้องถึง)
ต้อนนี้รู้สึกว่าเริ่มจะเจ็บนิ้วเท้าแล้วครับ เหมือนร้องเท้าจะกัด งานเข้าแล้วไง
ระหว่างนอนรอก็ถ่ายรูปเล่นไป