สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางไป อช.ภูกระดึง ของเราค่ะ เป็นการรีวิวครั้งแรกของเรา ผิดพลาดตรงไหนของอภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ
การไปเที่ยวครั้งนี้ ความจริงคือ เราวางแผนจะไปเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ แต่จากการค้นหาข้อมูล พบว่า ใบเมเปิ้ลจะแดงช่วง พฤศจิกายน-ธันวาคม เราเลยเลื่อนมาไปเดือนธันวาคมค่ะ วางแผนล่วงหน้ามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนค่ะ แบบก่อนไปเราไฟหมดกันมาก รู้สึกไม่มีแรงทำอะไร ความคิดสร้างสรรค์ไม่ค่อยมี 555 ก็เลยหวังว่าการไปเที่ยวครั้งนี้ จะช่วยทำให้มีแรงบันดาลใจมากขึ้น ปลุกไฟในตัวคุณ 555 ไม่ลองไม่รู้ค่ะ ไปลุยกันเลย
เราไปกับเพื่อนอีก 1 คน รวมทั้งหมดเป็น 2 คน ระยะเวลาในการไปครั้งนี้ 3 วัน 2 คืน ตั้งแต่วันที่ 13-15 ธันวาคม 2559 ออกเดินทางคืนวันที่ 12 ค่ะ
****คำชี้แจงก่อนอ่าน :
1.เราอาจจะรีวิวไม่ระเอียด ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ เพราะเราลืม 555
2.รูปอาจจะเยอะ+ไม่สวย
3.ไม่ฝากเพจอะไรทั้งนั้น เพราะไม่มีให้ฝาก 555
4.ทำรีวิวด้วยเนื่องจาก ส่วนใหญรีวิวภูกระดึงมักจะเริ่มต้นจากกรุงเทพเป็นส่วนใหญ่
5.เราจะพยายามบอกรายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอบคุณค่ะ
6.พิมพ์ผิดบ้าง ขออภัยนะคะ เราเบลอๆ 555
****
มาดูแผนที่เราว่างไว้ก่อนไปนะคะ เหตุผลที่เราต้องวางแผนดีๆเนื่องจากเพื่อนเราต้องกลับมาทำงานในเช้าวันศุกร์ที่ 16 ค่ะ ตั้งงบไว้ไม่เกิน 2000 บาท
12/12/2559 19.00 น. เดินทางจากเชียงใหม่
13/12/2559
04.00 น. – 05.00 น. ถึงชุมแพ หารถต่อไปผานกเค้า
10.00 น. ถึงจุดเดินขึ้น อช.ภูกระดึง
ใช้เวลาประมาณ 3 – 5 ชั่วโมงในการเดิน ระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตรเป็นพื้นที่ชัน และ 3.5 กิโลเมตรเป็นพื้นที่ราบ จึงจะถึงที่พัก (หลังแปร – ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง)
16.00 น. – 17.00 น. เดินไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
จากนั้นก็เดินกลับที่พัก พักผ่อน คุยเล่น นอน
14/12/2559
04.00 น. – 05.00 น. ตื่นนอน เตรียมตัวไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ ผานกแอ่น ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
09.00 น. เป็นต้นไป เดินทางตามเส้นทางน้ำตกวังกวาง เพ็ญพบ เพ็ญพบใหม่ โผนพบ ถ้ำใหญ่ ธารสวรรค์ สระอโนดาด ถ้ำสอ แล้วไปออกทางผาแดง ไปผาหล่มสัก
16.00 น. – 19.00 น. รอดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก และเดินทางกลับที่พัก
15/12/2559
05.00 น. – 14.00 น. ตื่นเช้า เก็บของ แล้วก็เดินลงภู
( วันสุดท้ายอาจจะแวะเที่ยวจุดที่อยากเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆทางเดินลง แต่ให้เดินลงมาถึงที่ทำการ อช. ประมาณ 14.00 น. แต่ไม่เกิน 15.00 น. ) จากนั้นก็รอรถกลับไปขนส่งชุมแพ ไปรอรถกลับเชียงใหม่
21.30 น. ขึ้นรถกลับเชียงใหม่ที่ขนส่งชุมแพ ( รถอุบล-เชียงใหม่ เที่ยว 15:45 น. )
06.00 น. – 07.00 น. ถึงอาเขตเชียงใหม่
การเดินทางจริง
วันที่ 13/12/2559
เราออกเดินทางจากเชียงใหม่นะคะ เนื่องจากเพื่อนเราอยู่เชียงใหม่ เราเลยไปหาเพื่อนเพื่อนั่งรถมาพร้อมกันค่ะ
เราได้รถเที่ยว 19.00 ของอีสานทัวร์ รถเชียงใหม่-ขอนแก่น เป็นรถ VIP (เนื่องจากรถทัวร์อื่นเต็ม เนื่องด้วยวันเทศกาล)
เราลงที่ชุมแพ ราคาตั๋ว 540 บาทค่ะ เราจำไม่ได้ว่าถึงชุมแพเวลากี่โมง แต่ไม่เกิน 6.00 น.
จากนั้นเราก็ต่อรถจากชุมแพมาลงตัวอำเภอภูกระดึงค่ะ มาถึงจุดหมายประมาณ ไม่เกิน 6.30 น.ค่ะ ค่ารถราคา 35 บาท/คน
ความจริงลงผานกเค้าก็ได้นะคะ แต่ลุงคนขับบอกให้เราไปลงที่ตัวอำเภอ 5555
เราก็พักทานข้าวแล้วออกเดินทางต่อค่ะ รถที่เราขึ้นจากอ.ภูกระดึงไปที่ทำการ อช. ราคา 240 บาทต่อเที่ยวค่ะ แต่เรามากัน 2 คน เลยต่อคนขับเหลือ 200 บาท จะได้เสียคนละ 100 บาท ซึ่งเขาก็โอเคกับเราค่ะ 555
จากนั้นเราก็ถึงที่ทำการ อช. ค่ะ ก็ไปติดต่อ
-เรื่องค่าธรรมเนียม คนละ 40 บาท
-ค่าเต็นท์ 2 คืน เนื่องจากเราไม่ได้ขนเต็นท์มาเองค่ะ คืนละ 225 บาท
-ค่าลูกหาบ กิโลละ 30 บาท
-ค่าพลาสติกที่ขนขึ้นไป มัดจำ 100 บาท
เมื่อเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย ก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ

เดินขึ้นเวลา 8.00 น.ค่ะ เริ่มกันเลย
การเดิน 1 กม แรกก่อนถึงซำแฮก จะเหนื่อยมาก และไปเหนื่อยอีกทีก่อนถึงหลังแปรประมาณ 1.3 กม ค่ะ ที่เหนื่อยด้วยเนื่องจากทางที่เป็นหินสลับกับความชันค่ะ
ภาพบรรยากาศระหว่างทางค่ะ

วิวจากซำแฮก

แตงโมอันละ 10 บาท จากซำแฮก

ออกเดินทางต่อกันเลย 555

แวะพักเล่นกับเงา 555

พืชพันธุ์ริมทาง

ทางเดินที่คงเอกลักษณ์คือความเป็นธรรมชาติ

จะถึงแล้ว แวะถ่ายรูปสักครู่ 55

ถึงแล้ว หลังแปรที่ใฝ่ฝัน เราใช้เวลาเดินจากจุดเริ่มต้นมาถึงหลังแปรประมาณ 5 ชม 555 เนื่องจากเพื่อนเราไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย+กับเราเป็นคนตัวใหญ่ ทำให้เดินช้า แต่ว่าถึงชัวร์ค่ะ 555 ระหว่างทางเพื่อนเราบ่นว่าไม่อยากขึ้นตลอดเวลา แต่สุดท้าย เราทั้งคู่ก็ทำได้ค่ะ เราเป็นคนที่อยากมา ส่วนเพื่อนเรา เราไปขอร้องให้เขามาเป็นเพื่อน 5555
วิวที่หลังแปร

หลังจากหายเหนื่อยและสูดกลิ่นของความสำเร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางไปยังที่พักกันต่อเลยค่ะ พื้นราบ 3 กม กว่า เดินกันต่อ 555

ถึงสักที ที่พักของเรา 555

หลังจากนั้นเราก็ไปติดต่อเรื่องที่พักกับเครื่องนอนค่ะ
ค่าใช้จ่ายเครื่องนอนของเรานะคะ
-หมอน 2 ใบ 40 บาท/2วัน
-แผ่นรองนอน 2 อัน 80 บาท/2วัน
-ถุงนอน 2 อัน 120 บาท/2วัน
จากนั้นก็เลือกเต็นท์ที่ต้องการเลยค่ะ เราเลือกเต็นท์ให้อยู่กึ่งกลางระหว่างร้านอาหารกับห้องน้ำค่ะ สะดวกดี
จากนั้นเพื่อนเราก็สลบอยู่ที่เต็นท์ ส่วนเราไฟท์ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูกค่ะ
ออกเดินทางกันเลย ----

ถึงแล้ว ผาหมากดูก ใช้เวลาเดินประมาณ 40นาทีถึง1 ชม ระยะทางประมาณ 2 กม นิดๆ เรารีบเดินจ้ำเพื่อไปให้ทันพระอาทิตย์ตก 55

จับจองที่นั่งเพื่อรอดูพระอาทิตย์ตกกันค่ะ

พระอาทิตย์ตกแล้วๆๆๆๆๆๆๆ

พระอาทิตย์หายไปแล้ว 555 ก็เดินทางกลับที่พักกันค่ะ

กลับมาถึงที่พัก เราก็ไปปลุกเพื่อนเพื่อไปทานข้าวค่ะ สิ่งที่ทุกคนจะพบเจอทุกครั้งเวลาไปทานข้าวเย็น คือ น้องกวางค่ะ (ภาพไม่ค่อยชัดนะคะ เราไม่กล้าเข้าไปใกล้+เราเป็นคนมือสั่น 555)

หลังจากทานข้าวเสร็จ อิ่มหน่ำสำราจ ก็กลับไปนอนเก็บแรงไว้ลุยต่อวันต่อไปค่ะ
เราขอไม่ชี้แจงค่าอาหารนะคะ เพราะในส่วนนี้เราไม่ได้วางแผนมา+แต่ละคนคงกินอาหารแตกต่างกัน 555
วันนี้เป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ค่ะ เนื่องจากเรายังมีแรง 555
สองคนหมดไฟตามหาใบไม้แดง ณ อช.ภูกระดึง
การไปเที่ยวครั้งนี้ ความจริงคือ เราวางแผนจะไปเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ แต่จากการค้นหาข้อมูล พบว่า ใบเมเปิ้ลจะแดงช่วง พฤศจิกายน-ธันวาคม เราเลยเลื่อนมาไปเดือนธันวาคมค่ะ วางแผนล่วงหน้ามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนค่ะ แบบก่อนไปเราไฟหมดกันมาก รู้สึกไม่มีแรงทำอะไร ความคิดสร้างสรรค์ไม่ค่อยมี 555 ก็เลยหวังว่าการไปเที่ยวครั้งนี้ จะช่วยทำให้มีแรงบันดาลใจมากขึ้น ปลุกไฟในตัวคุณ 555 ไม่ลองไม่รู้ค่ะ ไปลุยกันเลย
เราไปกับเพื่อนอีก 1 คน รวมทั้งหมดเป็น 2 คน ระยะเวลาในการไปครั้งนี้ 3 วัน 2 คืน ตั้งแต่วันที่ 13-15 ธันวาคม 2559 ออกเดินทางคืนวันที่ 12 ค่ะ
****คำชี้แจงก่อนอ่าน :
1.เราอาจจะรีวิวไม่ระเอียด ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ เพราะเราลืม 555
2.รูปอาจจะเยอะ+ไม่สวย
3.ไม่ฝากเพจอะไรทั้งนั้น เพราะไม่มีให้ฝาก 555
4.ทำรีวิวด้วยเนื่องจาก ส่วนใหญรีวิวภูกระดึงมักจะเริ่มต้นจากกรุงเทพเป็นส่วนใหญ่
5.เราจะพยายามบอกรายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอบคุณค่ะ
6.พิมพ์ผิดบ้าง ขออภัยนะคะ เราเบลอๆ 555
****
มาดูแผนที่เราว่างไว้ก่อนไปนะคะ เหตุผลที่เราต้องวางแผนดีๆเนื่องจากเพื่อนเราต้องกลับมาทำงานในเช้าวันศุกร์ที่ 16 ค่ะ ตั้งงบไว้ไม่เกิน 2000 บาท
12/12/2559 19.00 น. เดินทางจากเชียงใหม่
13/12/2559
04.00 น. – 05.00 น. ถึงชุมแพ หารถต่อไปผานกเค้า
10.00 น. ถึงจุดเดินขึ้น อช.ภูกระดึง
ใช้เวลาประมาณ 3 – 5 ชั่วโมงในการเดิน ระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตรเป็นพื้นที่ชัน และ 3.5 กิโลเมตรเป็นพื้นที่ราบ จึงจะถึงที่พัก (หลังแปร – ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง)
16.00 น. – 17.00 น. เดินไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
จากนั้นก็เดินกลับที่พัก พักผ่อน คุยเล่น นอน
14/12/2559
04.00 น. – 05.00 น. ตื่นนอน เตรียมตัวไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ ผานกแอ่น ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
09.00 น. เป็นต้นไป เดินทางตามเส้นทางน้ำตกวังกวาง เพ็ญพบ เพ็ญพบใหม่ โผนพบ ถ้ำใหญ่ ธารสวรรค์ สระอโนดาด ถ้ำสอ แล้วไปออกทางผาแดง ไปผาหล่มสัก
16.00 น. – 19.00 น. รอดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก และเดินทางกลับที่พัก
15/12/2559
05.00 น. – 14.00 น. ตื่นเช้า เก็บของ แล้วก็เดินลงภู
( วันสุดท้ายอาจจะแวะเที่ยวจุดที่อยากเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆทางเดินลง แต่ให้เดินลงมาถึงที่ทำการ อช. ประมาณ 14.00 น. แต่ไม่เกิน 15.00 น. ) จากนั้นก็รอรถกลับไปขนส่งชุมแพ ไปรอรถกลับเชียงใหม่
21.30 น. ขึ้นรถกลับเชียงใหม่ที่ขนส่งชุมแพ ( รถอุบล-เชียงใหม่ เที่ยว 15:45 น. )
06.00 น. – 07.00 น. ถึงอาเขตเชียงใหม่
การเดินทางจริง
วันที่ 13/12/2559
เราออกเดินทางจากเชียงใหม่นะคะ เนื่องจากเพื่อนเราอยู่เชียงใหม่ เราเลยไปหาเพื่อนเพื่อนั่งรถมาพร้อมกันค่ะ
เราได้รถเที่ยว 19.00 ของอีสานทัวร์ รถเชียงใหม่-ขอนแก่น เป็นรถ VIP (เนื่องจากรถทัวร์อื่นเต็ม เนื่องด้วยวันเทศกาล)
เราลงที่ชุมแพ ราคาตั๋ว 540 บาทค่ะ เราจำไม่ได้ว่าถึงชุมแพเวลากี่โมง แต่ไม่เกิน 6.00 น.
จากนั้นเราก็ต่อรถจากชุมแพมาลงตัวอำเภอภูกระดึงค่ะ มาถึงจุดหมายประมาณ ไม่เกิน 6.30 น.ค่ะ ค่ารถราคา 35 บาท/คน
ความจริงลงผานกเค้าก็ได้นะคะ แต่ลุงคนขับบอกให้เราไปลงที่ตัวอำเภอ 5555
เราก็พักทานข้าวแล้วออกเดินทางต่อค่ะ รถที่เราขึ้นจากอ.ภูกระดึงไปที่ทำการ อช. ราคา 240 บาทต่อเที่ยวค่ะ แต่เรามากัน 2 คน เลยต่อคนขับเหลือ 200 บาท จะได้เสียคนละ 100 บาท ซึ่งเขาก็โอเคกับเราค่ะ 555
จากนั้นเราก็ถึงที่ทำการ อช. ค่ะ ก็ไปติดต่อ
-เรื่องค่าธรรมเนียม คนละ 40 บาท
-ค่าเต็นท์ 2 คืน เนื่องจากเราไม่ได้ขนเต็นท์มาเองค่ะ คืนละ 225 บาท
-ค่าลูกหาบ กิโลละ 30 บาท
-ค่าพลาสติกที่ขนขึ้นไป มัดจำ 100 บาท
เมื่อเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย ก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ
เดินขึ้นเวลา 8.00 น.ค่ะ เริ่มกันเลย
การเดิน 1 กม แรกก่อนถึงซำแฮก จะเหนื่อยมาก และไปเหนื่อยอีกทีก่อนถึงหลังแปรประมาณ 1.3 กม ค่ะ ที่เหนื่อยด้วยเนื่องจากทางที่เป็นหินสลับกับความชันค่ะ
ภาพบรรยากาศระหว่างทางค่ะ
วิวจากซำแฮก
แตงโมอันละ 10 บาท จากซำแฮก
ออกเดินทางต่อกันเลย 555
แวะพักเล่นกับเงา 555
พืชพันธุ์ริมทาง
ทางเดินที่คงเอกลักษณ์คือความเป็นธรรมชาติ
จะถึงแล้ว แวะถ่ายรูปสักครู่ 55
ถึงแล้ว หลังแปรที่ใฝ่ฝัน เราใช้เวลาเดินจากจุดเริ่มต้นมาถึงหลังแปรประมาณ 5 ชม 555 เนื่องจากเพื่อนเราไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย+กับเราเป็นคนตัวใหญ่ ทำให้เดินช้า แต่ว่าถึงชัวร์ค่ะ 555 ระหว่างทางเพื่อนเราบ่นว่าไม่อยากขึ้นตลอดเวลา แต่สุดท้าย เราทั้งคู่ก็ทำได้ค่ะ เราเป็นคนที่อยากมา ส่วนเพื่อนเรา เราไปขอร้องให้เขามาเป็นเพื่อน 5555
วิวที่หลังแปร
หลังจากหายเหนื่อยและสูดกลิ่นของความสำเร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางไปยังที่พักกันต่อเลยค่ะ พื้นราบ 3 กม กว่า เดินกันต่อ 555
ถึงสักที ที่พักของเรา 555
หลังจากนั้นเราก็ไปติดต่อเรื่องที่พักกับเครื่องนอนค่ะ
ค่าใช้จ่ายเครื่องนอนของเรานะคะ
-หมอน 2 ใบ 40 บาท/2วัน
-แผ่นรองนอน 2 อัน 80 บาท/2วัน
-ถุงนอน 2 อัน 120 บาท/2วัน
จากนั้นก็เลือกเต็นท์ที่ต้องการเลยค่ะ เราเลือกเต็นท์ให้อยู่กึ่งกลางระหว่างร้านอาหารกับห้องน้ำค่ะ สะดวกดี
จากนั้นเพื่อนเราก็สลบอยู่ที่เต็นท์ ส่วนเราไฟท์ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูกค่ะ
ออกเดินทางกันเลย ----
ถึงแล้ว ผาหมากดูก ใช้เวลาเดินประมาณ 40นาทีถึง1 ชม ระยะทางประมาณ 2 กม นิดๆ เรารีบเดินจ้ำเพื่อไปให้ทันพระอาทิตย์ตก 55
จับจองที่นั่งเพื่อรอดูพระอาทิตย์ตกกันค่ะ
พระอาทิตย์ตกแล้วๆๆๆๆๆๆๆ
พระอาทิตย์หายไปแล้ว 555 ก็เดินทางกลับที่พักกันค่ะ
กลับมาถึงที่พัก เราก็ไปปลุกเพื่อนเพื่อไปทานข้าวค่ะ สิ่งที่ทุกคนจะพบเจอทุกครั้งเวลาไปทานข้าวเย็น คือ น้องกวางค่ะ (ภาพไม่ค่อยชัดนะคะ เราไม่กล้าเข้าไปใกล้+เราเป็นคนมือสั่น 555)
หลังจากทานข้าวเสร็จ อิ่มหน่ำสำราจ ก็กลับไปนอนเก็บแรงไว้ลุยต่อวันต่อไปค่ะ
เราขอไม่ชี้แจงค่าอาหารนะคะ เพราะในส่วนนี้เราไม่ได้วางแผนมา+แต่ละคนคงกินอาหารแตกต่างกัน 555
วันนี้เป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ค่ะ เนื่องจากเรายังมีแรง 555