'กสท’ ทวง ‘ทรู-ดีพีซี’ จ่ายค่าเช่าหมื่นล้าน




ผู้สื่อข่าวรายงานจาก สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งว่า คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะมีการประชุมในวันที่ 23 ธ.ค. 2557โดยมีวาระการประชุมเพื่อพิจารณาและเห็นชอบ ผลของคณะทำงานติดตามและกำกับดูแลการดำเนินการเกี่ยวกับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ของผู้ให้บริการ ที่หมดสัญญาสัมปทานไปเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2556 ได้แก่ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด หรือ ดีพีซี ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส  ตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1800 MHz

ทั้งนี้ คณะทำงานติดตามและกำกับฯ ได้สรุปแนวทางการพิจารณาค่าใช้โครงข่ายของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)  หลังจากก่อนหน้านี้ หรือ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2557 ที่ผ่านมา กสท ได้ส่งหนังสือถึง กสทช.เรียกให้ชำระค่าเช่าโครงข่ายในช่วงเยียวยาตลอดเวลา 1 ปี ซึ่งทั้ง 2 บริษัทค้างชำระไว้ รวมเป็นเงิน 14,141 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเช่าของทรูมูฟ 11,796 ล้านบาท และดีพีซีเป็นเงิน 2,344 ล้านบาท

ขณะที่ คณะทำงานตรวจสอบเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากการให้บริการในระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการ ได้สรุปผลการพิจารณารายได้ และค่าใช้จ่ายจากการให้บริการในระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการ ณ เดือน ส.ค. 2557 เพื่อให้ที่ประชุมบอร์ด กทค.พิจารณา

รายงานข่าวแจ้งว่า นับตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 2556 บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัทดิจิตอลโฟน หรือดีพีซี ไม่ได้มีการนำส่งเงินรายได้ที่เกิดจากการให้บริการในช่วงเวลาดังกล่าวเข้าเป็นเงินแผ่นดินตามที่ระบุไว้ในประกาศ อีกทั้งหน่วยงานรัฐที่เป็นเจ้าของโครงข่ายที่นำไปให้บริการอย่าง กสท ก็ยังคงไม่ได้เงินค่าเช่าโครงข่ายจากเอกชนด้วย เนื่องจากเอกชนแจ้งข้อมูลมาว่าผลการดำเนินการในช่วงเยียวยาขาดทุนถึงพันกว่าล้านบาท

แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/business/136372
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่