[One Day Trip] ท้าแดด สู้ลม ลุยฝุ่น @ สมุทรสงคราม

สวัสดีครับ ! รีวิวทริปท่องเที่ยวกระทู้แรก ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ ^^

วันอาทิตย์ที่แสนน่าเบื่อของคนในเมืองหลวง เราล้วนต่างเผชิญรถติด ฝุ่นควัน ผู้คนวุ่นวาย ก็เลยเสนอพี่ชายว่างั้นไป ท้าแดด สู้ลม ลุยฝุ่นกันเถอะ แล้วที่ไหนใกล้ๆแล้วน่าสนใจบ้างละ หวยมาออกที่ "สมุทรสงคราม" ครับ ที่เที่ยวเยอะ ใกล้กรุงเทพฯ ด้วยงั้นลุยกันจะเลยจะรออะไร [Ride Now]

ประกอบกับผมและพี่ชายเพิ่งจะมีเพื่อนคู่ใจใหม่กันทั้งคู่ ก็ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะไปเที่ยวกันในรูปแบบใหม่ๆ "ผมว่าการเดินทางแบบลมฟาดหน้านี่มันมีความสุขกว่าโดนแอร์ฟาดหน้าเป็นไหนๆ เลยละครับ" เกริ่นมาซะเยอะเริ่มเลยละกันครับ

ล้อหมุนออกจาก กทม. มาแวะพักพรวดเดียวที่ปั๊ม Caltex ตรงทางเข้าจังหวัดสมุทรสงคราม (ออกมาตั้งนานเพิ่งจะได้ถ่ายรูปกันภาพแรก)
"เพื่อนคู่ใจ" อาจจะเล่าในตัวหนังสือไม่เก่งนะครับ ขอเล่าเป็นภาพก็แล้วกัน



หลังจากเข้าจังหวัดสมุทรสงคราม แวะเข้าวัดทำบุญเอาฤกษ์เอาชัยกันที่ "วัดศรัทธาธรรม" เป็นวัดที่สวยงามมากครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตั้งอยู่ที่ตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมืองสมุทรสงครามระหว่างทางไปดอนหอยหลอด ซึ่งชาวบ้านมักเรียกกันว่า " วัดมอญ " เนื่องจากเป็นวัดที่สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชุมชนมอญ เป็นวัดที่พระอุโบสถทำจากไม้สักทองฝังมุกทรงสำเภา และจุดเด่น คือ ผนังด้านในของอุโบสถฝังมุกทั้งหลัง ภายในเป็นภาพพุทธประวัติ ภาพรามเกียรติ์ ประดิษฐานพระพุทธรูปจำลองหลายองค์ พระประธานเป็นรูปหล่อพระพุทธชินราช นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อหลวงพ่อบ้านแหลม หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เป็นที่สักการะของชาวสมุทรสงคราม และจังหวัดใกล้เคียง








เขยิบจากวัดศรัทธาธรรมไปเพียงไม่กี่กิโลเราก็จะพบกับ สถานที่ตากอากาศชื่อดังของสมุทรสงครามครับ "ดอนหอยหลอด" ลมเย็นสบายมากครับ น่ามานอนพักผ่อน หลีกหนีความวุ่นวายจาก กทม. มากๆ  และสักการะศาลกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์








จากนั้นเราเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองกันครับ แวะตลาดแม่กลอง หรืออีกชื่อมักนิยมเรียกกันว่า "ตลาดร่มหุบ" ณ  สถานีรถไฟแม่กลอง ผมไปวันอาทิตย์นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเพียบเลยครับ รอดูรถไฟวิ่งผ่านตลาดกันแบบไม่กลัวร้อนกันเลยทีเดียว "Unseen Thailand ไม่ไปไม่รู้ เที่ยวไทยนี่แหละครับสุขใจสุดๆแล้ว"






"รถไฟมาแล้ววววววว"

ผมชอบวิถีชีวิตของคนใบแถบชานเมือง หรือ ต่างจังหวัดมากๆครับ ผมว่ามันดูมีความสุขแบบแท้จริง ไม่วุ่นวาย ไม่แข่งขันกัน  ไม่หวือหวา ไม่รีบเร่ง อาจจะไม่ได้ดูทันสมัยเหมือนในเมืองใหญ่ๆ ไม่ได้มีเทคโนโลยีที่สุดยอด แต่ผมว่าชีวิตแบบนี้แหละ "เป็นคุณภาพชีวิตที่หาได้ยากมากๆในปัจจุบัน"





ถ้าคุณอยากกินปลาก็ไปซื้อในตลาด ไม่ก็ ไปสั่งตามร้านอาหาร ไม่เสียเวลาด้วย แต่ถ้าเราหามาด้วยตัวเราเองละ ? อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่มันมีความสุขนะ


ยามเมื่อแสงแดดแผดเผาเราน้อยลง สายลมก็โชยมา กลิ่นอายของความมีสุขยามเย็น ทั้งคนที่แห่กันมาซื้อ และ คนที่แห่กันมาขาย อีกทั้งคนที่แห่กันมาเที่ยว แน่นอนครับอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนี้ "Amphawa Floating Market" หรือ "ตลาดน้ำอัมพวา" นั่นเองครับ

แวะทานกาแฟ นั่งพักกายและใจให้หายเมื่อยและเหนื่อย ก่อนที่จะเดินฝ่าดงผู้คน ทั้งของกิน ของใช้ และ ของฝากอันมากมาย ณ ที่แห่งนี้


สัญญาณแห่งการต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วครับ



จะเดินเที่ยว หรือ จะหาของกินก่อนดีครับ ติ๊กต๊อกๆๆๆ ผมพาไปกินก่อนเลยแล้วกัน (ผมก็หิวแล้วตอนนี้)








อิ่มแล้วมันง่วงนะ ไปเดินย่อยกัน














กาแฟร้านนี้อร่อย ^^


กลับแล้วนะจ๊ะ ไว้มีโอกาศจะมาเที่ยวใหม่


** ขอลากันไปแต่เพียงเท่านี้ครับ มีอะไรแนะนำ ติชมได้นะครับ จริงๆผมชอบมอเตอร์ไซค์มาก เพิ่งจะมาสังเกตุว่า แทบไม่มีรูปรถเลย -.- **