พวกเราบางคนอาจจะติดกับสารเสพติดบางชนิด ไม่ว่าจะเป็นตัวยา เครื่องดื่มหรืออื่นๆ ก็ทำให้เราบริโภคมากขึ้นหรือติดงอมแงมไปเลย คนส่วนใหญ่เองก็อาจจะติดการเล่น Social Network ติดเกมส์ ซึ่งเราก็สามารถนำแนวทางนี้ไปประยุกต์ใช้ได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งเสพติดเสมอไป ลองมาดู 10 อันดับกันดีกว่าว่ามีแนวทางไหนบ้าง
10.ขอความช่วยเหลือ
หากเราต้องการเยียวยารักษาตัวเองขึ้นมาจริงๆ เราก็อย่าไปอายที่จะไปขอความช่วยเหลือ ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนกระจอกอะไรหรอก แม้แต่คนที่มีจิตใจแข็งแกร่งก็ยังติดพวกสารเสพติดอย่างชนิดที่ว่าขาดไม่ได้ เราก็ต้องขอความช่วยเหลือจากใครสักคนหนึ่งที่เราไว้ใจ และคิดว่าเขาหรือเธอสามารถทำให้เราชนะใจตัวเองได้
9.ค่อยๆลด ละ เลิกไปทีละเล็ก ทีละน้อย
สิ่งสำคัญเลยก็คือ จะต้องค่อยๆลด ละ เลิกไปเรื่อยๆ เราไม่ต้องทำตัวเองเป็นฮีโร่และก็ใจร้อนมากเกินไป บางคนก็ต้องมีการแบ่งเวลาให้ดีๆ แต่ผู้คนส่วนใหญ่กลับจริงจังมากเกินไปว่า จะต้องลด ละ เลิกให้เร็วที่สุด ดีที่สุดเลยเราจะต้องลดปริมาณการเสพให้น้อยลง อย่างเช่น หากเราสูบบุหรี่ 30 มวน ก็ต้องลดลงเหลือ 20 และ 10 และก็ลดลงไปเรื่อยๆ
8.รักษาแนวทางของตัวเอง
สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากก็คือ การรักษาแนวทางตัวเองในแต่ละวันจนติดเป็นนิสัย หากเราติดเกม ก็ต้องยึดมั่นกับกฎวินัยเล่นเกมในแต่ละวัน หรือจำนวนบุหรี่ที่เราสูบในแต่ละวัน การรักษาแนวทางจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจและก็เดินหน้าบำบัดตัวเองได้ต่อเนื่อง
7.ประเมินตรวจสอบตัวเอง
การที่เราหาใครสักคนหนึ่งช่วยเยียวยาเราถือเป็นความคิดที่ดี แต่เราก็ต้องประเมินให้ดีก่อนว่า คนที่ให้ความช่วยเหลือเรานั้น รู้จักตัวเราดีแค่ไหน เราจึงต้องทำการประเมินตัวเองเสียก่อน แล้วก็ประเมินคนที่ขอความช่วยเหลือเรา เราก็ลองถามตัวเองก่อนว่า รู้จักตัวเองดีแค่ไหนก่อน แล้วจากนั้นก็ลองถามคนที่ให้ความช่วยเหลือเราอีกทีนึง
6.เขียนบันทึกชีวิตประจำวัน
เป้าหมายชีวิตของเราจะให้เดินหน้าตามความเป็นจริงได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการเริ่มบันทึกเส้นทางชีวิตตัวเอง การบันทึกจะช่วยให้เรารู้จักตรวจสอบและรู้จักปรับปรุงแก้ไขตัวเองอยู่เสมอ ช่วยให้เราประเมินชีวิตความเป็นอยู่ของเราในเวลานี้ แล้วเราก็จะเข้าใจตัวเองมากขึ้น และหาเหตุผลต่างๆในการปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
5.ปักหมุดเป้าหมายของเรา
เมื่อเราเริ่มเดินหน้าเยียวยาตัวเองแล้ว ก็เป็นเรื่องดีที่เราจะต้องกำหนดเป้าหมายตัวเองให้ชัดเจน เราสามารถปักหมุดได้ไม่ว่าเราจะวางเป้าหมายยังไงก็ตาม จะช่วยกระตุ้นให้เราเข้าถึงเป้าหมายให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อครอบครัวของเรา เพื่อนของเรา คนที่เรารักและความสำเร็จในอนาคตข้างหน้าที่เราได้รับ
4.นั่งสมาธิ
การเอาชนะใจตัวเองส่วนหนึ่งเราจะต้องรู้จักตัวเองและควบคุมอารมณ์ตัวเองให้มากๆ การนั่งสมาธิจะช่วยเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เราจะต้องนั่งสมาธิจนติดเป็นนิสัย เพียงแค่เราตื่นมานั่งสมาธิทุกๆเช้าและก็หลับตาหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วเราจะพบว่าตัวเองเปลี่ยนไปเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น และทำให้เราเอาชนะใจตัวเองได้อย่างง่ายดาย
3.ตอบแทนตัวเองบ้าง
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือจะต้องให้รางวัลกับตัวเองบ้าง หากเราสามารถลดเวลาในการเล่นเกมลงได้ ก็จะต้องให้รางวัลโดยการกินอาหารที่เราโปรดปราน แล้วจากนั้นก็ตั้งเป้าหมายลด ละ เลิกให้น้อยลงกว่าเดิม โดยเราจะต้องค่อยๆขยับเดินหน้าไปทีละก้าว สะสมชัยชนะไปทีละเล็กละน้อยเพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้กับชีวิตของเรา
2.ออกกำลังกาย
ก็คล้ายๆกับการนั่งสมาธิ การออกกำลังกายเราก็ต้องทำจนติดเป็นนิสัย หากเราออกกำลังกายทุกๆวันและออกตามความเหมาะสม ก็จะช่วยให้สารเคมีในสมองของเราหลั่งออกมาจนทำให้เรามีความสุขกับการออกกำลังกายมากขึ้น มองชีวิตด้านบวกมากขึ้นและมองโลกในแง่ดีและมีความรู้สึกดีตามมา ก็ยิ่งทำให้การเยียวยาของเราดำเนินง่ายมากขึ้น
1.หางานอดิเรกทำ
หากเราต้องการเยียวยาตัวเองแบบจริงจัง เราก็ต้องสร้างงานอดิเรกส่วนหนึ่งขึ้นมาให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา แม้ว่าเราจะเยียวยาตัวเองเรื่องอะไรก็ตาม ก็ต้องให้ความสำคัญกับงานอดิเรกที่เราทำอยู่ ใช้เวลาในการทำกิจกรรมนี้ให้มากๆ การใช้เวลากับงานอดิเรกของเราเป็นแนวคิดที่ดีในการแบ่งเวลาเติมเชื้อพลังงานและพลังทางความคิดของเราให้เอาชนะสิ่งเสพติดลงไปได้
ผู้เขียน Mr.lawrence10
(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับแนวทางในการบำบัดสิ่งเสพติด
หากเราต้องการเยียวยารักษาตัวเองขึ้นมาจริงๆ เราก็อย่าไปอายที่จะไปขอความช่วยเหลือ ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนกระจอกอะไรหรอก แม้แต่คนที่มีจิตใจแข็งแกร่งก็ยังติดพวกสารเสพติดอย่างชนิดที่ว่าขาดไม่ได้ เราก็ต้องขอความช่วยเหลือจากใครสักคนหนึ่งที่เราไว้ใจ และคิดว่าเขาหรือเธอสามารถทำให้เราชนะใจตัวเองได้
สิ่งสำคัญเลยก็คือ จะต้องค่อยๆลด ละ เลิกไปเรื่อยๆ เราไม่ต้องทำตัวเองเป็นฮีโร่และก็ใจร้อนมากเกินไป บางคนก็ต้องมีการแบ่งเวลาให้ดีๆ แต่ผู้คนส่วนใหญ่กลับจริงจังมากเกินไปว่า จะต้องลด ละ เลิกให้เร็วที่สุด ดีที่สุดเลยเราจะต้องลดปริมาณการเสพให้น้อยลง อย่างเช่น หากเราสูบบุหรี่ 30 มวน ก็ต้องลดลงเหลือ 20 และ 10 และก็ลดลงไปเรื่อยๆ
สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากก็คือ การรักษาแนวทางตัวเองในแต่ละวันจนติดเป็นนิสัย หากเราติดเกม ก็ต้องยึดมั่นกับกฎวินัยเล่นเกมในแต่ละวัน หรือจำนวนบุหรี่ที่เราสูบในแต่ละวัน การรักษาแนวทางจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจและก็เดินหน้าบำบัดตัวเองได้ต่อเนื่อง
การที่เราหาใครสักคนหนึ่งช่วยเยียวยาเราถือเป็นความคิดที่ดี แต่เราก็ต้องประเมินให้ดีก่อนว่า คนที่ให้ความช่วยเหลือเรานั้น รู้จักตัวเราดีแค่ไหน เราจึงต้องทำการประเมินตัวเองเสียก่อน แล้วก็ประเมินคนที่ขอความช่วยเหลือเรา เราก็ลองถามตัวเองก่อนว่า รู้จักตัวเองดีแค่ไหนก่อน แล้วจากนั้นก็ลองถามคนที่ให้ความช่วยเหลือเราอีกทีนึง
เป้าหมายชีวิตของเราจะให้เดินหน้าตามความเป็นจริงได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการเริ่มบันทึกเส้นทางชีวิตตัวเอง การบันทึกจะช่วยให้เรารู้จักตรวจสอบและรู้จักปรับปรุงแก้ไขตัวเองอยู่เสมอ ช่วยให้เราประเมินชีวิตความเป็นอยู่ของเราในเวลานี้ แล้วเราก็จะเข้าใจตัวเองมากขึ้น และหาเหตุผลต่างๆในการปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
เมื่อเราเริ่มเดินหน้าเยียวยาตัวเองแล้ว ก็เป็นเรื่องดีที่เราจะต้องกำหนดเป้าหมายตัวเองให้ชัดเจน เราสามารถปักหมุดได้ไม่ว่าเราจะวางเป้าหมายยังไงก็ตาม จะช่วยกระตุ้นให้เราเข้าถึงเป้าหมายให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อครอบครัวของเรา เพื่อนของเรา คนที่เรารักและความสำเร็จในอนาคตข้างหน้าที่เราได้รับ
การเอาชนะใจตัวเองส่วนหนึ่งเราจะต้องรู้จักตัวเองและควบคุมอารมณ์ตัวเองให้มากๆ การนั่งสมาธิจะช่วยเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เราจะต้องนั่งสมาธิจนติดเป็นนิสัย เพียงแค่เราตื่นมานั่งสมาธิทุกๆเช้าและก็หลับตาหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วเราจะพบว่าตัวเองเปลี่ยนไปเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น และทำให้เราเอาชนะใจตัวเองได้อย่างง่ายดาย
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือจะต้องให้รางวัลกับตัวเองบ้าง หากเราสามารถลดเวลาในการเล่นเกมลงได้ ก็จะต้องให้รางวัลโดยการกินอาหารที่เราโปรดปราน แล้วจากนั้นก็ตั้งเป้าหมายลด ละ เลิกให้น้อยลงกว่าเดิม โดยเราจะต้องค่อยๆขยับเดินหน้าไปทีละก้าว สะสมชัยชนะไปทีละเล็กละน้อยเพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้กับชีวิตของเรา
ก็คล้ายๆกับการนั่งสมาธิ การออกกำลังกายเราก็ต้องทำจนติดเป็นนิสัย หากเราออกกำลังกายทุกๆวันและออกตามความเหมาะสม ก็จะช่วยให้สารเคมีในสมองของเราหลั่งออกมาจนทำให้เรามีความสุขกับการออกกำลังกายมากขึ้น มองชีวิตด้านบวกมากขึ้นและมองโลกในแง่ดีและมีความรู้สึกดีตามมา ก็ยิ่งทำให้การเยียวยาของเราดำเนินง่ายมากขึ้น
หากเราต้องการเยียวยาตัวเองแบบจริงจัง เราก็ต้องสร้างงานอดิเรกส่วนหนึ่งขึ้นมาให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา แม้ว่าเราจะเยียวยาตัวเองเรื่องอะไรก็ตาม ก็ต้องให้ความสำคัญกับงานอดิเรกที่เราทำอยู่ ใช้เวลาในการทำกิจกรรมนี้ให้มากๆ การใช้เวลากับงานอดิเรกของเราเป็นแนวคิดที่ดีในการแบ่งเวลาเติมเชื้อพลังงานและพลังทางความคิดของเราให้เอาชนะสิ่งเสพติดลงไปได้
ผู้เขียน Mr.lawrence10