สวัสดีค่ะ เราติดตามอ่านพันทิปมาสักพักแล้วค่ะ ตอนที่ท้องแล้วก็ตอนใกล้คลอดก็อาศัยอ่านจากพันทิปว่าคุณแม่หลายๆคนมีอาการแบบเดียวกันไม เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การคลอดโดยวิธีผ่าคลอดเผื่อคนที่ยังลังเลวิธีการคลอดหรือคนที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะคลอดธรรมชาติได้รึป่าว
เข้าเรื่องเลยนะคะ....
-อาการตอนจะคลอด (ถ้าใครขี้เกียจอ่านข้ามไปตอนผ่าคลอดเลยค่ะ)
ในตอนที่ท้องนั้นเราตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะคลอดธรรมชาติค่ะ ด้วยสาเหตุหลายๆอย่าง แต่ที่สำคัญคือ “อยากออกจาก รพ. เร็วๆ” ตอนที่เราท้องได้ประมาณ 37 สัปดาห์ บอกเลยนะคะว่า เราไม่มีอาการแบบคุณแม่ท่านอื่นๆที่เคยอ่านมาเลย คือ เราไม่ท้องปั้น (จนปัจจุบันท้องปั้นเป็นยังไงยังไม่รู้) มดลูกไม่ลงต่ำ ซึ่งก็เป็นอาการของคนใกล้คลอด ตอนนั้นหมอนัดตรวจครรภ์วันที่ 26 กันยา แต่ว่าเราเหมือนๆมีเซ้นซ์ยังไงไม่รู้เลยอยากไปก่อน เราเลยไปหาหมอวันที่ 24 กันยา ตอนหมอตรวจหมอก็บอกว่า น่าจะคลอกตามที่คำนวณไว้คือ 13 ตุลา เพราะท้องยังไม่ปั้น ยังไม่มีวี่แววอะไรเลยค่ะ แต่วันนั้นโชคดีที่หมอเก็บค่าฝากพิเศษพอดี พอจ่ายเสร็จหมอก็เขียนปี้น้อยให้ ไว้ไปยื่นที่รพ. แต่คืนนั้นเรานอนไม่ค่อยหลับค่ะ ตอนประมาณตี 1 รู้สึกเหมือนมีน้ำซึมๆออกจากช่องคลอด แต่คิดว่าเป็นตกขาวธรรมดาเหมือนที่เป็นทุกวันเลยไม่ได้เอะใจอะไร พอตอนนอนก็เหมือนหลับไม่ค่อยสนิท ก็ยังรู้สึกว่ามีน้ำซึมๆออกมาอยู่ตลอด พอประมาณตี 4 รู้สึกมันเริ่มเยอะขึ้น เราเลยไม่ค่อยสบายใจ เลยเปิดหาข้อมูลจากในเน็ตดู เผื่ออาการที่ว่าจะเป็น”น้ำเดิน” แต่ที่อ่านดูน้ำเดินคือ น้ำมันต้องไหลออกมาเยอะมากๆ แบบไม่สามารถกลั้นอยู่ แต่นี่คือมันไม่เข้าข่ายเลยค่ะ มันแค่ซึมๆ แต่ไหลตลอดเวลา เราเลยตัดสินใจโทรไปถามหมอ หมอเลยบอกให้มา รพ. พอไปตรวจภายในเท่านั้นแหละ น้ำนี่ไหลโจ้กออกมาอย่างกับเขื่อนแตกเลยค่ะ เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า “ชัดเลยค่ะ” เราเลยได้ไปนอนรอที่ห้องรอคลอด ระหว่างรอนั้นเรารู้เลยค่ะว่าคำว่า “น้ำเดิน” เป็นยังไง มันจะมีน้ำไหลออกมาแบบกลั้นไม่อยู่เลยค่ะ ถึงแม้เราจะกลั้นแค่ไหน น้ำที่ออกมาจะเยอะมาก จนต้องเปลี่ยนผ้าซับ (พยาบาลเอามารองก้นไว้) บ่อยมาก พอตอนเช้าหมอที่เราฝากครรภ์มาตรวจภายใน ปรากฏว่า “ปากมดลูกไม่เปิด” ค่ะ หมอเลยให้ทางเลือกว่าจะคลอดยังไงคือ 1. คลอดธรรมชาติโดยหมอจะฉีดยาเร่งให้ แต่ไม่คอนเฟิร์มว่าปากมดลูกจะเปิดไม เพราะบางทีไม่เปิดก็มีค่ะ แล้วอีกอย่างถ้าเปิดก็ต้องนอนรอนานมาก จนกว่าจะเปิดถึง 10 ซม. 2. ผ่าคลอด ค่ะ ตอนแรกยังมั่นใจอยู่นะคะว่าอยากคลอดธรรมชาติ แต่เราโทรไปปรึกษาแม่ แม่บอกว่า ให้ผ่าคลอดดีกว่า เพราะแม่เคยฉีดยาเร่งมาก่อน มันทรมานมาก กว่าจะคลอดก็แทบจะหมดแรงแล้ว แล้วอีกอย่างก็ไม่แน่ด้วยว่าปากมดลูกจะเปิดรึป่าว เราเลยตัดสินใจผ่าคลอดค่ะ
-การผ่าคลอด
เราจะอธิบายขั้นตอนคร่าวๆให้ฟังนะคะ เผื่อคุณแม่คนไหนอยากผ่าจะได้รู้ขั้นตอนค่ะ ในการผ่าคลอดนั้น ตอนแรกพยาบาลจะมาอธิบายขั้นตอนต่างๆ อาการหลังผ่า และจะให้เซ็นต์ยินยอมผ่าคลอดค่ะ สำหรับขั้นตอนนะคะ
1. พยาบาลจะมาทำความสะอาดจิมิเรา และโกนขนของเราค่ะ
2. จะทำการสวนปัสสาวะ เพื่อที่เราจะได้ไม่ฉี่แตกในห้องผ่า พอสวนเสร็จก็เข้าห้องผ่าเลยค่ะ
พอเข้าไปถึงห้องผ่าเราต้องถอดเสื้อผ้าออกทุกชิ้น ห้ามเอาของมีค่าเข้าไปค่ะเดี่ยวหาย พยาบาลจะเอาคล้ายๆที่หนีบผ้ามาหนีบนิ้วเรา มันเป็นเครื่องวัดปริมาณออกซิเจนในเลือดค่ะ (อ้อ! ห้ามทาเล็บนะคะ เพราะเครื่องนี้จะวัดไม่ได้ถ้าเราทาเล็บ) จากนั้นเมื่อถึงขั้นตอนการบล็อคหลัง (ที่นี่ไม่วางยาสลบนะคะ) หมอจะให้เรานอนตะแคงขดตัว ให้เส้นสันหลังมันปูดออกมาเยอะที่สุด แล้วหมอจะเอาเหมือนหัวเข็มมาจิ้มไว้ 3 จุด (อันนี้นึกเอาเองนะคะ เพราะเราหันหลังเลยมองไม่เห็นเน๊าะ) จากนั้นหมอจะฉีดยาชาเข้าไป ยาชาออกฤทธิ์เร็วมากค่ะ ประมาณ 5 วิ ก็ชาแล้ว ก่อนฉีดพยาบาลเลยบอกว่าพอฉีดแล้วรีบๆพลิกตัว พอพลิกตัวมานอนหงาย พยาบาลก็เอาหน้ากากออกซิเจนมาใส่ แล้วเอาม่านมาบัง ม่านจะอยู่เหนือหน้าอกเราเลยนะคะ ไม่เห็นอะไรแน่นอน จากนั้นก็จะทดสอบโดยการเอาวัตถุปลายแหลมมาจิ้มดูว่าเราเจ็บไมบริเวณที่โดนยาชา พอแน่ใจแล้วก็ลงมือผ่าค่ะ ผลข้างเคียงของยาชาคืออาจจะทำให้คลื่นไส้อาเจียน หรือเวียนหัวได้นะคะ ในระหว่างที่ผ่าคลอดนั้น เราก็รู้สึกอยากจะอ้วกมากๆแบบไม่ไหวแล้ว พยาบาลเลยฉีดยาลดอาการอาเจียนให้ค่ะ แล้วพอหลังๆตอนใกล้จะผ่าเสร็จจะรู้สึกไม่สบายตัวมากๆ เพราะเค้าจะล็อกแขนเราไว้ไม่ให้ขยับ+ท่อนล่างที่ชา ทำให้รู้สึกอึดอัดสุดๆ ตอนที่หมอเอาเด็กออกมาแล้ว วินาทีแรกที่ได้ยินเสียงลูกร้อง บอกเลยค่ะว่าอยากจะร้องไห้มากๆ น้ำตามันจะไหล แต่พยายามกลั้นไว้ค่ะ เพราะอาย อิอิ พอเค้าทำความสะอาดเด็กเสร็จแล้วก็เอามาให้เราดูหน้าค่ะ เอามาจุ๊บแก้มเลย อิอิ พอหมอเย็บ ทำวามสะอาดร่างกายเราเสร็จแล้วก็ใส่เสื้อผ้าแล้วเข็นออกจากห้องผ่าค่ะ ตอนแรกก็จะเข็นเรามาตรงห้องรอคลอดคลอด แต่คนละส่วนกับตอนแรกนะคะ เพื่อรอเค้าเคลียร์เตียง พยาบาลก็จะเอาลูกมาให้ดูดนมเราค่ะ บอกก่อนเลยนะคะว่า รพ. ที่เราคลอดเป็น รพ. ที่สนับสนุนนมแม่ 100 เปอร์เซ็น เค้าเลยรีบเอาลูกมาดูดกระตุ้นนมเราค่ะ ตอนแรกทุลักทุเลมากเพราะเราหัวนมสั้น เด็กก็จะดูดแป๊ปๆแล้วหลับต่อ เพราะเค้าจะยังคิดว่าอยู่ในท้องแม่อยู่ พอดูสักพักก็จะเข็นเราไปห้องหลังคลอดค่ะ
จบแล้วนะคะสำหรับประสบการณ์การผ่าคลอด ยาวเหมือนกันเน๊าะ ฮ่าๆๆ ขอบคุณทุกๆคนนะคะที่เสียสละเวลาอ่าน กระทู้ต่อไปจะเป็นเกี่ยวกับการสนับสนุนนมแม่ของ รพ.ที่เราคลอดค่ะ ซึ่งบอกเลยว่าประทับใจมากๆ เค้าให้ความรู้เกี่ยวกับนมแม่ได้ดีมากๆเลยค่ะ รอติดตามกันได้นะคะ
[แชร์ประสบการณ์] การผ่าคลอด
เข้าเรื่องเลยนะคะ....
-อาการตอนจะคลอด (ถ้าใครขี้เกียจอ่านข้ามไปตอนผ่าคลอดเลยค่ะ)
ในตอนที่ท้องนั้นเราตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะคลอดธรรมชาติค่ะ ด้วยสาเหตุหลายๆอย่าง แต่ที่สำคัญคือ “อยากออกจาก รพ. เร็วๆ” ตอนที่เราท้องได้ประมาณ 37 สัปดาห์ บอกเลยนะคะว่า เราไม่มีอาการแบบคุณแม่ท่านอื่นๆที่เคยอ่านมาเลย คือ เราไม่ท้องปั้น (จนปัจจุบันท้องปั้นเป็นยังไงยังไม่รู้) มดลูกไม่ลงต่ำ ซึ่งก็เป็นอาการของคนใกล้คลอด ตอนนั้นหมอนัดตรวจครรภ์วันที่ 26 กันยา แต่ว่าเราเหมือนๆมีเซ้นซ์ยังไงไม่รู้เลยอยากไปก่อน เราเลยไปหาหมอวันที่ 24 กันยา ตอนหมอตรวจหมอก็บอกว่า น่าจะคลอกตามที่คำนวณไว้คือ 13 ตุลา เพราะท้องยังไม่ปั้น ยังไม่มีวี่แววอะไรเลยค่ะ แต่วันนั้นโชคดีที่หมอเก็บค่าฝากพิเศษพอดี พอจ่ายเสร็จหมอก็เขียนปี้น้อยให้ ไว้ไปยื่นที่รพ. แต่คืนนั้นเรานอนไม่ค่อยหลับค่ะ ตอนประมาณตี 1 รู้สึกเหมือนมีน้ำซึมๆออกจากช่องคลอด แต่คิดว่าเป็นตกขาวธรรมดาเหมือนที่เป็นทุกวันเลยไม่ได้เอะใจอะไร พอตอนนอนก็เหมือนหลับไม่ค่อยสนิท ก็ยังรู้สึกว่ามีน้ำซึมๆออกมาอยู่ตลอด พอประมาณตี 4 รู้สึกมันเริ่มเยอะขึ้น เราเลยไม่ค่อยสบายใจ เลยเปิดหาข้อมูลจากในเน็ตดู เผื่ออาการที่ว่าจะเป็น”น้ำเดิน” แต่ที่อ่านดูน้ำเดินคือ น้ำมันต้องไหลออกมาเยอะมากๆ แบบไม่สามารถกลั้นอยู่ แต่นี่คือมันไม่เข้าข่ายเลยค่ะ มันแค่ซึมๆ แต่ไหลตลอดเวลา เราเลยตัดสินใจโทรไปถามหมอ หมอเลยบอกให้มา รพ. พอไปตรวจภายในเท่านั้นแหละ น้ำนี่ไหลโจ้กออกมาอย่างกับเขื่อนแตกเลยค่ะ เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า “ชัดเลยค่ะ” เราเลยได้ไปนอนรอที่ห้องรอคลอด ระหว่างรอนั้นเรารู้เลยค่ะว่าคำว่า “น้ำเดิน” เป็นยังไง มันจะมีน้ำไหลออกมาแบบกลั้นไม่อยู่เลยค่ะ ถึงแม้เราจะกลั้นแค่ไหน น้ำที่ออกมาจะเยอะมาก จนต้องเปลี่ยนผ้าซับ (พยาบาลเอามารองก้นไว้) บ่อยมาก พอตอนเช้าหมอที่เราฝากครรภ์มาตรวจภายใน ปรากฏว่า “ปากมดลูกไม่เปิด” ค่ะ หมอเลยให้ทางเลือกว่าจะคลอดยังไงคือ 1. คลอดธรรมชาติโดยหมอจะฉีดยาเร่งให้ แต่ไม่คอนเฟิร์มว่าปากมดลูกจะเปิดไม เพราะบางทีไม่เปิดก็มีค่ะ แล้วอีกอย่างถ้าเปิดก็ต้องนอนรอนานมาก จนกว่าจะเปิดถึง 10 ซม. 2. ผ่าคลอด ค่ะ ตอนแรกยังมั่นใจอยู่นะคะว่าอยากคลอดธรรมชาติ แต่เราโทรไปปรึกษาแม่ แม่บอกว่า ให้ผ่าคลอดดีกว่า เพราะแม่เคยฉีดยาเร่งมาก่อน มันทรมานมาก กว่าจะคลอดก็แทบจะหมดแรงแล้ว แล้วอีกอย่างก็ไม่แน่ด้วยว่าปากมดลูกจะเปิดรึป่าว เราเลยตัดสินใจผ่าคลอดค่ะ
-การผ่าคลอด
เราจะอธิบายขั้นตอนคร่าวๆให้ฟังนะคะ เผื่อคุณแม่คนไหนอยากผ่าจะได้รู้ขั้นตอนค่ะ ในการผ่าคลอดนั้น ตอนแรกพยาบาลจะมาอธิบายขั้นตอนต่างๆ อาการหลังผ่า และจะให้เซ็นต์ยินยอมผ่าคลอดค่ะ สำหรับขั้นตอนนะคะ
1. พยาบาลจะมาทำความสะอาดจิมิเรา และโกนขนของเราค่ะ
2. จะทำการสวนปัสสาวะ เพื่อที่เราจะได้ไม่ฉี่แตกในห้องผ่า พอสวนเสร็จก็เข้าห้องผ่าเลยค่ะ
พอเข้าไปถึงห้องผ่าเราต้องถอดเสื้อผ้าออกทุกชิ้น ห้ามเอาของมีค่าเข้าไปค่ะเดี่ยวหาย พยาบาลจะเอาคล้ายๆที่หนีบผ้ามาหนีบนิ้วเรา มันเป็นเครื่องวัดปริมาณออกซิเจนในเลือดค่ะ (อ้อ! ห้ามทาเล็บนะคะ เพราะเครื่องนี้จะวัดไม่ได้ถ้าเราทาเล็บ) จากนั้นเมื่อถึงขั้นตอนการบล็อคหลัง (ที่นี่ไม่วางยาสลบนะคะ) หมอจะให้เรานอนตะแคงขดตัว ให้เส้นสันหลังมันปูดออกมาเยอะที่สุด แล้วหมอจะเอาเหมือนหัวเข็มมาจิ้มไว้ 3 จุด (อันนี้นึกเอาเองนะคะ เพราะเราหันหลังเลยมองไม่เห็นเน๊าะ) จากนั้นหมอจะฉีดยาชาเข้าไป ยาชาออกฤทธิ์เร็วมากค่ะ ประมาณ 5 วิ ก็ชาแล้ว ก่อนฉีดพยาบาลเลยบอกว่าพอฉีดแล้วรีบๆพลิกตัว พอพลิกตัวมานอนหงาย พยาบาลก็เอาหน้ากากออกซิเจนมาใส่ แล้วเอาม่านมาบัง ม่านจะอยู่เหนือหน้าอกเราเลยนะคะ ไม่เห็นอะไรแน่นอน จากนั้นก็จะทดสอบโดยการเอาวัตถุปลายแหลมมาจิ้มดูว่าเราเจ็บไมบริเวณที่โดนยาชา พอแน่ใจแล้วก็ลงมือผ่าค่ะ ผลข้างเคียงของยาชาคืออาจจะทำให้คลื่นไส้อาเจียน หรือเวียนหัวได้นะคะ ในระหว่างที่ผ่าคลอดนั้น เราก็รู้สึกอยากจะอ้วกมากๆแบบไม่ไหวแล้ว พยาบาลเลยฉีดยาลดอาการอาเจียนให้ค่ะ แล้วพอหลังๆตอนใกล้จะผ่าเสร็จจะรู้สึกไม่สบายตัวมากๆ เพราะเค้าจะล็อกแขนเราไว้ไม่ให้ขยับ+ท่อนล่างที่ชา ทำให้รู้สึกอึดอัดสุดๆ ตอนที่หมอเอาเด็กออกมาแล้ว วินาทีแรกที่ได้ยินเสียงลูกร้อง บอกเลยค่ะว่าอยากจะร้องไห้มากๆ น้ำตามันจะไหล แต่พยายามกลั้นไว้ค่ะ เพราะอาย อิอิ พอเค้าทำความสะอาดเด็กเสร็จแล้วก็เอามาให้เราดูหน้าค่ะ เอามาจุ๊บแก้มเลย อิอิ พอหมอเย็บ ทำวามสะอาดร่างกายเราเสร็จแล้วก็ใส่เสื้อผ้าแล้วเข็นออกจากห้องผ่าค่ะ ตอนแรกก็จะเข็นเรามาตรงห้องรอคลอดคลอด แต่คนละส่วนกับตอนแรกนะคะ เพื่อรอเค้าเคลียร์เตียง พยาบาลก็จะเอาลูกมาให้ดูดนมเราค่ะ บอกก่อนเลยนะคะว่า รพ. ที่เราคลอดเป็น รพ. ที่สนับสนุนนมแม่ 100 เปอร์เซ็น เค้าเลยรีบเอาลูกมาดูดกระตุ้นนมเราค่ะ ตอนแรกทุลักทุเลมากเพราะเราหัวนมสั้น เด็กก็จะดูดแป๊ปๆแล้วหลับต่อ เพราะเค้าจะยังคิดว่าอยู่ในท้องแม่อยู่ พอดูสักพักก็จะเข็นเราไปห้องหลังคลอดค่ะ
จบแล้วนะคะสำหรับประสบการณ์การผ่าคลอด ยาวเหมือนกันเน๊าะ ฮ่าๆๆ ขอบคุณทุกๆคนนะคะที่เสียสละเวลาอ่าน กระทู้ต่อไปจะเป็นเกี่ยวกับการสนับสนุนนมแม่ของ รพ.ที่เราคลอดค่ะ ซึ่งบอกเลยว่าประทับใจมากๆ เค้าให้ความรู้เกี่ยวกับนมแม่ได้ดีมากๆเลยค่ะ รอติดตามกันได้นะคะ