สวัสดีครับ ผมอ้นจู Go!Graph นะครับ
ปกติแล้วจะเป็น น้องแว่น ฟ้า ที่จะมาเขียนรีวิว และผมถ่ายรูปอย่างเดียว
แต่ครั้งนี้ผมต้องไปแบบฉายเดี่ยว เลยลุยเองเลยทั้งเขียนทั้งถ่าย มารับชมกันได้ครับ
มาเล่ากันก่อน คือช่วงต้นเดือนธันวาที่ผ่านมาอยู่ดีๆ ก็มีการเชิญจากนกแอร์ให้ไปลองเครื่องใหม่
Boeing 777 ของ Nokscoot ที่เขาจะเปิดบินไปต่างประเทศ ประมาณเดือนมีนาปีหน้า
เลยมาให้เราทดสอบกันไปเชียงใหม่ ผมก็นึกว่าอยากไปไหนดี วันที่ 5-7 ธันวา
สรุปว่าชนกับช่วงงานเทศกาลของเชียงใหม่พอดี มีเยอะมาก
งาน NAP งาน Chiangmai Design Week งาน Balloon งาน Art Scene และงานๆๆ เป็นช่วงพีคอีเว้นท์ของเชียงใหม่จริง
งานมันมีเยอะขนาดนี้ พอดูแล้วมันน่าจะยาวมาก เพราะผมอยากให้ดูรูปเยอะๆ เลยจะแบ่งเป็น 2 ตอนละกันเนอะ
ติดตามเพจได้ที่นี้
https://www.facebook.com/GoGraph
เริ่มวันเราไปแต่เช้าด้วยสายการบิน Nokscoot และมาทดสอบเครื่องใหม่กันว่าเป็นยังไง!!
พอดีวันนี้เราไปตรงกับวันที่ 5 ธันวาพอดี คนเลยแต่งเสื้อเหลืองกันเต็มไปหมดเลยทั้งสนามบิน
เป็นวันหยุดยาว แล้วก็มีคนจีนแห่มาเที่ยวเมืองไทยเยอะทำให้ดอนเมืองคนแน่นเต็มไปหมด
เดินไปตรงไหนก็เจอแต่คน
check in เสร็จก็ฝ่าฝูงชนจนเข้ามาข้างในได้ ก็รอแถวหน้า Gate เลย
ซะพักแอร์ กับ กับตัน ของ nokscoot ก็มา มากันเต็มเลย ทดสอบเครื่องกัน
ชุดใหม่ของนกแอร์ก็น่ารักไปอีกแบบดี สีเหลืองคาดดำ
แล้วเครื่องใหม่ก็มาจอด เครื่องใหญ่มากกก เห็นบอกว่ามีประมาณ 400 กว่าที่นั่ง
เข้าตัวเครื่องปั๊บ รู้สึกเลยว่าเครื่องใหญ่มาก แล้วก็ลองนั่งเลย
ปัญหาแรกที่ผมมักเจอในสายการบิน Low cost คือ ที่นั่งแคบ!
มักจะชิดกันจนเข่าผมติด ผมสูง 181 cm
แล้วผมก็ทดสอบเลย
สรุปยังเหลือพื้นที่ให้เข่าผม ยังยืดขาได้สบาย ถ้าไปญี่ปุ่นก็คงไม่เมื่อยมาก
อย่างที่สอง ช่องใส่สัมภาระที่มีพื้นที่พอสำหรับใส่ของ ค่อนข้างใหญ่เลย เพราะตัวเครื่องขนาดใหญ่อยู่แล้ว
แล้วเครื่องก็จะเทคออฟละ ชุดแอร์ NokScoot ก็น่ารักดี มองแว๊บแรก แอบเหมือนเพนกวินนะ ฮ่าๆ
เครื่องขึ้นได้ซักพักก็มีของว่างมาเสริม นั่งไปไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงเชียงใหม่ เร็วจริงๆ
ถึงสนามบินเชียงใหม่ปุ๊บ ก็รีบออกไปโบกรถแดงด้านหน้าเลย แนะนำสำหรับคนเพิ่งเคยมาเชียงใหม่ด้วยเครื่องบินเลย
อย่าไปหารถที่มันจอดอยู่ หรือ แท็กซี่ มันจะคิดราคาแพง อย่าขึ้นๆ
โบกรถแดงที่เขามาส่งคนที่สนามบินดีกว่า ถูก สรุปตกลงได้คนละ 20 บาทเอง (ถ้าไปหารถด้านข้างโดน 200 บาทขึ้นแน่)
แล้วก็นั่งรถไปที่พัก เก็บของให้เรียบร้อยก่อน
เราเลือกนอนแถววัวลาย เพราะค่อนข้างถูก และใกล้ถนนคนเดินวันเสาร์ และสามารถเดินทางได้สะดวกติดถนนใหญ่ หารถง่าย
แล้วก็มาถึงถนนวัวลาย สัญลักษณ์ของถนนเลย รูปปั้นวัว
หลายคนอาจจะรู้ว่าถนนวัวลาย คือ ถนนคนเดินวันเสาร์
แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าตรงนี้คือ ชุมชนทำเครื่องเงิน ของเชียงใหม่
ช่วงตอนกลางวันจะได้ยินเสียงตีเครื่องเงินตลอด
สามารถเข้าไปดูวิธีทำได้ด้วยนะ
หรือไปวัดที่มีโบสถ์หุ้มด้วยเงินทั้งหลังด้วยนะ
แล้วก็มาถึงที่พัก
ที่พักที่เราจองได้ ราคาแค่ 250 บาทต่อคืนต่อคนเอง
ชื่อ Theeraya Boutique Hotel
เป็นโรงแรมบูติค กึ่ง Hostel มีฝรั่งและคนไทยมาพักกันเต็มเลย
เราเลือกห้อง 4 drom ในห้องจะมี 4 เตียง ก็จะมีใครมานอนกับเราก็ได้
ห้องแอร์ มีห้องน้ำในตัว ในราคาแค่ 250 บาท คุ้มค่าทีเดียว
และโรงแรมค่อนข้างดูดีเลย
พอเก็บของเสร็จสรรพ ท้องก็เริ่มหิวละ ถ้าอยู่ถนนวัวลายก็แนะนำร้านก๋วยเตี๊ยวนายเก๊าเลย
มีก๋วยเตี๋ยว เนื้อ หมู และ ข้าวซอยก็มี ราคาไม่แพง
ท้องอิ่มก็ได้เวลาเที่ยวแล้ว
ตอนนี้กลางวันอยู่ พวกงานอีเว้นท์ต่างๆก็มีช่วงเย็นๆ
เราเลือกไปงานชมสวนดอกไม้ ที่สวนราชพฤกษ์
เคยไปตั้งแต่งานพืชสวนโลกนั้นแหละ แล้วก็ไม่ได้ไปเลย
เพราะตอนลงจากเครื่อง Nokair เข้าแจกโบรชัวงาน
แล้วบอกว่าถ้ามี Boarding Pass ก็เข้างานฟรี เออไม่มีไรทำก็ไปก่อน
โบกรถแดงจากแถวถนนวัดลาย ตกลงราคาได้ที่ 150 บาท
เพราะสวนราชพฤกษ์อยู่นอกเมืองเชียงใหม่ไปไกล และไม่ค่อยมีคนไป เลยแพงหน่อย
ไปถึงไม่ต้องห้องขายตั๋วเลย แค่ได้ผ่านประตู โชว์ Boarding Pass จบเข้าได้เลย
พอเข้ามา ก็งงทางต่อไป ไปไหนดีหว่า จำได้ว่าใหญามาก เดินขาลากเลย
เดินซะพักเห็นรถราง เสียค่าขึ้นคนละ 20 บาท
(แต่จริงๆ ไม่จ่ายก็ได้มั้ง ฮ่าๆ เราเห็นคนขึ้นก็ไม่จะตรวจตั๋วอะไร ฮ่าๆ)
นั่งรถรางชิลๆ ไกด์ก็พูดไปเรื่อยว่ามีอะไรบ้าง จนมาถึงจุดแรก สวนพอเพียง
ก็เป็นสวนที่แสดงวิธีปลูกตามวิธีพอเพียงของในหลวง
ใกล้ๆมีไร่องุ่นเล็กๆ อยู่ แต่ลูกองุ่นไม่เล็กเลย โตกำลังกินมาก อยากจะเด็ดมากินตอนนั้นเลย
เจ้าหน้าที่ก็ต้องค่อยดูคน บอกว่าห้ามเจ็บเด็ดขาด งั้นไม่เหลือแน่ๆ ฮ่าๆ
เสร็จก็ไม่นั่งรถรางต่อนั่งไปจุดไฮไลท์อีกจุด เป็นสวนกล้วยไม้ที่เขาบอกว่ามีเป็นพันชนิดเลย
เข้าไปด้านหน้าจะยังไม่ค่อยมีเท่าไร แต่พอเข้าไปใน มีเต็มเลย มีน้ำตกกับกล้วยไม้ประดับเต็มสวน
ดูเสร็จก็ขึ้นรถรางมีจุดหนึ่ง จุดนี้เรียกโลกแมลง
เป็นจุดที่เหมือนคนไม่ค่อยสนใจนัก แต่เราชอบ เลยลงไปดู
เข้าไปก็มีผีเสื้อ ตั๊กแตน แมลงสต๊าฟ
พอเข้าไปถึงกรงใหญ่ที่จะปล่อยแมลงทั่วๆ
ตอนแรกก็เดินเรื่อยๆไม่เห็นมีอะไร กำลังดูแมลงที่อยู่ในกรง
พอเผลอไปมองอะไรใกล้ๆตัวเท่านั้นแหละ
เจอหนอนตัวนี้ ตัวใหญ่มากกกกก กำลังกินมใบไม้อย่างอร่อย
ถึงกับขนลุกเลยทีเดียว
ไม่มีแค่ตัวสองตัว แต่พอเดินดูต้นไม้ดีแล้วๆ มีเป็นสิบๆ น่าจะ 50 ตัวได้ โห้ย เยอะมาก
ใครกลัวหนอนนี้ กรี๊ดแน่นอน ฮ่าๆ
อยู่ได้ซักพักเริ่มไม่ไหว ขอออกดีกว่า กลัวมันจะมาเกาะหลัง
ก็เดินไปสวนนานาชาติ มีสวนหลายๆแบบ สวนญี่ปุ่น เกาหลี จีน อินเดีย เนเธอร์แลนด์ และอื่นๆอีกเยอะ
มาที่นี้ก็ต้องมาถ่ายรูปกับหอพระคำ ไฮไลท์ของสวนราชพฤกษ์เลย
เริ่มเที่ยงๆบ่ายๆ ไม่ไหว ร้อนเกิน เลยหนีออกจากงานล่ะ
ไปถนนนิมมานต์ดีกว่า เป้าหมายของเราคืองาน NAP
ชอบมาก เคยมาเที่ยวงานนี้หลายครั้งแล้ว เดินดูของดีไซน์และช๊อปปิ้งกันไป
แต่ก่อนอื่นเราหนีร้อนมากินติม Iberry ก่อนดีกว่า
เข้าไปแล้ว รู้สึกว่าที่นี้เป็น 1ในจุดหมายของทัวร์จีน
คนจีนเยอะมาก มากันตรึม ถึงกับไม่กล้าเข้าห้องน้ำกันเลยทีเดียว ภาพตอนนั่งรถไฟไปหลังคา ผุดเข้ามาในหัวทันที
พอเข้าไปสำรวจห้องน้ำ สรุป ยังโอเคอยู่ ยังไม่เจอประติมากรรมที่ชาวจีนสร้างไว้ สบายใจ
ธุระเสร็จเรียบร้อย ก็ไปสั่งติมกันดีกว่า ดับร้อนหน่อย
ลิ้นจี่เชอร์เบทที่สีฟ้าๆ กับ ติมกล้วยชีส
อร่อยเหมือนเดิม
ดับร้อนเสร็จเราก็ไปเป้าหมายของเราซักทีงาน NAP นั้นเอง
ขอพักแปปไว้มาต่อ
[CR][SR] เชียงใหม่ ฮิป จ้าววว : พาเที่ยว Chaingmai Design Week Ep.1
ปกติแล้วจะเป็น น้องแว่น ฟ้า ที่จะมาเขียนรีวิว และผมถ่ายรูปอย่างเดียว
แต่ครั้งนี้ผมต้องไปแบบฉายเดี่ยว เลยลุยเองเลยทั้งเขียนทั้งถ่าย มารับชมกันได้ครับ
มาเล่ากันก่อน คือช่วงต้นเดือนธันวาที่ผ่านมาอยู่ดีๆ ก็มีการเชิญจากนกแอร์ให้ไปลองเครื่องใหม่
Boeing 777 ของ Nokscoot ที่เขาจะเปิดบินไปต่างประเทศ ประมาณเดือนมีนาปีหน้า
เลยมาให้เราทดสอบกันไปเชียงใหม่ ผมก็นึกว่าอยากไปไหนดี วันที่ 5-7 ธันวา
สรุปว่าชนกับช่วงงานเทศกาลของเชียงใหม่พอดี มีเยอะมาก
งาน NAP งาน Chiangmai Design Week งาน Balloon งาน Art Scene และงานๆๆ เป็นช่วงพีคอีเว้นท์ของเชียงใหม่จริง
งานมันมีเยอะขนาดนี้ พอดูแล้วมันน่าจะยาวมาก เพราะผมอยากให้ดูรูปเยอะๆ เลยจะแบ่งเป็น 2 ตอนละกันเนอะ
ติดตามเพจได้ที่นี้ https://www.facebook.com/GoGraph
เริ่มวันเราไปแต่เช้าด้วยสายการบิน Nokscoot และมาทดสอบเครื่องใหม่กันว่าเป็นยังไง!!
พอดีวันนี้เราไปตรงกับวันที่ 5 ธันวาพอดี คนเลยแต่งเสื้อเหลืองกันเต็มไปหมดเลยทั้งสนามบิน
เป็นวันหยุดยาว แล้วก็มีคนจีนแห่มาเที่ยวเมืองไทยเยอะทำให้ดอนเมืองคนแน่นเต็มไปหมด
เดินไปตรงไหนก็เจอแต่คน
check in เสร็จก็ฝ่าฝูงชนจนเข้ามาข้างในได้ ก็รอแถวหน้า Gate เลย
ซะพักแอร์ กับ กับตัน ของ nokscoot ก็มา มากันเต็มเลย ทดสอบเครื่องกัน
ชุดใหม่ของนกแอร์ก็น่ารักไปอีกแบบดี สีเหลืองคาดดำ
แล้วเครื่องใหม่ก็มาจอด เครื่องใหญ่มากกก เห็นบอกว่ามีประมาณ 400 กว่าที่นั่ง
เข้าตัวเครื่องปั๊บ รู้สึกเลยว่าเครื่องใหญ่มาก แล้วก็ลองนั่งเลย
ปัญหาแรกที่ผมมักเจอในสายการบิน Low cost คือ ที่นั่งแคบ!
มักจะชิดกันจนเข่าผมติด ผมสูง 181 cm
แล้วผมก็ทดสอบเลย
สรุปยังเหลือพื้นที่ให้เข่าผม ยังยืดขาได้สบาย ถ้าไปญี่ปุ่นก็คงไม่เมื่อยมาก
อย่างที่สอง ช่องใส่สัมภาระที่มีพื้นที่พอสำหรับใส่ของ ค่อนข้างใหญ่เลย เพราะตัวเครื่องขนาดใหญ่อยู่แล้ว
แล้วเครื่องก็จะเทคออฟละ ชุดแอร์ NokScoot ก็น่ารักดี มองแว๊บแรก แอบเหมือนเพนกวินนะ ฮ่าๆ
เครื่องขึ้นได้ซักพักก็มีของว่างมาเสริม นั่งไปไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงเชียงใหม่ เร็วจริงๆ
ถึงสนามบินเชียงใหม่ปุ๊บ ก็รีบออกไปโบกรถแดงด้านหน้าเลย แนะนำสำหรับคนเพิ่งเคยมาเชียงใหม่ด้วยเครื่องบินเลย
อย่าไปหารถที่มันจอดอยู่ หรือ แท็กซี่ มันจะคิดราคาแพง อย่าขึ้นๆ
โบกรถแดงที่เขามาส่งคนที่สนามบินดีกว่า ถูก สรุปตกลงได้คนละ 20 บาทเอง (ถ้าไปหารถด้านข้างโดน 200 บาทขึ้นแน่)
แล้วก็นั่งรถไปที่พัก เก็บของให้เรียบร้อยก่อน
เราเลือกนอนแถววัวลาย เพราะค่อนข้างถูก และใกล้ถนนคนเดินวันเสาร์ และสามารถเดินทางได้สะดวกติดถนนใหญ่ หารถง่าย
แล้วก็มาถึงถนนวัวลาย สัญลักษณ์ของถนนเลย รูปปั้นวัว
หลายคนอาจจะรู้ว่าถนนวัวลาย คือ ถนนคนเดินวันเสาร์
แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าตรงนี้คือ ชุมชนทำเครื่องเงิน ของเชียงใหม่
ช่วงตอนกลางวันจะได้ยินเสียงตีเครื่องเงินตลอด
สามารถเข้าไปดูวิธีทำได้ด้วยนะ
หรือไปวัดที่มีโบสถ์หุ้มด้วยเงินทั้งหลังด้วยนะ
แล้วก็มาถึงที่พัก
ที่พักที่เราจองได้ ราคาแค่ 250 บาทต่อคืนต่อคนเอง
ชื่อ Theeraya Boutique Hotel
เป็นโรงแรมบูติค กึ่ง Hostel มีฝรั่งและคนไทยมาพักกันเต็มเลย
เราเลือกห้อง 4 drom ในห้องจะมี 4 เตียง ก็จะมีใครมานอนกับเราก็ได้
ห้องแอร์ มีห้องน้ำในตัว ในราคาแค่ 250 บาท คุ้มค่าทีเดียว
และโรงแรมค่อนข้างดูดีเลย
พอเก็บของเสร็จสรรพ ท้องก็เริ่มหิวละ ถ้าอยู่ถนนวัวลายก็แนะนำร้านก๋วยเตี๊ยวนายเก๊าเลย
มีก๋วยเตี๋ยว เนื้อ หมู และ ข้าวซอยก็มี ราคาไม่แพง
ท้องอิ่มก็ได้เวลาเที่ยวแล้ว
ตอนนี้กลางวันอยู่ พวกงานอีเว้นท์ต่างๆก็มีช่วงเย็นๆ
เราเลือกไปงานชมสวนดอกไม้ ที่สวนราชพฤกษ์
เคยไปตั้งแต่งานพืชสวนโลกนั้นแหละ แล้วก็ไม่ได้ไปเลย
เพราะตอนลงจากเครื่อง Nokair เข้าแจกโบรชัวงาน
แล้วบอกว่าถ้ามี Boarding Pass ก็เข้างานฟรี เออไม่มีไรทำก็ไปก่อน
โบกรถแดงจากแถวถนนวัดลาย ตกลงราคาได้ที่ 150 บาท
เพราะสวนราชพฤกษ์อยู่นอกเมืองเชียงใหม่ไปไกล และไม่ค่อยมีคนไป เลยแพงหน่อย
ไปถึงไม่ต้องห้องขายตั๋วเลย แค่ได้ผ่านประตู โชว์ Boarding Pass จบเข้าได้เลย
พอเข้ามา ก็งงทางต่อไป ไปไหนดีหว่า จำได้ว่าใหญามาก เดินขาลากเลย
เดินซะพักเห็นรถราง เสียค่าขึ้นคนละ 20 บาท
(แต่จริงๆ ไม่จ่ายก็ได้มั้ง ฮ่าๆ เราเห็นคนขึ้นก็ไม่จะตรวจตั๋วอะไร ฮ่าๆ)
นั่งรถรางชิลๆ ไกด์ก็พูดไปเรื่อยว่ามีอะไรบ้าง จนมาถึงจุดแรก สวนพอเพียง
ก็เป็นสวนที่แสดงวิธีปลูกตามวิธีพอเพียงของในหลวง
ใกล้ๆมีไร่องุ่นเล็กๆ อยู่ แต่ลูกองุ่นไม่เล็กเลย โตกำลังกินมาก อยากจะเด็ดมากินตอนนั้นเลย
เจ้าหน้าที่ก็ต้องค่อยดูคน บอกว่าห้ามเจ็บเด็ดขาด งั้นไม่เหลือแน่ๆ ฮ่าๆ
เสร็จก็ไม่นั่งรถรางต่อนั่งไปจุดไฮไลท์อีกจุด เป็นสวนกล้วยไม้ที่เขาบอกว่ามีเป็นพันชนิดเลย
เข้าไปด้านหน้าจะยังไม่ค่อยมีเท่าไร แต่พอเข้าไปใน มีเต็มเลย มีน้ำตกกับกล้วยไม้ประดับเต็มสวน
ดูเสร็จก็ขึ้นรถรางมีจุดหนึ่ง จุดนี้เรียกโลกแมลง
เป็นจุดที่เหมือนคนไม่ค่อยสนใจนัก แต่เราชอบ เลยลงไปดู
เข้าไปก็มีผีเสื้อ ตั๊กแตน แมลงสต๊าฟ
พอเข้าไปถึงกรงใหญ่ที่จะปล่อยแมลงทั่วๆ
ตอนแรกก็เดินเรื่อยๆไม่เห็นมีอะไร กำลังดูแมลงที่อยู่ในกรง
พอเผลอไปมองอะไรใกล้ๆตัวเท่านั้นแหละ
เจอหนอนตัวนี้ ตัวใหญ่มากกกกก กำลังกินมใบไม้อย่างอร่อย
ถึงกับขนลุกเลยทีเดียว
ไม่มีแค่ตัวสองตัว แต่พอเดินดูต้นไม้ดีแล้วๆ มีเป็นสิบๆ น่าจะ 50 ตัวได้ โห้ย เยอะมาก
ใครกลัวหนอนนี้ กรี๊ดแน่นอน ฮ่าๆ
อยู่ได้ซักพักเริ่มไม่ไหว ขอออกดีกว่า กลัวมันจะมาเกาะหลัง
ก็เดินไปสวนนานาชาติ มีสวนหลายๆแบบ สวนญี่ปุ่น เกาหลี จีน อินเดีย เนเธอร์แลนด์ และอื่นๆอีกเยอะ
มาที่นี้ก็ต้องมาถ่ายรูปกับหอพระคำ ไฮไลท์ของสวนราชพฤกษ์เลย
เริ่มเที่ยงๆบ่ายๆ ไม่ไหว ร้อนเกิน เลยหนีออกจากงานล่ะ
ไปถนนนิมมานต์ดีกว่า เป้าหมายของเราคืองาน NAP
ชอบมาก เคยมาเที่ยวงานนี้หลายครั้งแล้ว เดินดูของดีไซน์และช๊อปปิ้งกันไป
แต่ก่อนอื่นเราหนีร้อนมากินติม Iberry ก่อนดีกว่า
เข้าไปแล้ว รู้สึกว่าที่นี้เป็น 1ในจุดหมายของทัวร์จีน
คนจีนเยอะมาก มากันตรึม ถึงกับไม่กล้าเข้าห้องน้ำกันเลยทีเดียว ภาพตอนนั่งรถไฟไปหลังคา ผุดเข้ามาในหัวทันที
พอเข้าไปสำรวจห้องน้ำ สรุป ยังโอเคอยู่ ยังไม่เจอประติมากรรมที่ชาวจีนสร้างไว้ สบายใจ
ธุระเสร็จเรียบร้อย ก็ไปสั่งติมกันดีกว่า ดับร้อนหน่อย
ลิ้นจี่เชอร์เบทที่สีฟ้าๆ กับ ติมกล้วยชีส
อร่อยเหมือนเดิม
ดับร้อนเสร็จเราก็ไปเป้าหมายของเราซักทีงาน NAP นั้นเอง
ขอพักแปปไว้มาต่อ
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว