คนเราลักษณะรูปร่างเท้าไม่เหมือนกันนะครับ เท้าใครก็เท้ามัน เพราะฉะนั้น "รองเท้าวิ่ง" จึงมีหลายประเภทเพื่อรองรับความแตกต่างของรูปเท้า แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเท้าของเรามีลักษณะแบบไหน และจะรู้ได้อย่างไรว่าควรจะใส่รองเท้าวิ่งประเภทไหนดี

ง่ายๆ เลยครับ ตรวจสอบก่อนเลยว่าเรามีลักษณะเท้าแบบไหนด้วยการทำ wet test หรือภาษาบ้านๆ ก็ "พิมพ์ลายเท้าเปียกน้ำ" นั่นเอง แค่ย่ำเท้าเปียกๆ ลงบนผ้าหนาๆ หรือกระดาษสีน้ำตาลก็ใช้ได้แล้วครับ จากนั้นก็ดูรูปเท้าว่ามีลักษณะเป็นแบบไหน ซึ่งสรีระของเท้าจะมีอยู่ 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่

(1) High Arch เห็นรอยเท้าเฉพาะส่วนหน้าและส้นเท้าเท่านั้น จะเห็นส่วนกลางเพียงแค่เส้นบางๆ ด้านนอก ซึ่งเท้าแบบนี้ เวลาวิ่งเท้าจะไม่สามารถช่วยลดแรงกระแทกได้จึงเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้อเสื่อม จึงควรเลือกใช้รองเท้าแบบที่มีส่วนกลางเท้าค่อนข้างนุ่ม หรือแบบ Cushioning นั่นเองครับ

(2) Normal Arch เห็นรอยเท้าที่ไม่เปียกน้ำเกือบครึ่งหนึ่ง หรือลักษณะแบบปกติเห็นได้ทั่วๆ ซึ่งถือเป็นลักษณะเท้าที่ดี ช่วยลดแรงกระแทกได้ดีจึงสามารถใส่รองเท้าวิ่งได้ทุกแบบครับ แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรเลือกชนิดที่ให้ความมั่นคงกับเท้า ช่วยรองรับเท้าทางด้านในอย่าง Stability

และ (3) Flat Foot เห็นรอยเท้าเกือบเต็มรอย เท้าแบนๆ แบบนี้จะมีปัญหาเวลาวิ่งครับ ข้อเท้าจะบิดเข้าด้านในมากเกินไป ทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ควรจะเลือกรองเท้า Motion Control หรือ Support ซึ่งด้านในของรองเท้าถูกหนุนให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดลักษณะข้อเท้าบิดเข้าด้านในครับ





ข้อมูลจาก : FBT Club