สวัสดีทุกคนในนี้ค่ะ เราไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องมาตั้งกระทู้เพื่อบอกเล่าปัญหาของตัวเองให้ใครรับรู้ แต่เพราะเรารู้สึกอ้างว้างสุดๆ แล้ว หันทางไหน
มองหาใครก็ไม่มี ครอบครัวเราก็มีพ่อแม่ น้องๆ ครบนะ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยชอบพูด บวกกับโลกส่วนตัวสูงด้วยมั้ง เราจึงรู้สึกว่าเราไม่ได้สนิทกับ
คนที่บ้านมากพอที่จะเล่าหรือปรึกษาปัญหานี้กับใครได้ เพื่อนสนิทที่สุดแค่คนเดียวของเราก็แต่งงานไปอยู่เมืองนอกแล้ว ตอนนี้ วันนี้ เราถึงได้รู้สึกอ้างว้างที่สุดแล้ว
ต้องกอดหมอนนอนร้องไห้คนเดียว.......
เรื่องของเรากับแฟนเรา เหมือนน้ำเน่า เหมือนละคร แต่ต่างตรงที่นี่มันเป็นชีวิตจริงๆ ตอนจบมันก็จบจริงๆ ไม่ happy ending เหมือนในละคร
เราต้องจบกันทั้งที่ยังรักกันมาก ต้องเลิกกันทั้งที่ยังทำใจกันไม่ได้เลย หนักกว่า ตรงที่เราจะไม่เหลือใคร แต่เขาเคลียร์พื้นที่หัวใจให้ว่างเพื่อหวังว่าจะมีใครคนใหม่
ที่พ่อแม่เขาไม่กีดกันเข้ามา เราไม่อยากโทษว่าตัวเราผิดที่เป็นแม่ม่ายลูกหนึ่ง แล้วครอบครัวเขารับเราไม่ได้ เป็นเขาที่ต้องแบกรับความอึดอัดนี้ไว้ เรารับรู้ เราเช้าใจ
เราก็สงสารเขา เราถึงเลือกที่จะเดินจากมา แต่อยากบอกว่ามันเสียใจที่สุด เจ็บปวดที่สุด ไม่ได้อยากจะให้เป็นแบบนี้เลย
เรื่องของเราสองคน ที่ไม่ใช่แค่เราสองคน
มองหาใครก็ไม่มี ครอบครัวเราก็มีพ่อแม่ น้องๆ ครบนะ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยชอบพูด บวกกับโลกส่วนตัวสูงด้วยมั้ง เราจึงรู้สึกว่าเราไม่ได้สนิทกับ
คนที่บ้านมากพอที่จะเล่าหรือปรึกษาปัญหานี้กับใครได้ เพื่อนสนิทที่สุดแค่คนเดียวของเราก็แต่งงานไปอยู่เมืองนอกแล้ว ตอนนี้ วันนี้ เราถึงได้รู้สึกอ้างว้างที่สุดแล้ว
ต้องกอดหมอนนอนร้องไห้คนเดียว.......
เรื่องของเรากับแฟนเรา เหมือนน้ำเน่า เหมือนละคร แต่ต่างตรงที่นี่มันเป็นชีวิตจริงๆ ตอนจบมันก็จบจริงๆ ไม่ happy ending เหมือนในละคร
เราต้องจบกันทั้งที่ยังรักกันมาก ต้องเลิกกันทั้งที่ยังทำใจกันไม่ได้เลย หนักกว่า ตรงที่เราจะไม่เหลือใคร แต่เขาเคลียร์พื้นที่หัวใจให้ว่างเพื่อหวังว่าจะมีใครคนใหม่
ที่พ่อแม่เขาไม่กีดกันเข้ามา เราไม่อยากโทษว่าตัวเราผิดที่เป็นแม่ม่ายลูกหนึ่ง แล้วครอบครัวเขารับเราไม่ได้ เป็นเขาที่ต้องแบกรับความอึดอัดนี้ไว้ เรารับรู้ เราเช้าใจ
เราก็สงสารเขา เราถึงเลือกที่จะเดินจากมา แต่อยากบอกว่ามันเสียใจที่สุด เจ็บปวดที่สุด ไม่ได้อยากจะให้เป็นแบบนี้เลย