อยู่ต่อไปเพื่ออะไร

อยู่กับสามีมา 8 ปี ไม่รู้เริ่มต้นจากความรักหรือเปล่า เพราะทะเลาะกันตลอด บ่อยจนเบื่อ เมื่อตอนตั้งท้องลูกคนที่ 2 ก็เคยทะเลาะกันจนโดนเค้าตบหน้า ตอนท้อง7 เดือนต่อหน้าลูกสาวอายุ 3 ขวบมาแล้ว และเคยมาตั้งกระทู้ด้วยค่ะ

เมื่อก่อนเราทำงาน สามีก็ทำงาน แต่อยู่ห่างกันตลอด ลูกก็ต้องให้ย่าเลี้ยง สุดท้ายเราเลยตัดสินใจลาออก มาเลี้ยงลูกเอง แล้วติดตามสามีไปทุกที่ที่เค้าย้ายไป ไปกันทั้งบ้านค่ะ....จนมีลูกคนที่สอง จึงตัดสินใจซื้อบ้านอยู่ กะจะปักหลักอยู่ที่นั่นอีกหลายปี เพราะไม่ต้องย้ายไปไหนแล้ว.....

จวบจนมากลางปีที่แล้ว เพื่อนสามีที่เรียนด้วยกันมาเขาชวนสามี ไปขายรองเท้าเสื้อผ้ามือสอง. ที่ตลาดนัด ไม่รู้พูดขนาดไหนสามีเคลิ้มตาม ตัดสินใจลาออก ทิ้งเงินเดือนเกือบ 4 หมื่นเพื่อไปขายของตลาดนัด เราห้าม ชี้ให้เห็นว่ามันต้องอย่างนี้ อย่างนั้น เขาก็ไม่ฟังหนำซ้ำหาว่าเราไม่ได้ทำงานเครียดเหมือนเขา ก็พูดได้สิ เราก็เสียใจนะ เพราะถึงเราไม่ได้ทำงานหาเงิน เราก็ดูแลความเป็นอยู่เขาทุกเรื่อง ทั้งลูกทั้งอะไร จัดการเรื่องทุกอย่างในบ้าน เขาทำงานหาเงินอย่างเดียว เมื่อคุย ห้าม ทุกอย่างแล้ว พ่อแม่เค้าก็ห้ามไม่ได้ สุดท้ายก็ลาออกขายบ้าน เซ้งร้านกาแฟสด ที่เราเพิ่งลงทุนไปได้แค่6เดือน เพราะลูกคนเล็กเพิ่งไปเนิสฯ ขายหมดทุกอย่าง แล้วไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ที่จังหวัดบ้านเกิดเค้า...

กลับมา เงินที่ขายบ้าน เซ้งร้านกาแฟ ก็ใช่ว่าจะพอ หลังจากหักทุกอย่างแล้ว จ่ายค่าเทอมให้ลูกสองคนเสร็จ เขาก็เอาเงินไปลงทุนแสนนึง แต่เขาไม่เคยทำงานหนัก ไม่เคยแบกหาม เกิดมาไม่เคยลำบาก แถมเป็นภูมิแพ้ สุดท้าย เงินที่ลงทุนซื้อรองเท้า เสื้อแจ็คเก็ตมือสอง จึงสูญเปล่า ไม่ไหว ต้องแบกกระสอบรองเท้าเข้าไปไกล หนัก เหนื่อย ร้อน เหม็น ไม่ถึงสองเดือน เขาก็ไม่ทำซะดื้อๆ ของกองเต็มบ้านไปหมด เราก็ต้องเอามาฝากน้องขาย ที่ถนนคนเดินเพื่อเอาทุนคืนบ้าง

ส่วนเราก็ไม่หวังว่าจะได้จากเขาอยู่แล้ว ก็ขายเสื้อผ้าเด็กออนไลน์ทางเฟส และขายดีด้วย จึงพออยู่ได้ แต่เราต้องเลี้ยงลูกเอง รับส่งลูก ทำงานบ้าน หาเงินใช้เอง สามีไม่เคยมีมาให้เลยนับจากลาออกมา ตั้งแต่ลาออกก็เหมือนเดิมไม่หยิบจับอะไร งานบ้าน เลี้ยงลูกก็ไม่ช่วย หลังๆ ของเก่าก็กองเต็มบ้าน แต่กลับไปหุ้นกับเพื่อนผู้หญิงสมัยเรียนขายของเว็บนอก ก็ไม่ได้อะไร บางครั้งได้มาก็ไปซื้อของที่ตัวเองอยากได้ เช่นหมวกกันน้อคใบใหม่ ล้อรถจักรยานมารอประกอบ กลับมาพอเราบอก เราเตือนก็ว่าเราไปถ่วง ทำให้เค้าไปต่อไม่ได้ ไปขัดเค้า.....เราทำ พูดอะไรผิดไปหมด


ผ่านมา 9 เดือนที่ลาออกจากงาน เราต้องหาเลี้ยงตัวเอง ลูก ดูแลรับส่งลูกไปโรงเรียน ดีหน่อยที่ยังได้อยู่บ้านที่พ่อแม่เขาซื้อไว้ ไม่ต้องเช่า แต่ต้องอยู่รวมกับครอบครัวน้องชายเขาที่มีลูกวัยเดียวกับลูกเรา ไม่เคยได้เงินจากเขา แต่เราก็ไม่ได้แคร์ ทุกวันนี้เราตกลงกันคือ เราหากินหาใช้เอง เขาจ่ายค่าน้ำค่าไฟในบ้าน ค่าใช้จ่ายลูก แต่ความเป็นจริงคือ เขาออกจากบ้านทุกวัน กลับมาก็เย็น บอกไปถ่ายรูปของลงเว็บที่บ้านเพื่อน ไปทุกวันไม่เคยมีรายได้มาหยิบยื่นให้ ค่าใช้จ่ายลูกเราก็ต้องจ่าย บางทีเขาก็มาหยิบเอาเงินเรานั่นแหล่ะไปซื้อข้าวซื้อน้ำ อยู่แบบไม่มีปฏิสัมพันธ์กัน คุยก็มีแต่ทะเลาะ เราก็เลยเลือกที่จะไม่คุย ไม่รู้สึกอยากมีอะไรกัน รู้สึกไม่รัก เพราะเขาก็ไม่เคยแคร์ว่าเราเป็นยังไง มีเงินใช้มั้ย เห็นว่าอยู่ได้ก็ไม่เคยใส่ใจ....ถามสารทุกข์สุกดิบ

ทุกวันนี้เหมือนเลิกกันแล้วกว่า 60% ที่เรายังต้องอยู่เพราะเรายังไม่มีรายได้มากพอที่จะออกไปเช่าบ้านหรือหอพักอยู่ได้ แต่เค้าเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ลาออกมา ไม่เคยอยู่บ้าน ถามอะไรก็มีแต่หงุดหงิดใส่ ทะเลาะมากๆ ก็ไล่เราออกจากบ้าน ไล่ไปหาผัวใหม่ เราไม่เคยคิดอยากมีนะคะ เราต้องการแค่คนเข้าใจ ทุกวันนี้มันอ้างว้าง โดดเดี่ยว ไม่รู้จะบอกใคร บอกแม่เขา เขาก็เข้าข้างกันเคยเล่าว่าเราโดนเขาตบตอนท้อง ยังถามเรากลับว่าไปกวนอารมณ์อะไรเขาหรือเปล่า...เราเลยคิดว่าพูดไปก็เท่านั้น

เราไม่อยากโลกสวยว่าอยู่เพื่อลูก แม้จะเห็นว่าเด็กๆ ได้อยู่กับพ่อก็ดี แต่พ่อก็หงุดหงิดง่าย เอาแต่อารมณ์ ลูกร้องไห้ก็ตะคอกแทนที่จะโอ๋ จะพูดดีๆ

ตอนนี้เราคิดว่าจะแยกออกไปอยู่กับลูกที่ใกล้ๆ โรงเรียนหน่อย เพราะอยู่ด้วยตอนนี้ ยังไงก็ไม่ต่างกัน ยังต้องดูแลลูกคนเดียว หาเงินใช้เอง มีเรื่องทุกข์ใจ ก็ปรึกษาไม่ได้ มีแต่ความรู้สึกลบๆ ให้ตลอดเวลา......เรามีคำตอบในใจแล้วนะคะ แต่เราอยากได้แนวคิดที่ดีๆ อยากได้คำแนะนำจริงๆ ค่ะ ขอบคุณค่ะ อาจจะไม่ละเอียดมาก...แต่ทุกอย่างที่เรารู้สึกไม่ไหวคือ 8 ปีที่ผ่านมามันเป็นแบบนี้ตลอดค่ะ คิดว่าไม่ไหวและไม่อยากทนอยู่แบบนี้แล้ว....มันสะสมมามากพอแล้วจริงๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาครอบครัว ครอบครัว
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่