อีกมุมหนึ่งที่คุณอาจไม่รู้ กับอาชีพ " พยาบาล "

พยาบาลก็คือ ปุถุชน คนหนึ่งที่ต้องมีอารมณ์ดี โมโห โกรธ เป็นเรื่องธรรมดา ที่โพสต์นี้ อยากให้ทุกท่านได้ลองมองพยาบาลอีกมุมหนึ่งดูบ้างแล้วท่านจะเข้าใจพวกเรา
1. วันหยุดไหนๆ พยาบาลอย่างพวกเราก็ไม่ได้หยุด = หยุดไม่ได้จริงๆ เพราะช่วงหยุดยาวคนเดินทางเยอะ เสี่ยงอุบัติเหตุเยอะ พยาบาลต้องพร้อมเตรียมรับมือ วันที่พวกคุณๆได้หยุด ไปเที่ยว-กลับบ้านอยู่กับครอบครัว พวกเราก็อยากมี Moment อย่างนั้นบ้าง แต่แทบจะไม่มีในตลอดชีวิตการเป็นพยาบาลเลย
2. เรียนจบมา พ่อแม่หวังพึ่งให้เราดูแลท่าน = แต่ชีวิตจริง ยากมากที่จะหาเวลาดูแลพวกท่าน เพราะเวลาส่วนใหญ่ต้องดูแลคนไข้
3. สุขภาพแย่ = พยาบาลส่วนใหญ่ ทำงานหนัก เข้าเวร เช้า-บ่าย-ดึก ดังนั้นเวลาพักผ่อนจึงค่อนข้างน้อย และยังอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยด้วย จึงมีโอกาสติดเชื้อจากผู้ป่วยได้ ไม่ว่าจะเป็น เชื้อ HIV, วัณโรคปอด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้มันเป็นความเสี่ยงที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้จริงๆ
4. เสี่ยงต่อคดีความ-ฟ้องร้อง = แน่นอนปัญหาเหล่านี้ ปัจจุบันมีมาก กรณีที่พยาบาลทำผิดกับคนไข้ หรือญาติ ก็สมเหตุสมผลที่จะต้องถูกกล่าวโทษ ผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ก็มีอีกมากที่ผู้รับบริการเข้าใจผิด คิดไปเองว่า พยาบาลกำลังทำในสิ่งที่ผิด เช่น การโทรศัพท์หรือใช้โปรแกรมแชทไลน์รายงานแพทย์ ทั้งๆที่เราแจ้งให้ทราบแล้ว ปรากฏว่าญาติที่รอด้านนอกไม่ได้ยิน พอเห็นอย่างนั้น ก็ถ่ายภาพ พร้อมโพสต์ลงโซเซียลมิเดีย คนมาcommentต่อว่าพยาบาลมากมายทั้งๆที่เป็นเรื่องเข้าใจผิด และไม่ได้รับการแก้ไข เรื่องอาจซาลงไม่กี่วัน คนอาจจำไม่ได้ แต่พยาบาลท่านนั้นจะจำเรื่องราวนั้นไปตลอดการเป็นพยาบาลของเธอ
5. สิทธิสวัสดิการน้อยกว่าเพื่อนร่วมวิชาชีพ = เพื่อนร่วมวิชาชีพในที่นี้คือ "แพทย์-ทันตแพทย์" ทำงานที่โรงพยาบาลรัฐ ตั้งทำใจ เพราะผู้รับบริการมาก เหนื่อยแน่นอน สวัสดิการก็แย่ เรื่องอะไรบ้างน่ะหรอก แพทย์-ทันตแพทย์อยู่บ้าน 1 คนต่อ 1 หลัง มีเฟอร์นิเจอพร้อมอยู่ให้ แอร์ ทีวี ตู้เย็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ฟรี ส่วนพยาบาลกับอาชีพอื่นๆ บ้าน 1 หลัง อยู่อัดเข้าไป 3-4 คน เฟอร์นิเจอ ซื้อเอง ค่าน้ำไฟ โรงพยาบาลออกให้ 10 % สภาพบ้านไม่ต้องพูดถึง โทรมมาก ขอซ่อมบำรุงก็นานกว่าจะมาซ่อมให้ ซ่อมเองก็เสียเงินฟรี เรียกคืนไม่ได้ ต่อมาเรื่องเข้าทำงาน เวลาราชการคือ 08.00-16.00 น. แพทย์เฉพาะทางส่วนใหญ่เปิดคลินิก กว่าจะมาทำงานก็โน้น 10.00 น. ช่วงบ่ายๆก็เลิกตรวจแหละ เหลือแต่แพทย์จบใหม่ตรวจแทน ส่วนพยาบาลน่ะหรอ ต้องมารับเวรก่อนเวลา มาช้าโดนหัวหน้าตำหนิ ลงก่อนก็โดนตำหนินะ ผู้ป่วยมารอหมอก็บ่น แถมต่อว่าพยาบาลอีก พอหมอมานี่ เงียบ ไม่พูดอะไรเลย ... สุดท้ายคือเรื่องลากิจ ลาป่วย แพทย์อยากไปตอนไหน ไปได้เลย ค่อยกลับมาเขียนใบลา พยาบาลหน่ะหรอ ต้องเขียนก่อนล่วงหน้า รออนุมัติว่าจะได้ลาไหม เคยเจอกับตัวเองเลย เราอยู่กับแม่สองคน ญาติอยู่ต่างจังหวัดหมด แม่เราไม่สบายต้องนอนโรงพยาบาล 5 วัน เราขอลากิจ แต่เนื่องจากพยาบาลที่ทำงานไม่มีใครขึ้นแทนเราได้ เพราะบ้างคนติดภาระกิจ หัวหน้าตึกเลยไม่อนุมัติให้เราหยุด ให้เราทำงานต่อแต่อนุญาตให้เราเดินเทียวดูแม่เราได้ เราร้องไห้เลย คิดเสมอว่าแม่ต้องการกำลังใจและการดูแลจากลูก แต่ลูกกลับดูแลแม่ของตนเองได้ไม่เต็มที่ ขนาดผู้ป่วยที่ไม่ใช่แม้ญาติของเรา เรายังดูแลได้มากกว่าแม่เราเลย
--> สิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ทำให้พยาบาลอย่างพวกเรารู้สึกท้อแท้ ไม่มีกำลังใจทำงาน มันบั่นทอนจิตใจเราไปทุกวันๆ ส่วนมากพยาบาลจบใหม่จึงลาออกไป รพ.เอกชน เพราะเงินดี สวัสดิการดี มีสิทธิ์มีเสียงเท่าๆกัน พยาบาลแย่ๆก็มี แต่พยาบาลดีๆก็มีไม่น้อย ผิดถูกก็ว่าตามกันไป ดังนั้นก่อนที่พวกท่านๆจะคิด ตัดสินใจทำอะไร อยากให้ทราบความจริงก่อนลงมือทำ เพราะบางสิ่งทำไปแล้วมันก็ยากที่จะแก้ไข เราควรให้ความรัก กล่าวขอโทษ ให้อภัยกัน เป็นสิ่งที่ดีที่สุด สังคมไทยจะน่าอยู่ขึ้น ถ้าพวกเรารัก เข้าใจและสามัคคีกันนะ ^ ^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่