ผมอายุ 25 ปีครับ เป็น Office Syndrome ประเภทปวดหลัง
ทำงาน Office นั่งนานกว่า 8 ชั่วโมงครับ ไม่ออกกำลังกายเลย น้ำกินไม่เกินวันละ 4 แก้ว(ขี้เกียจไปฉี่บ่อยๆ)
อาการแรกเริ่ม : เคล็ดขัดยอกหลังนิดๆ คิดว่า"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวร่างกายก็ซ่อมแซมเอง"
อาการขั้น2 : ผ่านไป1สัปดาห์ ยังไม่หายเคล็ดขัดยอก ยิ่งกว่านั้นเจ็บมากกว่าเดิม
อาการขั้น3 : ผ่านไป3สัปดาห์ เริ่มปวดช่วงข้างขา และไหล่
อาการขั้น4 : ผ่านไป 1 เดือนยังไม่หาย เป็นหนักมาก ตอนประมาณตี 2 จะตื่นอัตโนมัติและไม่ได้นอนอีกเลย เนื่องจากหลังสัมผัสกับที่นอนจะรู้สึกเจ็บมาก
ในตอนกลางวัน จะนั่งพิงพนัก ไม่ได้เพราะเจ็บ หัวเราะดังไม่ได้มันร้าวถึงท้อง ร่างกายเริ่มโทรมเพราะไม่ได้นอน
+จุดที่ผมปวดครับ+
---ในหัวตอนนั้นมีสอง ทางเลือก 1.ไปโรงพยาบาลใช้สิทธิ์ประกันสังคม 2.ไปนวดแผนไทย ---
ผมเลือกข้อ2ครับ เกรงว่าเลือกข้อแรก จะได้แค่ยาแก้ปวด
ผมไปนวด 4 ครั้ง หมอนวดไม่ซ้ำกันเลย
ไปครั้งแรก เขาแนะนำให้ผม นวดเท้า 1ชั่วโมง นวดตัว 1ชั่วโมง อย่าริอาจคิดว่ามันจะผ่อนคลายนะครับ ตอนนวดเนี้ยะ มันเจ็บมาก เจ็บฉัดฉัดเลย
ในขณะที่นวด เขาจะถามว่าปวดตรงไหน พอเขาจับเส้นเขาจะอธิบายว่า สาเหตุเบื้องต้นน่าจะเกิดจากอะไร
พี่เขาว่า ผมเส้นตาย เส้นตึงมากต้องมาซ้ำอีกถึงจะค่อยๆคลาย (ไม่ให้ตึงได้ไง ผมไม่ออกกำลังกายเลย ตอนเรียนก็เรียนอย่างเดียว ไม่ได้เล่นกีฬา เล่นแต่เกมส์)
เขาให้ผมงดกินน้ำเย็น ให้กินน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นยิ่งดี
ค่าใช้จ่ายนวดเท้า/นวดตัว ชั่วโมงละ 300 บาท รวมเป็น 600 บาท
ไปครั้ง2 เหมือนเดิม นวดเท้า/นวดตัว อย่างละชั่วโมง รวม 600 บาท ในขณะที่นวดผมชอบงอแง คือเจ็บ ป้าแกจะบ่นว่า ไม่เจ็บมันจะหายเหรอ 555
หลังจากวันนั้น ผมหาซื้อรองเท้าวิ่งแล้วเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่ง เพื่อยืดเส้น
ไปครั้ง3 ผมเลือกนวดเท้า 1ชั่วโมง นวดตัว 2ชั่วโมง รวม 900 บาท ป้าอธิบายว่า ไหล่ตึงๆ ลูกค้าส่วนใหญ่นอนดึก หมอนวดบ่นเหมือนเดิม ว่าเส้นผมตาย
ผมเริ่มนอนได้แล้ว แต่ก็ยังมีขัดอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ตื่นกลางดึกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ไปครั้ง4 ผมเลือกนวดเท้า/นวดตัว อย่างละชั่วโมง รวม 600 บาท เพราะคิดว่านวดตัว2 ชั่วโมงมันนานเกินไป
ผมหายขาดแล้ว ไม่มีอาการขัด หรือเจ็บ
รวมทั้งสิ้นผมจ่ายไป 2700 บาทขาดตัว ทั้งหมดทั้งมวลผมใช้ทั้งการนวดบำบัด และเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันครับ
การป่วยครั้งนี้เปลี่ยนชีวิตผมไปเลย
ผมกลายเป็นคนกินน้ำเยอะ และหันมาออกกำลังกาย (ตอนนี้เล่นเวท สร้างกล้ามเนื้อด้วย เพราะผมเป็นลักษณะผอมแห้งแต่ลงพุง)
กินอิ่มนอนหลับ มันทำให้ผมซึ้งกับประโยคที่ว่า "อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"
สำหรับใคร ที่เป็นโรคนี้ แล้วรักษายังไง มาแชร์กันได้นะครับ
จากที่ผมสังเกตุ คนที่เข้าไปรักษาเป็นผู้หญิงซะ 70 เปอร์เซ็นต์ครับ วัยทำงานนี่แหละ ^^
เมื่อฉันเป็น Office Syndrome
ทำงาน Office นั่งนานกว่า 8 ชั่วโมงครับ ไม่ออกกำลังกายเลย น้ำกินไม่เกินวันละ 4 แก้ว(ขี้เกียจไปฉี่บ่อยๆ)
อาการแรกเริ่ม : เคล็ดขัดยอกหลังนิดๆ คิดว่า"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวร่างกายก็ซ่อมแซมเอง"
อาการขั้น2 : ผ่านไป1สัปดาห์ ยังไม่หายเคล็ดขัดยอก ยิ่งกว่านั้นเจ็บมากกว่าเดิม
อาการขั้น3 : ผ่านไป3สัปดาห์ เริ่มปวดช่วงข้างขา และไหล่
อาการขั้น4 : ผ่านไป 1 เดือนยังไม่หาย เป็นหนักมาก ตอนประมาณตี 2 จะตื่นอัตโนมัติและไม่ได้นอนอีกเลย เนื่องจากหลังสัมผัสกับที่นอนจะรู้สึกเจ็บมาก
ในตอนกลางวัน จะนั่งพิงพนัก ไม่ได้เพราะเจ็บ หัวเราะดังไม่ได้มันร้าวถึงท้อง ร่างกายเริ่มโทรมเพราะไม่ได้นอน
+จุดที่ผมปวดครับ+
---ในหัวตอนนั้นมีสอง ทางเลือก 1.ไปโรงพยาบาลใช้สิทธิ์ประกันสังคม 2.ไปนวดแผนไทย ---
ผมเลือกข้อ2ครับ เกรงว่าเลือกข้อแรก จะได้แค่ยาแก้ปวด
ผมไปนวด 4 ครั้ง หมอนวดไม่ซ้ำกันเลย
ไปครั้งแรก เขาแนะนำให้ผม นวดเท้า 1ชั่วโมง นวดตัว 1ชั่วโมง อย่าริอาจคิดว่ามันจะผ่อนคลายนะครับ ตอนนวดเนี้ยะ มันเจ็บมาก เจ็บฉัดฉัดเลย
ในขณะที่นวด เขาจะถามว่าปวดตรงไหน พอเขาจับเส้นเขาจะอธิบายว่า สาเหตุเบื้องต้นน่าจะเกิดจากอะไร
พี่เขาว่า ผมเส้นตาย เส้นตึงมากต้องมาซ้ำอีกถึงจะค่อยๆคลาย (ไม่ให้ตึงได้ไง ผมไม่ออกกำลังกายเลย ตอนเรียนก็เรียนอย่างเดียว ไม่ได้เล่นกีฬา เล่นแต่เกมส์)
เขาให้ผมงดกินน้ำเย็น ให้กินน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นยิ่งดี
ค่าใช้จ่ายนวดเท้า/นวดตัว ชั่วโมงละ 300 บาท รวมเป็น 600 บาท
ไปครั้ง2 เหมือนเดิม นวดเท้า/นวดตัว อย่างละชั่วโมง รวม 600 บาท ในขณะที่นวดผมชอบงอแง คือเจ็บ ป้าแกจะบ่นว่า ไม่เจ็บมันจะหายเหรอ 555
หลังจากวันนั้น ผมหาซื้อรองเท้าวิ่งแล้วเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่ง เพื่อยืดเส้น
ไปครั้ง3 ผมเลือกนวดเท้า 1ชั่วโมง นวดตัว 2ชั่วโมง รวม 900 บาท ป้าอธิบายว่า ไหล่ตึงๆ ลูกค้าส่วนใหญ่นอนดึก หมอนวดบ่นเหมือนเดิม ว่าเส้นผมตาย
ผมเริ่มนอนได้แล้ว แต่ก็ยังมีขัดอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ตื่นกลางดึกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ไปครั้ง4 ผมเลือกนวดเท้า/นวดตัว อย่างละชั่วโมง รวม 600 บาท เพราะคิดว่านวดตัว2 ชั่วโมงมันนานเกินไป
ผมหายขาดแล้ว ไม่มีอาการขัด หรือเจ็บ
รวมทั้งสิ้นผมจ่ายไป 2700 บาทขาดตัว ทั้งหมดทั้งมวลผมใช้ทั้งการนวดบำบัด และเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันครับ
การป่วยครั้งนี้เปลี่ยนชีวิตผมไปเลย
ผมกลายเป็นคนกินน้ำเยอะ และหันมาออกกำลังกาย (ตอนนี้เล่นเวท สร้างกล้ามเนื้อด้วย เพราะผมเป็นลักษณะผอมแห้งแต่ลงพุง)
กินอิ่มนอนหลับ มันทำให้ผมซึ้งกับประโยคที่ว่า "อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"
สำหรับใคร ที่เป็นโรคนี้ แล้วรักษายังไง มาแชร์กันได้นะครับ
จากที่ผมสังเกตุ คนที่เข้าไปรักษาเป็นผู้หญิงซะ 70 เปอร์เซ็นต์ครับ วัยทำงานนี่แหละ ^^