ข่าว 10ธค สั่งรื้อไลเซนส์ solar ลม

กระทู้สนทนา
นสพ แนวหน้า  ฟังดูเป็นยึด แต่
อ่านดู จริงๆแล้วจะ เร่งใช้ตัง นี่หว่า

จ่อยึดคืนใบอนุญาตโซลาร์เซลล์178ราย

ฉุนพลังงานลมไม่เข้าเป้า

กบง.รื้อไลเซ่นส์ผลิตไฟฟ้า

คณะกรรมการนโยบายพลังงาน ทบทวนไลเซ่นส์ผลิตไฟฟ้าทดแทน เล็งเป้าเซลล์แสงอาทิตย์ หลังพบ 178 ราย ดองใบอนุญาต ส่วนพลังงานลมขอไป 1.8 พันเมกะวัตต์แต่ผลิตได้แค่ 300 เมกะวัตต์ ลั่นราคาน้ำมันเบนซิน กับเดีเซล ต้องมีราคาใกล้เคียงกัน ใช้กลไกกองทุนน้ำมัน กับภาษีสรรพสามิต

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ว่า ที่ประชุมรับทราบหลักเกณฑ์การอนุญาตผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ที่สังคมเกิดความสับสน โดยเฉพาะใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยได้สั่งการให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ เรกูเลเตอร์ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของโรงไฟฟ้าทุกชนิดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ว่ามีการอนุญาตให้ผลิตไฟฟ้าจำนวนเท่าใด และมีระยะเวลาการผลิตยาวนานเท่าใด จากนั้นคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. จะกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ หรือ COD ที่แน่ชัดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นที่ผ่านมา

ทั้งนี้โรงไฟฟ้าที่ตรวจสอบพบว่าจะต้องเร่งดำเนินการผลิต อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 178 ราย ที่ยังไม่มีการผลิตไฟฟ้าเข้าระบบ โดยต้องผลิตเข้าระบบภายในเดือนธันวาคมปีหน้า รวมถึงพลังงานลมที่มีการขออนุญาต 1,800 เมกะวัตต์ แต่ผลิตเข้าระบบจริงเพียง 300 เมกะวัตต์ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบว่าจะผลิตไฟฟ้าเข้าระบบได้ครบถ้วนเมื่อใด

นอกจากนั้น ที่ประชุมยังรับทราบการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ระยะ 20 ปี หรือ PDP 2015 โดยหลักการสำคัญคือ การลดสัดส่วนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ที่ปัจจุบันใช้มากถึงร้อยละ 70 และเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าเข้าระบบจากเชื้อเพลิงถ่านหิน เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานให้ประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่มีปัญหาด้านความต้องการใช้มากที่สุด โดยที่ประชุม กพช. จะสามารถประกาศแผน PDP ที่ชัดเจนได้ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้

สำหรับการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน จะกำหนดหลักเกณฑ์ใหักลุ่มเบนซินและดีเซลมีราคาใกล้เคียงกัน ผ่านกลไกกองทุนน้ำมันและภาษีสรรพสามิต ซึ่งการขึ้นราคาจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะดีเซล เนื่องจากจะเก็บเงินเข้ากองทุนสลับกับการเก็บภาษีสรรพสามิต ราคาจำหน่ายจึงยังใกล้เคียงของเดิม โดยปัจจุบันกองทุนน้ำมันมีสถานะเป็นบวกเกือบ 1 หมื่นล้านบาท จากรายรับประมาณ 300 ล้านบาทต่อวัน หากกองทุนอยู่ในระดับที่เหมาะสม จะทำให้การปรับโครงสร้างราคาทำได้ง่ายขึ้น

ส่วนราคาก๊าซแอลพีจีเตรียมขอมติการขึ้นราคาที่ชัดเจนจาก กพช. จากปัจจุบันกำหนดราคาขายปลีกไว้ที่ 24.16 ต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่รัฐบาลหยุดการอุดหนุนแล้ว ส่วนการกำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้าตามต้นทุนที่แท้จริง หรือ ฟีด อินทารีฟ ในส่วนของพลังงานทดแทนที่เหลืออยู่ คือ ลม ขยะ ชีวมวล และชีวภาพ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในทุกภาคส่วน หลังจากก่อนหน้านี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกำหนดราคารับซื้อ โดยขณะนี้มีการกำหนดอัตรารับซื้อจากพลังงานแสงอาทิตย์ไว้แล้วที่ 5.66 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ ที่ประชุม กบง. ยังกำหนดให้ผู้ค้าน้ำมัน 2 ราย คือ บริษัท ปตท. และบริษัท บางจาก ลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินทุกชนิด ยกเว้น E85 ลงอีก 40 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่ดีเซลคงเดิม โดยราคาจำหน่ายใหม่ คือ เบนซิน 95 อยู่ที่ 39.86 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 32.80 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 30.78 บาทต่อลิตร E20 อยู่ที่ 29.48 บาทต่อลิตร E85 คงเดิมที่ 22.88 บาทต่อลิตร และดีเซลที่ 28.39 บาทต่อลิตร



- See more at: http://m.naewna.com/view/highlight/134661#sthash.vgwnPusO.dpuf
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่