...อุเหม่ ๆ ชัดช้า บังอาจพูดถึงมือเศรษฐกิจผู้เกรียงไกรอย่างหม่อมอุ๋ย เช่นนี้เชียวรึ ???...

กระทู้สนทนา
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายสุนทร รักษ์รงค์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมพร แกนนำแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า วันที่ 9 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ขอประกาศให้ แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง เคลื่อนไหวใหญ่ทั้งประเทศทุกจังหวัด ด้วยเหตุที่รัฐบาลนี้ได้บริหารจัดการแก้ไขปัญหาวิกฤติราคายางพาราตกต่ำอย่างผิดวิธี ใช้งบประมาณเป็นเงินเกือบหกหมื่นล้านบาท แต่ไม่สามารถทำให้ราคายางสูงขึ้นมาได้ และผลประโยชน์ก็มิได้ตกไปถึงพี่น้องชาวสวนยาง ทำให้ชาวสวนยางหลายรายสิ้นเนื้อประดาตัว ของแพง ยางถูก ลูกอด รถถูกยึด ผูกคอและเผาตัวตาย ฆ่าตัวตาย เพื่อหนีความทุกข์

แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง ได้เสนอให้รัฐบาลรับซื้อยางกิโลกรัมละ 80 บาท โดยชดเชยส่วนต่างเป็นพันธบัตรรัฐบาล มาตรการนี้ช่วยเหลือชาวสวนยางได้ทุกคน แต่รัฐบาลไม่สนใจ ยังคงดื้อด้านใช้วิธีการเดิม ไม่ได้ผลแล้วยังไม่ทบทวน มิหนำซ้ำยังทำการขายยางในสต๊อก 2.1 แสนตัน อย่างไม่ดูทางลม ยิ่งทำให้ราคายางตกต่ำลงเข้าไปอีก..เวรกรรม!

เฟซบุ๊ก ระบุอีกว่า ชาวสวนยางจะไม่ทนอีกต่อไป จึงขอเรียกร้อง ให้รัฐบาลใช้วิธีการที่แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางเสนอ และนายกรัฐมนตรีต้องพิจารณาลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องที่ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ตั้งแต่รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ยิ่งถ้าถอดถอนออกจากตำแหน่ง และเปลี่ยนตัวได้ยิ่งดี เพราะทั้ง 2 คนเป็นอดีตปลัดกระทรวง ที่มีวิสัยทัศน์แบบข้าราชการ ทำงานเชิงรุกไม่เป็น ด้อยความสามารถ และไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นแม่ทัพยางพารา ในสงครามตลาดยางกระดาษ หรือตลาดล่วงหน้า ที่ต้องต่อสู้ด้วยยุทธศาสตร์การเมืองข้ามชาติ โดยเฉพาะการทำ counter trade กับประเทศจีน และการสร้างตลาดซื้อขายจริง หรือ spot market.

.....................


เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงกรณีที่ชาวสวนยางภาคใต้ เตรียมชุมนุมในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือหลังจากราคายางพาราตกต่ำอย่างมาก ว่า รัฐบาลพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่หลายอย่างติดขั้นตอนเยอะ เลยทำให้ช้า ขณะนี้เรามี 3 แรงที่จะมาช่วยซื้อยางพาราเพื่อทำให้ราคาสูงขึ้นคือ 1.การให้สหกรณ์ซื้อ โดยเริ่มซื้อมาตั้งแต่เดือน ต.ค.สามารถช่วยให้ราคายางกระเตื้องขึ้นมาได้บ้าง 2.การให้องค์การสวนยางซื้อ แต่มีขั้นตอนอนุมัติเยอะ เพิ่งอนุมัติและลงมือซื้อจริงๆ ได้เพียง 10 วันเท่านั้น กำลังเร่งอยู่ และ 3.แรงซื้อจากกลุ่มน้ำยางข้น เพื่อไปซื้อน้ำยางธรรมชาติ ซึ่งก็มีขั้นตอนการอนุมัติยาวเช่นกัน โดยจะมีการอนุมัติครั้งสุดท้ายในวันที่ 9 ธ.ค.นี้

“ทั้ง 3 แรงนี้บังเอิญทำงานได้ไม่พร้อมกันอย่างที่ได้เสนอไปตั้งแต่แรก ถ้าเสนอแล้วมีการอนุมัติเลย ป่านนี้ราคายางพาราขึ้นไปนานแล้ว ดังนั้นต้องให้เวลานิด ที่ช้าเพราะติดขัดที่ขั้นตอนเยอะ ผมอึดอัดกว่าทุกคน บางทีผมก็เบื่อ ตอนนี้หมดแล้ว ผมไล่ขั้นตอนต่าง ๆหมดแล้ว ไม่คิดว่าจะมีคำถามมากมายขนาดนี้ คำถามเยอะเหลือเกิน อย่างไรก็ตามคงไม่ได้ราคาที่ 80 บาทต่อกิโลตามที่เกษตรกรเรียกร้อง มันต้องค่อย ๆ ซื้อไป ขณะนี้ยางออกน้อย ใครอั้นตลาดไว้ผมก็ไม่รู้ ยางเคยออกทุกปี 4 ล้านตัน แต่ปีนี้จากการสำรวจจนถึงสิ้นฤดู มีปริมาณยางออกมาเพียง 3 ล้านกว่าตัน ซึ่งน้อยกว่าความต้องการแน่นอน จะต้องคุยกับชาวสวนยางให้เข้าใจว่าเรามีความตั้งใจ และกำลังเร่งซื้อ”รองนายกฯ กล่าว และว่ามั่นใจว่าจะทำให้ราคายางดีขึ้นแน่ ตอนนี้ได้ 2 แรงแล้ว เหลือแรงที่ 3 เราจะเคลียร์ได้ในวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็จะเสนอเข้าครม.ทันที

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะส่งใครไปเจรจากับชาวสวนยางที่ประกาศชุมนุมในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ไม่ต้องเป็นห่วงมีคนไปคุยอยู่แล้ว เราคุยกันตลอด คุยกันด้วยความจริงใจ อธิบายให้เขาเห็นว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร ช้าเพราะอะไร ซึ่งชาวสวนยางก็เข้าใจและเห็นใจ.
........................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่