แชร์ประสบการณ์ชกมวยไทยของสาวออฟฟิศวัย 30 up ^^ (มีรูป)

จากกระทู้นี้นะคะ http://pantip.com/topic/32926448
เป็นการเล่าประสบการณ์เรียนมวยไทยที่น่ารักทีเดียวค่ะ คิดว่าบางคนเรียนไปสักพักคงอยากจะขึ้นชกบ้าง
การออกกำลังกายนี่บางทีต้องสร้างแรงจูงใจแบบต่างๆกันไปค่ะ การลงแข่งขันก็เป็นเป้าหมายที่น่าสนุกมาก
จขกท. เลยอยากมาเล่าประสบการณ์การขึ้นชกด้วยการไม่เจียมสังขารนี่จะน่าสงสารแค่ไหน ^^"
ยาวหน่อยนะคะ เป็นการขึ้นชกมวยไทยสองครั้งค่ะ



###ชกมวยไทยครั้งแรก###
จขกท.เริ่มหัดมวยไทยตอนอายุ 34 ปีเศษๆค่ะ เมื่อต้นปี 2013 หัดตอนเย็นหลังเลิกงาน แบบพนักงานออฟฟิศทั่วไป
อาทิตย์ละ 3-4 วัน หัดไปสัก 9-10 เดือนก็อยากขึ้นชกสักที พอดีทางแฟร์เท็กซ์จัด Smoker#1 เป็นการแข่งขัน
ชกมวยไทยสมัครเล่นเพื่อให้คนที่เพิ่งหัดมวยไทย
ได้สัมผัสการแข่งขันบ้าง จขกท. รู้ข่าวก่อนแข่งประมาณ 10 วันค่ะ ฟิตไม่ทันแน่นอน แต่ก็ลงสมัครค่ะ
ท่ามกลางเสียงคัดค้านของเทรนเนอร์และเพื่อนๆญาติๆ


*การฟิตซ้อมก่อนการแข่งขัน*
ต้องบอกว่าไม่มีอะไรพิเศษนอกเหนือไปจากการซ้อมปกติเลยค่ะ  การกินก็ปกติ สบายๆ เน้นอิ่ม ไม่อดค่ะ
10 วันก่อนแข่งก็คือแต่ละวันจะยืดเหยียดก่อนซ้อม 5 นาที กระโดดเชือก 500 - 1000 ครั้ง
ล่อเป้า 5 ยก บางวันก็มีลงนวม 3 ยก เทรนเนอร์ก็พยายามโน้มน้าวให้ถอนตัว
ขู่ว่าเจ็บบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ตัดสินใจแล้วนี่คะ


*วันชั่งน้ำหนัก*
ไปคนเดียวเลยค่ะ  แอบเหงาเหมือนกันเพราะคนอื่นที่มาก็มีทางค่ายพามา มีเพื่อนๆมาด้วย
ไม่กินข้าวเช้าเลยค่ะ ได้ขึ้นตาชั่งตอนเกือบๆ 10 โมง หิวมากกกก ชั่งได้ 53 กก.
เนื่องจากการจัดครั้งแรก มีมวยหญิงน้อยค่ะ ทีมงานของแฟร์เท็กซ์(เข้าใจว่าคงเป็นครูมวย)
จึงเสนอว่าชกกับลูกสาวเค้ามั้ย น้องอายุ 13 ปีค่ะ รุ่นลูกเลยทีเดียว น้ำหนักน้องก็ไม่ได้ชั่ง
แต่คิดว่าน่าจะหนักกว่าจขกท. แต่กลัวไม่มีคู่ชก เลยตอบตกลง
ชั่งน้ำหนักเสร็จก็ปอบลงเลยค่ะ  กินๆๆๆๆๆๆ ซะให้สะใจ


*วันขึ้นชกจริง*
(จขกท.มุมน้ำเงินค่ะ)

คือชั่งน้ำหนักวันเสาร์ วันอาทิตย์ก็ชกเลยค่ะ
คราวนี้มีเพื่อนๆไปด้วย ก่อนแข่งก็วอร์มเบาๆ นวดน้ำมันมวย
เจ้าหน้าที่ก็เรียกไปใส่อุปกรณ์ป้องกัน และนวมขนาด 10 ออนซ์
เห็นแล้วใจชื้นขึ้นมาหน่อย คิดว่าคงไม่เจ็บมาก
ชกยกละ 2 นาที พัก 2 นาที ระหว่างที่ชก 2 นาทีนี้ เป็น 2 นาทีที่ยาวนานมากจริงๆค่ะ
ทั้งเหนื่อยทั้งเจ็บ(แต่พอทนค่ะ) แบบคอแห้งเป็นผง หายใจไม่ทัน  โดนต่อยทีหน้าหงาย เพราะการ์ดตกตลอดๆ
(คอเคล็ดไปหลายวัน) เข้าใจว่า เสียงเชียร์ เสียงพี่เลี้ยงคงดังทีเดียว แต่ตอนนั้นไม่ได้ยินอะไรเลยค่ะ T_T
คิดว่าค่อนข้างเป็นรอง แต่ยกสองนี้ฟลุ้ค คู่ชกล้มไปกองกับพื้น ไม่รู้โดนอะไร เพราะมั่ว ยกสามจขกท.โดน
จัดหมัดชุดใหญ่ แต่ยังทรงตัวยืนอยู่ได้ ครบสามยกอย่างไม่น่าเชื่อ กรรมการชูมือเสมอค่ะ





###ชกมวยไทยครั้งที่สอง###
ครั้งที่สองนี้ เป็นการชกแบบอาชีพค่ะ ไม่มีเครื่องป้องกัน มีการไหว้ครูก่อนชก
เทรนเนอร์หามวยใหม่ๆไปชกโปรโมทตลาดนัดแห่งหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์ เลยชวนจขกท.
กลัวเจ็บเหมือนกันนะคะ แต่ได้ค่าตัว 1500 บาท เลยตอบตกลง ^^”


*การฟิตซ้อมก่อนการแข่งขัน*
มีเวลาเตรียมตัวเกือบๆ 4 อาทิตย์ค่ะ เทรนเนอร์อยากให้ซ้อมเช้า-เย็นเลย แต่จขกท. ก็ทำได้แค่
วิ่งตอนเช้า (บางวัน) กับซ้อมตอนเย็น  เพราะต้องทำงานเต็มเวลา ตามประสามนุษย์เงินเดือน ^^”
การซ้อมแต่ละวันก็จะหนัก-เบา ตามสังขารจขกท.  ไม่ได้หนักเท่านักมวยจริงๆนะคะ
ซึ่งก็จะมี ยืดเหยียด 5 นาที, กระโดดเชือก 15 นาที, กระโดดบนยาง(ล้อรถบรรทุก) 15 นาที
ล่อเป้า ยกละ 5 นาที 8-10 ยก, ลงนวม ยกละ 5 นาที 5-10 ยก, ตีเข่ากระสอบ 200 ครั้ง
เตะกระสอบเบิ้ล 100 ครั้ง, ซิทอัพ 100 ครั้ง, ซิทอัพแบบยกเวทด้วย 50 ครั้ง 2 เซท
บางวันต้องมีการซ้อมใส่ฟันยางชกด้วย เพื่อให้คุ้น เพราะเวลาใส่ฟันยางจะหายใจลำบาก

วันไหนตื่นทันก็จะมีวิ่งตอนเช้า 5 กม.  ใกล้ๆวันก็หัดรำไหว้ครู เพราะจขกท. ทำไม่เป็นเลย ^^”
ส่วนการปล้ำเข่านี้ไม่ได้หัดเลยค่ะ เพราะไม่มีคู่ปล้ำที่เป็นผู้หญิง และค่ายที่ซ้อมอยู่ก็แค่แบบแนว
ฟิตเนสออกกำลังกาย ไม่ใช่แบบส่งขึ้นชกจริง (จริงๆการปล้ำเข่าจำเป็นมากสำหรับการชกจริง
แต่การซ้อมจะถึงเนื้อถึงตัวมาก อาจดูน่ากลัวไปสำหรับลูกค้าคนอื่นๆ)
การกินก็เยอะกว่าปกติมากค่ะ โด๊ปสุดๆ อัดๆยัดๆ เน้น เนื้อนมไข่ คาร์ปมากๆ ผัก-ผลไม้บ้าง
เพราะก่อนหน้านี้ จขกท. ลดน้ำหนักมาได้ถึง 49-50 กก. แต่คู่ชกที่จัดไว้ให้นี้หนัก 58 กก.ค่ะ
จขกท.จึงพยายามปล่อยน้ำหนักให้เข้าใกล้คู่ชกค่ะ เนื่องจากการซ้อมที่หนักกว่าปกติ
น้ำหนักจึงขึ้นได้แค่ 53-54 กก.
(หลังชก ดีดขึ้นมา 57-58 เลย เพื่อ!?! T_T เพราะ ติดกินเยอะ และซ้อมน้อยกว่าเดิม)


*วันขึ้นชกจริง*
(จขกท.มุมแดงค่ะ)


ไม่มีการชั่งนน.ค่ะ และมีการเปลี่ยนตัวคู่ชกให้ เพราะคู่ชกที่จัดให้ครั้งแรกเป็นนักมวยชาวสวิสเคยชกมา
สิบกว่าครั้ง และชนะมา 7 ครั้ง คู่ชกเปลี่ยนมาเป็นคนไทยอายุ 19 ปี (รุ่นลูกอีกแล้ว ^^”)
ชกมาครั้งหรือสองครั้งนี่แหละ ไม่ทราบน้ำหนัก แต่คงเยอะกว่า
จขกท.ค่อนข้างปอดแหกเลยค่ะ กลัวเจ็บ กลัวโดนต่อยจมูกหัก (ทำจมูกมาค่ะ ตอนโดนต่อยจะเจ็บกว่าปกติ)
แถมนอนไม่หลับด้วยสิ T_T
ถึงเวลาใกล้จะชก เจ้าของค่ายไปรับนวมมา ซึ่งผู้จัดเป็นคนเตรียมให้ พอเห็นนวมนี่ขมคอเลยค่ะ
เพราะนวมขนาด 6 ออนซ์ บางมากกกก โดนต่อยนี้จะเจ็บมาก เพราะแค่ป้องกันไม่ให้มือเจ็บ แต่ไม่ป้องกัน
หน้าคนโดยต่อย แอบอยากถอนตัวเลยทีเดียว แต่ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องตามน้ำไปล่ะค่ะ T_T
พอขึ้นเวที คู่ชกก็ยิ้มหวานให้ น่ารักทีเดียว (แต่ทักษะดี หมัดหนักสุดๆ 555)
ก็ทำการไหว้ครูตามจังหวะปี่กลองมวยไทยตามมปกติ พอนั่งคุกเข่าลงไปนี่ จขกท. ก็อยากจะเป็นลม
ตรงเวทีนั้นเลยค่ะ เพราะมองเห็นรอยเลือดหยดบนผืนผ้าใบ (คาดว่าจะเป็นเลือดฝรั่งคู่ก่อนหน้านี้ เห็นมีแตก
มีเย็บกัน แต่ไม่รู้ว่ากี่เข็ม)
แต่ก็พยายามรำไหว้ครูต่อไป (เพื่อนๆที่มาเชียร์กับพี่เลี้ยงบอกว่าจขกท.หน้าซีดและขาสั่นมาก)
พอเริ่มยกที่ 1 ก็มีการเตะ ต่อย ถีบ ทักทายกันบ้าง (พี่เลี้ยงตะโกนบอกว่าไม่ต้องรีบ แต่จขกท.ไม่ได้ยินค่ะ)
มาเสียท่าเลยนี่โดนกอดคอตีเข่าค่ะ จุกน้ำตาเล็ดเลย เพราะไม่เคยโดนมาก่อน และไม่เคยเรียนปล้ำเข่า
เลยป้องกันไม่เป็นค่ะ ต่อด้วยหมัดลุ่นๆเข้าขมับ วิ้งงงงไปเลยค่ะ เห็นดาวเลยจริงๆ จขกท.เดินถอยไปพิงเชือก
คราวนี้โดนประเคนหมัดชุดใหญ่เลยค่ะ กรรมการเลยเข้ามานับ 1-7 แล้วถามจขกท.ว่าไหวมั้ย
ด้วยความใจเสาะ รีบส่ายหัวตอบทันทีเลยค่ะ กรรมการจึงยุติการชกไว้ที่ยกแรก ด้วยเวลาไม่ถึงสองนาที
แพ้ T.K.O ไปค่ะ เสียใจอยู่นะคะ แต่ก็โล่งใจ ที่ทำหน้าที่ที่เราได้รับปากไว้เรียบร้อยแล้ว T_T

เป็นไงบ้างคะ พอจะมีประโยชน์สำหรับคนที่จะขึ้นชกมวยไทยบ้างมั้ยคะ 555
ถ้าใจสู้ ซ้อมหนักพอ กินอิ่ม นอนหลับก็ไม่ต้องกลัวอะไรนะคะ

*** หมายเหตุ *** สำหรับสาวๆนะคะ ตอนขึ้นชกไม่ควรแต่งหน้านะคะ เพราะจะต้องโดนโปะวาสลีนหนาๆ
เพื่อให้ลื่นๆ ลดแรงเสียดสี ป้องกันการเกิดบาดแผลไปได้(บ้าง) ถ้าแต่งหน้าไป เครื่องสำอางจะเยิ้มค่ะ
หน้าสดไปเลยจะสะดวกกว่า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่