คุณเอาอะไรคิด!!!??
เรื่องมันมีอยู่ว่าเอารถมอไซค์ที่เพิ่งซื้อได้เดือนเดียวป้ายทะเบียนก็ยังไม่มีเลย
ออกไปซื้อข้าวกินจะได้กินยานอนเพราะไม่ค่อยสบาย แถวๆบ้านคือแถวหอนาฬิกห้วยขวาง
ขณะที่ทุกคนกำลังจอดรถรอตรงทางแยก อยู่ๆก็มีเสียง ปัง!!ดังจากข้างหลังเราพร้อมกับตัวเราสดุ้ง
มองไปข้างหลัง รถเก๋งฮออนด้าสีทองป้ายทะเบียน 1กย72XX กำลังขับถอยหลังไปนิดนึง
เราก็ลงจะมอไซค์ไปเช็คอยู่ว่ารถตัวเองเป็นไรมั้ง แต่ทุกอย่างยังโอเค ไม่แตก
แค่ไฟท้ายถลอก กับ ขอบล่างกับข้างๆทั้งสองข้างสะดุ้งออกมานิดนึง ไม่สังเกตุดีๆก็ไม่รู้
เช็คสักพัก ผู้หญิงวัยกลางคนก็ลงมาพร้อมกับลูกชายวัยประมาน6 ขวบ พร้อมกับบอกว่า( จำทุกคำไม่หมดนะแต่จำได้ว่าพูดประมานไหน)
คู่กรณี : 'น้องคะรถเป็นไงมั้งอ่ะ " ( แล้วก็ก้มๆเงยๆเช็ค รถเรา ระหว่างนั้นเราก็ได้แต่เงียบเพราะตกใจเหมือนกันไม่รู้ต้องทำยังไง)
คู่กรณี : เอางี้ไม่คะ เอาไป 200 เอาจบกัน
เรา : (จากที่ อึ้งๆ งงๆอยู่แล้ว มึนและสตั้นไปอีก 80 วิ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรอย่างนี้
เรา : "จะเอาไปทำอะไรเหรอคะ 200
คู่กรณี: ถ้าไม่จบตรงนี้ไม่เอา 200 งั้นเอาเดียวพี่เรียกประกันมาเครียร์ น้องก็เรียกประกันของน้องมาแระกัน เอาไงคะ เอามั๊ย 200!!?
เรา : พี่คะ รถหนูยังไม่ได้ป้ายทะเบียนเลยคะ และพี่เรียกประกันของพี่มาเถอะค่ะหนูไม่เอาเงิน
(ระหว่างนั้นเจ้าเด็กอ้วนลูกเจ้ก็ พูดขึ้นมาใส่เราประมานว่า)
เด็กอ้วน: สมน้ำหน้า สมน้ำหน้าไม่เอาตังก็ เรียกประกันๆ
(แล้วก็เดินหนีขึ้นรถ ปล่อยเรายืนมึนงงอีกรอบ พร้อมอุทานคำว่า)
เรา : เอ้า!!! (แค่นี้จริงๆค่ะ พร้อมกับมองตามเจ้าเด็กอ้วนแบบอึ้งๆว่าทำไมปากเปราะจัง
คู่กรณี : ลูกพี่เป็นออทิติกค่ะ ลูกพี่ทำอะไรไม่ผิดนะ เขาไม่รู้ทำอะไรไม่ผิดกฏหมาย
เรา : !!!!!!!!!!!!!!!???????????????????????????? (นี้คุณคิดว่าช้านจะแจงความลูกคุณที่พูดล้อเราเหรอ !!? คือ งงกับคุณจริงๆค่ะ
ช้านก็มีคุณธรรมนพอนะคะ ถึงลูกคุณไม่เป็นออ ช้านก็ไม่คิดจะเอาเรื่องหรอกค่ะ
แค่คิดว่าแม่เป็นอย่างงนี้นี้ไงน้อลูกถึงเป็นแบบนี้เราเงียบไปพักใหญ่แล้วถามขึ้นมา )
เรา : แล้วพี่ขับมาได้ไงคะเนี้ย ถึงได้ชนทั้งๆที่ทุกคันจอดรออยู่
คู่กรณี : พี่คิดว่ารถขยับก็ขับมาเรื่อยๆ
เรา: (อึ้งอีก แล้วคิดในใจนี้สี่แยกสามแยก พี่ไม่ดูยคันหน้าบ้างเลยเหรอว่าเราเหยียบเบรคหรือขย้ำเบรคอยู่ไฟท้ายมันก็ฟ้องอยู่
หลังจากนั้นเราไม่พูดอะไรอีก ได้แต่รอประกัน พร้อมกับ ฟังเจ้โทรไปหาคนนู่นึนนี้ ระบายว่ารถชนท้าย
เล่าเรื่องบราๆๆๆ ว่าเราเครียรไม่ลงตัวนู้นนี้นั้น เราไม่ยอมอย่างนู่นอย่างนี้อย่างนั้น
เอ่อออ !!!ขอโทษจริงนะเจ้ แค่ได้ยินคำว่า 200 แล้วเลิกแล้วต่อกัน ก็ทำให้ไม่อยากพูดอะไรอีกแล้วละค่ะ
นี้มาเจอ ลูกเจ้อีก แล้วคำพูดที่คุณปกป้องลูกอีก ทำเราเงยเงิบ จนหมดคำพูดแล้วคะ
ตลอดต้นจน จนประกันมา ทำเอกสารอะไรเรียบร้อยเจ้ก็คอยบอกเราตลอดว่าเครียรไม่ลงตัว
ทำไมเจ้ไม่บอกให้จบละค่ะว่า เจ้ยื่นข้อเสนอให้ 200 แล้วจบกับ
ตอนจบประกันไม่รู้คุยอะไรกับเจ้ กลับมาประกันบอกเรา เอา 500 ไหม แล้วจบ
จะไม่ต้องยุ่งยาก
เรา : ." ไม่ขอรับเงินสดใดๆจะ200 หรือ 500 ก็ไม่เอาทั้งสิ้น เอาใบเคลมมา ว่าไปเช็คสภาพรถที่ไหนได้บ้าง
บอกใหก้เขาเก็บเงินไปเหอะ
แค้นมากอธิบายไม่ถูก แต่เก็บเงิน 200 คุณไว้ผ่อนรถ หรือรักษาโรคของลูกคุณเถอะคะ
ค่าเสียเวลาไปเช็ครถ ถือว่าความซวยของตัวเองแระกัน
ถามจริงอีกอย่างไม่ได้ดูถูกเงินนะ แต่ 200 พอเลี้ยงลูกคุณ1 วันป่ะ !?
คิดว่ามันคุ้มมั๊ยกับค่าเสียเวลาของเรา ต้องไปเช้คสภาพรถทั้งๆที่เป็นความเลินเล่อของคุณซึ่งไม่ใช่คนรู้จักเลย
ทำไมชั้นต้องเสียเวลากับคนไม่รู้จักอย่างคุณ คิดซะด้วยนะคุณแม่
ใจจริงตอนแรกไม่คิดอยากจะได้ปะกันอะไรหรอกคะ ตอนนั่งรอประกันก็ยังคิดว่าจะบอกเขาเลยว่า
ไม่เอาแระเสียเวลารถก็ไม่ได้แตกหักจนเห็นเด่นชัดแต่พอนึกถึงคำว่า 200 นี้ของขึ้นเลย
ได้นั่งนั่งเงียบๆข่มใจไว้แต่ในใจนี้อยากจะด่ามาก ว่า" อิบร้าเก็บเอาไว้อมเหอะ200 ให้ลูกแกไปโรงเรียนลูกแกยังเคืองเลยมั้ง"
ไม่ได้ดูถูกเงินนะ แต่มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่คนปรกติที่มีจิตสำนึกเขาทำกัน
ทกับเราแค่คำขอโทษอย่างจริงใจพร้อมจะรับผิดชอบอย่างไม่มีข้อแม้ในความผิด แค่นี้ก็ได้ใจเราไปแล้วละคะ
เรายอมยกโทษให้ในความไผิดที่ไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายออะไรมากมาย
แต่คำคุณแต่ลำคำนี้มันทำให้ช้าน จี๊ดดจริงๆคะ
ก่อนกลับนั่งกินเย็นตาโฟ+แคปหมู กับ น้ำ 1 ขวด 70
นั่งคิดเล่นๆ ถ้ารับเงินมาสองร้อย นี้คงกินเย็นตาโฟได้สามชาม
คิดๆแล้วก็ ช่างน่าขรรมมม 200 !!??
คับแค้นใจมากค่ะ ที่โดนชนท้ายแล้วจะเอาเงินฟาดหัวตั้ง200
เรื่องมันมีอยู่ว่าเอารถมอไซค์ที่เพิ่งซื้อได้เดือนเดียวป้ายทะเบียนก็ยังไม่มีเลย
ออกไปซื้อข้าวกินจะได้กินยานอนเพราะไม่ค่อยสบาย แถวๆบ้านคือแถวหอนาฬิกห้วยขวาง
ขณะที่ทุกคนกำลังจอดรถรอตรงทางแยก อยู่ๆก็มีเสียง ปัง!!ดังจากข้างหลังเราพร้อมกับตัวเราสดุ้ง
มองไปข้างหลัง รถเก๋งฮออนด้าสีทองป้ายทะเบียน 1กย72XX กำลังขับถอยหลังไปนิดนึง
เราก็ลงจะมอไซค์ไปเช็คอยู่ว่ารถตัวเองเป็นไรมั้ง แต่ทุกอย่างยังโอเค ไม่แตก
แค่ไฟท้ายถลอก กับ ขอบล่างกับข้างๆทั้งสองข้างสะดุ้งออกมานิดนึง ไม่สังเกตุดีๆก็ไม่รู้
เช็คสักพัก ผู้หญิงวัยกลางคนก็ลงมาพร้อมกับลูกชายวัยประมาน6 ขวบ พร้อมกับบอกว่า( จำทุกคำไม่หมดนะแต่จำได้ว่าพูดประมานไหน)
คู่กรณี : 'น้องคะรถเป็นไงมั้งอ่ะ " ( แล้วก็ก้มๆเงยๆเช็ค รถเรา ระหว่างนั้นเราก็ได้แต่เงียบเพราะตกใจเหมือนกันไม่รู้ต้องทำยังไง)
คู่กรณี : เอางี้ไม่คะ เอาไป 200 เอาจบกัน
เรา : (จากที่ อึ้งๆ งงๆอยู่แล้ว มึนและสตั้นไปอีก 80 วิ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรอย่างนี้
เรา : "จะเอาไปทำอะไรเหรอคะ 200
คู่กรณี: ถ้าไม่จบตรงนี้ไม่เอา 200 งั้นเอาเดียวพี่เรียกประกันมาเครียร์ น้องก็เรียกประกันของน้องมาแระกัน เอาไงคะ เอามั๊ย 200!!?
เรา : พี่คะ รถหนูยังไม่ได้ป้ายทะเบียนเลยคะ และพี่เรียกประกันของพี่มาเถอะค่ะหนูไม่เอาเงิน
(ระหว่างนั้นเจ้าเด็กอ้วนลูกเจ้ก็ พูดขึ้นมาใส่เราประมานว่า)
เด็กอ้วน: สมน้ำหน้า สมน้ำหน้าไม่เอาตังก็ เรียกประกันๆ
(แล้วก็เดินหนีขึ้นรถ ปล่อยเรายืนมึนงงอีกรอบ พร้อมอุทานคำว่า)
เรา : เอ้า!!! (แค่นี้จริงๆค่ะ พร้อมกับมองตามเจ้าเด็กอ้วนแบบอึ้งๆว่าทำไมปากเปราะจัง
คู่กรณี : ลูกพี่เป็นออทิติกค่ะ ลูกพี่ทำอะไรไม่ผิดนะ เขาไม่รู้ทำอะไรไม่ผิดกฏหมาย
เรา : !!!!!!!!!!!!!!!???????????????????????????? (นี้คุณคิดว่าช้านจะแจงความลูกคุณที่พูดล้อเราเหรอ !!? คือ งงกับคุณจริงๆค่ะ
ช้านก็มีคุณธรรมนพอนะคะ ถึงลูกคุณไม่เป็นออ ช้านก็ไม่คิดจะเอาเรื่องหรอกค่ะ
แค่คิดว่าแม่เป็นอย่างงนี้นี้ไงน้อลูกถึงเป็นแบบนี้เราเงียบไปพักใหญ่แล้วถามขึ้นมา )
เรา : แล้วพี่ขับมาได้ไงคะเนี้ย ถึงได้ชนทั้งๆที่ทุกคันจอดรออยู่
คู่กรณี : พี่คิดว่ารถขยับก็ขับมาเรื่อยๆ
เรา: (อึ้งอีก แล้วคิดในใจนี้สี่แยกสามแยก พี่ไม่ดูยคันหน้าบ้างเลยเหรอว่าเราเหยียบเบรคหรือขย้ำเบรคอยู่ไฟท้ายมันก็ฟ้องอยู่
หลังจากนั้นเราไม่พูดอะไรอีก ได้แต่รอประกัน พร้อมกับ ฟังเจ้โทรไปหาคนนู่นึนนี้ ระบายว่ารถชนท้าย
เล่าเรื่องบราๆๆๆ ว่าเราเครียรไม่ลงตัวนู้นนี้นั้น เราไม่ยอมอย่างนู่นอย่างนี้อย่างนั้น
เอ่อออ !!!ขอโทษจริงนะเจ้ แค่ได้ยินคำว่า 200 แล้วเลิกแล้วต่อกัน ก็ทำให้ไม่อยากพูดอะไรอีกแล้วละค่ะ
นี้มาเจอ ลูกเจ้อีก แล้วคำพูดที่คุณปกป้องลูกอีก ทำเราเงยเงิบ จนหมดคำพูดแล้วคะ
ตลอดต้นจน จนประกันมา ทำเอกสารอะไรเรียบร้อยเจ้ก็คอยบอกเราตลอดว่าเครียรไม่ลงตัว
ทำไมเจ้ไม่บอกให้จบละค่ะว่า เจ้ยื่นข้อเสนอให้ 200 แล้วจบกับ
ตอนจบประกันไม่รู้คุยอะไรกับเจ้ กลับมาประกันบอกเรา เอา 500 ไหม แล้วจบ
จะไม่ต้องยุ่งยาก
เรา : ." ไม่ขอรับเงินสดใดๆจะ200 หรือ 500 ก็ไม่เอาทั้งสิ้น เอาใบเคลมมา ว่าไปเช็คสภาพรถที่ไหนได้บ้าง
บอกใหก้เขาเก็บเงินไปเหอะ
แค้นมากอธิบายไม่ถูก แต่เก็บเงิน 200 คุณไว้ผ่อนรถ หรือรักษาโรคของลูกคุณเถอะคะ
ค่าเสียเวลาไปเช็ครถ ถือว่าความซวยของตัวเองแระกัน
ถามจริงอีกอย่างไม่ได้ดูถูกเงินนะ แต่ 200 พอเลี้ยงลูกคุณ1 วันป่ะ !?
คิดว่ามันคุ้มมั๊ยกับค่าเสียเวลาของเรา ต้องไปเช้คสภาพรถทั้งๆที่เป็นความเลินเล่อของคุณซึ่งไม่ใช่คนรู้จักเลย
ทำไมชั้นต้องเสียเวลากับคนไม่รู้จักอย่างคุณ คิดซะด้วยนะคุณแม่
ใจจริงตอนแรกไม่คิดอยากจะได้ปะกันอะไรหรอกคะ ตอนนั่งรอประกันก็ยังคิดว่าจะบอกเขาเลยว่า
ไม่เอาแระเสียเวลารถก็ไม่ได้แตกหักจนเห็นเด่นชัดแต่พอนึกถึงคำว่า 200 นี้ของขึ้นเลย
ได้นั่งนั่งเงียบๆข่มใจไว้แต่ในใจนี้อยากจะด่ามาก ว่า" อิบร้าเก็บเอาไว้อมเหอะ200 ให้ลูกแกไปโรงเรียนลูกแกยังเคืองเลยมั้ง"
ไม่ได้ดูถูกเงินนะ แต่มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่คนปรกติที่มีจิตสำนึกเขาทำกัน
ทกับเราแค่คำขอโทษอย่างจริงใจพร้อมจะรับผิดชอบอย่างไม่มีข้อแม้ในความผิด แค่นี้ก็ได้ใจเราไปแล้วละคะ
เรายอมยกโทษให้ในความไผิดที่ไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายออะไรมากมาย
แต่คำคุณแต่ลำคำนี้มันทำให้ช้าน จี๊ดดจริงๆคะ
ก่อนกลับนั่งกินเย็นตาโฟ+แคปหมู กับ น้ำ 1 ขวด 70
นั่งคิดเล่นๆ ถ้ารับเงินมาสองร้อย นี้คงกินเย็นตาโฟได้สามชาม
คิดๆแล้วก็ ช่างน่าขรรมมม 200 !!??