ขอระบายหน่อยครับ ที่บ้านพี่น้องหลายคน เกินหกคน บ้านคนจีน
ผมเป็นน้องเล็ก พ่อแม่มีผมตอนอายุมากแล้ว จนท่านเสียไปแล้วทั้งคู่
บางทีผมก็ทำตัวไม่ถูก
ตอนนี้ก็อายุพอควรแล้ว ยังอยากได้วิธีการเป็นน้องที่ถูกต้อง
นึกๆย้อนกลับไป กว่าผมจะโต พี่ๆก็ยืมเงินที่บ้านไปทำนู่นทำนี่
พอมาถึงผมพ่อแม่เกษียณแล้ว สภาพคล่องไม่เหมือนตอนค้าขาย
พ่อแม่ให้เงินพี่ไปดาวน์รถ ไปลงทุน แต่พอมาถึงผมขอบ้าง ไม่มีเพราะเกษียณแล้ว
ให้หาเอาเอง ก็โอเค พี่ๆก็ดำเนินชีวิตไป
พี่ๆที่ยืมพ่อแม่ไป ก็ไม่เห็นปรากฏการ์ณคืนเงิน ตามระเบียบ
พ่อแม่ส่งผมเรียนจนจบป ตรี สิ่งที่ผมจำไว้ในหัว คือ ไม่มีต้นทุน
ก็เริ่มขวนขวาย ทำงาน ใฝ่ความรู้ เก็บเงินเองบ้าง
ไม่เคยใช้ของแพง ทำงานไม่มีความสุขก็ไม่กล้าลาออก
ส่วนพี่ๆผม ก็ลาออกมาเป็นแม่บ้านบ้าง ทำธุรกิจบ้าง ราชการบ้าง
ทุกคนก็จะสภาพคล่องไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือก็ต้องประหยัดกัน
ทั้งๆทีก็ยืมเงินพ่อแม่ไปทำทุนเนี่ยแหล่ะ ได้มากบ้างน้อยบ้าง ไม่ได้ยืมบ้าง
จนผมได้แฟน ที่ช่วยๆกันทำมาหากิน แฟนแบบที่ทำให้เราพัฒนา ทั้งไปเรียนภาษา ทั้งการประหยัด แฟนมีต้นทุนอยู่บ้าง
ทำให้ผมได้งานในองค์กรที่ดี ติดต่อต่างชาติ
เงินเดือนก็ดีพอสมควร ประหยัด ไม่กล้ามีหนี้ มีเงินเก็บ
ไปเที่ยวประเทศต่างๆ ห่างไกลอบายมุขเพราะไม่ชอบทั้งคู่ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ
ช่วงสิบปีที่ผ่านมา พี่ๆก็เริ่มทยอยติดต่อมาเสนอโครงการ เพื่อยืมเงินไปลงทุน กันเป็นรายบุคคลแทบจะถ้วนทั่วกันไป
ทั้งขายประกัน แอมเวย์ ยืมเงิน มาให้ค้ำประกัน มีครบ
ออกความเห็นเรื่องธุรกิจก็ไม่ได้ แต่พอไปทำจริงๆ ก็เรียบร้อยขาดทุนไปตามระเบียบ
เหตุผลที่ไม่ให้ยืม ไม่ค้ำเนี่ย บอกตามตรง ผมรู้สึกว่า เรื่องเงินเนี่ย มันต้องเอาตัวรอดให้ได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่วันที่แม่ผมบอกว่า
ไม่มีเงินที่บ้านให้ผมยืมหรอก พี่ๆยืมไปหมดแล้ว
หวังพึ่งครอบครัวพี่ๆให้มาช่วยผม ก็คงไม่ไหว เค้ายังสภาพไม่คล่องกันสักคน ผมต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเอง
ต้องระวัง
ส่วนตัว ผมไม่ได้ชอบงาน เลยไม่กล้าฟุ่มเฟือย กลัวตัวเองต้องลาออกมาค้นหาตัวตน
สรุปคือ เก็บตังค์ไว้ดิครับ เผื่อลาออกใครจะมาดูแล
เลยไม่ได้ให้พี่คนไหนยืมเงิน ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นี่คือเหตุผล
ไม่รู้จะพูดยังไง ครับ คือพูดดียังไงก็คือไม่ให้ยืม บอกเหตุผลไปแล้ว
มันคล้ายๆกับ เป็นน้องไม่เชื่อฟังพี่ พี่บอกให้เอาตังค์มาให้ยืม ไม่ให้ ทั้งเสียหน้าทั้งไม่ได้เงิน
ส่วนเรื่องที่บ้าน ผมเป็นน้อง เสนอความคิด คือ ก้าวร้าว เพราะเป็นน้องเล็ก
เสนอแนวทางแก้ปัญหาเรื่องอะไร ก็ข้ามหน้าผู้ใหญ่
สรุปโดนข้อหา งก ไม่มีตังค์ แปลว่าใจกว้าง ไม่งก แต่มีตังค์ไม่ให้ยืม แปลว่างก
บางทีก็มาสนใจว่าผมมีเท่าไหร่ เงินเดือนน่าจะเท่าไหร่ (พูดเชิงล้อเล่น)
โดนข้อหา ไม่นับถือพี่อายุเยอะกว่า เพราะชอบพูดให้เหตุผล เรื่องปัญหาต่างๆ ทางบ้าน
ทุกคนเค้าก็คุยกัน เพราะเค้าไม่มีเรื่องยืมตังค์กัน ต่างคนต่างไม่มี ก็กลมเกลียว ไปมาหาสู่กัน
แต่ผม ทุกคนเหินห่าง เพราะโดน ข้อหาเบื้องต้น อธิบายยังไงก็ไม่ฟัง
ป่วยก็ดูแลตัวเอง ไปโรงพยาบาลเอง แฟนไม่อยู่เมืองไทย ก็ไปเช็คอินเช็คเอาท์โรงพยาบาล ไม่มีใครรู้
เพลียครับ ขอระบายนิดนึง ขอบคุณครับ
มีคู่มือการเป็นน้องชายไหมครับ ไม่ให้พี่ๆยืมเงิน เลยไม่ค่อยจะเป็นพี่น้องกันแล้ว
ผมเป็นน้องเล็ก พ่อแม่มีผมตอนอายุมากแล้ว จนท่านเสียไปแล้วทั้งคู่
บางทีผมก็ทำตัวไม่ถูก
ตอนนี้ก็อายุพอควรแล้ว ยังอยากได้วิธีการเป็นน้องที่ถูกต้อง
นึกๆย้อนกลับไป กว่าผมจะโต พี่ๆก็ยืมเงินที่บ้านไปทำนู่นทำนี่
พอมาถึงผมพ่อแม่เกษียณแล้ว สภาพคล่องไม่เหมือนตอนค้าขาย
พ่อแม่ให้เงินพี่ไปดาวน์รถ ไปลงทุน แต่พอมาถึงผมขอบ้าง ไม่มีเพราะเกษียณแล้ว
ให้หาเอาเอง ก็โอเค พี่ๆก็ดำเนินชีวิตไป
พี่ๆที่ยืมพ่อแม่ไป ก็ไม่เห็นปรากฏการ์ณคืนเงิน ตามระเบียบ
พ่อแม่ส่งผมเรียนจนจบป ตรี สิ่งที่ผมจำไว้ในหัว คือ ไม่มีต้นทุน
ก็เริ่มขวนขวาย ทำงาน ใฝ่ความรู้ เก็บเงินเองบ้าง
ไม่เคยใช้ของแพง ทำงานไม่มีความสุขก็ไม่กล้าลาออก
ส่วนพี่ๆผม ก็ลาออกมาเป็นแม่บ้านบ้าง ทำธุรกิจบ้าง ราชการบ้าง
ทุกคนก็จะสภาพคล่องไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือก็ต้องประหยัดกัน
ทั้งๆทีก็ยืมเงินพ่อแม่ไปทำทุนเนี่ยแหล่ะ ได้มากบ้างน้อยบ้าง ไม่ได้ยืมบ้าง
จนผมได้แฟน ที่ช่วยๆกันทำมาหากิน แฟนแบบที่ทำให้เราพัฒนา ทั้งไปเรียนภาษา ทั้งการประหยัด แฟนมีต้นทุนอยู่บ้าง
ทำให้ผมได้งานในองค์กรที่ดี ติดต่อต่างชาติ
เงินเดือนก็ดีพอสมควร ประหยัด ไม่กล้ามีหนี้ มีเงินเก็บ
ไปเที่ยวประเทศต่างๆ ห่างไกลอบายมุขเพราะไม่ชอบทั้งคู่ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ
ช่วงสิบปีที่ผ่านมา พี่ๆก็เริ่มทยอยติดต่อมาเสนอโครงการ เพื่อยืมเงินไปลงทุน กันเป็นรายบุคคลแทบจะถ้วนทั่วกันไป
ทั้งขายประกัน แอมเวย์ ยืมเงิน มาให้ค้ำประกัน มีครบ
ออกความเห็นเรื่องธุรกิจก็ไม่ได้ แต่พอไปทำจริงๆ ก็เรียบร้อยขาดทุนไปตามระเบียบ
เหตุผลที่ไม่ให้ยืม ไม่ค้ำเนี่ย บอกตามตรง ผมรู้สึกว่า เรื่องเงินเนี่ย มันต้องเอาตัวรอดให้ได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่วันที่แม่ผมบอกว่า
ไม่มีเงินที่บ้านให้ผมยืมหรอก พี่ๆยืมไปหมดแล้ว
หวังพึ่งครอบครัวพี่ๆให้มาช่วยผม ก็คงไม่ไหว เค้ายังสภาพไม่คล่องกันสักคน ผมต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเอง
ต้องระวัง
ส่วนตัว ผมไม่ได้ชอบงาน เลยไม่กล้าฟุ่มเฟือย กลัวตัวเองต้องลาออกมาค้นหาตัวตน
สรุปคือ เก็บตังค์ไว้ดิครับ เผื่อลาออกใครจะมาดูแล
เลยไม่ได้ให้พี่คนไหนยืมเงิน ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นี่คือเหตุผล
ไม่รู้จะพูดยังไง ครับ คือพูดดียังไงก็คือไม่ให้ยืม บอกเหตุผลไปแล้ว
มันคล้ายๆกับ เป็นน้องไม่เชื่อฟังพี่ พี่บอกให้เอาตังค์มาให้ยืม ไม่ให้ ทั้งเสียหน้าทั้งไม่ได้เงิน
ส่วนเรื่องที่บ้าน ผมเป็นน้อง เสนอความคิด คือ ก้าวร้าว เพราะเป็นน้องเล็ก
เสนอแนวทางแก้ปัญหาเรื่องอะไร ก็ข้ามหน้าผู้ใหญ่
สรุปโดนข้อหา งก ไม่มีตังค์ แปลว่าใจกว้าง ไม่งก แต่มีตังค์ไม่ให้ยืม แปลว่างก
บางทีก็มาสนใจว่าผมมีเท่าไหร่ เงินเดือนน่าจะเท่าไหร่ (พูดเชิงล้อเล่น)
โดนข้อหา ไม่นับถือพี่อายุเยอะกว่า เพราะชอบพูดให้เหตุผล เรื่องปัญหาต่างๆ ทางบ้าน
ทุกคนเค้าก็คุยกัน เพราะเค้าไม่มีเรื่องยืมตังค์กัน ต่างคนต่างไม่มี ก็กลมเกลียว ไปมาหาสู่กัน
แต่ผม ทุกคนเหินห่าง เพราะโดน ข้อหาเบื้องต้น อธิบายยังไงก็ไม่ฟัง
ป่วยก็ดูแลตัวเอง ไปโรงพยาบาลเอง แฟนไม่อยู่เมืองไทย ก็ไปเช็คอินเช็คเอาท์โรงพยาบาล ไม่มีใครรู้
เพลียครับ ขอระบายนิดนึง ขอบคุณครับ