[CR] เที่ยวเขาค้อ... พักเขาค้อหนึ่งคืน อายุยืนไปหนึ่งปี

สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน

นี่เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกของผม ผิดพลาดยังไงรบกวนแนะนำด้วยนะครับ

เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อกลางเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวเขาค้อมา เลยจะมาแบ่งปันเรื่องราวที่ได้เจอให้เพื่อนๆฟังครับ

แปะเพลงประกอบการรีวิวนิดหน่อย แล้วมาเริ่มกันเลยละกัน



ออกเดินทางจากสามย่านเวลา9โมงตรง มุ่งหน้าสู่เข้าค้อโดยขับตาม Google Map ไปเรื่อยๆครับ ระยะทางตามแผนที่400กิโลเมตรโดยประมาณ

ระหว่างทางมีแวะเข้าปั๊ม 3ครั้ง แวะทานข้าวที่ไก่ย่างตาแป๊ะที่วิเชียรบุรี ไปถึงเขาค้อประมาณ 3-4โมงเย็นครับ



ช่วงที่นั้นที่ไป เป็นช่วงที่ฝนเริ่มที่จะหยุดตกแล้วหลังจากตกมาหลายเดือนมาก ท้องฟ้าจึงแทบไม่มีเมฆเลย

ที่พักเป็นของเพื่อนครับ อยู่บนเขาลูกเดียวกับวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วครับ ที่พักอยู่สูงกว่าตัววัดพอสมควร



ตอนขึ้นไปรอบแรกหาที่พักไม่เจอครับ หลงทางบนนั้น เลี้ยวผิดเลี้ยวถูกตลอด จนสุดท้ายต้องมาจอดถามทาง

เลยได้ถ่ายรูปข้างทางมานิดๆหน่อยครับ





สมาชิกคนสำคัญของทริปครับ ฟอจูนเนอร์เช่ามาจากกรุงเทพ ตกวันละ1700บาท



ในที่สุดก็เจอที่พักครับ มองจากที่พักจะเห็นวัดพระธาตุซ่อนแก้วครับ ไม่ไกลจากตัววัดเท่าไหร่

แต่ตลอดสี่วันที่เขาค้อไม่ได้เข้าไปในตัววัดเลย ทั้งๆที่ขับผ่านทุกวัน



หลังจากเก็บของ ล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อย ก็ออกไปดูพระอาทิตย์ตกที่ไปรษณีย์เขาค้อครับ

ที่นี่เค้าอนุญาตให้กางเต้นท์ได้ครับ อากาศตอนที่ไปกำลังดีเลย น่าจะ 24-25องศาได้



ไปทันพระอาทิตย์ตกพอดี





แถมรูปดาวที่เขาค้อครับ ถ่ายมาตอนสังสรรค์ยามค่ำคืนกับเพื่อนๆครับ



วันที่สอง ตื่นตั้งแต่ตี4ครับ ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่วัดกองเนียม ตามรอยกระทู้คุณชานม

ไปถึงปรากฏว่าไม่มีหมอกปุยๆแบบที่เคยเห็นในกระทู้คนอื่น แถมเมฆตรึม

อย่าว่าแต่ดูพระอาทิตย์ขึ้นเลยครับ ท้องฟ้ายังแทบมองไม่เห็น แถมยังโดนเพื่อนซ้ำเติมอีก ให้พวกมันแหกขี้ตาตื่นแต่เช้า





แต่ยังดีครับ ตอนขับรถกลับที่พัก ผ่านจุดชมวิวในเขาค้อเลยได้วิวดีๆกลับมาบ้าง



เสร็จจากการดูพระอาทิตย์ขึ้นแบบเฟลๆ ก็ 8โมงกว่าๆครับ

แพลนต่อไปคือภูทับเบิกครับ ทางขึ้นภูทับเบิกโค้งค่อนข้างเยอะครับ คนเมารถง่ายนี่มีอ้วกแน่นอน

ช่วงที่ไปมีหมอกลงหนาตลอดทางครับ เวลาขับต้องระวังมากๆ ยิ่งบางครั้งมีรถขนกระหล่ำปลีดริ๊ฟสวนลงมานี่ พี่ๆเค้าไม่เบรคกันเลย ได้เสียวกันตลอดทาง

พอไปถึงภูทับเบิก เงิบรอบสองครับ คือหมอกลงหนามากกกก จนไม่เห็นอะไรเลย



เดินก็แบบงงๆครับ มองไม่ค่อยเห็นอะไร ไหนกระหล่ำปลีที่เค้าขนๆกันลงมา หาก็ไม่เจอ

สุดท้ายตกลงกันว่าไปที่อื่นเถอะ ดูท่าจะไม่เวิร์ค ก่อนออกแวะเข้าห้องน้ำครับ เจอแปลงกระหล่ำปลีซะงั้น เลยถ่ายมาซักรูปเป็นที่ระลึกว่ามาถึงแล้ว



จุดหมายต่อไปคืออุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าครับ มีพื้นที่ครอบคลุม 3จังหวัดคือ เพชรบูรน์ เลย และพิษณุโลก เสียค่าเข้านิดหน่อยครับ

จากทางเข้าใช้เวลาขับเข้าไปจนถึงที่ทำการอุทยานประมาณชั่วโมงนึงครับ อากาศดีมาก ขับผ่านป่าไปเรื่อยๆครับ

ด้านหน้าที่ทำการอุทยานมีซากฮอของฝ่ายรัฐบาลอยู่ครับ ถ้าจำไม่ผิดจะมาจากการสู้รบระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ครับ





ในอุทยานมีร้านอาหารอยู่ 2-3ร้านครับ รสชาติใช้ได้ครับ ไก่ทอดอร่อยดี

หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็เดินทางไปลานหินปุ่มครับ การเดินทางเข้าไปในลานหินปุ่มต้องเดินเท้าเท่านั้นครับ ระยะทางประมาณ2กิโลเมตร

โดยระหว่างทางจะเป็นป่าและเนินขึ้นลง เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน









ระหว่างทางจะมีก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนฐานเล็กๆแบบนี้ตลอดทางครับ ไม่รู้เกิดขึ้นได้อย่างไร





ใช้เวลาเดินประมาณ 40นาทีก็มาถึงลานหินปุ่มครับ ว่ากันว่าพื้นที่ตรงนี้เคยอยู่ใต้ทะเลมาก่อน เลยทำให้สภาพพื้นที่เป็นปุ่มๆอย่างที่เห็นครับ



ลานหินปุ่มคือเนินหินกว้างๆ มีลักษณะเป็นปุ่มๆขึ้นมาตามชื่อเลย อารมณ์อีสุกอีใสประมาณนั้น

สุดขอบจะเป็นหน้าผาไม่มีที่กั้นครับ ใครกลัวความสูงนี่มีสั่นแน่นอน



ออกมาจากลานหินปุ่ม ก็แวะมาชมวิวที่ภูแผงม้าครับ ภูแผงม้าคือยอดที่สูงที่สุดในแถบนี้

ทางขึ้นค่อนข้างที่จะลำบากมากครับ ทั้งชันทั้งเป็นหลุมเป็นบ่อ บางคนเอารถเล็กมาขับขึ้นไม่ได้ ต้องทิ้งรถไว้ข้างล่างแล้วเดินขึ้นมาครับ

ส่วนพวกผมไม่กลัว เพราะมีเพื่อนคู่ใจเป็นฟอร์จูนเนอร์มาด้วย เช่ามาแพงต้องเอาให้คุ้ม

นั่งขึ้นไปนี่หัวโยกเลยครับ ทนเวียนหัวอยู่ซักพักก็มาถึงยอดของภูแผงม้า วิวบนนี้สุดยอดมากกกก มองเห็นภูทับเบิก และจังหวัดเพชรบูรณ์สุดลูกหูลูกตาเลยครับ





วันที่สามครับ ไม่ตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ไหนแล้ว หลังจากเฟลไปเมื่อวาน วันนี้เลยนอนนุ่มดีกว่า

ตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนเกือบๆ6โมงครับ เห็นว่าพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นเลยรอดูจากที่พัก

กลายเป็นว่าเห็นพระอาทิตย์ขึ้นชัดกว่าเมื่อวานที่ตื่นตี4ไปดูซะงั้น โอย







เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ตัดกับพระธาตุผาซ่อนแก้ว สวยจริงๆครับ (รู้งี้เมื่อวานไม่ตื่นตั้งกะตี4หรอก)





วันนี้ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเขาค้อครับ

เจดีย์กาญจนาภิเษก



พระบรมสารีริกธาตุครับ



แวะไปดูพิพิธภัณฑ์อาวุธครับ ในอดีตเขาค้อคือสนามรบมีทหารเสียสละชีวิตมากมายในการสู้รบกับกลุ่มคอมมิวนิสต์

บนเขาค้อเลยมีอนุสรณ์สถานผู้เสียสละ ในรูปคือซากฮอที่โดนยิงตกครับ





"ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย"



วิวด้านหลังพิพิธภัณฑ์อาวุธครับ



ตอนเดินออกจากพิพิธภัณฑ์ เจอหมาให้นมลูกระหว่างทางครับ แม่พยายามเดินหนีตลอด ลูกมันก็ไม่ยอมจะกินให้ได้ น่ารักดีครับ



ตอนบ่ายเดินทางไปทุ่งแสลงหลวงครับ



ไปสอบถามเจ้าหน้าที่อุทยานว่าที่ไหนให้เที่ยวบ้าง เค้าแนะนำให้ไปทุ่งนางพญา เราก็เออไปก็ไป

แต่ก่อนจะไปเจ้าหน้าที่ถามว่าเอารถอะไรมา ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร

แต่พอขับเข้าไปแล้วรู้เลย เป็นทางอ๊อฟโรดเข้าป่าครับ หลุมบ่อตลอดทาง ระยะทางแค่ 14กิโล ใช้เวลาเดินทางเข้าไปประมาณชั่วโมงครึ่ง

แถมระหว่างทางไม่มีเพื่อนร่วมทางเลย ขับเข้ามาคันเดียวตลอดทาง





หลังจากผลุบๆโผล่ๆอยู่ในป่าตั้งนานสองนาน ก็มาถึงทุ่งนางพญาซักที

ทุ่งนางพญาคือลานโล่งๆมีต้นไม้สูงอยู่รอบด้าน ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน ที่นี่เงียบมากๆไม่มีเสียงอะไรเลย

ไม่มีคนอื่นเลยนอกจากพวกผมที่เข้าไป อยู่นานๆนี่กลัวเหมือนกัน







เดินทางออกมาครับ แวะดูพระอาทิตย์ตกที่ทุ่งแสลงหลวงนิดหน่อย





จบละครับรีวิวเขาค้อแบบงงๆของผม ติชมกันได้นะครับ

เขาค้อเป็นที่เที่ยวอีกที่หนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ โดยไม่ลำบากในการเข้าถึงมากนัก แค่มีรถก็มาสูดอากาศดีๆที่นี่ได้

คำพูดที่ว่า "พักเขาค้อหนึ่งคืน อายุยืนไปหนึ่งปี" อาจจะฟังดูเกินจิงไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกดีๆที่ได้รับจากการมาเที่ยวเขาค้อน้อยลงเลยครับ

ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ติดตามชมนะครับ