ก่อนอื่นนะครับต้องสวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน ผมเพิ่งเล่นพันทิปนะครับ ในวันนี้ผมไม่ได้มีปัญหาหรืออะไรทั้งสิ้นเเต่ผมมีเพียงประสบการณ์อยากมาเล่าให้ทุกคนฟัง ในตอนเเรกผมก็ไม่เชื่อนะครับว่า รักแรกจะลืมยากจริงหรอ? เเต่เมื่อมาเจอกับตัวเเล้วผมอยากจะบอกว่ามันลืมยากจริงๆ จนตอนนี้ผ่านมาปีกว่าเเล้วผมยังไม่ลืม"เขา"คนนั้น อ่านไม่ผิดหรอกครับ "เขา" คนนั้นเป็นผู้ชายแหะๆ เอาเป็นว่ามาเข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ
เรื่องนี้มันเกิดตอนผมอยู่ ม.ปลายนะครับ(ตอนนี้มหาลัยเเล้ว) โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนประจำสายวิทย์-คณิต มีพี่น้องในเครือ 12 แห่งผมเห็นเค้าคนนั้นตั้งเเต่ ม.ต้นเเล้วครับ เพราะตอน ม.ต้นผมเป็นเด็กวงโยธวาธิตเขาคนนั้นก็เป็นด้วยครับจึงทำให้เห็นมาตั้งเเต่เข้า ม.1 ใหม่ๆ ที่สำคัญเล่นเครื่องดนตรีเดียวกันด้วยครับในตอนนั้นผมยังไม่รู้หรอกว่ารักคืออะไรไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาคนนั้นแม้เเต่น้อยก็เเค่เห็นเป็นเพื่อนคนหนึ่ง เขาคนนั้นมันยาวไปขอใช้ อ. เเทนชื่อเขาเเล้วกันครับ ในตอน ม.ต้นผมยังไม่อะไรๆกับ อ. ก็เเค่เล่นด้วยตามภาษาเด็กหัวเกรียนเเหละครับ อ้อ! ลืมบอกอีกอย่าง อ. อยู่คนละห้องกับผมทำให้ไม่ค่อยสนิทกันเท่าที่ควร ได้เล่นด้วยกันเฉพาะตอนซ้อมดนตรีเท่านั้น จริงๆเเล้วผมก็เล่นด้วยกับทุกคนในวงนะครับผมก็เฟรนลี่พอตัวเหมือนกันจน อ. ออกจางวงไปตอน ม.2 ครับส่วนผมก็ยังอยู่มาเรื่อยๆจน ม.ปลาย ถ้าถามว่าได้ติดต่อกันมั๊ยผมก็บอกได้เเค่ว่า มีบ้าง เพราะเราเรียนคนละห้องกันทำให้ตารางไม่ตรงกันได้ทักกันเฉพาะตอนเจอหน้าที่โรงอาหาร จนตอนผมขึ้น ม.ปลาย อะไรๆก็เปลี่ยนไปหมด ผมรู้ตัวว่าตัวเองชอบผู้ชายตั้งเเต่ตอนอยู่ ม.3 เเล้วครับตอนเเรกก็ไม่เข้าใจความรู้สึกนี้นักหรอก ไม่รุ้สิครับถ้าเพื่อนชมว่ารุ่นพี่คนนั้นคนนี้สวยผมจะเฉยๆเเต่ถ้าเป็นเรื่องคนไหนหล่อนี่ผมหูตาไวมาก (แรดเนาะ) เเต่ผมไม่ออกสาวนะครับ เเค่มีตุ้งติ้งบ้างตามภาษาเเต่ถ้าไม่ได้อยู่กับเพื่อนผมจะดูนิ่งๆขรึมๆ เพื่อนยังบอกว่า เสียดายที่ผมเป็นงี้เลยครับ ฮ่าๆ มาเข้าเรื่องผมดีกว่า ที่ผมบอกว่าอะไรๆก็เปลี่ยนไปนั้นเพราะ อ. ต่อม.ปลายที่เดิมถึงเเม้ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันเเต่ผมกับ อ. ได้อยู่ห้องนอนเดียวกันครับ ห้องนอนหนึ่งนอนซักห้าสิบคนได้มั้งครับไม่เกินนี้ โดยห้องนอนเป็นห้องใหญ่มีไม้เเบ่งเป็นล็อคสามล็อคส่วนล็อคที่สี่จะถูกเเบ่งด้วยกำเเพงปูนเป็นห้องน้ำครับ ผมได้ที่นอนที่โรงเรียนจัดให้ในล็อคสาม เเต่ผมมานอนกับเพื่อนที่ล็อคสองครับเตียงเป็นเตียงสองชั้น ใครที่ได้ชั้นบนไปนี่สวรรค์มากๆเลยครับ เเต่ผมเข้าหอช้าไงมัวเม้ากับเพื่อนตั้งเเต่ ม.ต้นอยู่ กลายเป็นว่าชั้นบนถูกจองหมดเเล้วครับ (ถึงทางโรงเรียนจะจัดที่นอนให้เเต่เด็กส่วนใหญ่จะนอนตามใจตัวเองมากกว่า) ผมเลยได้นอนล่างอยากจะบอกว่าร้อนมาก เพราะพัดลมเป็นพัดลมติดเพดานลมเลยมาไม่ถึงเตียงล่าง ผมกับเพื่อนในล็อคอีกสิบคนจึงตัดสินใจลากเตียงมานอนข้างล่าง ส่วน อ. หรอครับเขาได้เตียงอยู่ล็อคหนึ่ง เเต่พวกล็อคหนึ่งมีเเต่พวกเด็กเกเรเพื่อนเก่าเขาทั้งนั้นถึง อ. จะสนิทกับพวกนั้นในระดับหนึ่งเเต่ อ. จะเป็นคนที่ไปในทางเด็กเกือบเรียนมากกว่า เขาจึงอยากจะย้ายที่นอนเเต่ที่นอนล็อคสองกับสามเต็มหมดเเล้วจุดเริ่มต้นของทุกๆอย่างมาจากตรงนี้นี่เเหละครับ คือที่นอนด้านขวาผมเป็นเพื่อนสนิทจาก ม.ต้น เขารู้ว่าผมเป็นยังไงเเต่เขาไม่รังเกียจเเถมยังสนิทอีกต่างหากเเถมยังเป็นเพื่อนที่เคยอยู่วงโยธวาธิตด้วยครับ ส่วนด้านซ้ายเป็นเพื่อนห้องอื่นจาก ม.ต้นครับ ก็คุยด้วยได้จนมาสนิทในภายหลังครับ ก็ในเมื่อ อ. จะหาที่นอนเเต่ที่นอนมันไม่ว่างทีนี้ผมกับเพื่อนผมดันเป็นคนจากวงโยฯ อ. ก็เคยอยู่วงโยฯ อ.เลยตัดสินใจนอนระหว่างผมกับเพื่อนสนิทครับ ถ้าถามว่า อ. หน้าตาเป็นอย่างไรผมก็บอกได้เพียงเเค่ว่า น่ารัก ครับเป็นผู้ชายผิวขาวตาตี่ ตัวไม่เล็กมากคิ้วเข้มๆ จมูกโด่ง เเต่เสียดายฟันเหยินฮ่าๆ โดยรวมก็น่ารักครับ(ถ้าฟันไม่โผล่)บางคนอาจจะมองว่าหล่อด้วยซ้ำ เเล้วเรื่องทุกอย่างมันก็เริ่มขึ้น ต้องท้าวความไปตอน ม.ต้นก่อนนะครับ ผมมีเพื่อนสนิทอีกสองคน(ไม่รวมคนที่นอนด้านขวาตอน ม.ปลาย)มันเป็นพี่น้องกันครับเอาง่ายๆคนละเเม่คนพี่เกิดก่อนเกือบปีมั้งนะถ้าจำไม่ผิดคนพี่เป็นเเบบผมครับ เเล้วคนพี่นี่พาผมใจเเตกมากอ่ะ ตอนนั้นผมยังใสๆอยู่เลยนะมาเจอมันนี่ละไปหมดความใส คือคนพี่มันฉวยโอกาสลักหลับเพื่อนผู้ชายตอนดึกๆนะครับคือมันจะไปแอบถอดกางเกงเพื่อนตอนดึกเพื่อชื่นชมขน? ตอน ม.3 คนที่ผ่านมาเเล้วจะรู้ดีนะครับว่าการที่ขนขึ้นตรงนั้นมันเป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก พวกเกย์จะดูว่ามันเป็นสิ่งสวยงามครับ ตอนเเรกนิผมไม่ยุ่งเลยนะเรื่องนี้ จนมันรบเร้าเเล้วพาผมใจเเตก(ไปแอบดูของคนอื่นยามวิกาล)เท่านั้นละครับผมยิ่งมั่นใจเลยว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิงเเน่ๆ กลับมาตอน ม.ปลาย พอ อ. ตกลงจะนอนระหว่างผมกับเพื่อนสนิทก็ขนของมานอนในคืนนั้นเลยครับเเต่คือหมอนมันหายไงครับไม่รู้ใครขโมยไป ผมเลยเสียสละหมอนครึ่งนึงให้เขานอนด้วย เตียงที่ทางโรงเรียนจัดให้เป็นเตียงขนาดสามฟุตนะครับลืมบอก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนอนสองคนในเตียงเดียวเเล้วจะสบายเเต่พอดีผมกับเพื่อนในล็อคลากฟูกลงมานอนกับพื้นข้างล่างไงครับ จึงไม่เป็นปัญหาที่จะให้อีกคนนอนตรงลอยต่อฟูกของผมกับเพื่อน เเต่พอผมเเบ่งหมอนให้ อ. นอนครึ่งนึงก็กลายเป็นว่ามันกับผมนอนฟูกเดียวกันโดยการเเบ่งคนละครึ่งอยากจะบอกว่าใกล้ชิดมากเเล้วมันก็ใช่ว่าจะเป็นคนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เเต่เป็นคนที่หน้าตาค่อนข้างดีเลยละ(ติดตรงฟันเหยิน) นอนชิดกันขนาดนี้ผมไม่หวั่นไหวก็บ้าเเล้วครับ เเต่ด้วยความที่ผมติดนิสัยชอบลักหลับคนตอนนอนมาจาก ม.ต้น(โรคจิตแฮะ พอคิดย้อนไปดูตัวเอง) ผมก็อยากรู้ว่าของ อ. จะเป็นยังไง ผมรอจนดึกนู่นละครับถึงจะปฏิบัติตามแผนการลักลับ เเต่ด้วยความผิดพลาด อ. เลยรู้ตัวฮะ ตื่นเช้ามาผมนี่มองหน้ามันเเทบไม่ติด ส่วนมันก็แอบหลบหน้าผมเหมือนกันครับ ถ้าคุณเป็นผู้ชายเเท้ๆมาโดนอย่างงี้ก็มีอาการกลัวผมบ้างหละครับฮ่าๆ วันต่อมานี่มันลงทุนไปลากฟูกจากเตียงของมันที่ล็อคหนึ่งมานอนล็อคสองเลยครับ เเต่นอนไกลผมมาก ผมนี่ก็แอบรู้สึกใจเสียนิดๆนะ ก็ผมไม่ชอบให้ใครเเสดงท่าทีรังเกียจนี่ครับ(แต่การกระทำของผมมันเเบบ...ไปหน่อยแหะๆ) ก็เลยลองปั้นหน้ายิ้มไปคุยกับ อ. เหมือนปกติ มันไม่ใช่เรื่องยากเลยฮะที่จะตีหน้ายิ้มเเบบนี้เห็นอย่างนี้ผมก็เเสดงละครเก่งนะ จนเพื่อนผมมันบอกว่า "กูยังไม่รู้เลยว่าที่เเสดงกะกูนินิสัยจริงป่าว" เข้าเรื่องดีกว่าครับ ผมก็เดินยิ้มไปหามัน อ.ก็แอบประหม่าเล็กน้อยครับที่เห็นผม ผมไม่สนใจเเต่ยังคงยิ้มเเล้วถามมันว่า "อ.กลัวเค้าหรอ" ผมเเซวมันเอาขำนิดๆ มันก็ตอบผมกลับมาว่า "เออดิเเมร่งมาลักหลับแอบจับ...เรางี้เราไม่กลัวก็ม.บ้าเเล้ว" ผมยิ้มเเล้วพูดน้ำเสียงติดจะทะลึ่งนิด "งั้นเค้าไม่ลักหลับก็ได้" ผมก็ไปจับของมันเลยครับ ผมนี่แอบฟินเบาๆ(โรคจิต) ของมันใช่เล็กๆที่ไหน มันก็มีทำท่าตกใจนิดนึง ปัดมือผมออกเเล้วพูดกับผม "ม.จับของเราทำไมเนี่ย" ผมก็หัวเราะฮาสิครับ ผมจึงพูดเข้าประเด็นหลักจริงๆที่ผมยอมบากหน้าเข้าคุยกับมันก่อน "อ.ย้ายไปนอนข้างเค้าเหมือนเดิมได้เเล้ว เค้าไม่ทำอะไรอ.เเล้วน่า" มันก็ทำหน้าแปลกใจเเล้วตอบกลับประมาณว่า "เเน่นะ" ผมพยักหน้าให้มัน ใจจริงมันอยากไปนอนตรงนั้นอยู่เเล้วละครับเพราะเพื่อนสนิทผมที่นอนข้างผมไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับผมตอน ม.ปลาย เเต่อยู่ห้องเดียวกับ อ. พวกมันสองตัวเลยสนิทกัน เเต่ที่มันไม่กล้ากลับมานอนก็คงจะกลัวผมเเหละ เรื่องทุกอย่างจริงๆก็เริ่มตั้งเเต่ที่มันกลับมานอนข้างผม(เกริ่นมาโคตรนาน) วันที่มันย้ายกลับมานอนข้างผมวันเเรกผมก็เเบ่งหมอนให้มันตามปกติมันก็นอนนะครับ เอาง่ายๆคือกลับสภาพเดิมที่นอนในวันเเรกๆที่มันตัดสินใจย้ายมานอนตรงนี้ ใกล้ชิดกันมากผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงอยากกอดมันนัก ผมจึงกอดมันเข้าไปเต็มๆ อยากจะบอกว่าท้องมันเเน่นมากจับทีนี่เเข็งโป๊กผมนี่ฟินอีกละ มันก็ปัดมือผมออกผมก็กอดมันเข้าอีกทีหนึ่งคราวนี้มันลืมตาหันมามองผมผมก็เลยบอกไปว่า "พอดีเค้าชอบกอดหมอนข้าง ขอกอดอ.เเทนหมอนข้างเเล้วกันอุ่นดี" สงสัยมันคงจะรำคาญผมมั้งมันเลยไม่ว่าอะไรปล่อยให้ผมกอดอยู่อย่างนั้นเเหละ เเล้วทุกๆวันผมก็จะนอนกอดมันอยู่อย่างนี้มันก็ปล่อยให้ผมกอดนะ ในตอนเเรกผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับ อ. หรอกชอบตรงที่มันหน้าตาน่ารักดี เเต่ไม่รู้สิถ้าจะให้กอดผู้ชายคนอื่นนี่ผมก็ไม่ได้รังเกียจนะถ้าหน้าตาดีหน่อยผมก็กอดเเล้ว เเต่มันคนละความรู้สึกกันอ่ะถ้าเป็น อ. ผมจะอยากกอดเเทบทุกครั้งที่เจอหน้าเเต่เป็นคนอื่นผมเฉยๆถ้าได้กอดก็ฟินไม่ได้กอดก็ไม่เป็นอะไร จนผมมามั่นใจว่ารักมันเข้าเเล้วก็ตอน ม.4 เทอม 2 ผมกับ อ. จะไม่พูดคำหยาบใส่กันเลย ขนาดด่ายังไม่เคยอ่ะคิดดู ทั้งๆที่เพื่อนผู้ชายคนอื่นนี้ขึ้นกูใส่หมด จนเพื่อนสงสัยไปตามๆกัน เเต่ด้วยความที่เเหลขั้นเทพไหลเป็นปลาไหลของผมเพื่อนๆจึงไม่ได้สงสัยอะไร ผมจะแอบเเทะเล็ม อ. เฉพาะตอนที่อยู่กันสองคนหรือตอนจะนอนเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีใครรู้ว่าผมชอบ อ. ที่ผมไม่เปิดเผยไม่ใช่ผมไม่กล้าเเต่ผมกลัว อ. จะเสียไปด้วย อ.มันก็ชายเเท้คุยกับ ญ ไปทั่วเหมือนผู้ชายปกติ อ้อ!ลืมบอก ตอนเปิดเทอมสองมาใหม่ๆมันดัดฟันเเล้วนะอยากจะบอกว่าน่ารักมาก จากที่ชอบหน้าตามันอยู่เเล้วพอใส่เหล็กดัดนี่ยิ้มทีบอกเลยใจกูจะละลายไม่แปลกที่มีรุ่นน้องมาชอบมัน ไม่ใช่เเค่ผมพูดดีกับมันเเค่คนเดียวนะ อ.ไม่เคยขึ้นกูกับผมเลยซักครั้ง เเต่เพื่อนคนอื่นนี่มันใส่ไม่ยั้งผมก็เหมือนกันถ้าเป็นเพื่อนนี้สารพัดสัตว์เเต่กลับมันผมจะพูดดีๆด้วยตลอด อยู่ต่อหน้ามันไม่รู้เป็นอะไรผมจะยิ้มตลอดเวลา เเต่ผมพยายามยิ้มใส่คนอื่นด้วยนะเพื่อไม่ให้ดูสองมาตรฐานเกินไป เพราะถ้าเพื่อนรู้ว่าผมชอบ อ. เดี๋ยว อ. จะเสียหาย ผมมักจะเอาใจใส่ออกว่าเพื่อนคนอื่นในทางกลับกันไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่านะ อ.จะเเคร์ความรู้สึกผมมากๆ ผมเคยลองงอนดูอยากรู้ว่ามันจะง้อผมยไหม ปรากฏว่ามันง้อผมได้น่ารักมากอ่ะเอาซะใจนี่เเทบละลายกลายเป็นน้ำ ผมเป็นคนที่โลกสวยก็ว่าได้เพราะไม่เคยงอนใครด้วยเรื่องไร้สาระ ไม่เคยเกลียดใครจริงๆจัง เเต่สำหรับ อ. ผมมักจะเเสดงท่าทีงอนออกมาเยอะมากเเล้วเเต่ละทีมันก็ง้อผมได้น่ารักตามเคย ทำเเบบนี้ใครๆเขาก็คิดว่ามีใจให้หรือผมมโนไปเองก็ไม่รู้ เเต่มีอีกหลายเหตุผลที่ผมมั่นใจว่าไม่ได้มโนเอง ผมกับ อ. อยู่ในความสัมพันธ์นี้มาจน ม.6 เทอม 1 ผมก็ทำสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดเข้า จนผมกับ อ. เข้าหน้ากันไม่ติด กลายเป็นว่าผมกับ อ.ไม่ได้คุยกันเลยตั้งเเต่เดือนกรกฎาปี 2556 จนถึงทุกวันนี้ เเต่ผมไม่เคยลืมเรื่องราวของ อ. เลยเเม้เเต่น้อยสังเกตุได้จากที่ผมพิมเล่าอันนั้น อ. พูดจริงๆไม่มีปรุงเเต่งคิดดูผมจำได้เเม้กระทั่งคำพูด อย่างที่ว่าจริงๆ "รักแรกมักลืมยาก" ในตอนเเรกผมไม่เชื่อหรอกนะครับว่ามันจริงพอได้มาเจอกับตัวเเล้วผมนี่ซึ้งเลยครับ เเต่ที่ผมไม่ได้โพสบอกตั้งเเต่ปีที่เเล้วนั่นก็เพราะ เอาตามตรงนะ "ผมเพิ่งเริ่มเล่นพันทิปมาได้เกือบเดือนเอง" ก่อนหน้านั้นผมเคยได้ยินเเต่ชื่อยังไม่รู้จักเลยว่าพันทิปใช้ทำอะไรเพิ่งมารู้จักเร็วๆนี้นี่เเหละครับ
ปล.อาจดูเหมือนนิยายเพราะผมใช้สำนวนนิยายก็เพื่อให้เพื่อนๆอ่านง่าย เเต่ขอยืนยันมันเป็นเรื่องจริงครับ ทุกคำพูด อ. พูดออกมาจริงๆอาจมีเพี้ยนไปบ้างเล็กน้อยเเต่นี่มันก็ผ่านมาปีกว่าเเล้วเเต่ก็ความหมายเดียวกันนะครับ
ปล2.เพื่อนๆอยากรู้ไหมครับว่าผมกับ อ. อยู่ในความสัมพันธ์เเบบไหน อ.ง้อผมยังไง(อยากบอกว่าเพื่อนๆรู้เเล้วเพื่อนๆจะบอกว่า เเมร่งน่ารักวะ) เหตุผลอะไรที่ทำให้ผมมั่นใจว่าไม่มโน เเละเหตุการณ์ไหนที่ทำให้ อ.เเละผมต้องผิดใจกัน เอาไว้มาต่อทีหลังนะครับอิอิ
"รักแรก" มักลืมยาก ใครว่าเรื่องโกหก!? (ช+ช) 16+
เรื่องนี้มันเกิดตอนผมอยู่ ม.ปลายนะครับ(ตอนนี้มหาลัยเเล้ว) โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนประจำสายวิทย์-คณิต มีพี่น้องในเครือ 12 แห่งผมเห็นเค้าคนนั้นตั้งเเต่ ม.ต้นเเล้วครับ เพราะตอน ม.ต้นผมเป็นเด็กวงโยธวาธิตเขาคนนั้นก็เป็นด้วยครับจึงทำให้เห็นมาตั้งเเต่เข้า ม.1 ใหม่ๆ ที่สำคัญเล่นเครื่องดนตรีเดียวกันด้วยครับในตอนนั้นผมยังไม่รู้หรอกว่ารักคืออะไรไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาคนนั้นแม้เเต่น้อยก็เเค่เห็นเป็นเพื่อนคนหนึ่ง เขาคนนั้นมันยาวไปขอใช้ อ. เเทนชื่อเขาเเล้วกันครับ ในตอน ม.ต้นผมยังไม่อะไรๆกับ อ. ก็เเค่เล่นด้วยตามภาษาเด็กหัวเกรียนเเหละครับ อ้อ! ลืมบอกอีกอย่าง อ. อยู่คนละห้องกับผมทำให้ไม่ค่อยสนิทกันเท่าที่ควร ได้เล่นด้วยกันเฉพาะตอนซ้อมดนตรีเท่านั้น จริงๆเเล้วผมก็เล่นด้วยกับทุกคนในวงนะครับผมก็เฟรนลี่พอตัวเหมือนกันจน อ. ออกจางวงไปตอน ม.2 ครับส่วนผมก็ยังอยู่มาเรื่อยๆจน ม.ปลาย ถ้าถามว่าได้ติดต่อกันมั๊ยผมก็บอกได้เเค่ว่า มีบ้าง เพราะเราเรียนคนละห้องกันทำให้ตารางไม่ตรงกันได้ทักกันเฉพาะตอนเจอหน้าที่โรงอาหาร จนตอนผมขึ้น ม.ปลาย อะไรๆก็เปลี่ยนไปหมด ผมรู้ตัวว่าตัวเองชอบผู้ชายตั้งเเต่ตอนอยู่ ม.3 เเล้วครับตอนเเรกก็ไม่เข้าใจความรู้สึกนี้นักหรอก ไม่รุ้สิครับถ้าเพื่อนชมว่ารุ่นพี่คนนั้นคนนี้สวยผมจะเฉยๆเเต่ถ้าเป็นเรื่องคนไหนหล่อนี่ผมหูตาไวมาก (แรดเนาะ) เเต่ผมไม่ออกสาวนะครับ เเค่มีตุ้งติ้งบ้างตามภาษาเเต่ถ้าไม่ได้อยู่กับเพื่อนผมจะดูนิ่งๆขรึมๆ เพื่อนยังบอกว่า เสียดายที่ผมเป็นงี้เลยครับ ฮ่าๆ มาเข้าเรื่องผมดีกว่า ที่ผมบอกว่าอะไรๆก็เปลี่ยนไปนั้นเพราะ อ. ต่อม.ปลายที่เดิมถึงเเม้ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันเเต่ผมกับ อ. ได้อยู่ห้องนอนเดียวกันครับ ห้องนอนหนึ่งนอนซักห้าสิบคนได้มั้งครับไม่เกินนี้ โดยห้องนอนเป็นห้องใหญ่มีไม้เเบ่งเป็นล็อคสามล็อคส่วนล็อคที่สี่จะถูกเเบ่งด้วยกำเเพงปูนเป็นห้องน้ำครับ ผมได้ที่นอนที่โรงเรียนจัดให้ในล็อคสาม เเต่ผมมานอนกับเพื่อนที่ล็อคสองครับเตียงเป็นเตียงสองชั้น ใครที่ได้ชั้นบนไปนี่สวรรค์มากๆเลยครับ เเต่ผมเข้าหอช้าไงมัวเม้ากับเพื่อนตั้งเเต่ ม.ต้นอยู่ กลายเป็นว่าชั้นบนถูกจองหมดเเล้วครับ (ถึงทางโรงเรียนจะจัดที่นอนให้เเต่เด็กส่วนใหญ่จะนอนตามใจตัวเองมากกว่า) ผมเลยได้นอนล่างอยากจะบอกว่าร้อนมาก เพราะพัดลมเป็นพัดลมติดเพดานลมเลยมาไม่ถึงเตียงล่าง ผมกับเพื่อนในล็อคอีกสิบคนจึงตัดสินใจลากเตียงมานอนข้างล่าง ส่วน อ. หรอครับเขาได้เตียงอยู่ล็อคหนึ่ง เเต่พวกล็อคหนึ่งมีเเต่พวกเด็กเกเรเพื่อนเก่าเขาทั้งนั้นถึง อ. จะสนิทกับพวกนั้นในระดับหนึ่งเเต่ อ. จะเป็นคนที่ไปในทางเด็กเกือบเรียนมากกว่า เขาจึงอยากจะย้ายที่นอนเเต่ที่นอนล็อคสองกับสามเต็มหมดเเล้วจุดเริ่มต้นของทุกๆอย่างมาจากตรงนี้นี่เเหละครับ คือที่นอนด้านขวาผมเป็นเพื่อนสนิทจาก ม.ต้น เขารู้ว่าผมเป็นยังไงเเต่เขาไม่รังเกียจเเถมยังสนิทอีกต่างหากเเถมยังเป็นเพื่อนที่เคยอยู่วงโยธวาธิตด้วยครับ ส่วนด้านซ้ายเป็นเพื่อนห้องอื่นจาก ม.ต้นครับ ก็คุยด้วยได้จนมาสนิทในภายหลังครับ ก็ในเมื่อ อ. จะหาที่นอนเเต่ที่นอนมันไม่ว่างทีนี้ผมกับเพื่อนผมดันเป็นคนจากวงโยฯ อ. ก็เคยอยู่วงโยฯ อ.เลยตัดสินใจนอนระหว่างผมกับเพื่อนสนิทครับ ถ้าถามว่า อ. หน้าตาเป็นอย่างไรผมก็บอกได้เพียงเเค่ว่า น่ารัก ครับเป็นผู้ชายผิวขาวตาตี่ ตัวไม่เล็กมากคิ้วเข้มๆ จมูกโด่ง เเต่เสียดายฟันเหยินฮ่าๆ โดยรวมก็น่ารักครับ(ถ้าฟันไม่โผล่)บางคนอาจจะมองว่าหล่อด้วยซ้ำ เเล้วเรื่องทุกอย่างมันก็เริ่มขึ้น ต้องท้าวความไปตอน ม.ต้นก่อนนะครับ ผมมีเพื่อนสนิทอีกสองคน(ไม่รวมคนที่นอนด้านขวาตอน ม.ปลาย)มันเป็นพี่น้องกันครับเอาง่ายๆคนละเเม่คนพี่เกิดก่อนเกือบปีมั้งนะถ้าจำไม่ผิดคนพี่เป็นเเบบผมครับ เเล้วคนพี่นี่พาผมใจเเตกมากอ่ะ ตอนนั้นผมยังใสๆอยู่เลยนะมาเจอมันนี่ละไปหมดความใส คือคนพี่มันฉวยโอกาสลักหลับเพื่อนผู้ชายตอนดึกๆนะครับคือมันจะไปแอบถอดกางเกงเพื่อนตอนดึกเพื่อชื่นชมขน? ตอน ม.3 คนที่ผ่านมาเเล้วจะรู้ดีนะครับว่าการที่ขนขึ้นตรงนั้นมันเป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก พวกเกย์จะดูว่ามันเป็นสิ่งสวยงามครับ ตอนเเรกนิผมไม่ยุ่งเลยนะเรื่องนี้ จนมันรบเร้าเเล้วพาผมใจเเตก(ไปแอบดูของคนอื่นยามวิกาล)เท่านั้นละครับผมยิ่งมั่นใจเลยว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิงเเน่ๆ กลับมาตอน ม.ปลาย พอ อ. ตกลงจะนอนระหว่างผมกับเพื่อนสนิทก็ขนของมานอนในคืนนั้นเลยครับเเต่คือหมอนมันหายไงครับไม่รู้ใครขโมยไป ผมเลยเสียสละหมอนครึ่งนึงให้เขานอนด้วย เตียงที่ทางโรงเรียนจัดให้เป็นเตียงขนาดสามฟุตนะครับลืมบอก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนอนสองคนในเตียงเดียวเเล้วจะสบายเเต่พอดีผมกับเพื่อนในล็อคลากฟูกลงมานอนกับพื้นข้างล่างไงครับ จึงไม่เป็นปัญหาที่จะให้อีกคนนอนตรงลอยต่อฟูกของผมกับเพื่อน เเต่พอผมเเบ่งหมอนให้ อ. นอนครึ่งนึงก็กลายเป็นว่ามันกับผมนอนฟูกเดียวกันโดยการเเบ่งคนละครึ่งอยากจะบอกว่าใกล้ชิดมากเเล้วมันก็ใช่ว่าจะเป็นคนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เเต่เป็นคนที่หน้าตาค่อนข้างดีเลยละ(ติดตรงฟันเหยิน) นอนชิดกันขนาดนี้ผมไม่หวั่นไหวก็บ้าเเล้วครับ เเต่ด้วยความที่ผมติดนิสัยชอบลักหลับคนตอนนอนมาจาก ม.ต้น(โรคจิตแฮะ พอคิดย้อนไปดูตัวเอง) ผมก็อยากรู้ว่าของ อ. จะเป็นยังไง ผมรอจนดึกนู่นละครับถึงจะปฏิบัติตามแผนการลักลับ เเต่ด้วยความผิดพลาด อ. เลยรู้ตัวฮะ ตื่นเช้ามาผมนี่มองหน้ามันเเทบไม่ติด ส่วนมันก็แอบหลบหน้าผมเหมือนกันครับ ถ้าคุณเป็นผู้ชายเเท้ๆมาโดนอย่างงี้ก็มีอาการกลัวผมบ้างหละครับฮ่าๆ วันต่อมานี่มันลงทุนไปลากฟูกจากเตียงของมันที่ล็อคหนึ่งมานอนล็อคสองเลยครับ เเต่นอนไกลผมมาก ผมนี่ก็แอบรู้สึกใจเสียนิดๆนะ ก็ผมไม่ชอบให้ใครเเสดงท่าทีรังเกียจนี่ครับ(แต่การกระทำของผมมันเเบบ...ไปหน่อยแหะๆ) ก็เลยลองปั้นหน้ายิ้มไปคุยกับ อ. เหมือนปกติ มันไม่ใช่เรื่องยากเลยฮะที่จะตีหน้ายิ้มเเบบนี้เห็นอย่างนี้ผมก็เเสดงละครเก่งนะ จนเพื่อนผมมันบอกว่า "กูยังไม่รู้เลยว่าที่เเสดงกะกูนินิสัยจริงป่าว" เข้าเรื่องดีกว่าครับ ผมก็เดินยิ้มไปหามัน อ.ก็แอบประหม่าเล็กน้อยครับที่เห็นผม ผมไม่สนใจเเต่ยังคงยิ้มเเล้วถามมันว่า "อ.กลัวเค้าหรอ" ผมเเซวมันเอาขำนิดๆ มันก็ตอบผมกลับมาว่า "เออดิเเมร่งมาลักหลับแอบจับ...เรางี้เราไม่กลัวก็ม.บ้าเเล้ว" ผมยิ้มเเล้วพูดน้ำเสียงติดจะทะลึ่งนิด "งั้นเค้าไม่ลักหลับก็ได้" ผมก็ไปจับของมันเลยครับ ผมนี่แอบฟินเบาๆ(โรคจิต) ของมันใช่เล็กๆที่ไหน มันก็มีทำท่าตกใจนิดนึง ปัดมือผมออกเเล้วพูดกับผม "ม.จับของเราทำไมเนี่ย" ผมก็หัวเราะฮาสิครับ ผมจึงพูดเข้าประเด็นหลักจริงๆที่ผมยอมบากหน้าเข้าคุยกับมันก่อน "อ.ย้ายไปนอนข้างเค้าเหมือนเดิมได้เเล้ว เค้าไม่ทำอะไรอ.เเล้วน่า" มันก็ทำหน้าแปลกใจเเล้วตอบกลับประมาณว่า "เเน่นะ" ผมพยักหน้าให้มัน ใจจริงมันอยากไปนอนตรงนั้นอยู่เเล้วละครับเพราะเพื่อนสนิทผมที่นอนข้างผมไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับผมตอน ม.ปลาย เเต่อยู่ห้องเดียวกับ อ. พวกมันสองตัวเลยสนิทกัน เเต่ที่มันไม่กล้ากลับมานอนก็คงจะกลัวผมเเหละ เรื่องทุกอย่างจริงๆก็เริ่มตั้งเเต่ที่มันกลับมานอนข้างผม(เกริ่นมาโคตรนาน) วันที่มันย้ายกลับมานอนข้างผมวันเเรกผมก็เเบ่งหมอนให้มันตามปกติมันก็นอนนะครับ เอาง่ายๆคือกลับสภาพเดิมที่นอนในวันเเรกๆที่มันตัดสินใจย้ายมานอนตรงนี้ ใกล้ชิดกันมากผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงอยากกอดมันนัก ผมจึงกอดมันเข้าไปเต็มๆ อยากจะบอกว่าท้องมันเเน่นมากจับทีนี่เเข็งโป๊กผมนี่ฟินอีกละ มันก็ปัดมือผมออกผมก็กอดมันเข้าอีกทีหนึ่งคราวนี้มันลืมตาหันมามองผมผมก็เลยบอกไปว่า "พอดีเค้าชอบกอดหมอนข้าง ขอกอดอ.เเทนหมอนข้างเเล้วกันอุ่นดี" สงสัยมันคงจะรำคาญผมมั้งมันเลยไม่ว่าอะไรปล่อยให้ผมกอดอยู่อย่างนั้นเเหละ เเล้วทุกๆวันผมก็จะนอนกอดมันอยู่อย่างนี้มันก็ปล่อยให้ผมกอดนะ ในตอนเเรกผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับ อ. หรอกชอบตรงที่มันหน้าตาน่ารักดี เเต่ไม่รู้สิถ้าจะให้กอดผู้ชายคนอื่นนี่ผมก็ไม่ได้รังเกียจนะถ้าหน้าตาดีหน่อยผมก็กอดเเล้ว เเต่มันคนละความรู้สึกกันอ่ะถ้าเป็น อ. ผมจะอยากกอดเเทบทุกครั้งที่เจอหน้าเเต่เป็นคนอื่นผมเฉยๆถ้าได้กอดก็ฟินไม่ได้กอดก็ไม่เป็นอะไร จนผมมามั่นใจว่ารักมันเข้าเเล้วก็ตอน ม.4 เทอม 2 ผมกับ อ. จะไม่พูดคำหยาบใส่กันเลย ขนาดด่ายังไม่เคยอ่ะคิดดู ทั้งๆที่เพื่อนผู้ชายคนอื่นนี้ขึ้นกูใส่หมด จนเพื่อนสงสัยไปตามๆกัน เเต่ด้วยความที่เเหลขั้นเทพไหลเป็นปลาไหลของผมเพื่อนๆจึงไม่ได้สงสัยอะไร ผมจะแอบเเทะเล็ม อ. เฉพาะตอนที่อยู่กันสองคนหรือตอนจะนอนเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีใครรู้ว่าผมชอบ อ. ที่ผมไม่เปิดเผยไม่ใช่ผมไม่กล้าเเต่ผมกลัว อ. จะเสียไปด้วย อ.มันก็ชายเเท้คุยกับ ญ ไปทั่วเหมือนผู้ชายปกติ อ้อ!ลืมบอก ตอนเปิดเทอมสองมาใหม่ๆมันดัดฟันเเล้วนะอยากจะบอกว่าน่ารักมาก จากที่ชอบหน้าตามันอยู่เเล้วพอใส่เหล็กดัดนี่ยิ้มทีบอกเลยใจกูจะละลายไม่แปลกที่มีรุ่นน้องมาชอบมัน ไม่ใช่เเค่ผมพูดดีกับมันเเค่คนเดียวนะ อ.ไม่เคยขึ้นกูกับผมเลยซักครั้ง เเต่เพื่อนคนอื่นนี่มันใส่ไม่ยั้งผมก็เหมือนกันถ้าเป็นเพื่อนนี้สารพัดสัตว์เเต่กลับมันผมจะพูดดีๆด้วยตลอด อยู่ต่อหน้ามันไม่รู้เป็นอะไรผมจะยิ้มตลอดเวลา เเต่ผมพยายามยิ้มใส่คนอื่นด้วยนะเพื่อไม่ให้ดูสองมาตรฐานเกินไป เพราะถ้าเพื่อนรู้ว่าผมชอบ อ. เดี๋ยว อ. จะเสียหาย ผมมักจะเอาใจใส่ออกว่าเพื่อนคนอื่นในทางกลับกันไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่านะ อ.จะเเคร์ความรู้สึกผมมากๆ ผมเคยลองงอนดูอยากรู้ว่ามันจะง้อผมยไหม ปรากฏว่ามันง้อผมได้น่ารักมากอ่ะเอาซะใจนี่เเทบละลายกลายเป็นน้ำ ผมเป็นคนที่โลกสวยก็ว่าได้เพราะไม่เคยงอนใครด้วยเรื่องไร้สาระ ไม่เคยเกลียดใครจริงๆจัง เเต่สำหรับ อ. ผมมักจะเเสดงท่าทีงอนออกมาเยอะมากเเล้วเเต่ละทีมันก็ง้อผมได้น่ารักตามเคย ทำเเบบนี้ใครๆเขาก็คิดว่ามีใจให้หรือผมมโนไปเองก็ไม่รู้ เเต่มีอีกหลายเหตุผลที่ผมมั่นใจว่าไม่ได้มโนเอง ผมกับ อ. อยู่ในความสัมพันธ์นี้มาจน ม.6 เทอม 1 ผมก็ทำสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดเข้า จนผมกับ อ. เข้าหน้ากันไม่ติด กลายเป็นว่าผมกับ อ.ไม่ได้คุยกันเลยตั้งเเต่เดือนกรกฎาปี 2556 จนถึงทุกวันนี้ เเต่ผมไม่เคยลืมเรื่องราวของ อ. เลยเเม้เเต่น้อยสังเกตุได้จากที่ผมพิมเล่าอันนั้น อ. พูดจริงๆไม่มีปรุงเเต่งคิดดูผมจำได้เเม้กระทั่งคำพูด อย่างที่ว่าจริงๆ "รักแรกมักลืมยาก" ในตอนเเรกผมไม่เชื่อหรอกนะครับว่ามันจริงพอได้มาเจอกับตัวเเล้วผมนี่ซึ้งเลยครับ เเต่ที่ผมไม่ได้โพสบอกตั้งเเต่ปีที่เเล้วนั่นก็เพราะ เอาตามตรงนะ "ผมเพิ่งเริ่มเล่นพันทิปมาได้เกือบเดือนเอง" ก่อนหน้านั้นผมเคยได้ยินเเต่ชื่อยังไม่รู้จักเลยว่าพันทิปใช้ทำอะไรเพิ่งมารู้จักเร็วๆนี้นี่เเหละครับ
ปล.อาจดูเหมือนนิยายเพราะผมใช้สำนวนนิยายก็เพื่อให้เพื่อนๆอ่านง่าย เเต่ขอยืนยันมันเป็นเรื่องจริงครับ ทุกคำพูด อ. พูดออกมาจริงๆอาจมีเพี้ยนไปบ้างเล็กน้อยเเต่นี่มันก็ผ่านมาปีกว่าเเล้วเเต่ก็ความหมายเดียวกันนะครับ
ปล2.เพื่อนๆอยากรู้ไหมครับว่าผมกับ อ. อยู่ในความสัมพันธ์เเบบไหน อ.ง้อผมยังไง(อยากบอกว่าเพื่อนๆรู้เเล้วเพื่อนๆจะบอกว่า เเมร่งน่ารักวะ) เหตุผลอะไรที่ทำให้ผมมั่นใจว่าไม่มโน เเละเหตุการณ์ไหนที่ทำให้ อ.เเละผมต้องผิดใจกัน เอาไว้มาต่อทีหลังนะครับอิอิ