มันไม่ได้เป็นวงรีเสมอไปครับ
โดยเฉพาะถ้าในระบบสุริยะที่มีดาวเคราะห์หลายดวง วงโคจรปกติจะไม่ใช่วงรี

แต่ว่าเนื่องจากดาวเคราะห์่มันมีมวลน้อยมากเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ แถมดาวเคราะห์แต่ละดวงก็ห่างกันเหลือเกิน ทำให้เราประมาณได้ว่าดาวเคราะห์มันไม่ได้ดึงดูดกันและกัน แต่มีแค่แรงดึงดูดจากดวงอาทิตย์เท่านั้นที่ดึงดูดดาวเคราะห์ไว้

ทีนี้ตามหลักฟิสิกส์เนี่ย ถ้าดาวเคราะห์มันมีมวลน้อยมากเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์และมีแค่แรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ที่กระทำ เราจะได้ว่าการโคจรของดาวเคราะห์เป็นไปได้ไม่กี่แบบคือ วงกลม วงรี พาราโบลา และไฮเปอร์โบลา (นอกเหนือจากนี้ไม่ได้ ไม่งั้นมันจะต้องขัดกับกฎทางฟิสิกส์สักกฎหนึ่ง) ไอ้แบบแรกเนี่ยเป็นไปได้ยากเพราะมันต้องบังเอิญสุดๆที่หลายๆอย่างจะลงตัวกันเป็นวงกลม ส่วนแบบที่สามกับสี่เนี่ยเราไม่เรียกว่าวงโคจรเพราะมันมาแล้วก็ไปลับ(เหมือนดาวหางหลายๆดวงที่มาเยือนแค่ครั้งเดียวแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย) ทำให้วงโคจรที่พบได้บ่อยสุดจึงเป็นวงรีครับ

แต่อย่างที่บอกในข้างต้น ถ้าหากการประมาณแบบนี้ใช้ไม่ได้(เช่น ดาวเคราะห์มีมวลเยอะไปหรือดาวเคราะห์ดวงอื่นมีผลกับวงโคจร) จะทำให้รูปแบบวงโคจรไม่ใช่วงรี แต่เป็นรูปสามมิติมั่วๆที่มาจากผลของ chaos ในระบบ

ปล.ถ้าว่ากันลึกๆด้วยสัมพัทธภาพทั่วไปจริงๆ วงโคจรแบบวงรีนี่ก็เป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำครับ เช่นดาวพุธถึงแม้จะดูเหมือนมีวงโคจรเป็นวงรี แต่มันก็มีการส่าย(Mercury's precession) ที่มีผลจากดาวดวงอื่นและสัมพัทธภาพทั่วไปด้วย