คลังส่งซิก-ปีหน้าประเดิมขึ้นแวต8% ฟิตจัดเตรียมทำงบฯปี"59แล้ว-เพิ่มเป็น2.88ล้านล.
รมว.คลังส่งสัญญาณปีหน้าขึ้นแวตอีก 1% รวมเป็น 8% คาดเก็บเงินเข้ารัฐได้เพิ่ม 6-7 หมื่นล้านบาท เผยเดือนม.ค.เตรียมทำงบประมาณปี"59 ทันที เล็งใช้เงิน 2.88 ล้านล้านบาท ขาดดุล 2.5-3 แสนล้านบาท เพราะต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพียบ
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า ปลายปีงบประมาณ 2558 คลังจะพิจารณาปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต ที่ขณะนี้ลดอัตราการจัดเก็บจาก 10% เหลือ 7% ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2558 เบื้องต้นคาดขึ้นเพียง 1% ก็เพียงพอแล้ว ถือเป็นบันไดขั้นแรกในการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะให้การจัดเก็บ รายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากการประเมินของสำนัก งานเศรษฐกิจการคลัง การเพิ่มแวต 1% จะทำให้รัฐบาลเก็บรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 6-7 หมื่นล้านบาท
"ใน เดือนม.ค. 2558 รัฐบาลต้องเตรียมจัดทำงบประมาณปี 2559 ซึ่งจะเพิ่มงบประมาณให้มากขึ้นจากปีงบประมาณ 2558 ประมาณ 12-13% หรือคิดเป็นเงินงบประมาณที่ 2.88 ล้านล้านบาท โดยจะเป็นงบประมาณแบบขาดดุล 2.5-3 แสนล้านบาท เพราะต้องใช้เงินดูแลด้านสังคม ด้านสาธารณสุข การศึกษา มากขึ้น"
นอกจากนี้ยังต้องมีการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยในปีหน้า มีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างให้ผู้ที่สนใจลงทุนเสนอราคาประมูลมาให้หน่วยงานที่รับ ผิดชอบพิจารณา มีโครงการถนนมอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด และบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
ขณะเดียวกันยังมีโครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งยกเลิกโครงการเก่าทั้งหมดนำมาพิจารณาใหม่ หากโครงการเดิมมีประโยชน์ก็จะดึงเข้ามาใหม่อีกครั้ง
รัฐบาล เร่งโครงการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งใช้เงินลงทุนจากงบประมาณเงินกู้ เงินของรัฐวิสาหกิจ และการร่วมลงทุนรัฐกับภาคเอกชน หรือ PPP ซึ่งได้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้การร่วมลงทุนสะดวกและง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการแก้ไขกฎหมายต่างๆ เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น
"ใน 3 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวมากขึ้น มีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง แต่รัฐบาลต้องระมัดระวังการบริหารงานไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น หากไม่เช่นนั้นจะทำงานยากลำบาก"
เศรษฐกิจปีหน้าจะมีความ ผันผวนจากการเคลื่อนย้าย เงินทุน ซึ่งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมมือดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับด้านเศรษฐกิจ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE56UTVORFV5TXc9PQ%3D
คลังส่งซิก-ปีหน้าประเดิมขึ้น VAT 8%
รมว.คลังส่งสัญญาณปีหน้าขึ้นแวตอีก 1% รวมเป็น 8% คาดเก็บเงินเข้ารัฐได้เพิ่ม 6-7 หมื่นล้านบาท เผยเดือนม.ค.เตรียมทำงบประมาณปี"59 ทันที เล็งใช้เงิน 2.88 ล้านล้านบาท ขาดดุล 2.5-3 แสนล้านบาท เพราะต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพียบ
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า ปลายปีงบประมาณ 2558 คลังจะพิจารณาปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต ที่ขณะนี้ลดอัตราการจัดเก็บจาก 10% เหลือ 7% ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2558 เบื้องต้นคาดขึ้นเพียง 1% ก็เพียงพอแล้ว ถือเป็นบันไดขั้นแรกในการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะให้การจัดเก็บ รายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากการประเมินของสำนัก งานเศรษฐกิจการคลัง การเพิ่มแวต 1% จะทำให้รัฐบาลเก็บรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 6-7 หมื่นล้านบาท
"ใน เดือนม.ค. 2558 รัฐบาลต้องเตรียมจัดทำงบประมาณปี 2559 ซึ่งจะเพิ่มงบประมาณให้มากขึ้นจากปีงบประมาณ 2558 ประมาณ 12-13% หรือคิดเป็นเงินงบประมาณที่ 2.88 ล้านล้านบาท โดยจะเป็นงบประมาณแบบขาดดุล 2.5-3 แสนล้านบาท เพราะต้องใช้เงินดูแลด้านสังคม ด้านสาธารณสุข การศึกษา มากขึ้น"
นอกจากนี้ยังต้องมีการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยในปีหน้า มีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างให้ผู้ที่สนใจลงทุนเสนอราคาประมูลมาให้หน่วยงานที่รับ ผิดชอบพิจารณา มีโครงการถนนมอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด และบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
ขณะเดียวกันยังมีโครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งยกเลิกโครงการเก่าทั้งหมดนำมาพิจารณาใหม่ หากโครงการเดิมมีประโยชน์ก็จะดึงเข้ามาใหม่อีกครั้ง
รัฐบาล เร่งโครงการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งใช้เงินลงทุนจากงบประมาณเงินกู้ เงินของรัฐวิสาหกิจ และการร่วมลงทุนรัฐกับภาคเอกชน หรือ PPP ซึ่งได้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้การร่วมลงทุนสะดวกและง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการแก้ไขกฎหมายต่างๆ เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น
"ใน 3 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวมากขึ้น มีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง แต่รัฐบาลต้องระมัดระวังการบริหารงานไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น หากไม่เช่นนั้นจะทำงานยากลำบาก"
เศรษฐกิจปีหน้าจะมีความ ผันผวนจากการเคลื่อนย้าย เงินทุน ซึ่งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมมือดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับด้านเศรษฐกิจ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE56UTVORFV5TXc9PQ%3D