เมื่อจะต้องไปขึ้นเรือกลับบ้านเที่ยวสุดท้ายให้ทัน (เป็นประสบการณ์ดีๆและน้ำใจของเพื่อนมนุษย์)

กระทู้สนทนา
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวานนี้...

ตั้งใจว่าจะไปขึ้นเรือที่กระทรวง พ่อแว๊นซ์มอเตอร์ไซค์มาส่ง พอไปถึงท่าเรือ ด้วยความลุ้นว่าทันเรือมั้ย เลยมองผ่านกำแพงลงไปตรงที่นั่งรอ
ก็พบว่า โอ้มายก๊อดด! ไม่มีคนเลยย นี่ไม่ทันแล้วจริงๆดิ แต่ด้วยความหวังอันเล็กน้อยจากประสบการณ์ที่ผ่านมา จึงกลั้นใจ โผล่หน้าให้เลยกำแพงนั่นแล้วย่อตัวเล็กน้อยมองไปที่โป๊ะ...
แล้วสิ่งที่ได้เห็นก็คือ คนกำลังออกจากเรือมาเป็นแสน ตามด้วยคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังจะลงเรือ
พอเห็นภาพนั้น ด้วยความสะเทือนใจ จึงรีบวิ่งลงไป จากนั้นก็ฝ่าฝูงชนที่กำลังเดินเข้ามาแบบหลบซ้าย หลบขวา กระโดดข้ามหัว ลอดใต้ท้องรถบรรทุก ปืนข้ามโบกี้รถไฟ อย่างกับเฉินหลงในหนังวิ่งสู้ฟัดภาค 6 (เว่อร์ๆๆๆ)
แต่แล้วววววว เมื่อเท้าสองข้างอยู่บนโป๊ะ ด้วยความห่างจากเรือเพียง 0.5 เมตร ภาพที่เห็นคือ เรือออกครับ!!!
ต่อหน้าฉันเธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร ฮาา ต่อหน้าต่อตา!!! ภาพเรือที่ค่อยๆแล่นออกไปจากมุมโป๊ะติดตาจนถึงตอนนั แม้ไม่มีกระจกก็รู้ได้เลยว่า ตัวเองเหวอแค่ไหน
กระเป๋าเรือมองหน้า แล้วตะโกนบอก เดี๋ยววววววววววว แล้วรีบวิ่งไปที่กัปแตนเรือ คนคุมท้ายเรือเป่านกหวีด ปิ๊ดๆๆๆปิ้ววว บอกให้คนขับถอยหลัง ยามหญิงที่กระทรวงวิ่งมา ตะโกนบอกกัปตันเรือว่า เดี๋ยววววๆๆๆ รอด้วยก่อนนนนนน แล้วยืนอยู่บนสะพานที่เชื่อมระหว่างโป๊ะกับศาลาปูนที่นั่งรอ ช่วยลุ้นช่วยให้กำลังใจ
ในขณะที่กนกพร ยืนอึ้ง น้ำตาจะไหลกับภาพนั้นอยู่ประมาณ 1 นาที ยืนมองภาพที่เรือเหมือนพยายามถอยมารับ แต่ก็เหมือนจะเดินหน้าทิ้งกันไป หันไปมองหน้ายาม ยามก็บอกว่า "ปกติเค้าไม่ถอยกลับมารับหรอกนะ"
จึงตัดใจ เดินย้อนไปที่สะพาน หวังให้ยามช่วยปลอบใจ
แต่เมื่อหันไปไว้อาลัยให้กับเรืออีกครั้ง เห็นคนคุมท้ายเรือส่งสายตามา กวักมือโบกๆๆให้มายืนรอที่โป๊ะ ณ จุดนั้น ทั้งเกรงใจคนนั่ง ทั้งปลื้มกัปตัน กระเป๋า คนคุมท้าย ยามหญิง และคนคุมท้ายเรือ
ความรู้สึกเหมือนตอนได้รับรางวัลมิสยูนิเวิร์ส สัมผัสได้ถึงอาการลุ้นของคนที่นั่งท้ายเรือ เพราะเรือพยายามถอยแล้วถอยอีก เพื่อให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเพียงคนเดียวที่ถูกทอดทิ้งลงเรือ จ
นในที่สุด... มุมซ้ายเรือมาชนกับมุมโป๊ะ ในใจตอนนั้นแบบว่า เอาวะ! ต้องใช้วิชาตัวเบาที่ร่ำเรียนมาให้เป็นประโยชน์ ก้าวท้าวไปเกาะท้ายเรือซึ่งมีพื้นที่อันน้อยนิด มือจับเหล็ก มีกระเป๋าถ่วงความเจริญอยู่ที่หลัง พร้อมกระเป๋าถือที่มีสเบียงอยู่ในมือ
แทรกตัวระหว่างเสาโป๊ะกับเสาเรือเพื่ออ้อมตัวไปเข้าเรือทางด้านข้าง โดยมีคนคุมท้ายเรือคอยจับ และมีคนนั่งคอยให้กำลังใจ
พอเข้าเรือไปได้ มีหลายความรู้สึกปะปนอยู่ ทั้งซาบซึ้ง อยากจะประกาศออกไมค์ขอบคุณทุกคนๆที่เสียเวลาเพื่อคนๆเดียว
ทั้งเขิล รู้สึกเหมือนคนมอง ไม่รู้ว่าสาปแช่งอยู่หรือแสดงความยินดีกับเรา
รู้แต่ว่าตัวเองหลบสายตาหมู่มวลมหาประชาชนเดินไปถึงข้างหน้าเรือ
พอกระเป๋าเดินมา เค้ายิ้มให้หนึ่งที เราก็เลยขอบคุณเค้าไป เหลือบไปมองกัปแตน เห็นเค้าแอบมองกระจกหลัง หน้าตาบรรยายไม่ถูก เราก็ได้แต่ยิ้มๆไปให้แทนคำขอบคุณ ไม่รู้แป๊กรึป่าว

แต่เหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้รู้สึกดีมากกับน้ำใจ และความสงสาร(มั้ง) ของกัปตัน กระเป๋า และคนคุมท้ายเรือ หลังจากที่ไม่ได้นั่งเรือมาประมาณเกือบๆ 3 สัปดาห์ ก็ได้กลับมาพับกบเรื่องราวน่าตื่นเต้นอีกครั้ง

ปล. สุดท้ายกลับบ้านมาเราให้พ่อแม่ฟัง
กลายเป็นว่าพ่อเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ แถมยังช่วยลุ้น ช่วยเชียร์จนลูกสาวขึ้นเรือไปได้อย่างสวัสดิภาพอีกด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่