คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ฟิล์มมันเป็นปฎิกริยาเคมี+แสง
ถ้าแสงเยอะ+เคมีเยอะ บนฟิล์มมันก็จะยิ่งดำ ภาพก็จะยิ่งสว่าง หรือโอเวอร์เอ็กซ์โพส
ถ้าแสงน้อย+เคมีน้อย บนฟิล์มมันก็จะยิ่งใส ภาพก็จะยิ่งมืด หรืออันเดอร์เอ็กซ์โพส
ฟิล์ม 100 มันออกแบบมาให้ล้าง EI 100 ที่ 10 นาที อยากล้างที่ 200 แปลว่าคุณใส่แสงน้อยลง คุณใส่เวลาให้มันทำปฎิกริยาเคมีเพิ่มขึ้น ฟิล์มก็จะกลับมาพอดี ไม่โอเวอร์ไม่อันเดอร์ กลับกัน ฟิล์ม 400 EI 200 คุณก็ต้องลดเวลาลง ให้มันสั้นลง
ส่วนสาเหตุว่าทำไม เวลาถ่ายที่ EI เท่ากัน ฟิล์ม 100 ใช้เวลามากกว่า ก็เพราะฟิล์ม 400 มันจะไวกับสารเคมีมากกว่า 100 ครับ มันออกแบบมาให้ไวแสง/สารเคมี มันถึงเป็นฟิล์ม ISO สูงกว่าไงครับ
ปล. pull อย่าไปสนใจมันมากเลยครับ ฟิล์ม negative pull stop นึง แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยครับ ถ้าไม่ได้จะพยายามลด contrast ของภาพ PAN 100 ถ่ายที่ 50 มาล้างที่ 100 ก็ยังได้ภาพปกติครับ เผลอๆใน shadow มี detail เยอะกว่าที่ 50 ด้วยซ้ำไปครับ
ถ้าแสงเยอะ+เคมีเยอะ บนฟิล์มมันก็จะยิ่งดำ ภาพก็จะยิ่งสว่าง หรือโอเวอร์เอ็กซ์โพส
ถ้าแสงน้อย+เคมีน้อย บนฟิล์มมันก็จะยิ่งใส ภาพก็จะยิ่งมืด หรืออันเดอร์เอ็กซ์โพส
ฟิล์ม 100 มันออกแบบมาให้ล้าง EI 100 ที่ 10 นาที อยากล้างที่ 200 แปลว่าคุณใส่แสงน้อยลง คุณใส่เวลาให้มันทำปฎิกริยาเคมีเพิ่มขึ้น ฟิล์มก็จะกลับมาพอดี ไม่โอเวอร์ไม่อันเดอร์ กลับกัน ฟิล์ม 400 EI 200 คุณก็ต้องลดเวลาลง ให้มันสั้นลง
ส่วนสาเหตุว่าทำไม เวลาถ่ายที่ EI เท่ากัน ฟิล์ม 100 ใช้เวลามากกว่า ก็เพราะฟิล์ม 400 มันจะไวกับสารเคมีมากกว่า 100 ครับ มันออกแบบมาให้ไวแสง/สารเคมี มันถึงเป็นฟิล์ม ISO สูงกว่าไงครับ
ปล. pull อย่าไปสนใจมันมากเลยครับ ฟิล์ม negative pull stop นึง แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยครับ ถ้าไม่ได้จะพยายามลด contrast ของภาพ PAN 100 ถ่ายที่ 50 มาล้างที่ 100 ก็ยังได้ภาพปกติครับ เผลอๆใน shadow มี detail เยอะกว่าที่ 50 ด้วยซ้ำไปครับ
แสดงความคิดเห็น
ฟิล์ม iso 100 กับ iso 400